1. เก็บไว้ใกล้ตัว
ณ ชั้นบนสุดของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งกลางเมืองหลวง
ลูกกวาด อายุ 24 ปี ลูกจ้างของบริษัทแห่งนี้ เธอเป็นเลขาหน้าห้องของท่านประธาน เธอเข้ามาทำงานที่นี่ตั้งแต่เรียนจบระดับปริญญาตรีแล้ว
ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 1 ปีก่อน ในช่วงเวลาเทอมสุดท้ายใกล้จบหลักสูตรของมหาวิทยาลัยนั้น ทางมหาวิทยาลัยได้ส่งตัวเธอและเพื่อนรวมกันห้าคนมาฝีกงานที่นี่ และเธอได้มาทำตำแหน่งผู้ช่วยเลขา ความสามารถในการเรียนรู้งานและความขยันของเธอทำให้เข้าตาของท่านประธานทำให้เธอได้ถูกจ้างงานต่อ และเป็นเวลาที่เหมาะเจาะเสียเหลือเกินเมื่อเลขาท่านประธานลาคลอดในตอนที่เธอเรียนจบ เธอจึงได้ขึ้นเป็นเลขาเต็มตัวแทนพี่สาวแสนใจดีคนนั้นและคงอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อแม้ว่าเลขาตัวจริงจะกลับมาแล้วก็ตาม
'ผมขอสัญญาการส่งออกล็อตใหม่ด้วยครับ' เสียงทุ้มคุ้นหูดังออกมาจากลำโพงของเครื่องสื่อสารบนโต๊ะก่อนจะเงียบหายไป
"ลูกกวาดปริ้นต์เสร็จหรือยัง ท่านประธานถามหาแล้ว" ทับทิม เลขารุ่นพี่เอ่ยถามขณะที่สายตาของเธอจ้องอยู่ที่หน้าจอสี่เหลี่ยมไม่วางตา เพราะงานสรุปรายงานการประชุมของเธอก็รีบเร่งไม่แพ้กัน ตั้งแต่ที่มีลูกกวาดมาเป็นเลขาคู่กับเธอ ทำให้เธอหายหัวหมุนไปเยอะเลยเพราะเธอได้แบ่งงานบางส่วนให้รุ่นน้องสาวได้ทำ
"เสร็จแล้วค่ะพี่ทับทิม" ลูกกวาดเปล่งน้ำเสียงหวานสมชื่อของเธอบอกแก่รุ่นพี่ก่อนจะหยิบแฟ้มดำมาใส่แผ่นกระดาษอย่างคล่องแคล่ว
"เอาเข้าไปให้ท่านประธานเลย" ทับทิมบอกรุ่นน้อง
"ค่ะ" ลูกกวาดจัดการปิดแฟ้มแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะทำงานมุ่งหน้าไปหาประตูใหญ่ มือน้อยยกเคาะขออนุญาตเจ้าของห้องสองครั้งแล้วจึงเปิดประตูเข้าไป
ทับทิมละสายตาจากรุ่นน้องคนสวย ริมฝีปากยกยิ้มอย่างพอใจในความกระตือรือร้นของหญิงสาว ลูกกวาดแทบจะไม่ทำงานผิดพลาดให้เธอต้องหงุดหงิดเลย เธอทำงานที่ถูกมอบหมายให้เรียบร้อยว่องไวทุกครั้ง ไหนจะกิริยามารยาทการวางตัวทางสังคมต่อผู้ร่วมงาน ไม่เคยปีนเกลียวกับรุ่นพี่อย่างเธอเลยสักครั้ง ทุกอย่างในตัวของลูกกวาดล้วนดีงามไปเสียทุกอย่าง ไม่แปลกใจเลยที่พอใกล้จบเวลาฝึกงาน ท่านประธานให้ลูกกวาดเซ็นสัญญาการจ้างงานก่อนการประเมินการฝึกงานเสียด้วยซ้ำ สร้างความแปลกใจเธอไม่น้อยเพราะมีนักศึกษาหลายต่อหลายคนเคยมาฝึกงานแต่ท่านประธานก็ไม่เคยจ้างงานต่อเลยสักคน
ภายในห้องท่านประธาน
ตุลย์ภพ ประธานบริษัทวัย 31 กำลังนั่งหน้าเครียดจ้องมองจอสี่เหลี่ยม มือหนาวางบนเมาส์รูปร่างครึ่งวงกลม นิ้วชี้ยาวขยับหมุนวงล้อตรงกลางไปเรื่อย ๆ เขาไม่ได้เงยมองผู้มาใหม่ด้วยซ้ำ
"สัญญาได้แล้วค่ะ" ลูกกวาดวางแฟ้มในมือบนขอบโต๊ะพื้นที่ว่างก่อนจะถอยหลังหนึ่งก้าววางมือประสานกันไว้ด้านหน้าเพื่อรอฟังคำสั่งต่อไป จากนิสัยที่ถือตัวของเขาเงียบขรึมยิ่งทำหน้าแบบนี้ย่อมเป็นที่เกรงของเหล่าพนักงานขึ้นไปอีกไม่เว้นแม้แต่คนที่ทำงานใกล้ชิดกับเขามาปีกว่าอย่างเธอ
"ครับ นัดคุยงานเย็นนี้คุณไปกับผมนะ" ตุลย์ภพเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงหวานของเลขาสาวคนโปรด แล้วเขาก็พบกับใบหน้าหวาน ดวงตากลมโตมองมายังเขาด้วยแววตาไร้เดียงสา เธอจะรู้ตัวไหมว่าดวงตานี้ทำใจแกร่งของเขาเต้นโครมครามไม่หยุด ถ้าหากว่าสาวหน้าหวานรู้เหตุผลที่เขารับเลขาหน้าห้องเพิ่มเธอจะรู้อย่างไรถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นไก่วัดที่โดนสมภารเช่นเขาหมายตา เธอจะตกใจขนาดไหนนะ ใช่แล้ว เขาชอบเธอ ชอบแบบที่ไม่เคยชอบใครมาก่อน ชอบมากจนต้องเก็บมาไว้ใกล้ ๆ ตัวแบบนี้
"ค่ะ ฉันจะเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ" ลูกกวาดโน้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการแสดงความเคารพเจ้านาย เป็นปกติอยู่แล้วว่าถ้าหากมีงานในตอนเย็นเธอจะเป็นผู้ออกไปกับประธาน เพราะทับทิมซึ่งมีลูกอ่อนรออยู่ที่บ้านนั้นคงไม่สะดวก เธอจึงคิดว่านี่เป็นสาเหตุที่ท่านประธานจ้างเลขาไว้อีกคน
"ดีครับ ออกเดินทางสี่โมงนะ" ตุลย์ภพพูดต่อ เวลานัดคือเวลาหกโมงเย็นแต่ทว่าสถานที่นัดคือต่างจังหวัด สถานที่ลูกค้าวีไอพีจากต่างประเทศมาพักผ่อนและเกิดสนใจจะลงทุนกับบริษัทเขา เขาจึงให้ความสะดวกเป็นพิเศษโดยการไปหาถึงที่
"ค่ะ" ลูกกวาดตอบรับสั้น ๆ
"ทานข้าวหรือยัง" เสียงทุ้มนุ่มออกมาจากปากท่านประธาน จู่ ๆ ตุลย์ภพก็เกิดเป็นห่วงสุขภาพของเลขา ซึ่งนี่เป็นคำถามแรกที่นอกเหนือจากงาน เขาไม่เคยแสดงความห่วงใยใครเป็นพิเศษเพราะรู้ว่าคนเหล่านั้นสามารถจัดการตัวเองได้
"เอ๋? อ้อ ยังค่ะ ฉันว่าจะให้พี่ทับทิมไปพักก่อนค่ะ เผื่อว่าท่านประธานจะเรียก" ลูกกวาดทำสีหน้างงงวยก่อนจะประมวลคำถามของท่านประธานในหัวแล้วตอบออกไป จู่ ๆ ท่านประธานที่แสนจะถือตัวมาถามแบบนี้เธอย่อมงงเป็นธรรมดา ที่ผ่านมาเขาเคยถามเธอในลักษณะนี้เสียที่ไหนกัน
"ฮึ รับผิดชอบดีนี่ ผมไม่มีอะไรแล้วคุณออกไปเถอะ"
"ค่ะ" ลูกกวาดโค้งตัวแสดงความเคารพท่านประธานเล็กน้อยก่อนจะหันหลังกลับไปยังประตูทางออกโดยเธอไม่รู้เลยว่ามีสายตาคมมองส่งเธอจนลับสายตา
.......................................