ตอนที่ 4คนที่ไม่อยากเจอ
"ฮูหยินเจ้าคะ ร้านขายผ้ามู่ต๋านฮวากำลังเป็นที่นิยมในหมู่สตรี บ่าวได้ยินมาว่าผ้าของร้านนี้เนื้อผ้าดียิ่งนัก หากเรานำมาตัดเป็นอาภรณ์สำหรับเอาไว้ใส่ในงานโคมไฟที่จะถึงในอีกไม่ช้านี้ คงจะดีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ" เสี่ยวเจียงเห็นคุณหนูของตนนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ศาลาริมน้ำเป็นนานตั้งแต่แต่งเข้าสกุลหานมา จากคุณหนูที่มีใบหน้าสดใสร่าเริงราวกับดอกไม้แรกแย้มก็มลายหายไป บัดนี้นางเห็นแต่เพียงหญิงสาวที่ใบหน้าโศกเศร้าทุกข์ระทม เสี่ยวเจียงคิดในใจหากมีรักแล้วต้องทุกข์ นางไม่ขอมีคู่ไปตลอดชีวิตเสียยังดีกว่า
"งานโคมไฟหรือ"แววตาของเสิ่นชิงเยียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อสาวใช้พูดถึงเทศกาลที่เหล่าคู่รัก มักจะนิยมออกไปลอยโคมขอพรที่ริมแม่น้ำกันเป็นคู่ ๆ ครั้งหนึ่งนางก็เคยใฝ่ฝันที่จะได้ลอยคู่กับชายคนรัก แต่มาบัดนี้ความหวังนั้นช่างเลือนรางไปเสียแล้ว เมื่อคิดถึงตรงนี้แววตาที่เป็นประกายเมื่อสักครู่ก็หม่นแสงลงอีกครั้ง
"เจ้าค่ะ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้เองเราไปหาซื้อผ้ามาไว้ตัดอาภรณ์กันดีหรือไม่เจ้าคะ"
เสี่ยวเจียงไม่ทันสังเกตแววตาของเจ้านายตนเอง นางยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงกังวานใสไม่หยุด เสิ่นชิงเยียนเห็นว่าสาวใช้มีความกระตือรือร้นก็ไม่อยากจะขัดให้เสียน้ำใจ อย่างไรอีกฝ่ายก็รักและหวังดีกับตน
"อืม...ก็ดีนะข้าจะได้ตัดชุดใหม่ ๆ ให้ท่านพี่หานด้วย"ดูเอาเถิดขนาดว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ใส่ใจคุณหนูของนาง แต่เสิ่นชิงเยียนกลับคิดถึงเขาทุกลมหายใจเข้าออกเช่นนี้ เสี่ยวเจียงไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก ทว่าก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นใบหน้างามดูมีความสุขที่ได้ทำเพื่อสามีเช่นนี้
"เจ้าค่ะฮูหยิน ถ้าอย่างนั้นบ่าวไปสั่งพ่อบ้านให้เตรียมรถม้านะเจ้าคะ"เสิ่นชิงเยียนพยักหน้าให้เสี่ยวเจียงไปจัดการเรื่องเตรียมรถม้า ส่วนนางก็หันไปสั่งธุระกับเสี่ยวอวี้ สาวใช้ของตระกูลหานที่ฮูหยินเถาฮวามอบให้นางไว้ใช้งาน ความจริงเสิ่นชิงเยียนไม่ได้ต้องการรับสาวใช้เพิ่ม หากไม่เป็นเพราะความต้องการของแม่สามีนางก็คงจะปฏิเสธออกไป ในจวนแห่งนี้คงมีเพียงเถาฮวาเท่านั้นที่หวังดีกับนางอย่างแท้จริง
"เสี่ยวอวี้เจ้าไปเอาอาภรณ์ของท่านพี่หานมาให้ข้าที่ห้องได้หรือไม่ ข้าจะนำมาเป็นตัวอย่างตัดอาภรณ์ให้ท่านพี่หานได้ใส่น่ะ"
"ได้เจ้าค่ะบ่าวจะไปนำมาให้ฮูหยินนะเจ้าคะ" เสี่ยวอวี้พยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ตอนนี้นางคือสาวใช้ของเสิ่นชิงเยียนแล้ว นางก็ต้องเคารพต่อเสิ่นชิงเยียนด้วยความจริงใจ
"ขอบใจเจ้ามาก"ใบหน้างามส่งยิ้มให้กับสาวใช้อย่างเป็นมิตรครั้นสั่งงานกับเสี่ยวอวี้เสร็จ เสิ่นชิงเยียนก็เดินออกไปรอรถม้าที่หน้าประตูจวน ทั้งสองคนตรงไปยังร้านขายผ้ามู่ต๋านฮวาเป็นอันดับแรก
เสิ่นชิงเยียนเลือกผ้าอย่างดีสำหรับตัดอาภรณ์ของบุรุษมาหลายผืน นางค่อย ๆ เลือกแต่ละอย่างด้วยความประณีต ใส่ใจแม้กระทั่งเส้นด้ายที่จะเอาไว้เย็บชุดนางก็เลือกแล้วเลือกอีกจนถูกใจจริงๆ
ในขณะที่เสิ่นชิงเยียนกำลังยื่นมือไปหยิบผ้าฝ้ายชั้นดีของทางร้านนั้น ก็มีมือเรียวของหญิงสาวอีกคนยื่นมาจับที่ผ้าผืนเดียวกับนางอย่างพอดี ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน เสิ่นชิงเยียนรีบปล่อยมือและหันไปนางส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเล็กน้อย
"อ้าวคุณหนูเสิ่น ช่างบังเอิญเสียจริง มาเลือกผ้าเช่นกันหรือ ข้าเองก็มาเลือกผ้าเช่นกันพี่สวี่เปรย ๆ ว่าอยากได้อาภรณ์ชุดใหม่ ปกติแล้วข้าเองก็ตัดเย็บชุดให้เขาเป็นประจำ พี่สวี่ชอบนักล่ะอาภรณ์ที่ข้าทำให้เขา อีกทั้งยังเอ่ยว่าไม่มีสตรีใดทำอาภรณ์ได้ถูกใจเขาเท่ากับข้าอีกแล้ว"
ไป่อ้ายเหม่ยยกมือคลี่พัดปิดหน้าพร้อมกับแสร้งทำท่าทีเขินอาย เสียงหัวเราะแหลมเล็กยิ่งได้ฟังแล้วก็ยิ่งบาดลงไปที่ดวงใจของเสิ่นชิงเยียน เจตนาของหญิงสาวอีกคนมีหรือที่นางจะดูไม่ออก
"คุณหนูไป่ เรียกข้าเช่นนั้นเห็นทีว่าจะไม่เหมาะสม ตอนนี้ข้าออกเรือนแล้ว หากจะให้ถูกต้องและเหมาะสม โปรดเรียกข้าว่าฮูหยินน้อยหานเถอะ"เสิ่นชิงเยียนมีใจรักใคร่หานสวี่ก็จริง หากแต่นางไม่จำเป็นต้องนอบน้อมกับคนที่ตั้งใจจะหาเรื่องนางเช่นนี้ หานสวี่รักไป่อ้ายเหม่ยแล้วอย่างไร นางจำเป็นต้องก้มหัวให้หรือ หาจำเป็นไม่นางเชิดใบหน้าขึ้นดูเย่อหยิ่งทว่ากลับงดงามราวกับเทพธิดาบนสรวงสวรรค์
ด้านไป่อ้ายเหม่ยเมื่อได้ฟังสิ่งที่หญิงสาวอีกคนพูด ใบหน้าสวยก็บึ้งตึงขึ้นมาทันที ริมฝีปากสวยเหยียดยิ้มอย่างดูแคลน เป็นฮูหยินที่ไม่ต้องการ แล้วยังจะกล้าหยิ่งผยองเช่นนี้ หากนางไม่สั่งสอนเสียหน่อยคงจะเป็นการเสียน้ำใจกับอีกฝ่ายเสียแล้วกระมัง
"เอ่อ...ข้าต้องขออภัยเจ้านะเสิ่นชิงเยียน ข้าเองก็อยากจะเรียกเช่นนั้น หากแต่ข้าเคยเรียกไปแล้วพี่สวี่คงจะไม่พอใจเป็นอย่างมากตำแหน่งฮูหยินน้อยของพี่สวี่ ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่ามีไว้เพื่อผู้ใด" ไป่อ้ายเหม่ยทำสีหน้าเหมือนเห็นอกเห็นใจหญิงสาวตรงหน้าเสียเหลือเกิน
เสิ่นชิงเยียนหน้าชาขึ้นมาทันที เหล่าสตรีน้อยใหญ่ที่อยู่ในร้านต่างก็หันมามองเรื่องสนุกของสตรีทั้งสองที่กำลังถกเถียงสงครามอารมณ์กันอย่างนึกสนุก
"ฮูหยินเจ้าคะ เรารีบไปกันเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวเราต้องไปหาซื้อวัตถุดิบสำหรับทำขนมเซาปิ่งอีกนะเจ้าคะ"เสี่ยวเจียงเห็นท่าไม่ดี นางจึงรีบหาทางลงให้กับคุณหนูของตน เพราะตอนนี้ผู้คนก็สนใจใคร่รู้เรื่องของพวกนางทั้งสองอยู่มาก เรื่องถกเถียงของผู้อื่น ย่อมเป็นเรื่องสนุกสนานไม่น้อย
"นั่นน่ะสิ ข้าต้องขอตัวก่อนนะคุณหนูไป่ ข้าช่างโชคดียิ่งนักที่ได้แม่สามีที่รักใคร่ในตัวข้าเสมือนบุตรสาวแท้ ๆเพราะสตรีบางคนที่แต่งเข้ามาแล้วแม่สามีรังเกียจ ก็อยู่อย่างลำบากยิ่ง ข้าพูดถูกหรือไม่คุณหนูไป่ ข้าหวังว่าเจ้าจะแต่งเข้าจวนที่มีแม่สามีที่ดีเช่นเดียวกับข้านะ เอาล่ะข้าขอตัวก่อน เอาไว้โอกาสหน้าเราค่อยมาสนทนากันใหม่นะ เผื่อวันข้างหน้าเจ้าแต่งเข้าไปเป็นฮูหยินรองของข้า เราคงได้มีโอกาสสนทนากันมากขึ้น"
เสิ่นชิงเยียนส่งยิ้มเย้ยหยันให้กับไป่อ้ายเหม่ย ที่ยืนจ้องมองนางด้วยแววตาเกลียดชังอยู่ตรงนั้น สายตาของไป่อ้ายเหม่ยมองเห็นว่า เสิ่นชิงเยียนหยิบผ้าผืนที่นางต้องตาไปด้วย แววตาก็แสดงออกถึงความเคียดแค้น นางจึงหยิบผ้าที่เหมือนกันกับที่เสิ่นชิงเยียนถือติดมือไปด้วย
แล้วนำมันไปจ่ายเงินและออกจากร้านไปเช่นกันหึ!! คิดจะตัดชุดให้หานสวี่หรือ แล้วมาลองดูกันสิว่าหานสวี่จะเลือกใส่ของใคร ไป่อ้ายเหม่ยยกริมฝีปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา
"หึ!!ฮูหยินรองหรือ คนอย่างข้าต้องได้เป็นฮูหยินเพียงคนเดียวเท่านั้น คอยดูเถอะเสิ่นชิงเยียน ข้าจะจัดการเจ้าออกไปให้พ้นทางให้ได้คอยดูเถิด"
...
"ดูก็รู้ว่าคุณหนูไป่ตั้งใจจะหาเรื่องฮูหยิน เมื่อสักครู่บ่าวน่าจะตบสักสอนนางสักฉาด" เสี่ยวเจียงพูดออกมาอย่างมีโทสะแต่เสิ่นชิงเยียนกลับยิ้มอย่างไม่ใส่ใจเท่าใดนัก
"เจ้าจะไปตบคุณหนูไป่ได้อย่างไร นางเป็นถึงบุตรสาวท่านกงซุน หากเจ้าลองแตะต้องนางเรื่องคงบานปลายไปกันใหญ่ ไปเถอะอย่ามัวพูดมากอยู่เลย ข้าจะรีบกลับจวนแล้ว"
เสิ่นชิงเยียนและเสี่ยวเจียงเดินไปซื้อของสำหรับทำขนม นางพลางคิดอยู่ในใจ หากเรื่องวันนี้ไป่อ้ายเหม่ยนำไปฟ้องหานสวี่ เขาต้องไม่พอใจที่นางพูดจาเสียดสีคนรักของเขาเป็นแน่ นางถอนหายใจออกมาอย่างปลงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า