บทที่ 4

1460 Words
เนื่องจากครอบครัวของมาลิคขาดสภาพคล่อง หลังจากบิดาของเขาเสียชีวิตลง ซึ่งลูคัสคือผู้มีพระคุณ จึงทำให้ชายหนุ่มยอมทำตามคำสั่งของลูคัสทุกประการ ตามแต่เขาจะบัญชาด้วยความเต็มใจ “ช้าก่อน” ลูคัสมีแววตาที่แข็งกร้าว สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม เมื่อความปรารถนาในใจของชายหนุ่ม มีเพียงการได้ทำให้แก้วกานดาได้อยู่ในโลกใบบี้ด้วยความยากลำบาก “ทำไมครับ” “คนอย่างเหมันต์ไม่มีทางช่วยเหลือผู้หญิงอย่างหล่อนหรอก เชื่อฉันสิ! เพราะเขาอยู่ใต้การบังคับบัญชาของพ่อวลินดา ถ้าพ่อตาเขารู้ว่าแฟนเก่าที่เพิ่งพ้นโทษในคดีอาญามาหา นายคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น” ดวงตาคมของเขาฉายแววประดุจเปลวไฟ ที่พร้อมจะลุกไหม้ลามเลียชีวิตของแก้วกานดา ผู้หญิงตัวเล็กๆ ขาดที่พึ่ง ซึ่งเธอกำลังจะกลายเป็นเหยื่อของความแค้น ทั้งที่หญิงสาวได้รับมันมามากเกินพอ นอกจากเขาจะตัดสัมพันธ์แล้วนั้น เหมันต์ยังลืมสิ้นถึงเรื่องราวดีๆ ที่เคยมีให้แก่กัน เธอแค่จะมาของานทำ ทำไมเขาถึงได้ใจดำกับเธอจังเลย //หน้าห้องท่านรองประธาน// หญิงสาวนั่งรอคนที่เธอเคยคิดจะฝากชีวิตเอาไว้ จากนาทีเป็นชั่วโมง แต่ก็ไร้วี่แววที่เลขาสาวจะเรียกให้เธอเข้าไปเจอกับเหมันต์ แก้วกานดาได้ทำได้เพียงแค่เจียมตัว นั่งกอดแฟ้มเอกสารเอาไว้กับอก เพื่อสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง อย่างน้อยเธอก็ยังพอมีแรงดิ้นรน ต้องมีสักที่แหละที่ต้องการผู้หญิงที่ตั้งใจทำงานอย่างเธ “คุณค่ะ” เลขาสาวเดินเข้ามาเรียกแก้วกานดาเบาๆ เพราะเธอเริ่มเห็นใจคนรอ แต่ก็ไม่สามารถขัดคำสั่งเจ้านายได้ “คุณเหมันต์ให้ฉันเข้าไปพบได้แล้วใช่ไหมคะ” “เปล่าหรอกค่ะ คือว่าคุณเหมันต์ไม่รับแขกนอกตารางงาน เอาไว้คุณนัดท่านรองประธานอย่างเป็นทางการแล้วค่อยมาใหม่นะคะ” “คุณเลขาบอกเขาหรือเปล่า ว่าฉันชื่อแก้วกานดา หรือว่าชื่อนี้มีหลายคน เขาเลยสับสนคิดว่าเป็นคนอื่น คุณเหมันต์ก็เลยปฏิเสธที่จะให้ฉันเข้าไปพบ” หญิงสาวพยายามมองโลกในแง่ดี หรือเพียงเพราะว่ากำลังปลอบใจตัวเองกันแน่ ซึ่งชื่อนี้เหมันต์เคยบอกว่าเพราะจับใจ แถมความหมายนั้นก็ดีแสนดี แก้วกานดาหมายถึง หญิงคนรักที่มีคุณค่าหรือผู้หญิงที่รักมากนั่นเอง “ดิฉันเรียนท่านรองประธานว่าคุณแก้วกานดา ธีระพิทักษ์มาขอพบ แบบนี้คงไม่ต้องอธิบายหรอกนะคะ การที่คุณเหมันต์ไม่ให้คุณเข้าพบ นั่นก็แสดงว่าท่านประธานไม่ได้อยากเจอคุณ ดิฉันขอตัวไปทำงานนะคะ” เมื่อเลขาสาวเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน แก้วกานดาค่อยๆ หันไปมองประตูทางเข้าห้องของท่านประธานด้วยแววตาที่ผิดหวัง เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเหมันต์จะใจร้ายใจดำ ถึงขนาดที่ไม่อยากพบเจอเธออีกแล้ว หญิงสาวในชุดสูทสีครีมกางเกงขายาวห้าส่วน สวมรองเท้าคัทชูส้นสูงสีนู้ด ทำให้เธอดูหวานและเท่ในคราเดียวกัน แต่วันนี้คงต้องผิดหวัง เพราะเหมันต์ไม่ปรารถนาที่จะถามไถ่ถึงสารทุกข์สุขดิบ ในสิ่งที่แก้วกานดากำลังเผชิญ ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนมาจากเขาทั้งสิ้น จนกลายเป็นตราบาปติดตัวเธอไม่จบสิ้นตราบจนบิดาได้จากไป แก้วกานดาก็ยังไม่มีโอกาสได้เอ่ยคำลา สุดท้ายการใช้ชีวิตหลังพ้นโทษ ก็กลายเป็นสิ่งยากลำบากสำหรับเธอไปโดยปริยาย //สวนสาธารณะ// แก้วกานดาเดินออกมาจากบริษัทวลินดากรุ๊ป ท่ามกลางสายตาของผู้คน เพราะเธอดูสวยสะดุดตา แต่ทว่านายแพทย์หนุ่มกลับมองเธอเป็นเพียงแค่คนที่พรากดวงใจไปจากเขาเท่านั้น ลูคัสอยากสะกดรอยตามหญิงสาวทุกฝีก้าว ทั้งที่มีมาลิคคอยรายงาน ซึ่งเขายังอยากเห็นเธอผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยตาตัวเองมากกว่าสิ่งใด แน่นอนสาเหตุที่แก้วกานดาถูกปฏิเสธ จากทุกที่ที่เธอไปสมัครงาน ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมดคงไม่พ้นนายแพทย์หนุ่มอย่างลูคัส “เธอดูน่าสงสารมากเลยนะครับนาย” “น่าสงสารเหรอ... หึ!” เสียงแค่นหัวเราะออกมาจากลำคอ ช่างเป็นดั่งเสียงคำรามของเจ้าป่า เขายังคงนั่งอยู่ในรถ เพื่อจับจ้องไปที่หญิงสาวร่างเล็ก ซึ่งเวลานี้เธอได้นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ บริเวณสวนสาธารณะ อย่างกับคนสิ้นหวัง “จะทำยังไงดี ถ้าช่วยแม่ขายขนม รายได้คงไม่พอใช้แน่ ไหนจะค่าน้ำค่าไฟ ค่ากินค่าอยู่ ที่สำคัญค่าเทอมยัยกิ่งนี่สิเรื่องใหญ่เลย ยังไงเราก็ต้องหาเงินสำรองเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีก” แก้วกานดานั่งบ่นพึมพำอยู่คนเดียว พลางถอนหายใจออกมา ก่อนจะมองออกไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย ขณะที่ชายร่างสูงใหญ่ใส่สูทผูกไทเดินเข้ามาใกล้ๆ คนที่กำลังจะหมดหนทางไปต่อ “คุณไปพบผมทำไม ต้องการอะไร... แก้วกานดา” เสียงทุ้มที่คุ้นหูดังขึ้น ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง แต่เต้นแรงในที่นี้ มันไม่ใช่ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กัน แต่มันคือความหวังเดียวที่แก้วกานดาคิดว่าเขาจะช่วยเธอได้ “คุณเหมันต์...” หญิงสาวเรียกชื่อเขาออกมาเบาๆ พลางช้อนตาขึ้นไปมองใบหน้าอันหล่อเหลาของอดีตคนเคยรักกัน ด้วยความรู้สึกห่างเหิน เมื่อสิ่งดีๆ ที่เคยมีเริ่มเลือนลางจางหายไป “ผมมีเวลาไม่มาก พอดีว่าผ่านมาทางนี้ แล้วเห็นคุณนั่งอยู่ก็เลยแวะเข้ามาทัก คุณสบายดีนะ” ชายหนุ่มกำลังโกหก เขาขับรถตามเธอมาต่างหาก โชคดีที่วันนี้วลินดาไม่ได้เข้าบริษัท ซึ่งสาเหตุที่เหมันต์ตามหญิงสาวออกมา เพราะชายหนุ่มกลัวว่าแก้วกานดาจะไปหาที่บริษัทอีก ซึ่งถ้าหากภรรยาและพ่อตาของเขารู้คงกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ “ก็ดีค่ะ ฉันสบายดี ยินดีด้วยนะคะที่คุณได้แต่งงานกับคุณวลินดา” แก้วกานดาส่งยิ้มบางๆ ให้กับเหมันต์ ราวกับว่าเธอไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ภายในใจมันบอบช้ำเสียจนเกินเยียวยา “ผมต้องไปแล้ว คุณวลินดากำลังรอผมอยู่” เหมันต์ไม่อยากรื้อฟื้นความสัมพันธ์ ซึ่งเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายใจดำ ถึงขนาดที่จะไม่เห็นใจแก้วกานดา “เดี๋ยวก่อนค่ะ” “มีอะไร ผมคงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก เพราะสถานะที่มีในเวลานี้ ผมไม่ใช่ผู้ชายโสด” เหมันต์ยังคงคิดว่าแก้วกานดาตัดใจจากเขาไม่ได้ ชายหนุ่มจึงพยายามอธิบาย พลางยกข้อมือขึ้นมา เพื่อดูเวลาจากนาฬิกาเรือนแพง “ฉันกำลังตกงาน ถ้าหากฉันจะขอร้องให้คุณช่วย คุณพอจะฝากงานให้ฉันได้บ้างหรือเปล่า งานอะไรก็ได้ ฉันไม่มีที่พึ่งแล้วจริงๆ” เธอยอมลดศักดิ์ศรีขอความช่วยเหลือจากเหมันต์ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว แก้วกานดาก็ไม่อยากข้องแวะกับเขาเลยสักนิด “ผมคงช่วยคุณไม่ได้จริงๆ” “ฉันก็น่าจะรู้คำตอบตั้งแต่แรก” หญิงสาวลุกขึ้นยืน พลางเอามือปาดน้ำตาออกจากแก้ม ทั้งที่เธอพยายามกลั้นเอาไว้สุดกำลัง แต่พอเจอหนทางตัน ก็มิอาจทนกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป บทสนทนาของคนทั้งคู่อยู่ภายใต้สายตาคม ที่ฉายแววคมกล้าออกมาราวกับคมดาบ ที่อยากเฉือนเธอออกให้เป็นชิ้นๆ ลูคัสยังคงจับจ้องไปที่แก้วกานดา เขาอยากรู้เหมือนกันว่า เธอจะใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนยังไง เพื่อให้เหมันต์เปลี่ยนใจ ยอมช่วยเหลือให้เธอได้งานทำ “นายครับ ผมพนันเลยว่าคุณแก้วกานดาคงได้งานทำก็คราวนี้แหละ” มาลิคพอจะเดาสีหน้าของเหมันต์ออก เมื่อเขากำลังใช้ความคิดประหนึ่งตัดสินใจลำบาก ที่จะจากแก้วกานดาไป ทั้งที่เขาพอจะช่วยหญิงสาวอยู่ได้บ้าง “ต่อให้เธอได้งานทำ ฉันก็จะทำให้เธอตกงาน” คราวนี้แววตาของลูคัสจ้องมองไปที่หญิงสาวร่างเล็กเย็นเยียบชวนให้หนาวสะท้าน ก่อนจะแปลเปลี่ยนฉายแววแผ่รังสีอัมหิต คุกคามชีวิตของแก้วกานดาออกมาอย่างผู้ที่มีชั้นเชิงเหนือกว่า เขาจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้เธอได้เจอกับหายนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD