ตอนที่ 1 | คงไม่ยากเกินความสามารถ

1491 Words
“จะมีวันไหนไหมที่มึงจะแต่งตัวมาเรียนแบบดีๆ” เสียงเข้มของหลุยส์เอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้นทันทีพร้อมปรายตามองคนตรงหน้าด้วยสายตาไม่คาดคิด “แล้วชุดที่กูใส่ไม่ดีตรงไหนลองพูดมาสิ” เฟรช ถามออกมาตามตรงเพราะชุดที่เธอใส่มาในวันนี้มันก็ชุดนักศึกษาปกติที่ถูกระเบียบตามกฎของมหาวิทยาลัย “ชุดนักศึกษารัดรูปจนนมแทบปริ ส่วนกระโปรงก็สั้นจนแทบจะเห็นก้นถามจริงดีแล้วหรอ” หลุยส์ยังคงพูดขึ้นต่อพร้อมมองเฟรชตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง “แล้วยังไงหรือเห็นกูแล้วมันอดใจไม่ไหว” ถึงจะพูดแบบนี้ออกไปแต่ทว่าความจริงเฟรชก็ไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก อาจจะเพราะเธอเป็นผู้หญิงหลุยส์เลยไม่อยากให้แต่งตัวโป๊เปลือยมากนัก “เอามึงทำเมีย กูเอาหมาดีกว่าเฟรช” “กรี๊ด ! ไอ้หลุยส์แรงมากนะ” ในตอนนี้เฟรชได้แต่โวยวายขึ้น คำพูดของหลุยส์เพื่อนในกลุ่มทำเธอเจ็บแสบไม่น้อย ให้ตายเถอะ ! “ก็มันจริง มึงเป็นเพื่อนกูคิดอัปรีย์แบบนั้นไม่ได้หรอก” เป็นจริงตามที่หลุยส์พูดออกมาเพราะความเป็นเพื่อนทำหลุยส์คิดอะไรแบบนี้ไม่ได้ ถึงเฟรชจะสวย เปรี้ยวเยี่ยวราดและแซ่บขนาดไหนก็คิดไม่ได้เพราะความเป็นเพื่อนสนิทกันและที่ทักท้วงเรื่องการแต่งตัวก็เพราะเป็นห่วง แต่ก็ไม่คิดจะฟังกันหรอกเพราะเพื่อนสนิทอย่างเฟรชแต่งตัวแซ่บทุกวันและหากไปไหนเช่นการไปเที่ยวก็โป๊เปลือยโชว์ร่างกายของตัวเองส่วนใดส่วนหนึ่ง “ค่า ! กูก็ไม่เอามึงเหมือนกัน” เพราะสำหรับเฟรชเธอคิดแบบนี้กับหลุยส์ไม่ได้หรอก เหตุผลก็เพราะความเป็นเพื่อนแต่หากเป็นคนอื่นถึงเป็นเพื่อนในกลุ่ม เฟรชก็อยากคิดอยู่เพียงแต่ไม่รู้ว่ามันจะดีหรือเปล่าเพราะอีกคนลักษณะนิสัยตรงข้ามกับเธอทุกอย่างและตรงข้ามโดยสิ้นเชิง “แล้วกับคนไหนถึงจะเอา” “ไม่ใช่เรื่องของมึงค่าไอ้หลุยส์ ว่าแต่คนอื่นหายไปไหนหมด” ในตอนนี้ไร้วี่แววเพื่อนคนอื่นๆเพราะมีแค่เฟรชกับหลุยส์เท่านั้น ปกติหากใกล้จะถึงเวลาเรียนเพื่อนๆคงมากันหมดแล้ว “ถ้าเป็นอัคคีมันมาแล้ว” “งั้นขึ้นไปดีกว่า ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้ว” เฟรชพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะลุกจากโต๊ะเดินตรงไปยังห้องเรียน ส่วนหลุยส์น่ะหรอ ? เธอก็ไม่ได้สนใจต่อสักนิด “อัคคีมานานหรือยัง” “ผมมานานแล้วครับ” อัคคี เพื่อนในกลุ่มอีกคนตอบกลับมาทันที หากถามถึงเรื่องลักษณะคำพูดว่าทำไมถึงไพเราะขนาดนี้ก็คงไม่แปลกสำหรับผู้ชายที่ชื่อว่าอัคคีเพราะเขาคนนี้คือผู้ชายเรียบร้อย พูดเพราะ เรียนเก่งหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าหนุ่มเนิร์ด “คนอื่นล่ะ” เฟรชยังคงถามขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้เธอยังไม่เห็นเพื่อนสาวของเธอเลย “นั่นไง ! มะเหมี่ยวมาพอดีเลย” อัคคีพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมชี้ไปยังหน้าปกติห้องเรียนที่ตอนนี้มะเหมี่ยวกำลังเดินเข้ามา มะเหมี่ยวเพื่อนคนนี้แต่งตัวพอๆกับเฟรชเลย ให้ตายเถอะ ! พวกเพื่อนของเขากล้าแต่งตัวแบบนี้ได้ยังไง “เพื่อนสาวเรียนเสร็จไปช็อปกันไหม” มะเหมี่ยวถามขึ้นเพราะวันนี้กระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่เข้าแล้ว “เอาสิ ! กูอยากได้สีแดง มึงห้ามซื้อสีเดียวกับกูนะมะเหมี่ยว” เป็นจริงตามที่เฟรชพูดออกไปเพราะหากใช้สีเดียวกับเพื่อนสนิทก็คงต้องซ้ำกัน หากเป็นแบบนั้นคงไม่ดีแน่ ต้องคนละสีกันเท่านั้น ! “กูดูสีดำไว้ คอลเลคชั่นนี้ต้องสีดำเท่านั้น” “กรี๊ด ! เลิศมากค่า” “สองคนไปนั่งตรงอื่นได้ไหมครับ พอดีผมอยากตั้งใจเรียน ยังไงอาทิตย์หน้าก็สอบแล้วหากไม่ตั้งใจผมกลัวว่าไม่รู้เรื่อง” อัคคีพูดออกไปตามที่ใจคิดเพราะเสียงของสองสาวที่นั่งอยู่ข้างๆทำลายสมาธิของเขาไม่น้อย อัคคีอยากตั้งใจเรียนในคลาสนี้เพราะคลาสต่อไปก็ถึงเวลาสอบแล้ว อาจารย์คงบอกอะไรมากมายเกี่ยวกับการสอบในครั้งหน้าซึ่งแน่นอนอัคคีไม่อยากพลาดในตรงนี้ “ช่วยติวให้ด้วยนะ ยังไงต้องฝากความหวังนี้ได้ที่แกนะอัคคี” แน่นอนว่าเป็นแบบนี้ทุกครั้ง หนึ่งอาทิตย์ก่อนการสอบจะมีอัคคีคอยติวให้กับเพื่อนๆในกลุ่มเพราะอัคคีเป็นคนเดียวที่เรียนเก่ง ตั้งใจเรียนและเก็บเอทุกวิชา “ถ้าทุกคนตั้งใจเรียน ความหวังจะไม่อยู่ที่ผมเลย” ที่เขาต้องคอยช่วยติวให้เพื่อนๆเพราะเพื่อนทุกคนไม่เคยตั้งใจเรียน อัคคีก็ไม่อยากให้เพื่อนติดเอฟเลยต้องลากมาติวเพื่อให้ผ่านพ้นไปด้วยกัน “โอ๊ย ! พูดเยอะอะอัคคี เอาเป็นว่าฝากด้วยส่วนพวกเราจะไปนั่งตรงนู้นก็แล้วกัน” เฟรชพูดจบก็จับมือมะเหมี่ยวมานั่งด้านหลัง ส่วนพื้นที่ด้านหน้าก็ให้คนตั้งใจเรียนอย่างอัคคีนั่งไปแล้วกัน “มะเหมี่ยวกูมีอะไรจะถามมึงหน่อย” “มีอะไรว่ามาสิ” “มึงว่าอัคคีหล่อไหม” ในสายตาของเฟรช อัคคีเป็นคนที่หน้าตาดีคนหนึ่งแต่เพราะถูกบดบังด้วยแว่นเลยทำให้ใบหน้าหล่อเหมือนหนุ่มเนิร์ด หากถามว่าเคยเห็นได้ยังไง ก็คงไม่พ้นตอนที่ติวกันในครั้งก่อน เฟรชบังเอิญเห็นอัคคีถอดแว่นล้างหน้า ถึงเป็นเวลาสั้นๆแต่ใบหน้าหล่อภายใต้แว่นมันตราตรึงในใจของเฟรชจนไม่อาจลืมเลือน “เนิร์ดขนาดนั้นเอาอะไรมาหล่อ” สำหรับมะเหมี่ยวเธอไม่เคยมองเพื่อนคนนี้หล่อเลยเพราะอัคคีคือหนุ่มเนิร์ดที่โคตรของโคตรเนิร์ด ถึงแม้ร่างกายจะสูงใหญ่ก็คงเป็นเพราะรูปร่างกรรมพันธุ์แต่ลักษณะนิสัยยังไงก็ไม่พ้นหนุ่มเนิร์ดที่วันๆ สนใจแต่หนังสือและการเรียน “กูว่าหล่อ” เฟรชพูดขึ้นทันที ในสายตาของเฟรชตั้งแต่เห็นอัคคีถอดแว่นในวันนั้น เธอก็มองเขาหล่อมาตลอด อยากเข้าหาอะไรให้มากกว่าสถานะความเป็นเพื่อนที่มีอยู่แต่เพราะความเป็นเพื่อนมันค้ำคอทำให้เธอไม่กล้า ที่สำคัญที่ผ่านมาอัคคีไม่เคยมีเรื่องผู้หญิง ไม่เคยแม้แต่จะสนใจหรือมองผู้หญิงคนไหนแม้แต่คนเดียว ทำให้เฟรชไม่กล้าพอที่จะเข้าหาในฐานะอื่นนอกจากฐานะเพื่อนสนิทในกลุ่ม “อย่าบอกนะว่า” “ไม่ถึงกับขั้นนั้นแต่กูแค่สนใจ” เป็นจริงตามที่พูดออกมาเพราะเฟรชกำลังสนใจเพื่อนคนนี้ กับผู้ชายคนอื่นเธอไม่เคยรู้สึกอยากเข้าหามากมายขนาดนี้แต่กับอัคคีมันไม่ใช่ ยิ่งเห็นท่าทางนิ่งๆไม่สนใจใคร ไม่ยุ่งกับใครก็ยิ่งทำให้เฟรชอยากเข้าหาแต่เพราะความไม่กล้าเธอเลยได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ “ถ้ามึงสนใจก็ไม่ธรรมดาแล้ว” “มึงก็รู้ว่ากูเป็นคนยังไง” “คนอยากเอาชนะอย่างมึงคงอยากเอาชนะอัคคีมากเลยสิ” ในตอนนี้มะเหมี่ยวคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเหตุผลนี้ เพื่อนสนิทอย่างเฟรชมีนิสัยยังไงเธอรู้ดี อยากเอาชนะ อยากได้อะไรก็ต้องได้ นั่นคือนิสัยของเฟรช “กูไม่ได้อยากเอาชนะอัคคีแต่กูอยากเอาชนะตัวกูเอง” เป็นจริงตามที่เฟรชพูดออกไป เธออยากเอาชนะตัวเอง อยากก้าวข้ามผ่านความกลัวทำให้อัคคีสนใจให้ได้ ถึงอัคคีจะเป็นหนุ่มเนิร์ดแต่เธอดันชอบหนุ่มเนิร์ดคนนี้เข้าแล้วสิ ! “ยังไง” “ในเมื่อที่ผ่านมาอัคคีไม่เคยสนใจใคร ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนมันก็ได้คำตอบแล้ว” คำตอบที่ว่าตัวของเฟรชควรเลิกกลัวสักทีเพราะยังไงตอนนี้ก็ใกล้จะจบปีสามแล้ว อีกเพียงแค่หนึ่งปีก็จะแยกย้ายกันไปเติบโต หากมีอะไรผิดพลาดมองหน้ากันไม่ติดก็คงไม่เป็นอะไรมากมาย “คำตอบอะไร” แน่นอนว่ามะเหมี่ยวอยากรู้ เธออยากรู้ว่าสิ่งที่เฟรชพูดออกมามันหมายถึงอะไร แปลกใจไม่น้อยที่คนแซ่บๆอย่างเฟรชมาสนใจอัคคี ผู้ชายมากมายต่างเข้าหาแต่ทำไมถึงสนใจอัคคีได้ล่ะ ? “หากกูทำให้อัคคีสนใจกูได้คงเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย” “ยากเพราะขนาดที่มึงเป็นเพื่อนในกลุ่มมันยังไม่สนใจ” “แต่ก็คงไม่ยากเกินความสามารถของกู” ❤️ เปิดตอนแรกแบบน้ำจิ้ม เรื่องนี้แซ่บมาก แอบบอก ! เพราะหลานสาวได้แม่สุดๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD