สีหน้าของสิตามนินท์เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดและมันก็เป็นที่สังเกตสำหรับรีเบ็คก้า “เอ้อ...ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าอย่างนั้นนินขอตัวกลับไปที่ห้องก่อนค่ะ เชิญคุณรีเบ็คก้าคุยกับพี่ปราการตามสบายนะคะ” สาวไทยสะพายกระเป๋าและหอบหิ้วหนังสือกลับไปที่ห้องของเธอท่ามกลางสายตาของคนที่นั่งอยู่ก่อน ปราการมีสีหน้าวูบลงเล็กน้อยในขณะที่เพื่อนสาวของเขามองตามผู้หญิงซึ่งได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวของปราการอย่างครุ่นคิด หากแต่เธอก็เก็บความสงสัยไว้ในใจก่อนหันมายิ้มกับชายหนุ่ม “ไม่เห็นคุณเล่าให้ฉันฟังเลยนะคะโธมัส ว่าคุณมีน้องสาวเป็นคนไทย” ปราการยิ้มน้อย ๆ ก่อนตอบ “ผมไม่ค่อยพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง แต่ถ้ามีคนถามผมก็ไม่เคยปิดบังและพร้อมจะเล่าให้ฟังทุกอย่าง ผมเป็นเด็กกำพร้าที่คุณสีดาแม่ของนินไปขอผมมาเลี้ยง ท่านให้ความรักกับผมเหมือนลูกคนหนึ่ง และผมก็รักท่าน รักลูกสาวของท่านคือสิตามนิ