บทที่6

1530 Words
“แบบนี้คนที่บ้านก็ห่วงแย่สิค่ะ คุณยายชื่ออะไรจำได้หรือเปล่า” “ทำไมจะจำไม่ได้ละ ฉันชื่อเรไร คนที่บ้านไม่ห่วงหรอก ทุกคนรู้ดีว่าฉันดูแลตัวเองได้” “ถ้าอย่างนั้นคุณยายนั่งเล่นตรงนี้รอไปก่อนนะคะ ดิฉันจะให้ลูกสาวไปซื้อหมั่นโถวมาให้ทานแล้วค่อยไปส่งที่บ้าน” “จริงนะ! ขอบใจมาก” ดวงตาของหญิงสูงวัยเป็นประกาย ใบหน้าของนางเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งกนกและลูกสาวก็ไม่เข้าใจ ทำไมคุณนายเรไรถึงได้ดีใจจัง “พูดจริงสิค่ะ กิ่งไปซื้อหมั่นโถวทรงเครื่องมาให้คุณยาย เดี๋ยวแม่จะไปทำมื้อเย็นรอ พี่แก้วกลับมาจะได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน” “ก็ได้ค่ะแม่” กิ่งฉัตรตกปากรับคำผู้เป็นมารดาอย่างว่าง่าย ก่อนจะออกไปตลาด เพื่อซื้อหมั่นโถวให้แขกคนสำคัญ ที่อยู่ดีๆ ก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ด้วยความเป็นคนใจดี กนกและลูกๆ จึงมีมิตรไมตรีให้กับคุณนายเรไร / ตลาด// กิ่งฉัตรใช้จักรยานคันโปรดปั่นไปซื้อหมั่นโถวให้กับคุณนายเรไร ขณะที่ภายในใจรู้สึกสงสัย ทำไมลูกหลานถึงพลัดหลงกับหญิงสูงวัยได้ หรือว่าพวกเขาตั้งใจ ที่จะทิ้งหญิงสูงวัยไว้ลำพัง “โอ๊ะ! โอ๊ย! นี่คุณเดินยังไงไม่เห็นคนรึไง!” กิ่งฉัตรหันกลับไปตะคอกใส่หน้าชายร่างสูงใหญ่ เมื่อเขาเร่งรีบเสียจนเดินชนเข้ากับเธออย่างจัง “หลีกไปสิ! ผมรีบ” ครูซกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเข้ม จนทำให้หญิงสาวกำแน่น ใบหน้าของเขาดูหล่อเหลาราวเทพบุตรลงมาจุติ แต่ทว่ามารยาทกลับแย่ยิ่งกว่าคนพเนจรเสียอีก “ที่บ้านของคุณไม่ได้สอนเรื่องมารยาทรึไง เดินชนคนอื่นแล้วยังมาอารมณ์เสียใส่อีก สงสัยแม่ไม่รัก ถึงได้พาลไปทั่ว” ขณะที่ครูซกำลังจะก้าวเท้าออกไป ทำให้ชายหนุ่มถึงกับหันกลับมามองหญิงสาว หล่อนเป็นใคร ดีเลิศมาจากไหนถึงกล้าใช้คำพูดที่รุนแรงกับเขาได้ “ยัยเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม กล้าดียังไง ถึงได้พูดจาส่อเสียดคนอื่นไปแบบนี้ แม่ของฉันเกี่ยวอะไรด้วย ฮ่ะ!” ดวงตาคมจับจ้องไปที่ดวงหน้าของกิ่งฉัตร ซึ่งเธอดูเด็กเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้ อายุคงประมาณสิบหกสิบเจ็ด แต่นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่เขาสงสัย ครูซรู้สึกแปลกใจที่หญิงสาวไม่วิ่งเข้าหาเขามากกว่า เพราะปกติแล้วผู้หญิงทุกคนที่เฉียดเข้ามาในรัศมีของเขา พวกหล่อนมักจะอ้อร้อออดอ้อนให้ชายหนุ่มสนใจ ซึ่งผิดไปจากผู้หญิงคนนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอมีโอกาสที่จะสานสัมพันธ์ แค่แสร้งทำเป็นล้มลงไปกองกับพื้น เขาก็พร้อมจะเข้าไปกุมมือเธอลุกขึ้นยืน ตามนิสัยของผู้หญิงที่เขาเคยเจอมา “แต่งตัวก็ดี หน้าตาก็ไม่ได้แย่ แต่ทำไมนิสัยของคุณถึงไม่ได้ครึ่งยี่ห้อของชุดที่สวมใส่ น่าเสียดายจัง คุณคงรู้สึกผิดหวัง ที่ฉันไม่ได้มองคนแค่เปลือกนอก เพราะสำหรับฉันแล้วนั้น ไม่ว่ามุมไหน ยังไงคุณก็เป็นผู้ชายที่ดูต่ำกว่ามาตรฐาน ที่ฉันวางสเปกเอาไว้” กิ่งฉัตรพูดทิ้งท้ายประโยคเอาไว้ด้วยถ้อยคำที่แสนเจ็บใจ ซึ่งทำให้ผู้ชายอย่างครูซโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เพราะตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนพูดจาเหน็บเนมได้เจ็บแสบแบบนี้มาก่อนเลย “อย่าให้เจออีกนะ ฉันจะจัดให้หนักเลยคอยดู ยัยเด็กบ้าเอ๊ย!” น้ำเสียงของครูซมีร่องรอยสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ เพื่อไม่ให้มันระเบิดออกมา หลังจากที่กิ่งฉัตรสะบัดตูดเดินเข้าไปในตลาดหน้าตาเฉย หล่อนคิดว่าตัวเองเป็นใคร ซุปเปอร์วูแมนหรืออย่างไร ถึงได้กล้าเอาตัวเองมาวัดมาตรฐานของผู้ชายอย่างเขากับเสปกของหล่อนได้ “นายเป็นบ้าอะไร! ทำไมทิ้งให้ยายอยู่ลำพัง แล้วพามาตลาดทำไม นายนี่มันเป็นคนยังไงกันนะ ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่านายดี” พอลูคัสลงจากรถได้ เขารีบปรี่เข้ามาหาครูซทันที พร้อมกับคิดหาคำก่นด่า แต่ทว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาคงไม่สะทกสะท้าน “ย่าอยากมา ฉันก็พามา ไม่เห็นจะซับซ้อนตรงไหนเลย สมองของนายวันๆ คงคิดแต่เรื่องเอาชนะคนอื่น จนละเลยสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารักไป ย่าไม่ใช่นกแก้วนะหมอ ที่นายจะขังเอาไว้แต่ในกรงทอง” “ครูซ!” ลูคัสกำมือแน่น พลางตะคอกชื่อของชายหนุ่มตรงหน้าออกมาด้วยความรู้สึกโกรธขึ้ง ใบหน้าหล่อเหลาแดงไปถึงใบหู ลูคัสแทบเก็บอาการไม่อยู่ ก่อนที่นายแพทย์หนุ่มจะสูดลมหายใจเข้าออกยาวๆ เพื่อกลั้นอารมณ์โกรธไม่ให้พลุ่งพล่านมากไปกว่านี้ “เราแจ้งความดีไหมครับนาย” “ไม่ได้! ถ้าทำแบบนั้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ พวกที่จ้องจะแทงข้างหลัง คงตามหายายเจอก่อนพวกเราแน่” “ย่าแค่มาเที่ยวเดี๋ยวก็กลับ หมออย่าคิดมากน่า... มองโลกบวกบ้างสิ คิดลบบ่อยๆ เดี๋ยวก็กลายเป็นศูนย์ แล้วคุณหมอจะหาความสุขมาจากไหน ชีวิตของคนเรา ไม่ควรยึดติดกับบางสิ่งบางอย่างมากจนเกินไป” ครูซรู้ดีว่าลูคัสจมปลักอยู่กับอดีต เขากลายเป็นผู้ชายเย็นชาไร้หัวใจ ตั้งแต่วันที่เฮเลนจากไป ทั้งที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกัน ในอีกไม่กี่เดือนอยู่ดีๆ เขากลับถูกกระชากหัวใจดวงน้อยออกไปจากอกข้างซ้าย นับตั้งแต่วันนั้นลูคัสก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลย “หุบปาก! แล้วรีบไปตามหาคุณยายซะ ก่อนที่พวกไอ้มังกรมังจะได้ข่าวนี้ รับรองว่าคุณยายต้องตกอยู่ในอันตรายแน่” “นายนี่มันทำบุญด้วยอะไร