โดนจนจับไข้

2048 Words
คนตัวเล็กที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง 6 ฟุต ตอนนี้เธอไม่ไหวติง ปวดร้าวระบมช่วงล่างไปหมดแทบจะก้าวขาเดินไปไหนไม่ได้ กชมนมองไปรอบๆ ก็ไร้เงาของผู้ชายใจโฉดคนนั้นแล้ว แอร๊ดดดดดดด~~ เสียงบานประตูเปิดออก มีฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาในห้อง ปริญเดินมาหยุดอยู่ปลายเตียง แล้วนั่งลงมองร่างกายที่เปลือยเปล่าของกชมน เขากระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ อย่างรู้สึกสะใจ และพอใจในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป “ฉันจะแจ้งความ” กชมนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ใบหน้ายังคงเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เธอขอร้องเขาครั้งแล้วครั้งเล่าให้เขาหยุด แต่ก็ปริญก็ยังคงสนองความต้องการของตัวเอง ตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน จนแทบจะลุกขึ้นนั่งไม่ได้ “แต่ดูเหมือนว่าเมื่อครู่เธอสมยอมนะ” “แต่ถ้าอยากจะแจ้งความก็ได้...ถ้าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไปก็โทรไปเลย” พูดจบเขาก็โยนโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูของเขาให้กชมน สายตาที่แสนเย็นชาไร้ซึ่งความหวาดเกรง ทำเอาคนตัวเล็กใจแป้วขึ้นมาทันที กชมนมองเจ้านายตัวเองที่นั่งนิ่งทำท่าทางราวกับว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย นี่แสดงว่าเขามีคนคอยหนุนหลังอยู่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นไม่กล้าทำเรื่องเลวๆ โดยไม่เกรงกลัวอะไรแบบนี้หรอก “เห็นแก่ที่เธอทำงานให้ฉันดีมาโดยตลอด แล้วก็.......” เขาปรายตามองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าแล้วยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ แววตาวาวโรจน์ทอดสายตามองคนตัวเล็กที่ตัวสั่นอยู่บนเตียงด้วยความเฉยชา ไร้ความรู้สึก เขายังคงเป็นปริญคนเดิมไม่เคยเปลี่ยน “ฉันจะไว้ชีวิตเธอถ้าเธอไม่พูดเรื่องที่ได้ยินวันนี้” ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว นัยน์ตาคมแสดงถึงความขึงขังเอาจริงกับสิ่งที่เขาพูด กชมนรอบกลืนน้ำลายลงคอ เธอไม่เคยคิดเลยว่าท่านประธานของเธอจะเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจ สั่งฆ่าใครเหมือนผักปลาง่ายๆ ได้ขนาดนี้ เขาเป็นมาเฟียในคราบนักธุรกิจดีๆ นี่เอง “มนจะไม่พูด ปล่อยมนไปนะคะ” กายสูงขยับขึ้นมาบนเตียงแล้วเอนหลังพิงหัวเตียงข้างๆ กายกชมน เขาเหลือบสายตามองคนตัวเล็กที่แก้ผ้าล่อนจ้อนอยู่ข้างกายเขา แก่นกายเริ่มพองขยายอย่างห้ามไม่ได้ มันรู้สึกปวดหนึบจนอยากจะเปิดศึกราคะกับเธออีกสักรอบสองรอบ แต่ดูท่าแล้วเธอคงจะไม่ไหว ถ้าทำแบบนั้นเห็นทีเธอคงตายคาเอ็นเขาเสียก่อนแน่ๆ “ฉันจะเชื่อใจเธอได้ยังไง?” โทนเสียงราบเรียบแฝงไปด้วยความเย็นชาจนคนฟังรู้สึกเสียวสันหลังวาบ มือหนาลูบไล้กรอบหน้าสวยที่เหงื่อผุดเต็มไปหมด “............” “ตอบไม่ได้?” “มน...มนไม่รู้จะทำยังไงให้ท่านประธานเชื่อ แต่มนสัญญาจะไม่พูดจริงๆ ค่ะ” คนตัวเล็กขยับกายขึ้นมาเงยหน้ามองเขา แววตาเว้าวอนน่าสงสารถูกส่งไปยังปริญ แต่เขากับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ปริญยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดวงตานิ่งเรียบราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ยากที่จะคาดเดาได้ “คนตายเท่านั้นที่พูดไม่ได้” ประโยคบอกเล่าที่เข้าหูของกชมนทำเธอกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ เขาไม่คิดจะฆ่าเธอให้ตายจริงๆ ใช่ไหม ไหนบอกจะไว้ชีวิตเธอ “อย่าฆ่ามน มนขอร้อง ไว้ชีวิตมนเถอะ อึก” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น หยาดน้ำตาเริ่มไหลรินอาบแก้มนวล ดวงตากลมคลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆ ตอนนี้เธอไม่รู้จะหาวิธีไหนทำให้เขาเชื่อใจในตัวเธอ ว่าเธอจะไม่นำเรื่องของเขาไปประกาศกร้าวให้ใครต่อใครได้รับรู้ “ฉันบอกเธอเหรอว่าจะฆ่าเธอ ก็บอกแล้วไงว่าจะไม่ฆ่า” “แต่เธอต้องไปอยู่กับฉัน เธอต้องอยู่ภายในสายตาของฉันเท่านั้น จนกว่าฉันจะมั่นใจว่าเธอรักษาคำพูดนั้นได้จริงๆ” “.............” กชมนส่ายหัวไปมา เธอไม่อยากอยู่ร่วมชายคาเดียวกับผู้ชายใจโหดคนนี้ คนที่เพิ่งพรากพรหมจรรย์ของเธอไป แถมเขายังสั่งฆ่าใครง่ายๆ ราวกับหมูกับหมา “งั้นก็ตาย” “ไม่...มนยังไม่อยากตาย” มือของปริญค่อยๆ เกลี่ยลูบไล้ไปมาที่ใบหน้ามนของคนตัวเล็ก ความร้อนระอุในกายเธอส่งผ่านทำให้เขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติในร่างกายเธอ ปริญเอาหลังมือมาแตะที่หน้าผากเธอมันร้อนดังไฟเผา “เธอเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ?” กชมนส่ายหน้าไปมา ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนโดนก้อนหินทับอยู่ที่หัว ตัวเธอเหมือนมีกองไฟสุมอยู่ภายในกาย ไม่ทันได้กล่าวอะไรร่างบางก็ฟุบหน้าลงกลางแผงอกแกร่งไร้เรี่ยวแรงหมดสติไป ปริญเห็นท่าไม่ดีจึงรีบจับตัวเธอนอนลงกับพื้นเตียงนุ่ม และหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้เธอเพื่อคลายความร้อน ตอนนี้กชมนไข้ขึ้นสูงมากจนปริญเองก็ไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร เขาหยิบโทรศัพท์มือถือที่โยนให้กชมนเมื่อสักครู่ต่อสายหาธันวาเพื่อนที่เป็นหมอของเขาทันที “ฮัลโหลไอ้ธันวามึงมาออฟฟิศกูที” (ไปทำเชี่ยไร กูเป็นหมอนะไม่ใช่นักธุรกิจ ไม่ได้มีสินค้าที่จะให้มึงช่วยจัดส่งสักหน่อย) “เลขาฯ กูไม่สบายมึงมาดูหน่อย ไข้ขึ้นสูงเป็นลมหมดสติไปแล้วเนี่ย” (เออๆ เดี๋ยวกูไป) “เอายาแก้อักเสบ ยาคุมฉุกเฉินมาด้วยนะ” (เอาไปทำไม?) “เออกูสั่งให้เอามาก็เอามาเหอะ อย่าถามมาก” พูดจบเขาก็วางสายทันที หลังจากเขาเช็ดตัวเสร็จก็รีบเดินไปหยิบเสื้อผ้าของกชมนมาสวมใส่ให้เธอก่อนที่เพื่อนเขาจะมาเห็นสภาพเปลือยเปล่าของหญิงสาว ซึ่งเขาเองก็ไม่ชอบใจนักที่จะให้ใครมาเห็นผู้หญิงของตัวเองอวดสัดส่วนชวนมองใครต่อใครเห็น ไม่นานหมอธันวาก็เข้ามาถึง ปริญรีบเดินนำธันวาไปที่ห้องนอนที่อยู่ตรงอีกมุมหนึ่งของห้องทำงานเขาทันที ตอนนี้ใบหน้าของกชมนซีดขาวราวกับผี มีเหงื่อผุดออกเต็มใบหน้าสวย ธันวาเห็นกชมนถึงกับตาค้างเพราะความสวยใสของเธอ มันทำให้อกข้างซ้ายของเขากระตุกวูบ แต่ก็รู้ดีว่านี่คือของต้องห้ามแน่นอน “มึงทำเชี่ยไรน้องเขาวะเนี่ย” ธันวาเอ่ยถามเมื่อเห็นสภาพของกชมนในตอนนี้ ที่มีรอยฟกช้ำตามเนื้อตัวเต็มไปหมด รวมถึงรอยแดงที่ซอกคอขาวที่เขาสร้างไว้แสดงความเป็นเจ้าของ “ตรวจๆ ไปเหอะ” “งั้นมึงออกไปข้างนอกก่อนเลย กูจะตรวจคนไข้ กูต้องใช้สมาธิ” “ไม่ได้กูจะอยู่ดูตรงนี้นี่แหละ” “หวง?” “เปล่า” “งั้นก็อัญเชิญออกไปรอข้างนอก” “ไม่!!...ตรวจเลยกูจะอยู่ตรงนี้” ธันวาส่ายหัวให้กับความดื้อดึงเอาแต่ใจของเพื่อนตัวเอง เขาค่อยๆ ทำการตรวจ ฉีดยาลดไข้และยาแก้อักเสบให้คนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนที่จะยื่นยาคุมฉุกเฉินให้ปริญ “อ่ะนี่ยาคุมฉุกเฉิน ถ้าน้องเขาตื่นขึ้นมาก็ให้กินเลย แล้วเม็ดที่ 2 กินหลังจากเม็ดที่ 1 ภายใน 12 ชั่วโมง” “แล้วไม่รู้ติดเชื้อเปล่าเนี่ย รีบพาไปหาหมอสูติฯ เลย หรือจะให้กูตรวจให้ ฮ่าๆ” ปริญไม่ได้พูดอะไรทำเพียงส่งสายตาดุดันไปให้เพื่อนรัก ธันวารับรู้ได้ทันทีว่าปริญไม่ตลกด้วยกับสิ่งที่เขาพูด “ตรวจเสร็จก็ไปได้แล้ว” “โห...พอใช้งานเสร็จก็ถีบหัวส่งเลยนะ กูขอนั่งดูความสวยของน้องเขาก่อนไม่ได้รึไง” นัยน์ตาคมกริบราวกับใบมีดแสดงความขึงขังใส่ธันวา จนคนถูกมองต้องรีบเก็บอุปกรณ์ใส่กระเป๋าทันที พลางเหลือบสายตามาดูใบหน้าสวยของกชมนอีกครั้ง เธอช่างน่าสงสารเสียจริงๆ ไม่รู้ว่าโดยอะไรไปบ้างถึงได้ไข้ขึ้นขนาดนี้ ธันวาลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะรู้จักนิสัยของเพื่อนตัวเองดี “เออๆ กูไปแล้ว” “กูไม่ส่งนะ” พูดจบเขาก็เดินออกไปจากห้องทันที ประตูห้องค่อยๆ ปิดลงช้าๆ สายตาเคร่งเครียดแต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงถูกจ้องมองมายังกชมน เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับผู้หญิงที่นอนอยู่ตรงหน้าดี ตอนนี้ในหัวปริญคิดไม่ตกจริงๆ ว่าควรจะปล่อยเธอไป หรือปลิดชีวิตเธอทิ้งไปเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เวลาผ่านไปล่วงเลยมา 4 ชั่วโมงที่เธอหลับไปเต็มๆ โดยมีปริญนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ ไม่ได้ห่างไปไหน คนตัวเล็กค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองไปรอบๆ ห้อง เห็นปริญที่กำลังนั่งพิงหลังกับหัวเตียงหลับตาอยู่ เธอพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น เลยทำให้คนตัวใหญ่รูปร่างกำยำลืมตาตื่นขึ้นมา “ตื่นแล้วเหรอ” “ค่ะ” “ฉันให้หมอมาฉีดยาลดไข้กับยาแก้อักเสบให้แล้ว ส่วนนี้ยาคุมฉุกเฉินเธอกินซะ” พูดจบเขาก็หยิบยาคุมฉุกเฉินและแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงมาให้เธอ กชมนค่อยๆ ยื่นมือมารับมันแล้วรีบกินเข้าไปอย่างไว เธอเองก็ไม่ได้อยากจะมีลูกกับผู้ชายแบบเขานักหรอก “ลุกได้แล้ว ฉันจะกลับเพนท์เฮ้าส์” น้ำเสียงราบเรียบเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นหงุดหงิดอารมณ์เสีย เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวยังคงเปื้อนคราบน้ำตา เขาไม่ชอบเห็นน้ำตาของผู้หญิงมันดูอ่อนแอ แต่เสี้ยววินาทีก็เปลี่ยนสีหน้ามาเป็นปกติ เพราะกชมนฟุบหน้าลงไปกับพื้นเตียงนุ่มอีกครั้ง แค่ประคองตัวเองลุกขึ้นนั่งเธอยังทำไม่ได้ จะให้เธอเดินตามเขาไปมันก็คงยากแล้ว ตอนนี้ช่วงล่างเธอแทบขยับไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มันบอบช้ำเสียจนทนแทบไม่ไหว ปริญใช้แขนทั้งสองข้างช้อนร่างบางขึ้นสู่แผงอกแกร่งในท่าเจ้าสาว แล้วอุ้มเธอออกไปจากห้อง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว ไม่มีพนักงานคนไหนอยู่ที่ออฟฟิศ เขาจึงไม่เกรงว่าคนจะเอาไปพูดหรือนินทาว่าเจ้านายแอบเคลมเลขาฯ หน้าห้องตัวเอง รถยุโรปคันหรูจอดเทียบหน้าบริษัท บอร์ดี้การ์ดตัวสูงใส่สูทสีดำก็เปิดประตูให้ปริญทันที เขาพาคนตัวเล็กเข้าไปด้านในอย่างไร้การทะนุถนอม ประตูรถถูกปิดลงเบาๆ เมื่อปริญเข้าไปอยู่ด้านในแล้ว “โอ๊ย!!” “แค่นี้ก็ทำเป็นสำออย” “ก็เพราะใครล่ะ” เธอลืมตัวว่ากำลังคุยกับใครอยู่ ใบหน้าบูดบึ้งรีบแปลเปลี่ยนเป็นลูกแมวแสนเชื่องทันที เมื่อเจอสายตาดุดันจ้องมองมาที่เธอ “ออกรถ!!” สิ้นเสียงรถก็เคลื่อนตัวออกจากบริษัทกลับสู่เพนเฮาส์ทันที ภายในรถไร้เสียงพูดคุย กชมนนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอะไรเลย เธอเอาแต่นั่งกอดอกตัวเองแสดงให้ปริญรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของเธอในตอนนี้ “เสื้อผ้าและของใช้เธอ ฉันสั่งให้ลูกน้องไปขนมาหมดแล้วนะ” ปริญเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ เมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้านายจอมโหดพูด เธอถึงกับหันขวับไปมองหน้าเขาทันที นี่เขารู้จักคอนโดของเธอได้อย่างไรกัน แล้วที่สำคัญเขามีรหัสเข้าห้องเธอด้วยเหรอ “ท่านประธานรู้ได้ยังไงว่ามนอยู่ที่ไหน แล้วรหัสเข้าห้องมนด้วยรู้ได้ยังไง?” “ไม่มีอะไรที่คนอย่างฉันไม่รู้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD