ตอนที่ 10
ร่างระหงที่ยืนรออยู่บริเวณใกล้ ๆ ห้องน้ำชาย พอเห็นกันตธีร์เดินออกมา ก็ตรงเข้าหาเรื่องเขาทันที
“เลิกล้มความตั้งใจซะ เพื่อนฉันไม่มีทางสนใจผู้ชายอย่างคุณหรอก แฟนของเธอออกจะหน้าตาดีแถมรวยอีกต่างหาก แล้วเธอก็เป็นเพื่อนสนิทของฉัน ดังนั้นอย่าได้คิดยุ่งกับเธอเป็นอันขาด ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” บัวบุษยาพูดขึ้น
“ผมว่าคุณพิมพ์คงไม่คิดจะนอกใจแฟนหรอกมั้งครับ เพียงแค่อยากลองอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ บ้างก็เท่านั้น”
“บอกว่าให้เลิกยุ่งไง ไม่ได้ยินที่บอกเหรอ!!!”
“ทำไมเหรอ บางทีเพื่อนคุณอาจจะหลงรักผมขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้ ความรักมันเป็นเรื่องเข้ายากนะคู้น!!” เขาทำทีไม่สนใจในสิ่งที่หญิงสาวกำลังบอก
“นี่คุณอยากมีปัญหากับฉัน...ใช่มั้ย” เสียงแหลมขู่ทันที
“อันที่จริงผมก็ไม่เคยยุ่งกับใครก่อนอยู่แล้ว แต่เมื่อสักครู่เพื่อนของคุณเดินไปบอกผมที่โต๊ะว่า...มีใครบางคนแอบชอบผม และผมก็เดาว่าเป็นคุณพิมพ์” กันตธีร์ยักไหล่แล้วแกล้งพูดขึ้น
“อย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน” เขาทำท่าทางยียวนเพื่อยั่วอารมณ์ของหญิงสาว เพราะเวลาที่เธอโกรธมันช่างน่ารักอย่างบอกไม่ถูก
“ผมเปล่าเล่นลิ้นสักหน่อย แต่ถ้าคุณต้องการจะแลกลิ้นละก็...” กันต์ธีร์ทำท่าครุ่นคิดกับคำพูดของเขา ก่อนที่คนฟังจะตาลุกวาวทันทีและโมโหขึ้นมา
“ผมจะสนองให้ เอามั้ย” เขาทำท่าจะจูบเธอ
“นี่คุณ!!.. อย่าได้มาลามปามฉันแบบนี้นะ”
“และฉันขอสั่งเป็นครั้งสุดท้าย อย่าได้ไปเป็นมือที่สามทำให้เพื่อนฉันผิดใจกับแฟนของเธอ!”
“เรื่องที่จะพูดมีแค่นี้ใช่ไหมครับ ถ้าแค่นี้ผมขอตัว” กันตธีร์ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเธอจึงรีบพูดขึ้น
“นี่ อย่าเพิ่งไปนะ ฉันพูดยังไม่จบ” ชายหนุ่มหันกลับมาอีกรอบเมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวตวาดออกมา
“ฉันต้องการคำยืนยันจากปากคุณ”
“ผมไม่มีคำยืนยันอะไรทั้งนั้น ทางที่ดีคุณไปบอกเพื่อนคุณนู่น ว่าอย่ามายุ่งกับผม” พูดจบเขาก็ยิ้มกว้างก่อนจะหันมายักคิ้วให้เธอแล้วเดินจากไป
“พูดอย่างนี้ แสดงว่าคุณตั้งใจจะหลอกเพื่อนฉัน...ใช่ไหม!! เห็นเพื่อนฉันรวยหน่อย คงจะอยากเป็นหนูตกถังข้าวสารล่ะสิท่า” บัวบุษยาพูดดูถูกทันที เขากำหมัดแน่น พูดแบบนี้เห็นทีจะต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว
“คุณนี่เก่งจังนะ รู้เรื่องคนอื่นไปหมดซะทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องตัวเอง” กันต์ธีร์พูดยั่วและมองเรือนร่างของเธออย่างโลมเลีย
“อย่างคุณมันจะมีอะไรดี เพื่อนฉันก็แค่อ่อยเล่น ๆ เท่านั้นแหละ ก็แค่พนักงานบริษัทจน ๆ จะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงดูเพื่อนฉัน”
“ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายว่าคุณควรไปบอกเพื่อนของคุณจะดีกว่า....คุณบัวบุษยา!!!” ชายหนุ่มเตือนเสียงเครียดและเริ่มไม่ค่อยสนุกกับคำพูดเยาะเย้ยของเธอขึ้นมาบ้างแล้ว แต่หญิงสาวก็ไม่เคยสะทกสะท้าน ก่อนจะออกเสียงตวาดดังลั่นเมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังจะเดินจากไป
“นี่คุณ...หยุดเดียวนี้นะ!!! ฉันยังคุยไม่จบ”
“กลับมาคุยกับฉันให้รู้เรื่อง ถ้าไม่กลับมาฉันขอไล่คุณออก” บัวบุษยาพูดไล่หลัง ก่อนจะลงเท้าหนัก ๆ แล้วเดินออกไปจากบริเวณนั้นด้วยความโมโห แต่ระหว่างทางแขนเรียวยาวข้างหนึ่งของคนที่ยืนหลบอยู่ตรงมุมมืดก็ยื่นออกมาคว้าร่างเธอเอาไว้ ก่อนจะลากเธอเข้าไปตรงซอกตึกที่อยู่ตรงกันข้ามกับทางหนีไฟ
"อื้อ!" บัวบุษยาได้แต่ร้องเสียงอู้อี้ เพราะว่าริมฝีปากของเธอถูกปิดเอาไว้ด้วยริมฝีปากหยักของใครบางคน เธอพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่พละกำลังของชายหนุ่มคนนั้นก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เธอไม่อาจต้านทานแรงของเขาได้...
“คุณชอบผมเองก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องมาอ้างเพื่อนหรอก” เสียงแหบแห้งของชายหนุ่มดังขึ้นในโสตประสาทของเธอ
สถานที่ที่เขาพาเธอมา มันคือซอกตึกที่มืดสนิท เธอมองไม่เห็นแม้แต่ใบหน้าของเขา แต่เธอจำเสียงของเขาได้เป็นอย่างดี รสจูบของเขามันช่างวิเศษเหลือเกิน เขาจูบเธอท่ามกลางความมืดมิดนั้น เธอได้แต่ยอมให้จูบและเคลิบเคลิ้มไปกันมัน
“ไปต่อกับผมสิ ถ้าคุณต้องการผมจริง ๆ” กันตธีร์พูดขึ้นอย่างเชื้อเชิญ
“ฉันไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้น” หญิงสาวพูดขึ้นพร้อมกับพยายามดิ้นรนเพื่อให้ร่างของเธอให้หลุดจากอ้อมแขนของเขา
“ไปเถอะน่า ถ้าคุณไม่อยากให้ผมจีบเพื่อนของคุณจริง ๆ” สิ้นเสียงเขาจูงมือเธอเดินออกไปที่ลานจอดรถ
“รถคุณจอดตรงไหน” เขาเอ่ยถาม
“แล้วคุณจะให้ฉันพาไปไหน ฉันยังไม่ได้บอกเพื่อนเลย”
“เพื่อนคุณยังสนุกอยู่ ผมเดาว่าอีกไม่นานพวกเธอจะมีหนุ่ม ๆ สักคนพาออกไป เพราะฉะนั้นคุณอย่าห่วงพวกเธอเลย
“แล้วคุณจะให้ฉันพาไปไหน” บัวบุษยาถามอีกรอบตอนนี้เธอใจเต้นแรง นี่เธอกำลังจะมีวันไนท์สแตนด์กับลูกน้องของคุณพ่องั้นเหรอ!..ช่างบ้าสิ้นดี
“ไปบ้านผมสิ”
“อืม..ก็ได้ค่ะ ถือว่าฉันไปส่งคุณก็แล้วกัน” แล้วสิ่งที่หัวใจเรียกร้องมันก็กลั่นกรองออกมาเป็นคำพูดออกจากปากของเธอจนได้