บุหลันได้ยินเสียงรถยนต์เคลื่อนมาจอดที่หน้าบ้าน สาวใหญ่จึงรีบเดินออกไปดูว่าเป็นรถใครกัน หากเป็นนังลูกเลี้ยงหน้าหวานให้ผู้ชายมาส่งอีกบุหลันจะได้โทรรายงานลูกชายอีกรอบหนึ่ง เธอจะปั่นให้ลูกชายของเธอเกลียดนังเด็กซินนั่นจนแทบจะอยากไล่มันออกจากบ้านเลยแหละ
บุหลันเกลียดสิชามาแต่ไหนแต่ไร สิชาหน้าเหมือนแม่ผู้ล่วงลับไปแล้วทำให้สายชลสามีคนที่สามของเธอไม่เคยลืมเมียเก่าแม้แต่ตอนเขาป่วยใกล้ตาย แถมไม่พอลูกชายสองคนของเธอก็ดูจะเอ็นดูยัยเด็กซินมากเป็นพิเศษ ทำไมผู้ชายที่บุหลันรักทุกคนถึงต้องเอาใจใส่ยัยเด็กตัวจ้อยนั่นด้วย? เธอไม่เข้าใจเลย แต่ในเมื่อพวกเขารักมันได้ เธอก็เกลียดมันได้เช่นกัน
ยิ่งเบนกับบอมทิ้งให้เธอดูแลยัยเด็กนั่นเธอก็ยิ่งมีโอกาสที่จะบีบมันให้ตายคามือ!
สาวใหญ่วัยเกือบห้าสิบรีบวิ่งออกไปหน้าบ้าน เธอเห็นรถลีมูซีนสีดำคันยาวจอดอยู่หน้าบ้าน
มันไม่เหมือนรถที่เด็กรุ่นราวคราวเดียวกับนังเด็กซินจะมีไว้ใช้สักเท่าไหร่ หรือนังเด็กนั่นจะมีเสี่ยเลี้ยง?
บุหลันคิดสงสัยอยู่ในใจจนกระทั่งคนขับรถวิ่งมาเปิดประตูให้คนทางด้านหลังเดินลงมาเธอถึงตระหนักว่าสิ่งที่เธอคิดไว้ก่อนหน้านี้ผิดหมดทุกอย่าง
นั่นไม่ใช่ผู้ชายของยัยซิน ไม่ใช่เสี่ย แต่เป็นลูกชายของเธอเอง!
“ตาบอม! ตาเบน! พวกลูกกลับมาเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมไม่บอกแม่? แล้วนั่น... ไปรับยัยซินที่มหาวิทยาลัยมาเหรอลูก?” บุหลันทำเสียงอ่อนขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นสองลูกรัก ทั้งตกใจและตื่นเต้นดีใจที่เห็นพวกเขากลับมาหลังจากที่ไม่ยอมกลับไทยถึงห้าปี มีแต่เธอที่ต้องบินไปเจอพวกเขาบ้างปีละ 2-3 ครั้งที่อเมริกา แต่พวกเขาไม่เคยบินกลับมาหาเธอเลยสักครั้ง
สองหนุ่มไม่มีใครตอบแม่สักคำ หนุ่มเบนหันไปสั่งคนขับรถลีมูซีนให้รออยู่หน้าบ้านก่อน ส่วนหนุ่มบอมเดินจูงน้องเข้าไปหาแม่เหมือนจะเอาเรื่อง
“แม่... ผมบอกให้แม่ดูแลยัยซิน ผมฝากน้องไว้กับแม่แล้วนี่อะไรกัน? ทำไมแม่ใช้งานน้องจนมือเจ็บขนาดนี้?” บอมถามแม่เสียงเข้ม
“ก็... ก็... แผลพวกนั้นเพราะยัยซินแอบออกไปทำงานพิเศษ งานในบ้านไม่ได้หนักขนาดนั้นเสียหน่อย แค่รีดผ้า ทำความสะอาดเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นั้นเอง พวกลูกเพิ่งกลับมาจะพักก่อนไหม? แม่จะให้ป้าแจ่มไปจัดห้องให้ แจ่ม! แจ่ม!” บุหลันตอบลูกชายแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด สาวใหญ่หันไปตะโกนเรียกแม่บ้านเก่าแก่ให้ออกมาหาทันที
หญิงสูงวัยผมสีขาวดอกเลารีบวิ่งออกมาตามเสียงเรียกของนายหญิง พอเธอเห็นว่าคุณชายทั้งสองของบ้านกลับมาหลังจากห้าปีก็ตื่นตะลึงด้วยความดีใจ ป้าแจ่มรู้ดีว่าถ้าสองหนุ่มอยู่บ้านนี้คุณหนูซินของเธอไม่มีทางต้องตกระกำลำบากแน่เพราะเมื่อห้าปีก่อนขนาดสิ้นบุญคุณผู้ชายของบ้านไปแล้ว คุณบุหลันยังไม่กล้าทำอะไรคุณหนูซินเลยแม้แต่น้อย พอลูกชายสองคนจากบ้านไปถึงกล้าฟาดงวงฟาดงากับคุณหนูของเธอได้
“คุณเบน คุณบอม... กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?” ป้าแจ่มถามสองหนุ่มก่อน
“เพิ่งกลับมาครับ ลงเครื่องแล้วไปรับยัยซินที่มหาวิทยาลัยก่อนเลย” เบนส่งยิ้มหล่อให้กับป้าแจ่มแล้วบอกเธอ
“ป้าแจ่มไปเตรียมห้องให้เบนกับบอมหน่อยสิ เอาห้องที่ลูก ๆ ฉันเคยอยู่นะ” บุหลันสั่งแม่บ้านสูงอายุทันที
“ไม่ต้องครับป้าแจ่ม ไม่ต้องครับแม่ ผมกับบอมให้คนจัดการทำความสะอาดเพนต์เฮาส์ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว พวกผมไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้ มันใหญ่โตเกินไป แล้วผมก็อยากจะถามแม่เหมือนที่บอมเพิ่งถามไปเหมือนกันว่าทำไมแม่ต้องใช้งานซินจนมือไม้พังขนาดนี้? แล้วทำไมน้องถึงแต่งตัวโทรมขนาดนี้? เหมือนพวกยากจนข้นแค้นทั้งที่บ้านเราก็มีอันจะกิน” เบนถามแม่บ้าง
บุหลันได้แต่อ้ำอึ้ง
“ก็... ก็ก่อนไปอเมริกาเบนกับบอมกำชับแม่ว่าอย่าให้ยัยซินออกนอกลู่นอกทาง แม่ก็อัดงานให้มันทำไปไง มันจะได้ไม่มีเวลาเหลวไหล... แล้วอีกอย่างยัยซินมันก็เต็มใจทำ แลกกับค่าข้าวค่าเล่าเรียน” บุหลันตอบเสียงเบา รู้แน่ว่าลูกชายทั้งสองคงโกรธเคืองเธออยู่ไม่น้อย
“ดี งั้นต่อไปนี้ผมจะเอาซินไปช่วยงานที่เพนต์เฮาส์นะแม่ พวกผมยังไม่ได้หาแม่บ้าน ให้ซินไปทำงานที่นั่น แลกกับค่าข้าวค่าเล่าเรียน” บอมพูดขึ้นมาบ้าง
“ซินไปเก็บของ พี่จะรอซินอยู่ตรงนี้ พี่ให้เวลาเก็บของ 15 นาที รบกวนป้าแจ่มช่วยซินเก็บของหน่อยได้ไหมครับ?” เบนหันไปสั่งน้องสาวและป้าแจ่มน้ำเสียงสุภาพ
“หือ? ทำไมซินต้องไปเป็นแม่บ้านให้พวกพี่?” สิชาขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นมาทันที
“หรือจะเป็นแม่บ้านให้แม่ของพวกพี่ต่อล่ะ?” เบนถามกลับ
“งั้น... ซินเอาป้าแจ่มไปอยู่ด้วยได้ไหม?” สาวน้อยลองถามดู
“ไม่ได้! เบนกับบอมเอายัยซินไปแล้ว แม่ก็ไม่เหลือคนรู้ใจทำงานให้แล้วนะ จะเอาป้าแจ่มไปอีกคนไม่ได้ แม่ไม่ยอม!” บุหลันร้องเสียงลั่นขึ้นมาทันที
“แต่... ป้าแจ่มแก่แล้วนะคะแม่บี แม่บีจะให้ป้าแจ่มทำงานหนัก ๆ คนเดียวได้ยังไง?” สิชาถามเสียงแข็ง
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะให้คนหาแม่บ้านมาเพิ่มอีกสัก 2-3 คน ป้าแจ่มแค่สอนงานเด็ก ๆ พอ ไม่ต้องทำเอง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดฉันกับเบนจะจัดการเอง และต่อไปนี้เบนจะเข้าไปดูกิจการของพ่อชลและตรวจสอบการบริหารงานของบริษัทที่เราจ้างมาบริหาร ถ้าแม่ยังอยากได้เงินปันผลทุกปีแม่ก็ควรจะหยุดระรานยัยซินด้วย” บอมบอกน้องสาวแล้วหันไปสั่งแม่
“นี่เบนกับบอมจะย้ายมาอยู่ที่ไทยถาวรเลยเหรอ? แล้วบริษัทของพ่อเบนที่อเมริกาล่ะ? เบนไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรเลยเหรอ? อุตส่าห์ไปทำงานช่วยบริหารให้ตั้งห้าปี” บุหลันถามกึ่งบ่นไปด้วย
“แด๊ดจะให้อะไรผมหรือไม่ให้ผมก็ไม่แคร์ ตราบใดที่ผมยังมีสมองผมหาเงินใหม่ได้เสมอครับ แล้วอีกอย่างบริษัทที่พ่อชลทิ้งไว้ให้พวกเรามันก็ยังทำเงินได้มากมายมหาศาล ไม่เห็นจะต้องดิ้นรนหาเงินเพิ่มเลยนี่ครับ” เบนตอบแม่แล้วยักไหล่อย่างไม่แยแส
“ส่วนผม มีค่ายเพลงในไทยหลายที่ติดต่อให้แต่งเพลง ผมก็ทำงานของผมไปได้เรื่อย ๆ แม่ไม่ต้องห่วง อีกอย่าง... ผมกับเบนก็แชร์ทุกอย่างด้วยกันอยู่แล้ว เงินเบนก็คือเงินผม ถ้าเบนรวยผมก็รวย ถ้าเบนจนผมก็จน และถ้าแม่ยังอยากมีเงินใช้แบบไม่ต้องทำงานทำการแม่ก็ไม่สมควรจะเข้ามายุ่งกับชีวิตผมหรือเบน แม่เข้าใจไหม?” คังบอมใช้ตาคมราวตาเหยี่ยวจ้องแม่ของตัวเองเขม็ง
บุหลันเห็นลูกชายสองคนเอาจริงก็กลืนน้ำลายลงคอแล้วพยักหน้ารับคำสองหนุ่ม
เบนดันหลังน้องสาวให้ไปเก็บของ สิชาหันมามองหน้าแม่เลี้ยงใจร้ายแวบหนึ่งแล้วยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่มีคนมาช่วยเธอให้ออกจากบ้านที่เหมือนขุมนรกนี่ ติดตรงที่ว่าคนที่มาช่วยเธอไม่ใช่เจ้าชาย แต่กลับเป็นพี่เลี้ยงใจร้ายของเธอเอง!
-----------------------------
เพนต์เฮาส์ของพี่ ๆ เธอยิ่งใหญ่อลังการกว่าที่สิชาคิดไว้มากนัก ห้องที่อยู่หลังประตูไม้ที่ยาวจากพื้นจรดเพดานมีทั้งสระว่ายน้ำในตัวและสวนย่อมที่อยู่ตรงพื้นที่กว้างด้านนอกราวกับเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งเลยทีเดียว
“พวกพี่ซื้อที่นี่เมื่อไหร่กัน? เพิ่งมาถึงไทยไม่ใช่เหรอ?” สิชาถามพี่ชายทั้งคู่
“ความจริงพี่ซื้อที่นี่ไว้ตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน ตอนที่ยังอยู่อเมริกา เพราะกะว่าถ้ากลับไทยจะไม่อยู่ที่บ้านใหญ่” เบนตอบน้องสาว
“แล้วทำไมถึงไม่อยู่ล่ะ? นั่นบ้านพี่เหมือนกัน แม่พี่ก็อยู่ที่นั่น เป็นนายหญิงใหญ่ของบ้านด้วย” สิชาพูดแล้ววางกระเป๋าลากใบย่อมของเธอไว้ที่กลางโซนรับแขกจากนั้นจึงเริ่มเดินสำรวจเพนต์เฮาส์
“พวกฉันไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้น... ความจริงบ้านหลังนั้นเป็นของเธอ แม่ของพวกฉันไม่มีสิทธิ์เข้าไปอยู่ด้วยซ้ำ แม่แค่เป็นผู้ดูแลมรดกจนกว่าเธอจะ 20 ซึ่งก็อีกไม่นาน” คังบอมตอบขณะที่เดินตามหลังน้องสาวไปราวกับกลัวเธอจะหลงทาง
“อย่างแม่บีคงจะยอมคืนบ้านให้ซินง่าย ๆ หรอก พวกพี่ไม่อยู่ตั้งห้าปี ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก ตอนพ่อยังมีชีวิตอยู่แม่บีดีมาก พอพ่อเสียก็ดูจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่พอพวกพี่สองคนไม่อยู่ แม่บีของพวกพี่อะร้ายมาก มากแบบกอไก่ล้านตัวเลยอะ” สาวน้อยบ่นแล้วเดินออกไปดูสวนสวยน้อย ๆ ด้านนอก สองหนุ่มเดินตามหลังเธอไม่ห่าง
“สรุปตอนนี้พวกพี่จะกลับมาดูแลกิจการของพ่อซินใช่ไหม? ซินจะได้เงินปันผลด้วยไหม? ตลอดห้าปีมานี้เงินปันผลเข้าบัญชีแม่บีหมด แม่บีไม่เคยแบ่งให้ซินเลย” สาวน้อยพูดเหมือนฟ้อง
“ได้สิ รอซินอายุครบยี่สิบพี่จะพาซินไปเปิดบัญชีสำหรับโอนเงินปันผลเข้าเอง แต่ตอนนี้พี่จะให้เงินซินใช้ก่อนถือเป็นเงินที่ซินจะมาทำงานดูแลพวกพี่” เบนบอกน้องพร้อมกับล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงทำท่าเหมือนจะทำธุรกรรมทางการเงินให้สาวน้อย สิชาจึงไม่รอช้าควักมือถือออกมาเปิดแอปธนาคารเตรียมให้เขาสแกนคิวอาร์โค้ดจ่ายเงินให้เธอ
“แต่บ้านพวกพี่ออกจะใหญ่ ซินจะดูแลไหวเหรอ? ทุกทีใครดูแลให้พวกพี่?” สาวน้อยถามพลางยื่นคิวอาร์โค้ดให้คนเป็นพี่สแกนทันที
“ทุกทีฉันให้บริษัทจัดหาแม่บ้านมาดูแล และก็ยังจะเป็นอย่างนั้นอยู่ เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น รักษาตัวจนกว่ามือคู่นั้นจะไม่มีรอยแผลหลงเหลือ ระหว่างนั้นแค่ดูแลเอาใจใส่พวกฉันก็พอ” คังบอมตอบแล้วบุ้ยหน้าไปทางมือน้อยที่ยังมีปลาสเตอร์ยาพันอยู่ของสาวน้อย
สิชายังไม่ทันตอบอะไรแต่พอเห็นยอดเงินที่พี่เบนโอนเข้ามาให้สาวน้อยก็ตาโต
“สามหมื่น! พี่เบนโอนตังค์ให้หนูทำไมตั้งสามหมื่น?!” สิชาถามหน้าตาตื่น
“ก็เงินค่าใช้จ่ายของซิน พี่จะให้เป็นรายอาทิตย์ อาทิตย์ละสามหมื่น ขอแค่พอได้เงินแล้วอย่าเพิ่งหนีไปอยู่ที่อื่น อยู่ดูแลพวกพี่ที่นี่ก่อนจนกว่าพวกพี่จะพร้อมปล่อยซินไป ได้ไหมน้องสาวของพี่?” เบนถามสิชาเสียงหวานแล้วก้มลงจูบแก้มเนียนของเธออย่างแผ่วเบาทีหนึ่ง
สิชาอ้าปากค้างแล้วมองหน้าพี่ชายคนโตพลางยกมือขึ้นแตะแก้มข้างที่เขาจูบ ตอนนี้มันคงแดงก่ำเพราะเธอรู้สึกร้อนไปทั้งใบหน้า ตอนเด็ก ๆ พี่เบนหอมแก้มเธอไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แต่พอเธออายุได้ 13 ปีเขาก็เลิกหอมแก้มเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาหอมแก้มเธอหลังจากเธอโตเป็นสาว หัวใจของสาวน้อยมันเต้นระรัวเหมือนจะหลุดออกมาจากอกให้ได้
“ซินรู้หรอกน่า! ซินจะอยู่ดูแลพวกพี่เองไม่ไปไหนหรอก! ถ้าซินเบี้ยวซินจะค*****นให้หมดเลย ไม่ต้องกลัว” สาวน้อยทำพูดเสียงดังกลบเกลื่อนความอายก่อนจะวิ่งกลับเข้าเพนต์เฮาส์ไป
“ไอ้เชี่ยเบน มึงขี้โกง! แม่ง... แอบหอมแก้มน้องก่อน...” คังบอมมองพี่ชายเหมือนเคืองแล้วบ่น
“ของแบบนี้ใครดีใครได้ไหมวะไอ้บอม? ว่าแต่... หลังจากห้าปีผ่านไป พวกเราเอากับผู้หญิงมาไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย มาถึงตอนนี้มึงคิดว่ามึงยังรักน้องเหมือนเมื่อห้าปีก่อนไหมวะ?” เบนถามน้องชายเสียงจริงจัง
“ไม่เหมือนเดิม...” บอมตอบพี่ทำเอาเบนหันขวับมาจ้องหน้าน้องชายตาเขม็ง
“รักกว่าเดิมอีก... รักมากจนแทบทนไม่ไหว ยิ่งรู้ว่าแม่ทำอะไรกับยัยซินยิ่งทั้งรักทั้งเวทนา...” หนุ่มลูกครึ่งเกาหลีพูดต่อจนจบ
เบนได้ฟังคำตอบจากปากน้องชายก็คลี่ยิ้มออกมาทันที
“ดีมาก ความคิดเห็นของเราตรงกัน... ดังนั้นตอนนี้ก็เหลือแต่ให้น้องรักเราเหมือนที่เรารักน้อง เราใช้เวลาห้าปีพิจารณาความรู้สึกตัวเองมามากพอแล้ว ที่สำคัญเราให้เวลาซินได้โตขึ้นแล้ว ต่อไปนี้เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันและต้องทำให้สำเร็จด้วย”
สองหนุ่มหันมาสบตาแล้วส่งยิ้มให้กันอย่างรู้ใจ
“เอาน้องมาเป็นเมียให้ได้!/ เอายัยซินมาเป็นเมียให้ได้!” สองหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกันเหมือนนัดหมายกันไว้
ต่อไปนี้พวกเขาจะเดินหน้าเต็มที่ไม่มีถอย จะทั้งรุกทั้งเร้าจนสิชาต้องรับรักพวกเขาให้ได้เลยทีเดียว