มะนาว หญิงสาวสวยวัย 20ปี กำลังยืนรอพระเพื่อที่จะใส่บาตรอยู่หน้าบ้านพัก ไม่นานนักพระสงฆ์ทั้ง4 รูปก็เดินเรียงแถวกันมาหยุดยืนด้านหน้าของเธอแล้ว
มะนาวนำอาหารคาวหวานใส่ลงในบาตรพระทั้ง 4 รูป จากนั้นก็รอรับพร แต่เธอไม่คาดคิดว่า หลังจากที่พระสงฆ์ท่านให้พรเรียบร้อยแล้ว ท่านจะเอ่ยบางคำที่ทำให้เธอถึงกับตกใจกลัว
" โยม โยมยังมีเวลาเหลืออีก 10วัน ก่อนที่จะต้องไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่เพียงไม่นานก็จะสุขสบาย " พระสงฆ์ได้มอบกำไลหยกให้กับเธอก่อนจะเดินจากไป
มะนาวรับกำไลหยกมาอย่างมึนงงอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งพระท่านเดินจากไปไกล จึงได้สติ แต่เมื่อจะเอ่ยถามต่อก็ไม่ทันแล้ว เธอกลับเข้าบ้านด้วยสภาวะจิตใจที่เหม่อลอย เธอเดินไม่ระวังจึงสะดุดเข้ากับขอบโต๊ะที่ตั้งขวางเอาไว้อยู่ ทำให้เลือดไหลมาเปื้อนกำไลหยก ฉับพลันสายตาของเธอก็มองเห็นความว่างเปล่าเบื้องหน้า ไม่ทันที่เธอจะสงสัยอะไรไปมากกว่านี้ ก็มีข้อความปรากฏขึ้นกลางอากาศ
' มิติแห่งนี้คือ มิติก็อปปี้ มีพื้นที่ขนาด 100 ไร่ ท่านสามารถก็อปปี้สิ่งของที่ต้องการลงบนพื้นที่ว่าเปล่าในมิติได้เพียงแค่เอ่ยยืนยันเท่านั้น และสิ่งของเหล่านั้นจะไม่มีวันเน่าเสีย
ท่านมีเวลาอีก 9 วัน กับ 13 ชั่วโมง ในการเตรียมตัว ขอให้โชคดี .....'
แม้จะยังตกใจแต่เมื่อรู้ว่าเหลือเวลาในการเตรียมตัวไม่มากนัก มะนาวก็รีบดึงสติตนเองทันที มิติก็อปปี้งั้นหรอ เธอคงต้องลองพิสูจน์แล้วว่ามิตินี้สามารถทำได้อย่างที่บอกหรือไม่ และแน่นอนว่าผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอไม่มีอะไรหรือใคร ให้ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว จึงวางแผนการใช้มิติอย่างสบายใจ
ห้างสรรพสินค้า
มะนาวนั่งรถโดยสารมาลงที่หน้าห้างสรรพสินค้าและคิดว่าจะเดินเข้าไปด้านในก็ต้องชะงักหยุดยืนอยู่ที่เดิม เพราะมีข้อความปรากฎขึ้นมากลางอากาศ
' ก็อปปี้ห้างสรรพสินค้า หรือไม่ ตกลง / ไม่ตกลง ' แน่นอนว่ามะนาวเลือกที่จะตกลงเพราะเธอเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่ามิตินี้จะสามารถทำได้หรือไม่
แต่เมื่อมองเข้าไปในมิติเธอก็เห็นว่าห้างสรรพสินค้าถูกก็อปปี้เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ให้เธอกดเลือกที่วางเท่านั้น มะนาวกดวางลงทันที โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
หลังจากนั้นเธอก็ไปต่อยังร้านค้าอื่น ๆ เช่น ร้านอาหารเกาหลี อาหารญี่ปุ่น ร้านขายยา ร้านขายขนมจีบกับซาลาเปาชื่อดัง ร้านหม้อไฟชาบู ร้านขายอุปกรณ์และการเกษตร ร้านขายเมล็ดพันธ์พืชผักสวนครัว
ร้านขายรถที่มีทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์วินเทจ ร้านขายผ้าที่พาหุรัด และสุดท้าย ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างและอุปกรณ์ตบแต่งภายใน จนครบตามที่เธอต้องการ ซึ่งก็เหลือเวลาอีกแค่สองวันเท่านั้น
เธอใช้เวลาที่เหลือตระเวนเที่ยวและเข้าวัดทำบุญจนตอนนี้เหลือเวลาแค่ 8 ชั่วโมงเท่านั้นเธอจัดการก็อปปี้ข้าวของในบ้านหลังนี้เก็บเอาไว้ด้วย หลังจากที่กินข้าวและอาบน้ำอาบท่าแล้วเธอหลับตาแล้วนอนลงบนที่นอน ก่อนจะหลับไป
มะนาวสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงที่ดังจากด้านนอก เธอลุกขึ้นมองสำรวจไปรอบๆห้องไม่นานนักความทรงจำต่าง ๆก็หลังไหลเข้ามาในหัวของเธอ
ตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างของ จางหลิงเฟย หญิงสาววัย 18 ปี ที่เป็นยุวชนมาจากปักกิ่ง เมื่อสองปีก่อน ได้พบรักกับ หยวนเซียว อายุ 20 ปี เป็นชายหนุ่มในหมู่บ้าน เผิงไหล เมืองกว่างโจว ซึ่งในอนาคตนั้นเมืองนี้จะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องเรื่องเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และการศึกษาอีกด้วย
ครอบครัวของหยวนเซียวนั้นมีด้วยกัน 5 คน ประกอบไปด้วย พ่อหยวนชาง อายุ 42 ปี แม่ เหมาอี้ซิ่ว อายุ 42 ปี พี่ชาย หยวนซ่ง อายุ 23 ปี และน้องสาว หยวนอิง อายุ 12 ปี
นิสัยใจคอของบ้านหยวนนั้นไม่ถือว่าดีเท่าไหร่นัก เพราะพวกเขาต่างก็มีความเห็นแก่ตัวกันทั้งสิ้น พวกเขาดีต่อหลิงเฟยพอสมควรในบางเรื่อง แต่บางครั้งก็เอาเปรียบหลิงเฟยอยู่เสมอ
สำหรับหยวนอิงนั้นที่ถือว่ายังเด็ก แต่กลับไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนในทางที่ดีสักเท่าไหร่ จึงมีนิสัยชอบชอบเอาเปรียบและลักขโมยข้าวของ ซึ่งเป็นของหลิงเฟยอยู่เป็นประจำ นั่นเพราะหลิงเฟยเป็นหญิงสาวมาจากปักกิ่งและครอบครัวจางพอมีฐานะอยู่บ้างจึงได้ใช้ของดีมีราคา
ทุกครั้งที่จับได้ว่าหยวนอิงเข้ามาขโมยของในห้องของหลิงเฟย แม่สามีกลับบอกกับเธอว่าให้แบ่งปันของที่มีให้กับน้องสาวสามีคนนี้ บอกว่าอย่าเห็นแก่ตัวเก็บไว้คนเดียว และมักจะอ้างกับทุกคนว่า เธอเป็นคนแบ่งปันให้น้องสาวสามีด้วยตนเอง
จางหลิงเฟยคนนี้เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกรับเลี้ยงโดยคุณย่าจาง หลังจากที่พ่อของเธอตายจากไปตอนที่เธออายุ 10 ปี แม่ของเธอก็หายตัวไป ไม่รู้ว่าเป็นตาร้ายดีที่ไหน
ต่อมามีประกาศจากทางการให้ส่งมอบบุตรหลานในครอบครัวเพื่อส่งไปใช้แรงงานในถิ่นทุรกันดาร คุณย่าจางจึงส่งหลิงเฟยมาแทนพี่น้องคนอื่นๆในบ้าน โดยคำพูดของคุณย่าจางคือเธอกำพร้าไม่มีพ่อแม่ต้องดูแลแล้ว ซึ่งเธอไม่สามารถโต้แย้งใดๆ กับคุณย่าจางได้เลย จึงต้องจำใจมายังกว่างโจวเพียงลำพังในวัย 16 ปี