บทที่ 2: สัญญานายทาส 2

2058 Words
แต่แทนที่พระรามจะทำให้เธอขายหน้า เขากลับสนุกที่จะดูเธอพยายามใช้มารยาง่อยๆ เชื้อเชิญเขามากกว่า อีกอย่าง เขาก็รู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าน่าสนใจเหมือนกัน น่าสนใจว่าเธอจะทำอย่างไรเพื่อให้เขาติดกับ... ดูแล้วไม่มีทางเลยที่สีดาจะล่อลวงเขาได้ กระทั่งเธอเอ่ยปากขึ้นมา ‘แต่ถ้าคุณอยากทำมากกว่าคุย ก็บอกฉันนะคะ เผื่อฉันสนใจ’ เผื่อเธอสนใจอย่างนั้นหรือ? น่าตลกนัก เขาต่างหากที่เป็นคนเลือก แต่ช่างเถอะ ในเมื่อเธอกล้าเอ่ยปาก เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแม่กวางน้อยที่พยายามกลายร่างเป็นแม่เสือสาวนั้นจะมีลีลาเด็ดดวงเพียงใด ‘ผมอยากชวนคุณไปต่อกับผม...ถ้าคุณไม่รังเกียจ’ พระรามออกปากชวนจนได้ ทำเอาก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของสีดาเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ดวงตาเรียวเล็กเบิกโตเล็กน้อยด้วยความตกใจว่าการกระทำของเธอยั่วยวนเขาได้ผล โดยไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วคนที่ติดกับดักนั้นคือเธอต่างหาก และนั่นก็คือปฐมบทของความเร่าร้อนในคืนนั้น... สีดานึกถึงเรื่องที่ตัวเองทำแล้วก็อดยกมือปิดใบหน้าด้วยความเขินอายไม่ได้ เขินอาย ไม่ใช่ละอาย เธอไม่ได้เสียใจที่ทำอย่างนั้น แต่เธอคิดว่าตัวเองกล้าทำสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นไปได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่อยู่บนเตียงกับพระราม... หญิงสาวส่ายหน้าหลายๆ รอบเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป ก่อนจะไขกุญแจห้องเช่าในอพาร์ตเมนต์เพื่อเข้าไปข้างใน เธอโยนข้าวของทิ้งลงบนเตียง ทิ้งตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยอ่อน พลางมองนาฬิกาที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือ ใกล้จะตีสองแล้ว...ปกติเมื่อถึงห้อง เธอมักจะทิ้งตัวลงนอนเลยโดยไม่คิดจะอาบน้ำชำระร่างกายก่อนด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงาน แต่ในวันนี้มันแปลกไปจากทุกที เพราะนอกจากเธอจะไม่ง่วงแล้ว หัวสมองของเธอยังคิดวุ่นไม่หยุด คิดวุ่นเรื่องสัญญาของพระรามนั่นล่ะ ไม่คิดเลยว่ามันจะเกินเลยไปถึงขนาดนี้ สีดาคิดทบทวนเรื่องนี้หลายรอบแล้ว เธอคิดว่าการยอมเซ็นสัญญาเป็นเซ็กซ์พาร์ตเนอร์ของพระรามนั้นไม่ต่างอะไรจากขายตัวเลย แม้ว่าเขาจะบอกว่ามันไม่ใช่การขายตัว แต่เป็นการแลกเปลี่ยน เธอก็อดคิดไม่ได้อยู่ดีว่ามันส่อไปในทำนองนั้น และเพราะคิดอย่างนั้น สีดาจึงมีแนวโน้มว่าจะไม่เซ็นสัญญาของเขา ถึงการมีเซ็กซ์กับเขามันจะเป็นอะไรที่น่าประทับใจก็ตาม แต่เธอก็มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ว่าใครเอาเงินมาเข้าล่อก็จะยอมไปเสียหมด การมีวันไนต์สแตนด์กับเขาในวันนั้นมันเป็นความอยากรู้อยากเห็นที่เธอเต็มใจจะทำ ไม่เหมือนกับครั้งนี้ที่เขาเสนอข้อตกลงมา สีดาคว้าเอาสัญญาที่พับลวกๆ ยัดลงในกระเป๋าหลังของกางเกงโยนลงบนเตียงแล้วทิ้งตัวลงนอน เธอคงไม่ตอบตกลงเขาหรอก คงจะไม่ติดต่อไปหรืออะไรทั้งนั้น จะจบเพียงแค่นี้แม้ว่าจะอยากมีอะไรกับเขาอีกสักครั้งสองครั้งก็ตาม หญิงสาวปิดเปลือกตา หมายจะพักผ่อนให้หายเหนื่อย แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเข้าสู่ภาวะเคลิ้มเพราะจู่ๆ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังขึ้น โทรมาตอนนี้คงไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจาก... “ว่าไงแม่” มารดาของเธอที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัด แม่ของเธอมักโทรมาเวลานี้เพราะรู้ว่าเธอจะเลิกงานราวๆ นี้ทุกวัน และเมื่อเธอกรอกเสียงลงไป เสียงทุ้มของมารดาก็ตอบกลับมา [ดา ช่วงนี้เป็นไงบ้าง] น้ำเสียงนั้นไม่ได้แฝงความเป็นห่วง แต่เป็นการถามเพื่อเปิดบทสนทนาเท่านั้น สีดารู้ดีจึงไม่ตอบอะไร นอกเสียจากถามกลับ “แม่มีอะไร ว่ามาตามตรงเลย หนูง่วงแล้ว จะได้นอน” พอว่าไปอย่างนั้น มารดาของเธอก็เข้าเรื่องทันที [ค่าบ้านเดือนนี้ แม่ยังไม่ได้จ่ายเขาเลยนะ ดามีเงินหรือยัง] ว่าแล้วว่าจะต้องเป็นเรื่องนี้ สีดาพรูลมหายใจออกมา ทุกครั้งที่มารดาโทรมาหามักจะเป็นเรื่องเงินเสมอ ซึ่งเป็นอย่างนี้ตั้งแต่สมัยที่เธอเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว อันที่จริงแล้ว สีดากับแม่ของเธอไม่ได้สนิทสนมกันสักเท่าไร ด้วยสีดาอาศัยอยู่กับปู่ย่าตั้งแต่เล็กหลังจากที่บิดามารดาของเธอแยกทางกัน หรือเรียกได้ว่ามารดาของเธอไม่สนใจเธอเลยมากกว่า เมื่อหย่ากับพ่อ แล้วพ่อพาเธอมาอยู่ด้วยแล้ว มารดาของเธอก็แต่งงานมีครอบครัวใหม่โดยลืมไปสิ้นว่ายังมีลูกอย่างเธออีก ยกเว้นตอนที่เดือดร้อนเรื่องเงิน เมื่อนั้นมารดาจะคิดถึงเธอเป็นคนแรก สมัยที่บิดายังมีชีวิตอยู่ มารดาของเธอไม่กล้าติดต่อเธอหรอก เพราะบิดามักจะด่าทอต่อว่าเมื่อมารดาติดต่อเธอ เพราะทุกครั้งที่ติดต่อมา มักไม่พ้นเรื่องเงินทอง แต่ตอนนี้บิดาของเธอสิ้นไปแล้ว มารดาจึงไม่มีใครให้หวาดเกรงอีกต่อไป ทำตามใจชนิดไม่สนใจว่ามันจะสร้างความลำบากใจให้กับสีดามากแค่ไหน แต่...ในฐานะลูก สีดาก็ไม่อยากคิดอะไรมาก มารดาถามมาอย่างนี้ เธอก็ว่าไปตามจริง “ก็พอมีอยู่นะแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูโอนให้แล้วกัน” กะจะวางสายในตอนนี้ แต่ทว่าก็ต้องชะงักไว้เมื่อมีเสียงตอบรับกลับมา [แล้วก็ยังมีค่าเทอมของน้องด้วยนะดา แม่ยังหาเงินไปจ่ายไม่ได้เลย] สีดาพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมา น้องสาวต่างบิดาก็เป็นอีกคนที่เธอต้องคอยดูแลทั้งๆ ที่แทบไม่เคยเจอหน้ากัน เพราะหลังจากที่พ่อเลี้ยงหย่ากับมารดาของเธอไป ชีวิตของมารดาและน้องสาวต่างบิดาก็ลุ่มๆ ดอนๆ มาโดยตลอด ด้วยมารดาซึ่งเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงมีรายได้ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไรนัก อีกอย่าง มารดาของเธอเป็นผีพนันตัวยง ได้เงินมาทีไร มักจะไปลงกับบ่อนจนหมดเนื้อหมดตัวแทบทุกที แต่ช่างเถอะ เธอเข้าใจดีว่าตอนเรียนแล้วไม่มีเงิน มันยากลำบากแค่ไหน เธอจะช่วยสงเคราะห์ให้ก็ได้ “เท่าไรก็บอกมาแล้วกัน หนูจะจัดการให้” เธอพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ไว้ค่อยไปโอนเข้าให้เพิ่มแล้วกัน แต่แล้วก็มีเรื่องให้เธอต้องขมวดคิ้วยุ่งกว่าเดิมอีกด้วยมารดาของเธอไม่จบเพียงเท่านี้ [กับอีกอย่าง...แม่ติดเงินพวกกู้นอกระบบ ต้องใช้เงินพวกมันวันละห้าพัน แม่ไม่ได้จ่ายมันมาเป็นอาทิตย์แล้ว พวกมันบอกว่าถ้าพรุ่งนี้ไม่จ่าย พวกมันจะมากระทืบแม่ถึงที่บ้าน แม่...] “แม่! หนูบอกแล้วไงว่าให้เลิกยุ่งกับเงินกู้พวกนั้น!” สีดาแหวออกมาอย่างเหลืออด ทำให้มารดาชะงักคำพูดที่จะพูดต่อทันใด “หนูถามจริงๆ นะ แม่เอาเงินกู้พวกนั้นไปทำอะไร” เดาได้ว่าต้องไม่ใช่เพื่อการศึกษาของน้อง หรือค่าใช้จ่ายภายในบ้านแน่ๆ มารดาของเธออ้ำๆ อึ้งๆ ทำให้สีดาต้องเค้นถาม “แม่เอาไปลงกับบ่อนใช่ไหม” เหมือนจะปฏิเสธไม่ได้แล้ว ต้องยอมรับอย่างจำใจ [แม่กะถอนทุนคืน แต่มันไม่เป็นไปตามอย่างที่หวัง] มันจะเป็นไปตามอย่างที่หวังได้อย่างไรกันล่ะ การพนันไม่ช่วยให้ใครร่ำรวยหรือเจริญหรอกนะ นอกจากเจ้าของบ่อนกับพวกปล่อยเงินกู้นอกระบบเท่านั้นแหละ! “หนูไม่มีจะให้แล้วนะแม่” สีดาบอกไปตามตรง ก่อนที่มารดาของเธอจะส่งเสียงสะอื้นไห้มาให้ได้ยิน [แต่ถ้าไม่จ่ายมัน พวกมันกระทืบแม่ถึงตายนะดา ดาต้องช่วยแม่นะ แม่ไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครแล้ว ฮึก...] สีดาไม่ใจร้ายและไม่กล้าพอที่จะปล่อยให้มารดาถูกทำร้าย เมื่อได้ยินอย่างนี้ เธอก็สูดหายใจเข้าปอดลึก “เอางี้แล้วกันนะแม่ พรุ่งนี้หนูจะโอนค่าใช้จ่ายกับค่าเทอมน้องไปก่อน ที่เหลือเดี๋ยวค่อยว่ากัน” [ว่ากัน?] “หนูจะหาทางอีกที” เธอกลั้นใจสรุปให้ เท่านั้นมารดาก็มีความปีติขึ้นมา [ขอบใจมากนะดา ถ้าไม่มีดา แม่ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว] “อือ ไม่เป็นไรแม่ แต่ถ้าหนูเคลียร์หนี้ครั้งนี้ให้แล้ว แม่ห้ามไปกู้มาอีกนะ ไม่อย่างนั้นเราไม่ต้องคุยกันอีก” สีดาประกาศกร้าว เธอไม่อยากจะช่วยเหลือมารดาในเรื่องนี้แล้ว และก็ตั้งใจว่าถ้ามีอีกครั้ง เธอจะไม่ยุ่งอีก ซึ่งมารดาก็รับปากเป็นอย่างดี [แม่รู้ ขอบใจนะดา นอนพักผ่อนเถอะ แม่ไม่กวนแล้ว] สีดากดวางสายด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า นอกจากความรักที่ไม่เคยได้รับจากมารดาแล้ว ยังมีแต่เรื่องวุ่นวายมาให้เธอจัดการ คงถึงเวลาสักทีที่เธอจะต้องจัดการให้เด็ดขาด แต่ก่อนที่จะจัดการให้เด็ดขาด เธอจะต้องใช้หนี้ให้มารดาเธอก่อน หญิงสาวเข้าแอปพลิเคชั่นของธนาคารในโทรศัพท์มือถือเพื่อเช็กยอดเงินที่มีเก็บ มันเพียงพอสำหรับการจ่ายค่าเช่าบ้านให้มารดาและค่าเทอมให้น้อง แต่ไม่เพียงพอสำหรับการใช้หนี้เงินกู้นอกระบบ มิหนำซ้ำ ถ้าเธอโอนเงินก้อนนี้ให้มารดาแล้ว เธอก็จะเหลือเงินไว้กินเพียงไม่กี่ร้อยเท่านั้น เงินไม่กี่ร้อยในหนึ่งเดือน มันเป็นไปไม่ได้แน่ จะขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าก่อนก็ไม่ได้ด้วยสิ... เธอปิดเปลือกตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ทำไมเธอจะต้องมาเจออะไรอย่างนี้ด้วยนะ สีดาอยากจะหลับๆ ให้ลืมเรื่องวุ่นวายเหล่านี้ไป หากทว่าเมื่อวาดมือไปยังข้างกายแล้ว สัมผัสบางอย่างก็ทำให้เธอต้องเปิดเปลือกตาขึ้น มือของเธอวาดไปโดนกับสัญญาของพระรามเข้า... สีดานอนมองสัญญานั้นอยู่นานกว่าที่จะคว้ามันมากางออก ห้าหมื่น...ไม่สิ หนึ่งแสนกับการเป็นเซ็กซ์พาร์ตเนอร์ให้พระรามหนึ่งเดือน จะเรียกว่าคุ้มค่าได้หรือไม่นะ? สีดาคิดไม่ออกเลย หัวสมองอื้ออึงไปหมด แต่ชั่วครู่เดียวเธอก็คิดขึ้นมาได้ ในตอนนี้อะไรที่ทำแล้วได้เงินก็คงต้องทำก่อน ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ เงินสิถึงจะซื้อของกินได้ อีกอย่าง เธอเคยคิดว่าอยากจะมีอะไรกับพระรามอีกสักครั้งสองครั้ง และนั่นก็ทำให้สีดาตัดสินใจในชั่ววินาที ถ้าอย่างนั้น... หญิงสาวกุลีกุจอลุกจากเตียง ควานหานามบัตรของเลขาฯ ส่วนตัวของพระรามให้วุ่นไปหมด ก่อนจะเจอมันอยู่ในกระเป๋ากางเกงช่องหนึ่ง ปลายนิ้วเรียวดึงมันขึ้นมา เธอไล่สายตาดูหมายเลขโทรศัพท์แล้วก็บรรจงกดมันลงไปบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ไม่นานนัก อีกฝ่ายก็ตอบรับ สีดากรอกเสียงลงไป “ขอโทษนะคะที่โทรมารบกวนตอนดึกๆ แต่ว่าเรื่องสัญญาของคุณพระราม ฉัน...” พลางสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมความกล้า “ฉันตกลงค่ะ” ตกลงไปแล้ว... เธอตัดสินใจไปแล้ว สีดาวางสายหลังจากคุยข้อมูลกับเลขาฯ ส่วนตัวของพระรามอีกเล็กน้อย ก่อนเธอจะปิดเปลือกตาลงเพื่อสงบจิตสงบใจ วินาทีที่จวนตัว การเอาตัวรอดก็เป็นสัญชาตญาณหนึ่งของมนุษย์ล่ะสินะ แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะลงท้ายด้วยการเอาตัวรอดด้วยวิธีนี้ ศักดิ์ศรีกินไม่ได้จริงๆ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD