"ปั่นฉันว่าผู้หญิงที่ชื่อมิกกี้นี่น่าสงสัยนะ ทำไมอยู่ดีๆเจ๊แขไขถึงอยากเจอผู้หญิงคนนี้ท่าทางเหมือนคลั่งรักอย่างหนักทั้งๆที่เจ๊เขาก็เป็นผู้หญิงเหมือนแก" มนต์ชญาตั้งข้อสันนิษฐาน
"ฉันได้ยินตอนที่เขาพูดว่ามาหาคีตะด้วยนะ" กำปั่นเสริม
"ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าคุณคีตะน่าจะเป็นเป้าหมายของอะไรบางอย่างเพราะตอนแรกวิญญาณตัวนั้นมันตามคุณคีตะ แต่มันตามมาได้ยังไงนี่สิ" มนต์ชญาวิเคราะห์จนคิ้วขมวด
"ลองถามพี่แพรวดูไหมว่ามิกกี้คือใคร" กำปั่นออกความเห็น
"ไงจ๊ะมีอะไรจะถามพี่ นี่แล้วเดี๋ยวพวกเธอไปช่วยกันจัดโต๊ะให้พี่หน่อยนะเดี๋ยวจะมีการสัมภาษณ์คีตะเพิ่มเติมโปรโมตละครนิดหน่อย" แพรวพราวเดินเข้ามาจังหวะได้ยินสองคนพูดถึงเธอ
"พี่แพรวพอจะรู้จักผู้หญิงที่ชื่อมิกกี้ไหมคะ" มนต์ชญามองหน้ากำปั่นแล้วจึงตัดสินใจถาม
"มิกกี้หรือเดี๋ยวนะขอนึกก่อน อืม...มิกกี้...มิกกี้ ก็มีอยู่คนนึงนะเป็นหนึ่งในแฟนคลับตัวยงของคีย์เขาน่ะ แต่จะเป็นมิกกี้คนเดียวกับที่พวกเธอหาอยู่หรือเปล่าไม่แน่ใจ" แพรวพราวทำท่านึกเอานิ้วจิ้มที่คางตัวเอง
"ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ" แพรวพราวถามต่อเมื่อเห็นทั้งสองคนนิ่งไป
"คือ..." ไม่ทันที่มนต์ชญาจะได้พูดอะไร
"กรี๊ดดด" แพรวพราวเห็นอะไรบางอย่างตกใจจนล้มลงไปเอามือปิดหน้า
สิ่งที่เธอเห็นคือผ้าสีดำลอยขึ้นมาเหนือศรีษะของมนต์ชญา เมื่อมนต์ชญาหันกลับไปดูด้านหลังตามสายตาของแพรวพราวที่เบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อสักครู่ก็พบว่า
"จิ๊ดริด จ้อยร่อย ซนจนได้เรื่องแล้วนะ หยุดเลย" มนต์ชญาหันไปดุรักยมตัวน้อยที่พากันซนเอาผ้าคลุมสีดำมาคลุมตัวแล้วก็ลอยขึ้นไปมาอยู่ในห้องทำเอาแพรวพราวผวาเพราะคิดว่าเป็นผีตัวเดิมที่เธอเคยเจอ
"พี่แพรวคะ ไม่มีอะไรแล้วค่ะ" มนต์ชญาเดินเข้าไปหาแล้วปลอบเธอ
"ไปแล้วหรือ" แพรวพราวค่อยกางๆนิ้วมือที่ปิดหน้าออกแล้วลอดสายตามองผ่านซอกนิ้ว
"พี่ว่าที่นี่มีผี" แพรวพราวพูดขึ้น
"พี่แพรวตาฝาดหรือเปล่าคะ" มนต์ชญาแกล้งถามกลับเพราะแพรวพราวเคยไม่เชื่อเธอมาก่อน
"พี่เห็นจริงๆนะมันมีจริงๆ"
"งั้นแปลว่าที่น้ำมนต์เคยบอกพี่แพรวเชื่อน้ำมนต์แล้วใช่ไหมคะ"
"ชะใช่ พี่ขอโทษนะที่เคยไม่เชื่อเธอ" แพรวพราวเสียงอ่อยรู้สึกผิดเมื่อเจอเข้ากับตัวเอง
"นี่คือที่มาที่พวกเราอยากรู้ว่าผู้หญิงที่ชื่อมิกกี้คือใคร" กำปั่นพูดขึ้น
"เท่าที่พี่รู้จักก็มีอยู่คนเดียวนะ แล้วเขามาเกี่ยวอะไรด้วย" แพรวพราวยังคงไม่เข้าใจ
"เพราะตอนน้ำมนต์ไปตามเจ๊แข เจ๊แขมีอาการคลั่งรักอยากเข้าไปหาเขามากเลยนะคะทั้งที่เจ๊แขแกก็เป็นสาว" มนต์ชญาบอกสิ่งที่สงสัย
"แถมวันนี้ยังแต่งตัวแปลกๆจากคุณแม่กลายเป็นคุณพ่อเฉย คิดแล้วขนลุก" กำปั่นพูดพร้อมเบะปากและเอามือลูบแขนตัวเอง
"แล้วตอนนี้เจ๊แขล่ะเป็นไงมั่ง" แพรวพราวนึกขึ้นมาได้
"เจอน้ำมนต์ปลุกเสกของน้ำมนต์เข้าไปก็ฟื้นคืนสติแล้วล่ะครับ แต่เจ๊แกก็งงว่าใครแกล้งเอาเขามาแต่งตัวแบบนี้" กำปั่นอธิบาย
"น้ำมนต์ปลุกเสกของน้ำมนต์หรือ เธอเป็นจอมขมังเวทย์หรือ" แพรวพราวหันไปมองมนต์ชญาตาโต
"โอยไม่ใช่หรอกค่ะพี่แพรวไม่ถึงขนาดนั้น"
"แต่เป็นคนเห็นผี" กำปั่นแทรกขึ้นมาตอบแทน
"งั้นที่น้ำมนต์เคยบอกพี่เรื่องเห็นวิญญาณที่อยู่กับคีย์หมายความว่ามีผีตามคีย์มาหรือ"
"ไอเห็นน่ะเห็นค่ะแต่ว่าต้นสายปลายเหตุว่าทำไมวิญญาณตัวนั้นถึงตามมาอยู่ใกล้ๆคุณคีตะอันนี้ไม่ทราบจริงๆค่ะ"
"จริงสินะ ตั้งแต่วันที่คีย์อาเจียนออกมาแล้วก็ไหนจะนอนหลับไปแต่พี่กลับมองไม่เห็นเขาในห้องแต่งตัวของสตูดิโออีก"
แพรวพราวครุ่นคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับซุปตาร์หนุ่มผู้อยู่ภายใต้การดูแลของเธอหรือเปล่า
"สงสัยพี่คงต้องพาคีย์ไปทำบุญรดน้ำมนต์บ้างแล้วล่ะ"
"ก็ดีนะคะพี่แต่อย่างคุณคีตะจะยอมไปหรือคะ" มนต์ชญาคิดว่าคงชวนไม่ได้ผล
และก็เป็นเป็นอย่างที่มนต์ชญาคาดการณ์
"ไร้สาระน่าพี่แพรว รดน้ำมนต์อะไรกัน" คีตะปฏิเสธเมื่อผู้จัดการสาวชวนไปทำบุญและรดน้ำมนต์
"เถอะน่าคิดเสียว่าไปทำบุญเฉยๆก็ได้"
"ไม่เอาอ่ะ ผมขี้เกียจไป ต้องซ้อมต่อบทละครเรื่องใหม่อีกนะพี่แพรว"
"ดื้อจริงเชียว"แพรวพราวหงุดหงิดบ่นในความดื้อของเขา
......................................