INTRO
บทนำ
สนามแข่งรถ K
“ทิมทำแบบนี้กับเราได้ยังไง ปล่อยเราเดี๋ยวนี้นะ!!” เสียงเล็กของเอวาเอ่ยขึ้นและพยายามต้านรั้งคนที่ฉุดลากเธอด้วยแรงมหาศาล
“ฉันเลี้ยงเธอเป็นหมื่นก็ช่วยตอบแทนกันหน่อยดิวะ” เสียงเข้มหันหน้ากลับมาและเอ่ยอย่างหัวเสียพร้อมกับเสยผมขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจ
แต่ใช่ว่าเธออยากได้ที่ไหน! มีแต่เขาเองนั่นแหละที่สรรหาให้เธอทั้งที่ไม่เคยร้องขอ
‘ทิม’ เจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบสี่เซนติเมตรใบหน้าคมหล่อเหลา เรือนผมสีน้ำตาลเข้มตัดกับสีผิวขาวผ่อง รูปร่างหน้าตาดีแต่นิสัย....เลวตัวพ่อ
“ทิมปล่อยเรานะ!!!” เอวาสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะคนที่ตัวใหญ่กว่าได้บีบรัดข้อมือเธอเอาไว้อย่างแรงจนเป็นรอยแดงไปทั่ว หนำซ้ำเขายังกระชากร่างของเธอให้เดินตามเขาไปอย่างรุนแรงโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
เอวาถูกกระชากอยากแรงจนเจ็บร้าวทำให้เธอได้แต่ฝืนกัดกลั้นหยาดน้ำตาเอาไว้ด้วยความขมขื่น พลันเมื่อเดินเข้าไปยังสนามแข่งรถผู้คนจำนวนมากที่นั่งอยู่บนสเตเดียมรอบ ๆ ต่างก็ส่งเสียงฮือฮาดังก้องไปทั่วสนาม เสียงเพลงจังหวะหนักเปิดให้ดังขึ้นเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้ชมในสนาม และเมื่อการแข่งขันในรถยนต์จะเริ่มขึ้นผู้คนต่างส่งเสียงเชียร์โห่ร้องกันดังก้องไปทั่ว รวมถึงจอมอนิเตอร์ใหญ่ฉายให้เห็นผู้เข้าแข่งขันทั้งสองที่กำลังขึ้นรถประจำที่เตรียมแข่งขัน
“เอวา! เดินตามมาดี ๆ ดิวะ! อยากโดนตบอีกรึไง!”
“ฮึก...ทิม...”
‘เอวา’ สาวน้อยที่มีใบหน้าหวานราวกับตุ๊กตา ผู้มีส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร เรือนผมสีน้ำตาลตัดกับสีผิวขาว ๆ ของเธอ เธออ่อนหวาน อ่อนโยน และเป็นคนที่หมายปองของคนใครหลาย ๆ คน
“ถ้าเธอโวยวายขึ้นมาเมื่อไหร่เจ็บตัวแน่” ทิมกระซิบขู่ที่ข้างหูพร้อมกับบีบข้อมือเล็กไว้แน่น ”นั่งลง”
เอวาถูกผลักให้นั่งลงบนสเตเดียมอีกฝั่งหนึ่งบริเวณที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมากนัก หญิงสาวกัดปากตัวเองไว้พลางกัดกลั้นหยาดน้ำตา ในใจก็นึกกลัวและได้แต่ภาวนาขอให้ทิมแฟนหนุ่มของเธอเปลี่ยนใจกับการกระทำที่ชั่วช้าแบบนี้
“เรา....เราทำอะไรผิด ทิมทำกับเราแบบนี้ทำไม ฮึก...” เอวาเอ่ยคำถามที่อยู่ในใจออกมา ตลอดเวลาที่คบกันมาเกือบหนึ่งปีเอวามอบความรักให้ทิมมาตลอดและทิมเองก็ดูเหมือนว่ารักเธอมากเช่นกัน
แต่ทำไม...ทำไมเขาถึงทำกับเธอได้ลงคอ!
“ฉันไม่เคยรักเธอเลยเอวา เธอมันก็แค่ผู้หญิงจืดชืด!” เหมือนเอามีดแทงที่กลางอกอย่างจัง ตลอดที่คบกันเขาไม่เคยรักเธอเลยจริง ๆ ใช่ไหม
“ฮึก....ทิม” เอวาไม่อาจกัดกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง รวมถึงเสียงสะอื้นที่ดังเล็ดลอดออกมาแม้ว่าจะพยายามฝืนมันไว้สักเพียงไหนก็ตาม
แล้วเขามาคบกับเธอทำไม....ทำไมกัน
“แค่ขอจูบเธอยังไม่ให้เลย จะหวงอะไรนักหนาวะ”
“ฮึก ฮือออ”
“น้ำหน้าอย่างเธอแค่ได้ฉันเป็นแฟนก็บุญเท่าไหร่แล้วเอวา”
“เราคิดผิดจริง ๆ ที่ยอมคบกับนาย นายมันเลว เลวมาก!” สุดจะทนทำให้เอวาตอกกลับไปด้วยความเดือดดาล
“มากเกินไปแล้วนะเว้ย!!” ทิมง้างมือหวังจะฟาดฝ่ามือลงที่ใบหน้าสวยทำให้เอวาหลับตาแน่นตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
แต่ทว่า...
“มึงจะทำอะไร!” เสียงห้าวทุ้มน่าเกรงขามเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ทิมหยุดการกระทำและหันไปหาบุคคลที่สามที่เข้ามาใหม่
“อะไอ้ คิมหันต์....ฮึ เอวาน้อย นี่ไงล่ะเจ้าหนี้ของเธอ”
“คะ...คิมหันต์!!” เอวาเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหนี้ของทิม เขาคือ 'คิมหันต์' ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าหล่อ มีเสน่ห์เหลือล้น แต่...เขาเลว เลวมากและอันตรายมากที่สุด! เขาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอแต่อยู่คนละคณะ ชื่อเสียงของเขาโด่งดังโดยเฉพาะในหมู่สาว ๆ ที่อยากขึ้นเตียงกับเขามากที่สุด ซึ่งมันไม่แปลกเลยที่เธอจะตกใจเมื่อเห็นเขาอยู่ที่นี่ และเขาก็อยู่ในสถานะเจ้าหนี้ของเธอ!
‘คิมหันต์’ เจ้าของสนามแข่งรถแห่งนี้ชื่อเสียงอันลือนามขานไปทั่วว่าเขาทั้งโหดและเลว ใบหน้าคมจมูกโด่งเป็นสันและด้วยรูปร่างใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ไม่แปลกที่สาวหลาย ๆ คนอยากที่จะเข้าหา แต่เขาค่อนข้างที่จะ ‘เลือกมาก’ ในการหาคู่นอน หากเป็นคนที่เขาไม่ถูกใจจริง ๆ เขาก็ไม่คิดจะปรายตามองเลยสักนิด
“ทำอะไร” คิมหันต์หรี่ตามองร่างเล็กที่นั่งอยู่ด้วยความแปลกใจพลางพิจารณาใบหน้าหวานที่ตอนนี้หวาดหวั่นและมีคราบน้ำตาเต็มพวงแก้มทั้งสองข้าง
“เปล่า” ทิมตอบหน้าตาย “กูเอาผู้หญิงมาให้มึงแล้ว ทำตามที่ตกลงกันไว้ด้วย”
“จืดชืดแบบนี้เหรอวะค่าตัวเป็นแสน ๆ”
“ก็มึงบอกให้เอาแฟนมาใช้หนี้กูก็เอามาแล้วนี่ไง จะเอาไรอีกวะ”
“กระจอก” คิมหันต์ยกยิ้มมุมปาก มันเป็นการเย้ยหยันคนตรงหน้าอย่างไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะอารมณ์เดือดดาลมากแค่ไหน
“ไอ้...!”
“แต่ในเมื่อมึงทำตามที่กูบอกแล้ว กูก็จะทำตามข้อตกลง”
“ฮึ ก็ดี”
“ไปไหนก็ไป”
“ฉันไปก่อนนะเอวาคนสวย” ทิมบีบคางมนของเอวาเป็นการเยาะเย้ยทำให้เอวาเบี่ยงหน้าหนีอย่างนึกรังเกียจ “อวดดีไปเถอะ”
ทิมพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปด้วยสีหน้าระรื่นทิ้งให้คิมหันต์และเอวาอยู่สองคน ความเงียบเข้าปกคลุมสายตาคมจดจ้องไปยังร่างบางด้วยความเรียบนิ่งซึ่งยากที่จะบอกความรู้สึก ส่วนเอวาเองก็รีบหลุบสายตาลงด้วยความหวาดหวั่น
หมับ!
“อ๊ะ จะเจ็บ...” เอวานิ่วหน้าด้วยความเจ็บเมื่อคิมหันต์คว้าหมับที่แขนของเธออย่างรุนแรงก่อนจะกระชากร่างนุ่มเข้าหาตัว ทำให้ตอนนี้ใบหน้าทั้งสองคนเบียดชิดกันจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจ
คิมหันต์กระชากเอวาให้เดินตามด้วยความเร็วจนเอวาแทบกึ่งเดินกึ่งวิ่ง แม้ว่าจะพยายามต้านแรงไว้บ้างแต่ก็ไม่เป็นผลเลยสักนิด แรงมดของเธอจะไปสู้แรงมหาศาลของเขาได้ยังไง!
คิมหันต์ลากเอวาลงไปยังด้านล่างซึ่งรถของคิมหันต์จอดไว้บริเวณด้านหน้าอยู่พอดี เมื่อเดินมาถึงรถยนต์คันหรูของตัวเองก็ไม่รอช้าเปิดประตูและผลักร่างเล็กเข้าไปข้างในทันที โดยไม่สนว่าหญิงสาวจะเจ็บปวดหรือไม่
“คาดเข็มขัด” คิมหันต์เอ่ยเสียงเรียบโดยที่ใบหน้ายังมองตรงข้างหน้าทำให้เอวารีบทำตามที่เขาบอกอย่างร้อนรน
“คะ...คือนะนาย...คือว่าคืมหันต์...นายฟังฉันก่อนนะ” เอวาตัดสินใจโพล่งออกไป
“….”
“นายคงเห็นแล้วว่าเราไม่เต็มใจ...”
“….”
“เราไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายปล่อยเราไปเถอะ”
“….” คิมหันต์ยังคงนิ่งและขับรถตรงไปตามโดยที่ไม่คิดปรายตามองเธอเลยสักนิด
“เราคิดว่านายน่าจะเข้าใจนะ ช่วยจอดป้ายข้างหน้าให้หน่อยได้ไหม เราจะกลับบ้าน”
“….” และไม่มีทีท่าว่าเขาจะหยุด คิมหันต์ยังคงขับรถด้วยความเร็วสูงเช่นเคยแม้ว่าเอวาจะพูดสักเท่าไหร่เขาก็ยังสนใจเธอเลยสักนิด
“คิมหันต์ เราบอกให้....”
“หุบปาก!!” เสียงตะคอกของคิมหันต์เอ่ยขึ้นทำให้เอวาสะดุ้งถอยหนีติดประตู มือเล็กจับประตูควานหาที่เปิดอย่างร้อนรนเพราะเธอไม่สามารถอยู่กับเขาได้อีกต่อไปแล้ว
“ปล่อยเรานะ จะพาเราไปไหน”
“ก็แฟนเธอมันขายเธอให้ฉันแล้วไง เข้าใจยากตรงไหนวะ” เป็นบทสนทนาที่ยาวที่สุดที่เคยคุยกับเขาเลยก็ว่าได้ คิมหันต์ตะคอกใส่ด้วยความหงุดหงิดกับความโง่เง่าของเธอ
“เราโดนทิมหลอก เราไม่รู้เรื่อง”
“แล้วไง?”
“ปล่อยเราไปเถอะนะ” เอวาเอ่ยเสียงแผ่วพยายามใจเย็นเพราะคิดว่าเขาคงจะใจอ่อนลงบ้าง
“ปล่อยแน่ ถ้าเอาเสร็จ”
“!!!”
คิมหันต์กระชากเกียร์ก่อนจะเหยียบคันเร่งจนมิดไมล์ ใบหน้าเรียบตึงแข็งกร้าวอย่างเห็นได้ชัดทำเอาเอวารีบเกาะที่เบาะหนังขัดเงาราคาแพงไว้แน่นด้วยความหวาดกลัว เธอไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าปีศาจตนนี้จะทำร้ายเธออย่างที่พูดจริงหรือเปล่าหรือเพียงแค่ขู่เธอเพราะแค่รำคาญเธอเท่านั้น
ขอภาวนาให้เป็นอย่างหลังแล้วกัน...