///บ้านจารวี///
หลายเดือนผ่านไป สิ่งที่จารวีหวาดกลัวกำลังจะเดินทางมาถึง นั่นคือการถูกคลุมถุงชน เธอไม่รู้สึกยินดีกับตำแหน่งภรรยาของตรีภพ เพราะเรื่องหัวใจยังไงมันก็บังคับกันไม่ได้
“นั่นแกเก็บกระเป๋าจะไปไหนเหรอยัยจา”
“จาลาพักร้อน ตั้งใจจะไปพักผ่อนสักห้าหกวัน แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น”
“แกจะทำตัวลั้นลาแบบนี้ไปถึงไหน รู้ไหมว่าคุณตรีภพเขานัดแกไปดูชุดแต่งงานกี่รอบแล้ว นี่ก็ใกล้จะถึงวันแล้วนะยัยจา”
“จากลับมาจากกระบี่คราวนี้ เดี๋ยวจาไปลองให้นะคะแม่”
“แกพูดแบบนี้ได้ยังไง นั่นมันชุดแต่งงานของแกนะจารวี” ผู้เป็นมารดาเริ่มขึ้นเสียง เมื่อเห็นว่าลูกสาวกำลังเห็นงานแต่งของตัวเองเป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่น
“แม่ค่ะ... แม่ก็รู้ว่าจา...”
“เงียบไปเลยนะ! แกรู้ไหมว่าการเงินของบ้านมีปัญหา ถ้าไม่ได้คุณตรีภพยื่นมือเข้ามาช่วย ป่านนี้พ่อกับแม่คงหมดปัญญาหาเงินไปคืนโรงงานแน่ ๆ”
“แล้วทำไมพ่อกับแม่ไม่ศึกษาการตลาดให้มันดีกว่านี้ค่ะ แต่ละชุดที่พ่อออกแบบสั่งตัด ล้าสมัยเอามาก ๆ พี่ภาก็น่าจะรู้ดี ทำไมไม่รู้จักห้าม มีปากแต่ไม่พูดอมพะนำอยู่ได้”
“แกไม่ต้องมาแขวะพี่เขาเลยนะ ยัยภามีหน้าที่ดูแลเรื่องบัญชีและบริหารจัดการส่งสินค้าตามออร์เดอร์ แกเก่งการออกแบบไม่ใช่เหรอ มาช่วยพ่อสิยัยจา”
“พ่อฟังใครที่ไหนล่ะคะแม่ เรื่องออกแบบเขาคิดว่าตังเองเป็นนัมเบอร์วัน พ่อคงไม่รู้ว่าวงการแฟชั่นได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จนเราตามแทบไม่ทัน ในแต่ละวันมีอะไรใหม่ ๆ ให้ตื่นเต้นอยู่เสมอ แต่พ่อก็ยังคงจมปลักอยู่กับแนวคิดของตัวเอง” จารวีถึงกับแสดงสีหน้าเอือมระอา เมื่อผู้เป็นบิดาทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วตลอดเวลา
“ยังไงคุณตรีภพก็มีบุญคุณกับเรา เขาเพิ่งยื่นมือมาช่วย เงินตั้งสิบล้านไม่ใช่น้อย ๆ เขายังไม่ลังเลเลย”
“พ่อกับแม่ก็เลยจะเอาลูกสาวใส่พานประเคนให้เขาเหรอคะ”
“ยัยจา!” จตุภูมิเดินผ่านมาได้ยินพอดี น้ำเสียงทุ้มของผู้เป็นบิดาตวาดออกมาด้วยความโกรธ
“แล้วมันจริงไหมล่ะคะพ่อ ทำไมจาต้องแต่งงานกับคนที่จาไม่ได้รัก”
“คุณตรีภพคือผู้ชายที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงอย่างแก พ่อกับแม่หวังดีกับแกนะยัยจา”
“หวังดีหรือหวังได้ค่ะ”
เพียะ!
“พ่อ!” จารวีถึงกับน้ำตาร่วง เมื่อบิดาตบหน้าเธออย่างไม่ยั้งมือ ซึ่งเขาเองก็แอบเสียใจที่พลั้งลงมือทำร้ายลูกสาวคนเล็ก
“ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะคุณ ค่อยพูดค่อยจากัน ยัยจาก็เหมือนกัน ทำไมต้องทำให้พ่อโกรธด้วยก็ไม่รู้”
“จาทำอะไรก็ผิด ผิดตั้งแต่เกิดแล้วละค่ะ”
“ถ้าแกคิดว่าตัวเองหาผู้ชายได้ดีกว่าตรีภพแล้วละก็... เชิญ! แต่อย่าคิดนะว่าฉันจะยอมรับไอ้หน้าไหนมาเป็นลูกเขย เพราะถึงยังไง แกก็ต้องแต่งงานกับตรีภพอยู่วันยังค่ำ”
สิ้นเสียงพูดของบิดา จารวีได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดยกกระเป๋าเดินทางขึ้นเหนือพื้น เพื่อเดินออกมาจากบ้านให้เร็วที่สุด หญิงสาวไม่คิดเลยว่าบิดาจะกล้าลงไม้ลงมือ ตบหน้าเธอจนมีรอยแดงเป็นปั้น
ซึ่งมารดาก็ไม่คิดจะปลอบ เธอเป็นลูกนอกไส้หรืออย่างไร ทำไมผู้ให้กำเนิดถึงไม่แคร์ความรู้สึกของเธอเลยสักนิด จารวีปาดน้ำตานองแก้ม เพื่อก้าวเท้าขึ้นรถแท็กซี่ ที่มาจอดรอรับก่อนหน้านี้แล้ว
หลังจากรถแล่นออกมาจากหน้าบ้าน หญิงสาวค่อย ๆ ยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าเบา ๆ โชคดีที่บรัชออนสีพีชช่วยเอาไว้ จึงทำให้จารวีกล้าที่จะเปิดเผยใบหน้าของเธอ
หญิงสาวให้เพื่อนสนิทอย่างมินดาเป็นธุระจัดการทั้งห้องพักและผู้ชายให้ ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ จารวีกำลังคิดการใหญ่ เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากการถูกคลุมถุงชนในครั้งนี้ เธอตัดสินใจทำตามแผนการที่วางเอาไว้
////กระบี่/////
หลังจากนั่งเครื่องแล้วลงเรือมาได้สักพักใหญ่ ๆ จารพีก็เดินทางมาถึงโรงแรมหรูบนเกาะอย่างปลดภัย เธอชักหลงใหลในเสน่ห์ของเกาะแห่งนี้ เพราะนอกจากหาดทรายจะสวยแล้ว น้ำทะเลยังมีสีเขียวมรกตสะกดสายตาจารวี ทำให้เธอลืมเรื่องราวร้าย ๆ ไปชั่วขณะ
หญิงสาวลากกระเป๋าไปเช็คอิน เธอรู้สึกชอบบรรยากาศโดยรวม ถึงแม้จะแพงไปหน่อย แต่มาอ่อยผู้ชายทั้งที จึงทำให้หญิงสาวไม่คิดเสียดายเงิน
เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ทำเอาจารวีถึงกับฉีกยิ้มกว้าง ซึ่งเพื่อนรักก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สรุปแล้วเธอได้ที่พักสุดหรูห้องวีไอพีเสียด้วย แน่นอน... ในเมื่อเธอตั้งใจมาอ่อยผู้ มีหรือที่จารวีจะไม่ทุ่มสุดตัว เอาให้บิดาหน้าแตกไปเลย อยากให้เธอแต่งงานกับตรีภพดีนัก
Rrrr!!! เสียสมาร์ทโฟนเครื่องแพงของเธอดังขึ้น ซึ่งเพื่อนรักได้โทรเข้ามา แน่นอนว่าจารวีกำลังจินตนาการถึงชายหนุ่ม ที่มินดาได้ติดต่อมาให้ ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นใคร ขอแค่เขาโสดเธอก็ยินดี เพราะจารวีเชื่อว่ามินดาต้องคัดผู้ชายแสนดีมาให้เธออย่างแน่นอน
“ยัยจาไปถึงแล้วใช่ไหม”
“อื้ม... ถึงแล้ว”
“เป็นไงห้องสวยไหม”
“ก็สวยดี”
“แกไม่ปลี่ยนใจแน่นะยัยจา” มินดาเริ่มใจคอไม่ดี เพราะเธอกลัวตรีภพจะโกรธจารวี
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครฉันไม่สน ขอแค่เขาโสดและเป็นคนดีก็พอ” จารวีเองก็รู้สึกหวั่นใจ แต่เธอมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับไปแล้ว
“เขาเป็นญาติห่าง ๆ ของฉันเอง ทำงานเป็นอาจารย์สอนอยู่ในระดับอุดมศึกษา แกไม่ต้องห่วงเลยเรื่องนั้นเลยนะ หนอนหนังสืออย่างเขา ทั้งโสดและแสนดี ที่เขายอมตกลงจะช่วยแก ก็เพราะพี่เขาไม่ชอบการถูกคลุมถุงชน”
มินดาเริ่มสาธยายผู้ชายงานดี ที่เต็มใจยื่นมือเข้ามาช่วยจารวี เพราะครั้งหนึ่งเขาเองก็เคยถูกบังคับเฉกเช่นเธอ
“ขอบใจแกมากนะ”
“เที่ยวให้สนุกแล้วอย่าลืมนัดนะ พี่เขาจะไปถึงราวสองทุ่ม ฉันส่งหมายเลขห้องของแกให้พี่เขาแล้ว”
“โอเค... ฉันจะนั่งสวย ๆ รอเขาอยู่นี่แหละ”
“หวังว่าแกคงมีชีวิตที่ดี กับสิ่งที่แกเลือกนะจารวี” พอพูดจบประโยคมินดาก็วางสายไป ปล่อยให้เพื่อนรักนั่งทบทวนในสิ่งที่กำลังตัดสินใจจะทำลงไป แต่พอนึกถึงสิ่งบิดาทีไร จารวีก็อยากเอาชนะเขาขึ้นมาทันที เธอไม่สนว่าวิธีนี้ตัวเองจะเสียเปรียบหรือได้เปรียบ ขอเพียงแค่ไม่ต้องแต่งงานกับตรีภพก็เป็นพอ