หรืออาจเป็นเพราะความคิดในเสี้ยววินาทีนั้นที่แวบเข้ามาในสมอง ทำให้เขาหันมามองไก่วัดแสนสวย แล้วกลายเป็นสมภารกินไก่วัดเต็มตัว
“อย่า...อย่าทำมิ้น คุณโอม...ได้โปรด”
รวิษาคิดในทางที่ดีว่า เขาอาจจะเปลี่ยนใจ ยอมเห็นใจคำร้องขอของเธอ ดวงตาคู่สวยที่บัดนี้มีแต่ม่านน้ำตามองหน้าคนที่เธอหลงรักด้วยความเศร้าโศกเสียใจอย่างสุดแสน อัคราที่เธอรู้จักไม่มีอีกแล้ว เขาคือผีห่าซาตานเข้าสิง เป็นอสูรร้ายที่ไร้ซึ่งความปรานี
“น้ำตามันไม่ได้ช่วยอะไรมิ้น มันไม่ได้ช่วยอะไร ได้เวลาที่เธอจะต้องแทนคุณข้าวแดงแกงร้อนครอบครัวของฉันแล้ว”
อัคราพูดเสียงเยือกเย็น หูของเขาอื้อเกินกว่าจะได้ยินเสียงของรวิษา ดวงตาของเขาพร่าเลือนเกินกว่าจะมองเห็นสีหน้าและน้ำตาของเธอ อารมณ์ดิบในกายเป็นเครื่องชี้นำให้อัคราทำตามความปรารถนาของตนเอง เขาโน้มใบหน้าเข้ามาหาดวงหน้าเปื้อนน้ำตา ก่อนจะแนบริมฝีปากลงบนปากสาว
วินาทีที่รวิษารู้สึกถึงความอุ่นจากเรียวปากหนาได้รูป สาวผู้น่าสงสารรู้สึกเหมือนกับว่าคำว่าอิสรภาพได้สูญสิ้นไปจากเธออย่างสิ้นเชิง
“อื้อ...อื้อ” แต่ถึงกระนั้นรวิษาก็หวังว่า หากเธอขัดขืนและต่อสู้ เธอคงได้รับอิสรภาพ หลุดพ้นจากมืออสูรร้ายที่กำลังจะพร่าผลาญพรหมจรรย์ รวิษาจึงดิ้น ส่งเสียงประท้วงในลำคอ ส่ายศีรษะไปมาเพื่อไม่ให้เขาจูบเธอได้โดยง่าย ทว่าเธอคงลืมไปแล้วว่า เคยทำอย่างนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งมันก็ไม่ได้ผล
อัครารับมือไม่ยากกับการขัดขืนของรวิษา ข้อมือเล็กถูกรวบไว้ในอุ้งมือของเขาเพียงมือเดียว มืออีกข้างจึงเลื่อนมาจับแก้มนวนเนียนทั้งซ้ายขวาให้หยุดอยู่นิ่ง รับจูบเอาแต่ใจจากเขา เลื่อนกายที่ทาบทับเป็นเกยทับ วาดลำขาทับเรียวขาสาวจนเธอไม่อาจขยับร่างได้ตามใจคิด
“อื้อ...อื้อ” รวิษามีเพียงทางเลือกเดียวที่ทำได้ เธอส่งเสียงร้องในลำคออย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเวลานี้เรียวลิ้นใหญ่จะแทรกผ่านเข้ามาเกี่ยวลิ้นนุ่ม กระหวัดพันรัดจนเธอเกิดความรู้สึกแปลกๆ ซึมซับเข้ามาในความรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ
รวิษากำลังงวยงง เหมือนครั้งแรกที่เขาจูบเธอ เหมือนกันไม่มีผิด ร่างกายที่เคยต่อต้านบัดนี้ร่างสาวตกอยู่ในอาการเกร็งแข็ง เรี่ยวแรงพาเหือดหาย บังคับตัวเองไม่ได้ ลิ้นใหญ่กวาดต้อนทุกพื้นที่ในช่องปากหอมกรุ่น ร่ายมนต์ให้เธอไร้แรงต้านทาน
อัครากระหยิ่มยิ้มในใจเมื่อรู้ว่าร่างกายสวยงามของรวิษาเริ่มโอนอ่อนผ่อนตาม ลิ้นเล็กที่เคยหลบหลีก ตอบโต้กลับการรุกรานอย่างกล้าๆ กลัวๆ มือเล็กทั้งสองข้างที่เคยสะบัดเวลานี้หยุดอยู่นิ่งกับที่เสมือนร่างกายที่อ่อนระทวย
มือใหญ่บังคับจับแก้มนวลคลายออก เลื่อนมาไล้เบาๆ ตรงสีข้างก่อนจะเลื่อนมากอบกุมเต้าทรวงอวบ ขนาดของสิ่งที่เขาจับต้องแทบจะล้นมือ ยิ่งออกแรงบีบเคล้นเบาๆ ความนุ่มหยุ่นที่ได้รับยิ่งทำให้เขาอยากจะเห็นความงดงามของสิ่งนั้น อยากจะเห็นกับตาว่าจะสวยงามอร่ามตามากแค่ไหน แล้วต้องการจับต้องแบบไร้สิ่งกีดกั้นอีกด้วย
“อูวว์...” อัคราครางในใจ แค่คิดแค่จินตนาการร่างกายของเขายังตอบสนองได้มากขนาดนี้ แล้วถ้าได้เห็นและได้จับต้องเนื้อแท้จริงๆ ล่ะ อารมณ์สวาทของเขาจะลุกโชนมากแค่ไหน รวิษาช่างเหมือนน้ำมันจุดประกายไฟในตัวเขาได้อย่างเฉียบพลัน
แรงกระชับบีบของฝ่ามือใหญ่ ความเจ็บระคนเสียวซ่านทำให้จิตใจสาวที่กระเจิดกระเจิงหวนกลับมา เธอออกแรงขยับตัว ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ ส่ายศีรษะไปมา การขัดขืนเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่มันเพียงชั่วครู่เท่านั้น ร่างทั้งร่างก็รู้สึกชาวาบ กระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นผ่านกาย เมื่อเขาใช้ปลายนิ้วกดลงบนยอดถันผ่านเสื้อตัวสวย หากเขากดเฉยๆ เธอคงไม่มีอาการเช่นนี้ แต่อัคราใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือปลุกปั่นปลายถัน กดบ้างถูไถบ้าง สาวอ่อนหัดถึงกับตัวสั่นเป็นระยะๆ มือเท้าอ่อนแรง พละกำลังในกายหยุดอยู่ที่ศูนย์ เสียงครางประท้วงเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงครางรัญจวน
อัครายังคงไล่ต้อนหาความหวานละมุนจากปากสาว กวาดลิ้มชิมรสทั่วช่องปาก ตามกระพุ้งแก้มทั้งซ้ายขวาถูกปลายลิ้นใหญ่ซอกซอน ไม่เว้นแม้แต่ไรฟันคมสะอาด แล้วที่ทำให้เธอขนลุกซู่ ซาบซ่านไปทั้งกายก็คือ การที่เขากระดกลิ้นพลิ้วสะบัดเพดานปาก ก่อนจะมาตวัดลิ้นสาว
อากาศ...เวลานี้รวิษาต้องการออกซิเจนมากที่สุด การจุมพิตแสนยาวนาน ไม่เว้นระยะให้เธอได้หายใจหายคอ กำลังทำให้หญิงสาวไร้ประสบการณ์ขาดอากาศหายใจ ระดับออกซิเจนในร่างกำลังจะหมดลง เธอจะร้องบอกเขาก็ไม่ได้ เพราะปากถูกเขาครอบครอง จะผลักร่างของเขายิ่งไม่ได้ใหญ่ เนื่องจากถูกมือแข็งแรงจับเอาไว้แน่น จะดิ้นก็ดิ้นไม่ได้
เหมือนเขาจะรู้ว่ารวิษาต้องการอะไร อัคราจึงถอยห่างริมฝีปากของตนออกมาเพียงนิด ให้เธอได้สูดลมหายใจเข้าไปในปอดอย่างเต็มที่ ซึ่งรวิษาเองก็เร่งรับหายใจอย่างเร่งด่วน สูดอากาศเข้าไปเต็มปอดหลายครั้ง ทว่าปากหนาไม่ได้ผละห่างเสียทีเดียว ยังแทะเล็มปากสาวด้วยไรฟันคมกริบอยู่เนืองๆ
“ไม่...อย่าค่ะ อย่าทำมิ้น ยะ...”