ศัตรูมีอยู่รอบทิศเลยนะหมอ หึ! หึ!” ครูซกลั้วหัวเราอยู่ในลำคอ ก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋าเดินเข้าไปในตลาดอีกครั้ง ด้วยความมั่นใจในตัวเองสูง ตามสไตล์ของครูซ “มันคิดว่ามาเดินแฟชั่นรึไง เก๊กหล่ออยู่ได้ ทั้งที่ยายหายไปทั้งคน ไอ้บ้าเอ๊ย! เฮ้อ!” ลูคัสถึงกับส่ายศีรษะไปมา เขาไม่รู้ว่าทำไมยายถึงตามใจครูซจัง งานการก็ไม่ทำ คอยแต่จะใช้เงินท่าเดียว บ้านก็แทบจะไม่กลับ เพราะเขาตั้งใจที่จะปักหลักอยู่ที่คอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง ท่ามกลางแสงสีที่เต็มไปด้วยบรรดาผีเสื้อราตรี ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนไหน จะสามารถมัดใจครูซได้สักที //ร้านขายหมั่นโถว// “ทั้งหมดเท่าไหร่คะ” “หนึ่งร้อยบาทพอดีจ้า” หญิงสาวส่งธนบัตรใบสีแดงให้กับลูกสาวเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นจังหวะที่ครูซเดินเข้ามาพอดี “ร้านหมั่นโถวนี่นา แสดงว่าคุณย่าต้องผ่านมาแถวนี้แน่นอน” ชายหนุ่มรีบเดินตรงไปที่ร้าน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับกับที่กิ่งฉัตรเดินออกไปพอดี เขาปรายตามองหญิงสาวด้วยความรู้สึกอยากเอาคืน แต่การหายไปของคุณย่าทำให้ครูซไม่สามารถตามไปตอแยหาเรื่องกิ่งฉัตรได้ “ขอโทษนะครับ มียายแก่ๆ แต่งตัวดูดี เดินมาซื้อหมั่นโถวไหมครับ” ครูซก็คือครูซ เขาเป็นคนไม่เรื่องมาก ถามไม่คิดตอบไม่เคยตรงคำถาม กวนประสาทคนรอบข้าง เพื่อปกปิดสิ่งที่ขาดหาย เพราะชายหนุ่มขาดบิดามารดาให้ความอบอุ่น ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่คุณนายเรไรตามใจหลานชายจนเขาแทบเสียคน “ถ้าจะให้ตอบ คงต้องนั่งนึกทั้งวัน เพราะลูกค้าแต่ละคน มีตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงคนแก่ แต่ไม่รู้นะว่ามีใครบ้าง เพราะไม่ได้สังเกตขนาดนั้น ขอโทษจริงๆ นะคะ ที่เราให้คำตอบคุณไม่ได้” “อ่อ... ยายใส่เสื้อสีอะไรวะ” ชายหนุ่มพยายามนึก แต่ก็นึกไม่ออก เพราะเขาเองก็ไม่ได้สังเกตสีเสื้อของผู้เป็นย่า “แล้วคนที่ใส่แว่นตา คนแก่ๆ ที่ใส่แว่นตาน่ะ ท่าทางผู้ดี พูดจาไพเราะพวกคุณจำลูกค้าไม่ได้เลยรึไง” ครูซพยายามที่จะอธิบายท่าทางรูปลักษณ์ รวมทั้งชุดที่คุณยายของเขาสวมใส่ แต่ไม่ว่าชายหนุ่มจะพูดยังไง ทุกคนในร้านต่างก็จำลูกค้าที่มาซื้อหมั่นโถวไม่ได้ “โธ่พ่อคุณ! จะคุยอีกนายไหมฉันจะซื้อของ” ลูกค้าอีกคนของร้านโวยวายเสียงดัง เพราะมีคนต่อคิวรอให้ครูซพูดจบประโยค แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคุยไปเรื่อย “ขอโทษครับ ขอโทษนะครับ” แต่อย่างน้อยก่อนจะเดินออกไปจากร้าน ชายหนุ่มก็ยังมีมารยาทรู้จักกล่าวคำขอโทษคนที่ต่อแถวรอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD