“แม่อยากได้สะใภ้แบบไหนล่ะครับ ถ้าให้เลือกระหว่างทำตัวติดดินกินข้าวแกงไม่หวือหวาวางตัวดี มีทัศนคติในการดำรงชีวิตที่ดี หรือคุณหนูที่เวลาทำอะไรก็แป๊ะไปเสียทุกอย่าง”
“ฌอนถามแม่แบบนี้แสดงวาเจอคนที่ใช่แล้วใช่ไหม” ใบหน้าของญาดาดูตื่นเต้น เมื่อคิดว่าลูกชายกำลังตกหลุมรักใครสักคนอยู่แน่ ๆ
“ถ้าผมบอกว่าใช่ แม่โอเคไหมครับ”
“พาเธอมาแนะนำให้แม่รู้จักหน่อยสิจ๊ะ”
“ผมกำลังพยายามตามจีบเธออยู่ครับแม่”
“จริงเหรอ”
“จริงครับแม่”
“ฌอนเป็นอะไรไปหรือเปล่าลูก พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือว่าลูกของแม่ถูกใครเข้าสิง...ฮะ!” ผู้เป็นมารดาแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เพราะผู้ชายอย่างฌอนไม่เคยตามจีบใครมาก่อน ส่วนมากมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แสดงว่าคนที่ลูกชายกำลังพูดถึง เธอต้องมีอะไรพิเศษมาก ถึงทำให้คาสโนวาตัวพ่อกล้าสารภาพ ยอมรับออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำว่ากำลังตามจีบเธออยู่ ซึ่งญาดาพึ่งเห็นลูกชายจริงจังกับผู้หญิงก็คราวนี้
“แม่คร้าบ... เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว แม่เชื่อในพรหมลิขิตหรือเปล่าครับ”
“พรหมลิขิตเลยเหรอ แสดงว่ายัยหนูคนนั้นต้องสวยมากแน่ ๆ เลย ใช่ไหม”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับแม่ แค่เธอเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่มีมารยาเหมือนกับ...”
“ปานมุก!”
“แม่พูดเองนะครับ”
“ทำไมแม่จะไม่รู้นิสัยของเธอ พ่อของเราก็เกินไป อยากให้ลูกชายแต่งงานกับใคร... ก็ไม่รู้จักคิดให้ดีเสียก่อน เรือล่มในหนองเงินทองจมน้ำหมดน่ะสิไม่ว่า”
“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! แม่คือเดอะเบสท์ของผมเลยนะครับเนี่ย”
สองคนแม่ลูกคุยกันอย่างถูกคอ เพราะผู้เป็นมารดาไม่เคยคิดให้ฌอนใช้ชีวิตอยู่ในกรอบ ขอแค่เขามีลิมิตรู้จักใช้สติก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป ซึ่งมีเงื่อนไขไม่กี่ข้อ ขอแค่อยู่ภายใต้พื้นฐานของความถูกต้อง ชีวิตของคนเราก็ดำรงอยู่ได้อย่างมีความสุขแล้ว
ภายในบ้านหลังโตที่ดูมีฐานะพอสมควร สายตาของจตุภูมิทอดมองลูกสาวคนเล็กอย่างเอาเรื่อง เมื่อจารวีประกาศเสียงแข็งยังไงเธอก็ไม่ยอมแต่งงานกับตรีภพเป็นแน่
“ฉันเอาข้าวเอาปลาให้แกกิน อบรมเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ทำไมแกถึงได้โง่แบบนี้จารวี!” ผู้เป็นบิดาตวาดใส่ลูกสาวด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด จนเธอสะดุ้งหวาดกลัว แต่ก็พยายามทำใจดีสู้เสือ
“ทำไมเหรอคะพ่อ คนฉลาดเขาต้องแต่งงานกับคนรวย ๆ อย่างนั้นเหรอคะ แล้วพ่อกับแม่คิดว่าจาโง่มากเลยใช่ไหม ที่ไม่ทำตามความต้องการของพ่อกับแม่”
“ชาตินี้แกไม่มีทางหาผู้ชายดี ๆ ได้เท่ากับคุณตรีภพอีกแล้ว”
“แล้วถ้าจาหาได้ดีกว่าล่ะคะพ่อ”
“แกจะเถียงฉันคำไม่ตกฟากเลยใช่ไหม”
“ยัยจาฟังพ่อพูดให้จบก่อนได้ไหม แม่บอกแล้วไง คุณตรีภพเขาดีกับครอบครัวของเราแค่ไหน” คราวนี้มารดาของเธอได้พูดแทรกขึ้นมา เมื่อเห็นว่าลูกสาวกำลังใช้ถ้อยคำฟาดฟันกับผู้เป็นบิดา
“แล้วทำไมพ่อกับแม่ ถึงไม่ฟังจาบ้างล่ะคะ จาเบื่อที่จะพูดเรื่องนี้เต็มทีแล้ว จานัดกับเพื่อนเอาไว้ขอตัวนะคะ” เมื่อเธอถูกกดดันจากบิดามารดา จารวีจึงอยากออกไปจากบ้านให้เร็วที่สุด
“ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับคุณตรีภพ ถ้าแกยังขืนคิดจะเดินออกไปจากบ้านในตอนนี้ ฉันจะถือว่าแกไม่ใช่ลูก”
“เพราะพ่อรับเงินจากเขามาเยอะแล้วใช่ไหมคะ ถึงได้บังคับให้จาแต่งงานกับเขา จาไม่ใช่สินค้าของพ่อนะคะ ที่จะขายให้กับใครก็ได้”
เพียะ!!! ใบหน้าของจารวีหันไปตามแรงกระทบของฝ่ามือผู้เป็นบิดา ซึ่งคราวนี้แรงเสียจนเธอแทบเซถลา ซึ่งผู้เป็นมารดาได้ยกมือขึ้นมาทาบอกด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะปริปากพูดปกป้องลูกสาวจากผู้เป็นสามี ซึ่งทำให้จารวีมองบุพการีของเธอด้วยแววตาผิดหวังเป็นอย่างมาก
“ยัยจา! จะไปไหน”
“ปล่อยมันไป! ไม่ต้องไปสนใจ”
“คุณก็...” ระรินได้แต่มองสามีด้วยแววตาเอือมระอาเล็กน้อย เพราะถึงยังไงคนทั้งคู่ก็อยากให้ลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝากับตรีภพ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าจารวีจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดคนหนึ่ง ถ้าหากเธอยอมตกลงปลงใจแต่งงานกับเจ้าของบริษัทผลิตน้ำนมจากข้าว
/////ณ ผับหรู/////
ในเวลานี้จารวีไม่ได้สนใจคนรอบข้าง เธอตั้งใจดื่มราวกับคอกเทลในแก้วมันคือน้ำเปล่า หลังจากถูกบิดายื่นคำขาด ก่อนออกมาจากบ้าน เธอเองก็ไม่เข้าใจทำไมบิดามารดา ถึงไม่รับฟังถ้อยคำที่เธอพยายามปฏิเสธออกไปบ้างเลย
“แกดูผู้ชายคนนั้นสิหล่อจังเลยอะ!”
“ใช่! ใช่! มึงคืนนี้ต้องเอาไอจีมาให้ได้นะ” บรรดาสาว ๆ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะของจารวี พากันพูดถึงหนุ่มหล่ออย่างสนุกปาก เมื่อพวกหล่อนเห็นฌอนเดินเข้ามาในผับ ซึ่งทำเอาพวกหล่อนถึงกับอยากแลกไอจีเลยทีเดียว
“ท่าทางจะมาคนเดียวด้วยสิ แบบนี้เสร็จฉันแน่”
“แต่เหมือนเขากำลังมองหาใครอยู่นะ”
“ช่างสิ! ฉันอยากได้ก็ต้องได้” ดูเหมือนว่าเวลานี้ ฌอนกำลังตกเป็นเป้าหมายของสาว ๆ อย่างไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มกวาดสายตามองหาจารวี ก่อนจะพบว่าเธอกำลังนั่งดื่มคนเดียว ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากด้วยใบหน้าและแววตากรุ่มกริ่ม เพราะเธอแต่งตัวรัดกุมยิ่งกว่ากำลังจะออกเดินป่าเสียอีก
“แกเขากำลังเดินตรงไปยังโต๊ะนั้นแล้ว”
“ท่าทางผู้หญิงคนนั้นคงเป็นเพื่อนของเขามากกว่า ดูสิหล่อนแต่งตัว ไม่เข้ากับสถานที่เลยสักนิด” สาวสวยโต๊ะนี้ล้วนแต่งกายเซ็กซี่โชว์ส่วนเว้าส่วนโค้ง อวดเรือนร่างของตนจนเกินงาม แต่ก็เป็นไปตามยุคสมัยไม่มีใครสนใจเรืองเหล่านี้อยู่แล้ว
“แสดงว่าพวกเรามีสิทธิ์”
“พวกเราที่ไหน ฉันย๊ะ! ฉันจอง”
“แหม... ของแบบนี้ใครดีใครได้ รอโอกาสเหมาะกว่านี้ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนไปขอแลกไอจีกับเขาเอง” สาว ๆ แต่ละนางเหมือนจะไม่มีใครยอมใคร ขณะที่ฌอนไม่ได้สนใจใครเลย เพราะเป้าหมายของเขาคือเธอคนเดียวเท่านั้น เวลานี้เขากำลังเดินเข้าไปใกล้จารวีเต็มที
หมับ!!! ชายหนุ่มคว้าแก้วมาจากมือของเธอ ซึ่งทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง พลางขยี้ตาไปมาเบา ๆ
“คุณเป็นใคร แล้วมาแย่งแก้วไปจากฉันทำไม”