รวิษาใช้เวลานั้นร้องห้ามและร้องขอเขา ใช้โอกาสเพียงน้อยนิดที่ปากสาวได้รับอิสระให้มีค่ามากที่สุด ทว่าอัคราปิดกั้นโอกาส เสียงห้าม เสียงอ้อนวอนต่างๆ ด้วยปากและลิ้นของเขา
มือหนานวดเฟ้นดอกอุบลสลับไปมาทั้งสองข้างเต้า พร้อมกันนี้ยังใช้ปลายนิ้วมือบี้บด ปลุกปั่นยอดถันไปในที ปากก็จูบอย่างดูดดื่ม ส่วนขาก็ไม่ได้หยุดนิ่งแต่อย่างใด ข้างที่พาดทับขาสาวถูไปถูมาเสียดสีจนเกิดความร้อนวูบวาบ
อัคราใช้จุมพิตเร่าร้อนร่ายมนต์ใส่ร่างสมส่วนให้คล้อยตาม หยุดการดิ้นรนขัดขืนเป็นตอบสนอง ขับไล่ความคิดต่อต้านเป็นการยินยอมพร้อมใจ ลิ้นใหญ่ยังเสาะหาความหวานไปทั่วโพรงปากนุ่ม แทรกซอนจนเธอเกิดความงุนงง สมองว่างเปล่า
แต่ทว่าอาการของรวิษาเวลานี้ยังไม่เพียงพอสำหรับเขา เธอต้องด่ำดิ่งอยู่ในห้วงพิศวาสให้มากกว่านี้ จากขัดขืนจะต้องกลายเป็นยอมพลีกายให้เขาเชยชม อัคราชายหนุ่มชำนาญในเกมสวาทจึงเริ่มลงมือปฏิบัติการทันที
ริมฝีปากหนาถอยห่างปากสาว แต่ยังคงจูบเบาๆ อ้อยอิ่ง เพียงชั่วครู่ก็ลากปากไปตามผิวแก้มเนียนนุ่ม จมูกซับความหอมไปด้วยเรื่อยมาจนถึงใบหูสาว ไรฟันคมสะอาดกัดหยอกเย้าตรงติ่งหู จากรั้นใช้ลิ้นใหญ่ตวัดไล้เลีย เริ่มจากติ่งหูลากผ่านไปตามก้านหูแล้วจึงวนมาสอดลิ้นเข้าไปในส่วนรับฟัง กระดกลิ้นพลิ้วในช่องหูเล็ก จนเกิดเสียงเจาะแจะในนั้น
“อืม...อา” เจ้าของหูขนลุกซู่ ปล่อยเสียงครางออกมาไม่รู้ตัว
อัครารู้สึกพอใจกับเสียงครางที่ได้ยินเพราะมันเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่า เธอกำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาสตามความตั้งใจของเขา แล้วอัคราจะต้องทำให้ความรู้สึกนั้นถาโถมเข้าสู่ร่างกายและจิตใจของรวิษาให้มากขึ้นและมากขึ้น