“เรามาที่นี่ทำไมคะ”
โชว์รูมรถยุโรปตรงหน้า ทำเอารักศิกาญจน์สงสัยหนักขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ต้องเดินตามสิรภพเข้าไปข้างใน
“มาแล้วครับ คนเลือกสี”
หันไปหาต้นเสียง ก็เห็นท่านประธานยืนคุยอยู่กับสาวสวยจัดคนหนึ่ง มีหนุ่มหล่อสองคนยืนประกบห่างๆ
“สวัสดีค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ”
สาวสวยจัดและนุ่งสั้นผายมือให้รักศิกาญจน์เดินไปหาแลนด์ โรเวอร์ จอดเรียงรายกันหลายคัน สองหนุ่มเดินนำไป
“รีบเลือกเลย จะได้รีบไป”
รักศิกาญจน์เห็นหน้าท่านประธานออกจะตึงนิดๆ เลยไม่กล้าถามอะไรมากมาย นอกจากเดินไปดูสีรถว่าชอบแบบไหน สุดท้ายก็เลือกสีขาว เพราะดูแล้วจะซอฟต์ลงหน่อย ก็รถใหญ่ออกปานนี้ และไม่ใช่แบบที่ตัวเองอยากได้ด้วยซ้ำ
“เชิญเซ็นเอกสารค่ะ”
ความสงสัยที่มีในใจถูกเก็บไว้ ขณะลงชื่อเป็นเจ้าของรถ พอเห็นราคาหกล้านห้าแสนแล้วก็ตกใจ ไม่รู้ว่าใครออกเงินให้ก่อน ระหว่างเขากับคุณท่าน
หึ
ต้องเป็นเงินคุณท่านอยู่แล้ว อย่างนายนี่น่ะเร๊อะ จะออกให้ก่อน ยากส์ ว่าแต่เมื่อไหร่จะผ่อนหมดล่ะเนี่ยะน้องรักเอ๊ย
“อะ ขับเอง จะได้ชินมือ”
กุญแจถูกยื่นมาให้ด้วยมือของท่านประธานหน้าดุ รักศิกาญจน์ไม่กล้าต่อรองใดๆ เพราะมีพนักงานในโชว์รูมมองตามอยู่ เลยรีบเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย ด้วยท่าทีเกร็งกับรถใหม่และคันใหญ่กว่าที่คิดไว้
“คุณขึ้นมาทำไมคะ”
หันไปอีกที ที่นั่งข้างกันก็มีคนหน้าดุจับจองไว้แล้ว
“รถใหม่แล้วก็คันใหญ่กว่าที่บ้านเธอด้วย ไม่คิดว่าจะเกร็งบ้างหรือไงยัยแคระ”
อุตส่าห์ดีใจและอุ่นใจที่มีเพื่อน พอได้ยินคำสุดท้ายเท่านั้นล่ะ หน้าหวานๆ ถึงกับบึ้งทันที
“รออะไรอีกล่ะ ออกรถสิครับ”
“แล้วจะให้ขับไปไหนล่ะคะ”
“วันนี้ใจดีให้เลิกงานเร็ว กลับบ้านละกัน”
“บ้านใครคะ”
“ก็บ้านเธอสิ จะบ้านใครอีกล่ะ หรือจะไปบ้านฉัน”
“ไม่ค่ะ”
“งั้นก็บ้านเธอสิ”
“แล้วคุณจะไปด้วยทำไมคะ”
“อุตส่าห์เป็นธุระซื้อรถให้ ใจจริงจะไม่ให้ฉันลองนั่งสักหน่อยเลยหรือไงยัยแคระ รออะไร ออกรถสิ หรือไม่กล้าขับ ฉันจะได้ไปขับแทน”
“ค่ะๆ”
แค่นี้เหรอจะไม่กล้าขับ รู้จักน้องรักน้อยไปแล้ว เท้าเล็กๆ เลยเหยียบคันเร่งทันที ก่อนออกจากประตูโชว์รูม เลยแกล้งเหยียบเบรกแรงๆ ยังผลให้คนข้างๆ ที่ยังไม่ได้คาดเข็มขัดถึงกับหัวคะมำ ถ้าแขนไม่แข็งแรง ค้ำกับคอนโซลหน้าไว้ มีหวังได้หัวโขกแน่ๆ
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ พอดีรถใหญ่กว่าที่บ้าน เลยไม่คุ้นมือค่ะ”
หน้าหวานๆ หันไปหาคนหน้าดุที่หันมาหาอย่างรู้ทัน
“ถ้าทำฉันเจ็บ จะจับจูบในรถเลย” หน้าหวานที่ยิ้มๆ อยู่เมื่อครู่ หุบแทบไม่ทัน
“รออะไร ไปซิ รถคันหลังได้บีบแตรไล่หรอก”
อันที่จริงคันหลังก็ไม่ใช่ใครที่ไหน รถเขาเอง สิรภพเป็นคนขับ
“ค่ะๆ”
รักศิกาญจน์แอบเบะปากใส่เขา ก่อนจะหันไปมองเบื้องหน้า แล้วใช้สมาธิทั้งหมดกับถนนหนทาง
“บ้านเธออยู่ถนนอะไร”
อาชาเห็นว่าคนเพิ่งได้รถใหม่ยังเกร็งอยู่ เลยจัดการกรอกพิกัดลงแอปพลิเคชันที่มีในรถให้ ไม่กี่อึดใจ จอขนาดใหญ่กว่ารถรุ่นอื่น ก็มีระบบนำทางบอกให้แล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
ส่งเสียงนุ่มๆ แบบจริงใจและไม่กวน เพราะถ้าเขาไม่เปิดจีพีเอสให้ มีหวังกลับบ้านไม่ถูกหรอก ก็สองปีกว่าไม่ได้อยู่เมืองไทย ถนนหนทางเปลี่ยนไปมาก แล้วอีกอย่าง โชว์รูมนี้ก็ไม่เคยมาด้วย
“ไม่ต้องมาซึ้งตอนนี้ ขับไปดีๆ ก็แล้วกัน”
นายนี่
มันน่านักนะ
พูดดีด้วยนานไม่ได้จริงๆ แต่ก็รู้ว่าตัวเองต้องใช้สมาธิในการขับรถ เพราะเกร็งไม่หาย
“เฮ้อ ถึงสักที นึกว่าจะไม่มีชีวิตรอดเพราะมือใหม่ซะแล้ว”
ทันทีที่รถเข้าไปจอดในบ้านได้ คนตัวใหญ่ยังกับยักษ์ก็พ่นลมออกจากปากมากกว่าปกติ
“ไม่ใช่มือใหม่ค่ะ แค่รถใหม่แล้วก็คันใหญ่กว่าเดิมเท่านั้น”
ฉันขับรถมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่งย่ะ อย่ามาว่านะ ไม่เหมือนนายหรอก มีแต่สั่งคนอื่นขับให้นั่ง ยังจะมาเรื่องเยอะอีก
“ก็คุณแม่สั่งให้เอาคันใหญ่ ฉันก็ต้องทำตามสิ”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ”
“คงเห็นว่าเธอขับไม่เก่ง และขับไม่แข็งล่ะมั้ง ถึงได้ให้เอารถยุโรปไว้ใช้ อีกอย่าง เดี๋ยวก็ต้องไปดูโปรเจ็กต์ SR นี่ ขับผ่าเมืองด้วย คงห่วงเธอแหละ”
ถึงจะเคืองที่แม่ใช้เขาในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ แต่ก็รู้เหตุผลดี ว่าที่แม่ระบุว่าจะต้องเป็นรถยุโรปนั้นเพราะอะไร
“แล้วคุณระยังมาไม่ถึงอีกเหรอคะ”
เคืองที่เขาว่าไม่น้อย แต่ก็ขี้เกียจเถียง เลยหาทางไล่แบบอ้อมๆ ซะ ตาก็พยายามมองหารถที่สิรภพขับตามมา
“อุตส่าห์ไปเลือกรถให้แท้ๆ ยังกล้าไล่ฉันอีกนะยัยแคระ”
“เปล่าค่ะ”
“เปล่าก็เปิดบ้านสิ ฉันหิวน้ำ หรือไม่ต้อนรับ”
“เชิญค่ะ”
ใครจะกล้า ทั้งที่ใจอยากจะตาย รักศิกาญจน์เปิดประตูบ้านให้คนหน้าบูดอย่างเสียไม่ได้
“รับอะไรดีคะ”
“มีอะไรบ้างล่ะ”
“มีทุกอย่าง ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ”
“น่าเบื่อ”
“อ้อๆ มีไวน์อยู่นะคะ รับมั้ยคะ”
“ไวน์อะไรล่ะ ขาว หรือแดง”
“น่าจะทั้งสองค่ะ”
“แล้วมื้อเย็นจะทำอะไรเลี้ยงฉันล่ะ”
“หา!”
“นี่จะห้าโมงแล้ว กว่าเธอจะทำเสร็จ ก็พอดีตรงเวลามื้อเย็นฉันเลย อย่าบอกนะว่าเธอจะไม่เลี้ยงข้าวขอบคุณ ที่ฉันอุตส่าห์พาไปซื้อรถ”
“ต้องเลี้ยงเหรอคะ”
“มันควรมั้ยล่ะ ทำไม! งกหรือไง เลี้ยงแค่นี้ไม่ได้เหรอ”
“เปล่าค่ะ แค่ไม่รู้ว่าจะต้องเลี้ยงข้าวด้วย”
“ไม่ต้องพูดเยอะเลย สรุปว่าจะทำอะไรให้ฉันกิน”
“ฉันทำกับข้าวไม่ค่อยเก่งนะคะ สั่งร้านอาหารดีมั้ยคะ ไม่นานก็มาส่งแล้วล่ะค่ะ”
“ถ้าฉันอยากกินร้าน ก็ชวนเธอแวะแล้วสิ เธอทำอะไรอร่อย ก็ทำอันนั้นมาแล้วกัน เร็วๆ นะ ฉันหิว”
“ค่ะ”
“เดี๋ยว สรุปจะทำอะไร”
“สเต๊กเนื้อแล้วกันค่ะ”