ผ่านมาแล้วกว่าหนึ่งสัปดาห์ที่พิภพกลับมาจากโรงพยาบาล ข่าวการแต่งงานของศรันย์นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่อายุน้อยที่สุดเป็นที่เลื่องลือและว่าที่เจ้าสาวอย่างพิมพิชญาก็เป็นที่จับตามองเพราะเธอมีดีกรีเป็นถึงผู้บริหารคนใหม่ที่จะมาสานต่อธุรกิจจากพิภพ เจ้าของบริษัทหน้าใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
"พี่ขออนุญาตวัดสัดส่วนนะคะคุนพรีม" แจ็คกี้สาวประเภทสองเจ้าของห้องเสื้อชื่อดังเรียกหญิงสาวที่นั่งเหม่อในห้องลองชุด
"คะ ค่ะคุณแจ็คกี้" พิมพิชญาลุกขึ้นยืนให้เจ้าของร้านวัดสัดส่วนหลังจากที่ได้สติแล้ว
"คุณศรันย์โชคดีจังเลยนะคะ ว่าที่เจ้าสาวสวยขนาดนี้ ผิวก็เนี๊ยนเนียน แจ๊คกี้อิจฉาจังเลยค่ะ" หญิงสาวแค่นยิ้มไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกโชคดีหรือเปล่าที่ได้เธอเป็นเจ้าสาว
"เดี๋ยวแจ็คกี้ให้เด็กๆเอาแบบมาให้ดูนะคะ คุณพรีมอยากให้ตัดหรือเพิ่มตรงไหนบอกได้เลยนะคะ แจ็กกี้จะให้เด็กออกแบบให้ดูก่อน"
"ค่ะ" พิมพิชญาถอยกลับมานั่งที่โซฟาตามเติมสายตาเหลือบไปมองว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังยืนให้พนักงานสาวสวยในร้านวัดตัวให้อยู่ พนักงานสาวโอบวัดช่วงตัวของเขาด้วยความอ่อยอิ่ง มองศรันย์สายตาหยาดเยิ้ม
"เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณศรันย์" พูดจบพนักงานสาวก็ยื่นนามบัตรใส่ในกระเป๋าเสื้อสูทของเขา ศรันย์ยกยิ้มมุมปากเหมือนมีเรื่องสนุกๆให้ทำ
"คุณศรัณย์อยากให้แคทแก้ตรงไหนโทรหาแคทได้ตลอดเลยนะคะยี่สิบสี่ชั่วโมง" หญิงสาวส่งสายตาอย่างเชิญชวน พิมพิชญาแค้นยิ้มให้กับตัวเองยังไม่ทันไรเขาออกลายเสียแล้ว
"คุณพรีมลองดูแบบที่ร้านมีก่อนนะคะ อยากให้แก้ตรงไหนแจ้งได้เลยนะคะ พวกเรามีเวลาสามสิบวันกลัวจะไม่ทันน่ะค่ะ" ดีไซน์เนอร์ของร้านส่งยิ้มแห้งให้เธอ
"เอาชุดสำเร็จที่ร้านมีก็ได้นะคะ สัดส่วนก็แก้ตามที่วัดไปแล้วได้เลยค่ะ"
"อ่ะ เอ่อ คุณพรีมคะ ชุดสำเร็จมันเป็นชุดที่ร้านปล่อยเช่าน่ะค่ะ มันจะซ้ำกับเจ้าสาวงานอื่นๆน่ะสิคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ พรีมโอเค เอาชุดนี้นะคะ" หญิงสาวใช้นิ้วชี้ไปที่ชุดแต่งงานที่อยู่ในตู้โชว์
"คะ คือ คุณพรีม คะ"
"เอาแบบที่คุณพรีมบอกนั่นแหละครับ ส่วนของผมก็ใช้ชุดที่จัดไว้คู่กันนั่นแหละ"
"ค่ะคุณศรันย์" เจ้าของร้านรับปากอย่างงงๆ
"คุณจะไปไหนต่อ"
"ชั้นจะไปกินข้าวค่ะ ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย" พิมพิชญาทำหน้าเหวี่ยงใส่ศรันย์ตั้งแต่เช้าเขาไปรับเธอมาพาไปคุยงานกับลูกค้าตั้งหลายชั่วโมงแล้วยังพาแวะมาเลือกชุดก่อนอีก ศรันย์ขำให้กับท่าทางของเธอ
"เดี๋ยวผมพาไป"
"ไม่เป็นไรค่ะ ชั้นเห็นร้านอาหารข้างหน้านี่เอง ใกล้ๆค่ะ"พูดจบก็หันหลังให้เขาแล้วเดินออกไปด้วยความรวดเร็ว
"หึ สงสัยจะหิวจริง" ศรันย์พูดเมื่อคล้อยหลังหญิงสาว
พิมพิชญาเดินมาถึงหน้าร้านอาหารตามสั่งข้างทางก็หยุดอ่านป้ายเมนูที่หน้าร้าน
"คุณรับอะไรดีคะ" เจ้าของร้านที่กำลังวุ่นอยู่กับผัดกระเพราในกระทะเงยหน้าขึ้นถาม
"เอ่อ เอาแบบนั้นค่ะ" เธอชี้ลงในกระทะไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่มันส่งกลิ่นหอมเรียกน้ำย่อยเสียเหลือเกิน
"คุณไปนั่งรอก่อนนะคะ ตามคิว" หญิงสาวพยักหน้าให้แม่ค้าแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ที่ร้านเตรียมไว้ ศรันย์เดินตามหญิงสาวมาห่างๆภาพหญิงสาวใส่ชุดเเบรนดเ์นมราคาหลักแสนมานั่งรออาหารตามสั่งก็แปลกตาดีเหมือนกัน
"คุณสั่งอะไรไป" เขาตามมานั่งตรงข้ามหญิงสาวที่เขาเพราะรู้ว่าเธอยังไม่ค่อยรู้จักอาหารที่นี่
"ไม่รู้ค่ะ แต่สั่งไปแล้ว"
"คุณผู้ชายรับอะไรดีค้าาา" เสียงเจ้าของร้านตะโกนมาจากหน้าครัว
"เอาเหมือนคุณผู้หญิงคนนี้เลยครับ"
"ได้เลยจ้า"
ศรันย์ลุกไปหยิบน้ำจากถังแช่มาสองขวดแล้วยื่นให้หญิงสาวหนึ่งขวด
"ขอบคุณค่ะ" ถึงแม้บุคลิกของเธอจะดูเหวี่ยงแต่เธอเป็นคนมารยาทเสมอ
"ได้แล้วจ้า" ไม่นานผัดกะเพราสองจานก็ถูกวางตรงหน้าคนทั้งสอง พิมพิชญาลงมือทานทันทีด้วยความหิว
ศรันย์อมยิ้มกับภาพตรงหน้าเวลาที่หิวเธอดูเหมือนแค่เด็กน้อยจอมเหวี่ยงคนหนึ่งเท่านั้น ทานไปได้เพียงครึ่งจานหญิงสาวก็กินน้ำหมดไปหนึ่งขวดแล้วเพราะไม่ชินกับอาหารรสเผ็ด ศรันย์จึงยื่นขวดน้ำของเขาส่งให้เธอ
"ขอบคุณค่ะ" เธอรีบรับขวดน้ำมาจากมือของศรันย์รีบกินน้ำทันที ศรันย์ยังคงกินข้าวด้วยท่าทีสบายๆต่างจากอีกคนที่หยุดกินแล้วเพราะเผ็ดจนปากเจ่อแดงเหงื่อแตกผลั่ก
ศรันย์ปรับแอร์ให้เย็นที่สุดเมื่อทั้งสองขึ้นมาบนรถยนต์คันหรูเรียบร้อยแล้ว
"คุณหายเผ็ดหรือยัง" หญิงสาวส่ายหน้าพรืด
"บนรถคุณมีน้ำมั้ยคะ"
"ไม่มีหรอกครับผมไม่เอาอะไรมากินบนรถ แต่ผมช่วยคุณได้นะ" พิมพิชญาหันหน้ามาหาศรันย์ดูว่าเขาจะช่วยเธอได้อย่างไร ศรันย์ใช้สองมือประคองข้างแก้มหญิงสาวแล้วดึงให้เธอโน้มมาประกบริมฝีปากกับเขา หญิงสาวเบิกตากว้างตกใจอย่างสุดขีด
"อื้ออออ" เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากริมฝีปากของเขาแต่เขาก็ยังไล่ตามมาจูบเธอไม่หยุด ศรันย์สอดลิ้นเข้าเกี่ยวพันกับลิ้นของเธออย่างใจเย็นเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มอ่อนลง นิ้วมือลูบไล้ที่ใบหูขาวสะอาดของเธอ
จ๊วบ
ศรันย์ดูดปากหญิงสาวแรงขึ้นจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบจนทำให้หญิงสาวได้สติหันหน้าหนีเขาจนริมฝีปากของทั้งคู่หลุดออกจากกัน เธอหอบหายใจเข้าปอดเมื่อเหมือนสูญเสียจังหวะการหายใจไปพักหนึ่ง
"หน้าคุณแดงกว่าเดิมอีก ยังไม่หายใช่มั้ย" ศรันย์ทำท่าจะโน้มตัวมาจูบหญิงสาวอีก เธอรีบใช้มือปิดปากตัวเองไว้
"หายแล้วค่ะ" เมื่อเห็นว่าเขามองหน้าเธออยู่จึงหันหน้าหนีมาทางประตูรถ
"หึ" ศรันย์แค่นเสียงในลำคอแล้วขับรถออกมา
"คุณจะพาชั้นไปไหนคะ" พิมพิชญาหันขวับมาหาเขาทันทีเมื่อรู้สึกว่าเขาไม่ได้ขับรถไปส่งเธอที่บ้าน
"ผมจะไปดูงานที่พัทยาน่ะ"
"ละ แล้วทำไมคุณไม่ไปส่งชั้นก่อน"
"งานของบริษัทคุณ ผมไปดูแทนคุณพ่อคุณ เลยพาคุณไปด้วยจะได้เรียนรู้"
"แล้วทำไมไม่ให้คนขับรถขับให้คะ ขับเองไปกลับจะไหวหรอคะ"
"กลับวันอาทิตย์ครับ ผมต้องไปดูความเรียบร้อยของโรงแรมพ่อคุณอีกที่นึง"
"แต่วันนี้พึ่งวันศุกร์เองนะคะ"
"ครับ เราจะนอนค้างพัทยาสองคืน"