ยิ่งหนีกลับยิ่งเจอ

1182 Words
“ยัยจา!” ผู้เป็นมารดาถึงกับตะคอกไล่หลังลูกสาวออกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เมื่อเห็นจารวีแสดงท่าทีห่างเหินต่อคู่หมายของเธอ “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจจาดี เธอคงเหนื่อยมาก ผมฝากเครื่องประดับพวกนี้ไว้ให้เธอเลือกด้วยนะครับ” “อุ้ย! อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวค่อยให้ยัยจาไปเลือกเองเองดีกว่า น้ากลัวเผลอทำหล่นหายไปน่ะค่ะ น้าคงไม่มีปัญญาหามาคืนคุณตรีภพแน่เลยค่ะ” ระรินมารดาของจารวีพูดออกมาด้วยท่าทีเกรงใจ เพราะเครื่องประดับแต่ละชุดมีราคาเจ็ดหลักขึ้นไปทั้งนั้น “ผมไว้ใจคุณน้าทั้งสองนะครับ ถ้าเกิดคุณน้าทำหล่น ผมก็ไม่ติดใจอะไร ขอแค่จารวีเลือกเครื่องเพชรชุดที่เธอชอบได้ก็พอ ผมนัดลูกค้าเอาไว้ ขอตัวนะครับคุณน้า” “จ้า ขับรถดี ๆ นะ” เมื่อตรีภพเดินออกไปจากบ้าน สองสามีภรรยาได้หันมามองกันด้วยแววตาเอือมระอาในตัวลูกสาว เพราะไม่คิดว่าจารวีจะแสดงท่าทีไม่ไว้หน้าบิดามารดา “นับวันลูกสาวของคุณชักเอาใหญ่แล้วนะ คงคิดว่าคุณตรีภพเขาไม่ว่าอะไร แล้วจะทำตามอำเภอใจอย่างนั้นเหรอ เตือนลูกสาวคุณบ้างก็ดีนะ” “คุณก็รู้ว่ายัยจาหัวดื้อแต่ไหนแต่ไร แล้วทำไมทีอย่างนี้ถึงได้โบ้ยความรับผิดชอบให้กับฉันคนเดียวสิค่ะ ยัยจาก็ลูกสาวคุณเหมือนกันนั่นแหละค่ะ” สองสามีภรรยาเริ่มขึ้นเสียงใส่กัน หลังจากจารวีไม่ได้ดั่งใจ นับวันเธอยิ่งทำตัวต่อต้านงานแต่งที่กำลังจะมีขึ้น “นิสัยแย่ เอาแต่ใจจนเคยตัว” “ก็คงเหมือนคนแถวนี่มั้งคะ” พูดจบผู้เป็นภรรยาได้ยกตลับเครื่องเพชรชุดเล็กชุดใหญ่ขึ้นไปบนบ้าน ปล่อยให้จตุภูมิมองตามหลังด้วยท่าทีฉุนเฉียวกว่าที่เคย เมื่อระรินเองก็เริ่มเบื่อหน่ายสามี ที่มักเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่เสมอ ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงประตูห้องดังขึ้น ซึ่งทำให้จารวีละสายตาจากสมาร์ตโฟนเครื่องแพงของเธอ “แม่เข้าไปได้ไหมยัยจา” “เข้ามาเลยค่ะแม่ จาไม่ได้ล็อกประตู” “ทำไมเราเป็นคนแบบนี้ รู้ไหมว่าทำให้คุณตรีภพน้อยใจแค่ไหน หันมาฟังแม่สิจา อย่าเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้” “จาขอถามอะไรแม่ได้ไหมคะ” “จะถามอะไรก็ว่ามา” ระรินพูดพลางวางตลับเครื่องประดับไว้บนเตียงนอนของลูกสาว ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งข้าง ๆ จารวี “ก่อนที่พ่อกับแม่จะแต่งงานกัน พ่อกับแม่คบหาดูใจกันนานไหมคะ” “ไม่นะ ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ ตอนนั้นแม่ทำงานบริษัท บังเอิญพ่อของเราเดินทางไปเจรจาเกี่ยวกับสินค้า ซึ่งตอนนั้นเถ้าแก่ของแม่ ก็คือคุณพ่อของคุณตรีภพ ตอนนั้นเขายังยังคงเป็นเจ้าของโรงงานทอผ้าอยู่เลย” “แม่เชื่อในรักแรกพบหรือเปล่าคะ” “รักแรกพบเกิดขึ้นได้กับทุกคน ว่าแต่เราเถอะรักคุณตรีภพบ้างหรือเปล่า ทำไมถึงทำตัวหมางเมินใส่เขาแบบนั้น” “จาบอกแล้วไงค่ะแม่ จาไม่อยากแต่งงานกับเฮียตี๋” เพราะความสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้จารวีเรียกตรีภพว่าเฮียตี๋จนติดปาก “ก็ตอนนั้นลูกเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอ ใครล่ะที่บอกกับพ่อว่าจะแต่งงานกับคุณตรีภพ พี่ภาทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังแล้ว จายังคิดจะกล้าทำให้ครอบครัวของเราผิดคำพูดอีกคนรึไง” “ความรักมันบังคับกันไม่ได้ ยังไงจาก็ไม่ยอมแต่งงานกับเฮียตี๋เด็ดขาด” “ถ้าไม่อยากตัดขาดกับครอบครัว ก็ยอมทำตามคำสั่งของพ่อเถอะนะจารวี พ่อของแกไม่มีทางปล่อยให้งานแต่งครั้งนี้ล่มแน่” “แต่แม่ค่ะ... ” “ไม่มีแต่ มีแต่จะแต่ง เครื่องเพชรพวกนั้นคุณตรีภพเขาเอามาให้แกเลือก ชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามใจ ส่วนชุดแต่งงานแม่จัดการให้เรียบร้อยแล้ว” จารวีถึงกับพูดไม่ออก เมื่อมารดาเข้ามาบอกให้เธอเตรียมตัวเตรียมใจ งานแต่งที่ไม่ได้เกิดจากความรัก สุดท้ายก็มักจบลงไม่สวย เธอพยายามปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล ทุกคนต่างมองว่าตรีภพคือผู้ชายที่คู่ควรและเหมาะสมกับเธอ หญิงสาวตัดสินใจคว้าสมาร์ตโฟนขึ้นมาโทรหาฌอนทันที อย่างน้อยในเวลานี้ เธอก็ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอก ซึ่งเขาคือทางออกเดียวของเธอ “ว่าไงครับที่รัก” “ไม่ต้องใช้เสียงหวานมาหลอกล่อให้ฉันคล้อยตามเลยนะ คุณสามีกำมะลอ” เธอตอบกลับไประคนกำลังงอนอีกฝ่ายไม่ต่างจากคู่รัก “คุณเป็นอะไรทำไมต้องหงุดหงิดใส่ผมด้วยล่ะครับ...หืม” “ฉันกลับมาบ้านก็เจอกับคุณตรีภพ เขาเอาเครื่องเพชรมาให้เลือก ฉันไม่เห็นอยากได้ของพวกนั้นเลยสักนิด” “ผู้หญิงทุกคนล้วนชอบเครื่องประดับทั้งนั้น ทำไมล่ะ... คุณไม่ชอบใส่เครื่องประดับเลยเหรอ” “เปล่า... ฉันไม่ชอบคนให้มากกว่า” ฌอนแอบอมยิ้มในความเป็นจารวี เธอมักจะทำให้เขาแปลกใจได้เสมอ “แล้วถ้าเป็นผมที่ซื้อให้ คุณจะชอบมันไหม” “คุณจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อ แต่ช่างเถอะค่ะ คืนนี้คุณว่างไหมฉันอยากออกไปดื่มให้ลืมเรื่องราวบ้า ๆ พวกนี้” “เรื่องไหน” “ก็เรื่องที่ฉันต้องแต่งงานกับเฮียตี๋ไง” “คุณแต่งงานกับใครไม่ได้ทั้งนั้นแหละจารวี อย่าลืมสิว่าคุณคือภรรยาของผม” “ฉันไม่ลืมหรอกน่า แค่นี้นะคะเดี๋ยวส่งโลเคชันไปให้” “ครับที่รัก แล้วเจอกันนะเมียจ๋า จุ๊บ!” “คนบ้า!” จารวีถึงกับหน้าแดง เมื่อถูกฌอนหยอดคำหวานมาตามสาย เธอได้แต่บอกตัวเองว่าเขาคือสามีกำมะลอ อย่าคิดพาใจไปเจ็บเด็ดขาด ถ้าไม่อยากร้องไห้ฟูมฟายในวันที่หย่าขาดจากกัน //////บ้านฌอน////// “ใครโทรมาเหรอ คนที่ทำให้ลูกชายของแม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้แบบนี้ แสดงว่าต้องเป็นสาวสวยแน่ ๆ เลยใครกันนะ” ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แน่นอนว่ามารดาของเขาไม่เคยบังคับขู่เข็ญเรื่องของหัวใจ ไม่ว่าชายหนุ่มตกลงปลงใจกับใคร นางก็ไม่เคยคิดที่จะกีดกัน ซึ่งใครหลายคนเคยเข้าใจผิด คิดว่ามารดาของเขาคือพี่สาวของฌอน เพราะการออกกำลังกายสม่ำเสมอดูแลเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างดี จึงทำให้ผู้หญิงอย่างญาดามารดาของฌอน ซึ่งมีอายุอานามห้าสิบห้าปีแล้ว แต่นางกลับสวยสะพรึงราวกับกำลังสี่สิบต้น ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD