กชมนค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่าบนตัวเธอมีแขนแกร่งของปริญโอบกอดเอาไว้อยู่ ร่างทั้งสองนอนเปลือยเปล่าเพราะเขาเล่นเอาเธอจนแทบไม่ได้นอนทั้งคืน คนตัวเล็กพยายามขยับตัวเพื่อที่จะให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดของปริญแต่ก็ต้องเซถลากลับไปอีกครั้ง
“จะลุกไปไหนแต่เช้า”
น้ำเสียงงัวเงียเหมือนคนไม่อยากจะตื่นของปริญเอ่ยขึ้นมา
“ไปทำงานค่ะ”
“ใครบอกว่าเธอจะได้ไปทำงาน”
กชมนขมวดคิ้วยู่เข้าหากันอย่างรู้สึกงงกับคำพูดของเขา พลางหันไปมองหน้าคนที่กำลังหลับตาอยู่
“หมายความว่ายังไงคะ”
เธอรีบเอ่ยถามกลับทันที หัวคิ้วยังคงขมวดยุ่งเป็นปมอยู่
“เธอต้องอยู่ที่นี่ ห้ามออกไปไหน ห้ามเจอใคร ห้ามติดต่อใคร จนกว่าฉันจะไว้ใจ”
“แล้วงานที่บริษัทล่ะคะ”
“เรื่องนั้นเดี๋ยวฉันจัดการเอง”
เขาเอ่ยด้วยเสียงเรียบเย็นชาทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ กชมนทำได้เพียงก้มหน้ารับฟังคำสั่งที่เขาพูด เธอไม่มีสิทธิ์คัดค้านอะไรเขาเลยในตอนนี้ แม้แต่ลมหายใจของตัวเองยังอยู่ในกำมือของปริญ ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ให้อยู่รอดเท่านั้นพอ
“ค่ะ...ปล่อยมนได้ไหมคะมนอึดอัด จะลุกไปอาบน้ำด้วยค่ะ”
เธอพยายามขยับตัวหนีออกห่างจากตัวเขา เพราะตอนนี้ร่างกายของเธอเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ กชมนนอนตัวแข็งทื่อเกร็งไปหมดทั้งตัว
“อย่าขยับถ้าไม่อยากโดน เพราะเดี๋ยวลูกชายฉันมันจะตื่นเอา”
ถึงไม่ขยับเธอก็รับรู้ได้ถึงความแข็งขืนที่ดันอยู่ตรงบริเวณสะโพกของเธอ กชมนหน้าร้อนผ่าวรู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก เธอจำยอมให้เขานอนกอดเธออยู่อย่างนั้นจนกว่าจะพอใจเพราะไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่านี้
ผ่านไปเกือบชั่วโมงได้ปริญจึงยอมคลายอ้อมกอด แล้วปล่อยให้เธอลุกขึ้นมาอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัว กชมนใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำแช่น้ำในอ่างนานนับชั่วโมง โดยไม่ได้สนใจเลยว่าเขาจะต้องรีบเข้าไปในบริษัทรึเปล่า ปริญเหลือบสายตาไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงนั่งรอให้กชมนอาบน้ำต่อให้เสร็จ จนในที่สุดความอดทนก็ถึงขีดจำกัด
“นี่อาบน้ำหรือควักไส้ออกมากล้าง ฉันจะรีบไปทำงาน”
เสียงตะโกนจากคนด้านนอกทำให้คนที่นอนแช่น้ำอยู่ตื่นจากภวังค์ความคิด เธอรีบลุกขึ้นมาหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำแล้วจัดแจงแต่งตัวทันที คนตัวเล็กออกมาในชุดเสื้อคอกลมตัวโค่งสีขาวและกางเกงรัดรูปขาสั้นตัวสีดำ แค่เธอแต่ตัวแบบนี้ก็ทำเอาใจกระตุกวูบแล้ว กชมนค่อยๆ เดินตัวลีบผ่านหน้าปริญไป สายตาที่ฉายแววถึงความฉุนเฉียวจ้องมองมา จนเธอรับรู้ได้ว่าตอนนี้เขาไม่สบอารมณ์มากแค่ไหน ปริญมองกชมนที่เดินผ่านไปด้วยสายตาเย็นชาเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยความดุดันอย่างเช่นเคย “เป็นยักษ์รึไงวะดุชะมัด” กชมนคิดในใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เมื่อห้องน้ำว่างแล้วเขาจึงเดินเข้าไปอาบน้ำด้วยความเร็วแสงไม่ถึงสิบห้านาทีก็ออกมาจากห้องน้ำแล้ว คนตัวสูงเดินเข้ามาหากชมน มีเพียงผ้าขนหนูพันรอบกายท่อนล่างผืนเดียวอย่างหมิ่นเหม่ มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
“ใส่เสื้อผ้าให้ฉัน”
“อะ...อะไรนะคะ”
“ฉันบอกให้ใส่เสื้อผ้าให้ฉัน”
เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าเรียวที่ห่างกันเพียงคืบ ก่อนจะพูดย้ำคำเดิมจนกชมนต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“ทำไมท่านประธานไม่ใส่เองล่ะคะ? ...มนไม่ใส่ให้หรอกค่ะ”
คนตัวเล็กไม่วายที่จะเถียงปริญ
“ก็ฉันจะให้เธอใส่ให้...จะใส่ให้ดีๆ รึต้องให้ใช้กำลัง”
“แต่.......”
“กชมนเธอรู้ใช่ไหมว่าเวลาฉันโมโหจะเป็นอย่างไร”
คนตัวเล็กกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ เสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ถูกหยิบออกมาวางไว้บนเตียงคิงไซต์ ที่พวกเขาใช้เป็นสนามรักเมื่อคืน
“นี่ค่ะกางเกงใน”
มือเรียวเล็กยื่นกางเกงในตัวสีดำให้ปริญเพื่อให้เขาสวมใส่เองก่อน
“ก็ใส่ให้ฉันสิ”
“.......”
หึ๊ย!!...คนบ้าขนาดกางเกงในยังต้องให้เธอใส่ให้นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ เธอได้แต่คิดในใจไม่ได้พูดอะไรออกไป กชมนค่อยๆ ใช้มือทั้งสองข้างจับกางเกงในกลางออก ปริญจึงสวมขาทั้งสองข้างเข้ามา มือเล็กค่อยเลื่อนกางเกงในตัวสีดำขึ้นมาช้าๆ แล้วหันหน้าไปอีกทาง มือเรียวของเธอสัมผัสกับบางสิ่งบางอย่าง มันทำให้หน้าเธอแดงเป็นลูกตำลึง ตัวตนที่ใหญ่โตแข็งขืนตั้งชันขึ้นเหมือนพร้อมจะออกศึก ถึงเธอจะผ่านการร่วมรักกับเขามาแล้ว แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่อายที่จะเห็นของเขาตอนที่ไม่ได้มีอะไรกัน
พรึบ~
ผ้าขนหนูผืนสีขาวถูกปริญดึงออกล่วงลงพื้น หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ กชมนหลับตาปี๋เมื่อรู้ว่าตรงหน้าไม่มีสิ่งปกปิดอะไรอยู่เลย เธอรีบดึงกางเกงในขึ้นไปสวมใส่ให้เขาอย่างไว
“ก็แค่นั้น”
ปริญเอ่ยด้วยโทนเสียงปกติ แม้ความจริงเขารู้สึกปวดหนึบที่แก่นกายเมื่อถูกมือนิ่มๆ ของเธอสัมผัสมันก็ตาม บล็อกเซอร์ตัวสีดำถูกสวมเป็นชิ้นที่สอง และกางเกงแสล็คก็ตัวสีดำพอดีกับตัวก็สวมในลำดับถัดไป
“รูดซิปสิ”
เขายังคงแกล้งเธอไม่เลิก คนตัวเล็กหันหน้าไปอีกทาง มือพยายามควานหาซิปทั้งๆ ที่ไม่ยอมหันหน้ามามอง ทำเอาปริญยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ มือหนาจับมือเรียวมากุมไว้ที่เป้าตัวเอง มันตุงออกมาจนแทบจะปริแตก แล้วเอามือของเธอมาจับซิปกางเกงให้รูดขึ้นช้าๆ
“ทำอย่างกับไม่เคยเห็นมัน”
“หึ๊ย!!...ท่านประธาน”
กชมนทำหน้ายู่ใส่เขาอย่างลืมตัวเมื่อถูกเย้าหยอกให้เขินอาย เขาจะแกล้งเธอมากเกินไปแล้วนะ แก้มใสร้อนผ่าวหน้าแดงไปหมด จนคนตรงหน้าอดที่จะขำเธอในใจไม่ได้แต่ก็ยังตีหน้านิ่งอยู่ กชมนหันไปหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวมาสวมใส่ ค่อยๆ ติดกระดุมให้เขาทีละเม็ด ทีละเม็ด ชายเสื้อถูกสอดเข้าไปในกางเกงอย่างระมัดระวัง เพราะเธอเกรงว่าจะไปโดนของสงวนเขาเข้าอีก เนกไทเส้นสีกรมท่าถูกสวมใส่ที่คอตามด้วยเสื้อสูทตัวสีดำ นี่เป็นการแต่งตัวที่ยาวนานที่สุดของเขาเลยก็ว่าได้ กว่าเสื้อผ้าแต่ละชิ้นจะมาอยู่บนกายชาย กชมนก็ใช้เวลานานพอสมควร
“จะกินอะไรก็บอกลูกน้องฉัน เดี๋ยวมันไปซื้อมาให้”
เขาเอ่ยขึ้นพลางหยิบกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือของเขาและเธอหย่อนลงไปในกระเป๋ากางเกงแสล็คตัวหรู ปริญหันหน้ามาดูหญิงสาวที่นั่งแก้มแดงเป็นลูกตำลึงอยู่บนโซฟาอีกครั้ง เขาเกือบเผลอยิ้มให้เธอเสียแล้ว
“มือถือเธออยู่กับฉัน ฉันจะเป็นคนเก็บไว้เอง ถ้าเหงาก็เปิดทีวีดูเอา”
“แต่........”
“ไม่มีคำว่าแต่ ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ”
ปริญยังขู่เธอไม่เลิก น้ำเสียงเย็นชาท่าทางเอาจริงเอาจังของเขามันทำให้เธอหวาดกลัวไม่น้อย เขาก็ยังเป็นปริญเจ้านายจอมโหดที่ไม่เคยยิ้ม เงียบขรึมเย็นชาไร้อารมณ์ความรู้สึก
“ค่ะ”
“ดีที่เชื่อฟัง เพราะฉันไม่ชอบพูดอะไรหลายรอบเธอก็รู้”
“ค่ะ”
กชมนรู้จักนิสัยเขาดีเจ้านายจอมเผด็จการดี ไม่ค่อยฟังใคร พูดอะไรครั้งเดียวไม่พูดซ้ำหลายรอบ สั่งคำไหนก็คือคำนั้นและต้องทำให้ได้ เพราะเธอทำงานกับเขาจนรู้ใจเขาไปเสียแล้วว่าเขาเป็นคนนิสัยแบบไหน สายตาคมตวัดมามองหน้าหญิงสาวอีกครั้งด้วยดวงตาวาวโรจน์ นัยน์ตาคมแสดงความขึงขังเอาจริง
“ปริญเจ้าชายน้ำแข็ง” ฉายาของเขาในแวดวงนักธุรกิจ เขาติดอันดับหนุ่มฮอตที่สาวๆ หมายตามองมากที่สุด ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็อยากจะปืนขึ้นเตียงมานอนเคียงกายคู่กับเขา
“กางเกงไม่มียาวกว่านี้แล้วรึไง!!”
เสียงคำรามออกมาจากลำคอของปริญ กชมนรีบก้มหน้าลงมองสำรวจเสื้อผ้าที่ตัวเองสวมใส่ทันที มันก็ปกติดีนี่นาไม่เห็นจะสั้นตรงไหนเลย
“ไม่มีค่ะ ไม่เห็นสั้นเลย”
“ไปเปลี่ยนเอาที่มันยาวๆ กว่านี้”
“อยู่ในห้องคนเดียวไม่เห็นเป็นไรเลย”
“ถ้าลูกน้องฉันเข้ามาแล้วปล้ำเธออย่าหาว่าพวกมันใจร้ายก็แล้วกัน”
น้ำเสียงราบเรียบแปลเปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมาทันทีที่หญิงสาวเริ่มไม่เชื่อฟังคำพูดของเขา ปริญตวัดหางตามองคนตัวเล็กอย่างเอาเรื่อง ก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทันที เสียงประตูปิดดังปัง จนคนที่ได้ฟังเสียงรับรู้ได้ถึงอารมณ์โกรธของเขาที่ระบายออกมา