ศรันย์นั่งสูบบุหรี่อยู่บนเตียงนอน คิดเรื่องที่พ่อของเขาเข้ามาคุยเรื่องแต่งงาน เขาเองไม่ได้คิดมากเรื่องที่เจ้าสาวของเขาจะเป็นใคร ขอแค่สวยก็เพียงพอแล้ว เพราะชีวิตเขามีหมดแล้วทุกอย่าง ความรักก็ไม่จำเป็น ถ้าผู้ใหญ่เขาเห็นว่าดีเขาก็ยินดีที่จะทำตาม
"นาวอุ่นแกงเสร็จแล้วค่ะ" มะนาวเดินมาตามศรันย์เมื่ออุ่นแกงให้เขาเสร็จแล้ว ศรันย์จี้ก้นบุหรี่ใส่ที่เขี่ยที่มะนาวเตรียมไว้ให้เขาข้างเตียงแล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว นั่งลงที่โต๊ะกินข้าว มะนาวรีบตักข้าวใส่จานให้เขา
"เธอไม่กินหรือไง" ศรันย์ถามเมื่อเห็นว่ามะนาวตักข้าวให้เขาแค่คนเดียว มะนาวส่ายหัวให้เขาแทนคำตอบ ศรันย์ไม่ได้สนใจหญิงสาวอีกเขานั่งกินข้าวจนหมดจาน
"รอบหน้าไม่ต้องทำไว้รอนะ" เขาพูดก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
"คะ" มะนาวไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด
"ไม่ต้องทำกับข้าวไว้รอ อยากกินอะไรก็สั่งเอา" เขาวางเงินไว้ให้หญิงสาวบนโต๊ะปึกหนึ่ง
"เงินที่ชั้นให้เธอก็เก็บเอาไว้บ้าง เร็วๆนี้ชั้นอาจจะต้องแต่งงาน" พูดจบศรันย์ก็ลุกจากเก้าอี้้เดินออกจากห้องไป คำว่าแต่งงานของศรันย์ทำมะนาวหูดับไปชั่วขณะ เธอเป็นเด็กในอุปการะเขามาเกือบสองปี มันเป็นเวลามากพอที่ทำให้เธอผูกพันธ์กับเขา
เช้าวันต่อมา
"ลุงสรรชัยกับพี่ศรันย์จะมาทานมื้อเย็นที่บ้านเรานะ" พิภพเอ่ยขึ้นขณะที่เขากับลูกสาวกำลังทานอาหารเช้าอยู่
"ค่ะ"
"อ้อยเย็นนี้จัดอาหารเพิ่มอีกสองคนนะ" พิภพหันไปบอกแม่บ้าน
"ค่ะ คุณภพ" แม่บ้านก้มศีรษะให้พิภพน้อมรับคำสั่ง
"คุณพ่อดูผอมลงเยอะเลยนะคะ ไม่ค่อยทานอาหารหรือคะ" ปกติเธอคุยกับพ่อของเธอผ่านวิดิโอคอลและสังเกตว่าปีนี้พ่อของเธอผอมลงไปมากๆ
"คนแก่น่ะ ไม่มีอะไรหรอก" พิภพตักข้าวเข้าปากด้วยมือที่เริ่มไร้เรี่ยวแรง
เคร้ง! ช้อนในพิภพมือร่วงหล่นใส่ในจานข้าว
"คุณพ่อคะ" พิมพิชญาเรียกผู้เป็นพ่อด้วยความตกใจรีบลุกไปหาท่านที่่นัั่่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร" พิภพบอกลูกสาวด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
"ทำไมมือเย็นแบบนี้คะ" พิมพิชญาจับกุมเข้าที่ฝ่ามือของพ่อจึงสัมผัสได้ว่าฝ่ามือของท่านเย็นเฉียบ
พรึ่บ! จู่ๆพิภพก็หมดสติทิ้งตัวหงายหลังบนเก้าอี้ดีที่ลูกสาวคอยประคองไว้อยู่
"คุณพ่อ!!!" หญิงสาวตกใจร้องขึ้นสุดเสียง
"ตาเชิดเอารถออกเร็ว" เสียงของแม่บ้านตะโกนหาคนขับรถ
ณ โรงพยาบาล
"คนไข้เป็นอะไรมาคะ"
"ไม่ทราบค่ะจู่ๆท่านก็หมดสติ" พิมพิชญาคุยกับพยาบาลขณะที่บุรุษพยาบาลกำลังพิภพเข้าห้องฉุกเฉิน
"ญาติรอข้างนอกนะคะ" พยาบาลบอกกับเธอแล้วปิดประตูห้องฉุกเฉิน เธอยืนร้องไห้ที่หน้าประตูห้องฉุกเฉินความรู้สึกกลัวเกาะกินหัวใจดวงน้อย กลัวว่าพ่อจะเป็นอะไรไป กลัวว่าท่านจะเป็นโรคร้ายแรง
"พิภพเป็นไงบ้าง" เสียงของชายวัยกลางคนถามนายเชิดคนขับรถที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอ
"จู่ๆคุณท่านหมดสติครับ ยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร" พิมพิชญาได้ยินเสียงพูดคุยจึงหันไปมองพบว่าเป็นชายรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อเธอคนหนึ่ง และอีกคนหนึ่งเป็นชายหน้าตาดีรูปร่างสูงโปร่งน่าจะอายุมากกว่าเธอไม่กี่ปี
"สวัสดีค่ะ" เธอหันมาสวัสดีผู้ชายสูงวัย
"อ่าา หนูพรีมใช่มั้ยลูก" สรรชัยรับไหว้หญิงสาว
"ใช่ค่ะ" เธอตอบชายสูงวัยพรางเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
"จำลุงได้มั้ย ลุงเป็นเพื่อนของพ่อหนู"
"คุณลุงสรรชัย..." มีเพียงคนเดียวที่พ่อของเธอเรียกเขาว่าเพื่อน คือลุงสรรชัย
"ใช่ลูก นี่พี่ศรันย์" สรรชัยแตะที่บ่าของลูกชายเป็นการแนะนำ
"สวัสดีค่ะ" หญิงสาวหันมายกมือไหว้ผู้ขายอีกคน
"ครับ" ศรันย์มองหญิงสาวไม่ละสายตา เขาจำเธอได้ เมื่อคืนตั้งใจเขาเดินเข้าไปใกล้เธอทำให้เธอหันมาชนเขาเข้าอย่างจัง
"ญาติคุณพิภพอยู่ไหนครับ" แพทย์หญิงวัยกลางคนเปิดประตูออมาจากห้องฉุกเฉิน
"ชั้นค่ะ ชั้นเป็นลูก"
"คนไข้ปลอดภัยแล้วนะคะ ที่หมดสติไปเป็นเพราะความดันต่ำมาก หมออยากให้คนไข้พักผ่อนเยอะๆ เดี๋ยวหมอจะคุยเรื่องโรคประจำตัวคนไข้ด้วยนะคะ"
"โรคประจำตัวหรอคะ"พิมพิชญาขมวดคิ้ว เธอไม่เคยรู้เลยว่าพ่อมีโรคประจำตัว
"ใช่ค่ะ ตามประวัติคนไข้เป็นโรคหัวใจ เดี๋ยวหมอนัดอีกทีนะคะ" พูดจบแพทย์หญิงก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวยืนตัวชาอยู่ที่เดิม
"ศรันย์ว่างหรือเปล่าอยู่เป็นเพื่อนน้องก่อนสิ"
"ว่างครับ"
"พ่อต้องกลับก่อน นัดมิสเตอร์อเล็กซ์ไว้"
"ครับเดี๋ยวผมอยู่กับน้องเอง"
"ลุงกลับก่อนนะน้องพรีม เดี๋ยวเสร็จธุระลุงแวะมาใหม่"
"ขอบคุณนะคะคุณลุง" เธอยกมือไหว้เพื่อนพ่ออีกครั้ง
ศรันย์ล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อสูทสีน้ำเงินเข้มส่งข้อความหาเลขาตัวเอง
(เลื่อนประชุมเป็นพรุ่งนี้)