"ว้า...เหลือแค่นี้เองหรือไม่เป็นไรเก็บไว้ให้เจ๊แขแล้วกัน" เมื่อคีตะกลับมาพบว่าเค้กของเขาเหลือแค่เพียงนิดเดียว แต่เขาก็ไม่ใช่คนขี้หวงเนื่องจากได้ของดีๆแบบนี้มาจากแฟนคลับจนแทบจะเหลือกินอยู่แล้ว เพียงเท่านั้นเขาก็ออกไปจัดรายการต่อเลยไม่ได้สนใจอะไรกับเค้กก้อนนั้นอีก
"เจ๊แขๆๆๆ" สาวๆในทีมคอสตูมตะโกนเรียกเจ๊แขที่กำลังนั่งแต่งหน้าให้ดาราและทีมงานที่อยู่ดีๆก็ล้มหงายหลังตึงไปเลย
"ว้ายอะไรกันเจ๊แข เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย เอ้า ฮึบมาช่วยกันหน่อย" แพรวพราวและทีมงานคนอื่นๆที่เป็นผู้ชายก็มาช่วยกันประคองแขไขไปนอนพักที่โซฟาอย่างทุลักทุเลเพราะร่างไซส์XXLของเจ้าหล่อน
"แย่แล้ว!"กระจิ๊ดริด อุทานออกมาแล้วเอามือปิดปาก
"ชู้ววว รีบไปบอกน้ำมนต์เร็ว" กระจ้อยร่อยเอามือมาทำท่าจุ๊ปากบอกให้กระจิ๊ดริดเสียงเบาๆและชวนกันค่อยๆย่องออกไปจากตรงนั้น ทั้งสองไม่ได้กลัวคนเห็นเพราะไม่มีใครเห็นพวกเขาได้อยู่แล้วนอกจากมนต์ชญา แต่ว่าทั้งสองแสบกลัววิญญาณสาวชุดดำจะเห็นมากกว่า
"ไปหาเธอ ไปหาเธอ" เสียงเบาแต่เยือกเย็นเหมือนสายลมเป่าเข้าไปที่หูของแขไข
"มิกกี้!" แขไขกระเด้งตัวขึ้นมาแล้วก็พูดชื่อใครคนหนึ่งขึ้นมา
"อ้า..เจ๊แข หายแล้วใช่ไหม เป็นอะไรไปแต่เช้าเลยไม่ได้กินข้าวหรือ" น้องทีมงานเข้ามาทักเมื่อเห็นหล่อนฟื้น
"ไม่นะฉันก็กินจนอิ่มแต่อยู่ๆทำไมมึนหัวได้ หรือจะกินเยอะไป ว่าแต่เห็นมิกกี้ไหม" แขไขถามกับน้องๆ
"มิกกี้ไหนอ่ะเจ๊ มีไหมใครในทีมเราชื่อมิกกี้" น้องคอสตูมพยายามช่วยแขไขหาคนดังกล่าวแต่ก็ไม่ปรากฎว่ามีใครในที่นี้ชื่อนี้
"เจ๊แข เหลืออีกคนยังไม่ได้แต่งหน้าจ้า ไหวไหม" ทีมงานคนหนึ่งเดินมาเรียก
"เออๆ ได้ๆไหวอยู่ๆ" แขไขไปทำหน้าที่ของเธอต่อแต่ตลอดเวลาที่กำลังแต่งหน้าเธอมีสีหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา
"เป็นอะไรเจ๊แขวันนี้ ทำคิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลา" ปริมดาราและดีเจสาวนางหนึ่งทักหล่อน
"อืม ไม่รู้เป็นอะไร ผมเอ้ย แข คิดถึงแต่คนชื่อมิกกี้ แต่ไม่รู้ว่าใคร" แขไขนอกจากมีอาการแปลกๆแล้วยังมีการเรียกตัวเองแปลกไป
"ใครนะมิกกี้ ปริมก็ไม่เห็นจะคุ้น เจ๊แขฝันหรือเปล่าแล้วจำชื่อติดหูติดตา" ปริมให้ความเห็น
"ไม่นะ เอ๊ะหรือจะฝัน" แขไขสับสนในตัวเองเป็นแบบนี้ไปจนถึงเวลาเลิกงานในตอนเย็น
"น้ำมนนนนนน" สองรักยมลอยไปหามนต์ชญา
"ว่าไงจิ๊ดริดจ้อยร่อยได้เรื่องอะไรไหมวันนี้" มนต์ชญาหันไปถามรักยมที่ยังลอยตัวอยู่
"เจ๊แขอยู่ดีๆก็ฟุบไปสักพักก็ตื่นขึ้นมา แต่ว่าวิญญาณตัวเดิมพูดบอกเจ๊แขไขว่าไปหาเธอ"
"แล้วอาการเจ๊แขเป็นยังไงต่อ"
"ก็ยังไม่มีอะไรแต่ถามหาคนชื่อมิกกี้ แต่ยังไม่ได้ไปไหนนะ"
"มิกกี้หรือ?" มนต์ชญาทวนชื่อตามที่ได้ยินมา
"ปั่นแกเคยได้ยินชื่อนี้ไหม คนที่ทำงานในนี้หรือเปล่า" มนต์ชญาหันไปถามเพื่อนรัก
"ไม่เคยได้ยินนะ จะว่าดารานักร้องก็ไม่คุ้นนะไม่เคยได้ยินใครในนี้เรียกชื่อนี้เลย สต๊าฟก็ไม่มี" กำปั่นพยายามช่วยเพื่อนคิด
..................................
เช้าอีกวันหนึ่งที่บริษัทเดิม
"เจ๊แขยังมาไม่ถึงอีกหรือ วันนี้มีแต่งหน้าให้เฌอแตมนางเอกใหม่ด้วยนะน้องมารอแต่เช้าละ" แพรวพราวบ่นอุบอิบเมื่อต้องมารอช่างแต่งหน้าเพราะว่าเฌอแตมคือดาราสาวคนใหม่ที่ได้มาอยู่ในสังกัดการดูแลของเธอ
"มาแล้วครับ" เสียงทุ้มหนักของชายคนหนึ่งพูดพร้อมเดินเข้ามา
"เจ๊แข!!!" แพรวพราวตะโกนสุดเสียงในรูปลักษณ์ของแขไขที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
"เรียกผมจขรดีกว่าครับ ชื่อเดิมผมฟังคุ้นหูกว่า" แขไขสาวสองร่างใหญ่ที่มีจริตจก้านมารยาสนุกสนาน และมักแต่งตัวบ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ในความรักสวยรักงามของตัวเองมาตั้งแต่เกิด บัดนี้การแต่งตัวเป็นชายทั้งร่างไม่ติดขนตาไม่ทาปากมิหนำซ้ำยังขอให้ทุกคนเรียกตัวเองด้วยชื่อเดิมตามบัตรประชนอีกต่างหาก
"ผีเข้าหรือเจ๊" แพรวพราวอยากจะขำก็ไม่กล้าเท่าไรกลัวว่าจะเสียมารยาทประกอบกับงุนงงเสียมากกว่าว่าเกิดอะไรขึ้น
"อ๋อ หรือเจ๊มีแคสติ้งกับเขาบ้าง" แพรวพราวพยายามจะหาคำตอบ
"ไม่หรอกครับ ผมเป็นตัวของตัวเองวันนี้"แขไขยังทำน้ำเสียงจริงจัง
"โอเคๆแต่งหน้าค่ะคุณขจร" แพรวพราวตามน้ำไปกับหล่อนกลัวว่าจะทำให้ดาราสาวของเธอต้องรอนานไปกว่านี้
"เอ๊ะแล้วช่อดอกไม้ของใครเนี่ย" แพรวพราวเหลือบตาไปเห็นช่อดอกไม้วางอยู่ด้านข้างแขไขจึงจะคว้ามันขึ้นมา
"อย่ายุ่งนะนั่นของผม ผมจะเอามาให้มิกกี้" แขไขมองแพรวพราวด้วยสายตาค้อนจนแพรวพราวหน้าเจื่อนและชักมือกลับ
"ดุมาเชียววันนี้ไปโดนตัวไหนมา" เธอพึมพำ
หลังจากที่แต่งหน้าให้ดาราสาวเสร็จแขไขก็เอาช่อดอกไม้ขึ้นมาถือแล้วไปยืนชะเง้อมองรอใครคนหนึ่งอยู่ด้านหน้าบริษัท
แขไขเดินไปเดินมาเหมือนเสือติดจั่นไม่ยอมกลับเข้าไปข้างในบริษัทเรียกว่าทิ้งงานกันเลยทีเดียว
จนกระทั่งแพรวพราวต้องการให้หล่อนแต่งหน้าเซทผมให้กับคีตะเลยบอกให้มนต์ชญาช่วยไปตามให้หน่อย เธอตามหาอยู่นานก็ไม่เจอจนกระจิ๊ดริดและกระจ้อยร่อยมาบอกว่าแขไขยืนอยู่ด้านนอกเหมือนรอใคร
"เจ๊แข ใช่หรือทำไมวันนี้แต่งตัวแบบนี้" มนต์ชญาเริ่มไม่แน่ใจเมื่อเห็นการแต่งตัว
"กระเทยกลับใจหรือ ไม่นะของแบบนี้ไม่ได้หายกันง่ายๆ"กำปั่นบอก
"ใช่จ้านี่แหล่ะเจ๊แขไขหรือนายขจร" กระจิ๊ดริดกระจ้อยร่อยประสานเสียงพร้อมยิ้มร่า
"เจ๊แข พี่แพรวให้มาตามค่ะ" มนต์ชญาเดินเข้าไปเรียก
"ไม่ผมจะรอมิกกี้" แขไขหันมาบอกเสียงแข็งและทำท่าตั้งตารอเหมือนเดิม
"นั่นไงมิกกี้ มิกกี้" แขไขดีใจกระโดดโลดเต้นรีบวิ่งไปหาหญิงสาวคนหนึ่ง
"มิกกี้ใช่ไหม นี่ครับดอกไม้ ผมรอตั้งนาน" แขไขรีบยื่นช่อดอกไม้ในมือให้สาวคนนั้น
"พี่เป็นใครคะ หนูมาหาพี่คีย์" หญิงสาวนามว่ามิกกี้มองแขไขแบบไม่วางใจไม่กล้าเข้าใกล้
"เดี๋ยวสิผมคิดถึงมิกกี้ทั้งคืน อยากเจอหน้าไม่ไหวแล้ววันนี้ไปทานข้าวกับผมนะครับ" แขไขรุกเร้าต่อ
"ไม่ค่ะ พี่อย่ามาใกล้หนู" หญิงสาวปัดมือของแขไขที่พยายามจะเข้ามาจับตัวเธอออก
"ออกไปๆๆ ช่วยด้วยๆ" หญิงสาวเริ่มพูดดังขึ้นเมื่อแขไขยังก้าวเข้าหาเธอพร้อมวิ่งหนีไป ในขณะที่แขไขกำลังพยายามเข้าหาเธอแบบฉุดไม่อยู่
"เจ๊แข อย่าค่ะกลับไปข้างในเถอะ ปั่นมาช่วยกันหน่อย" มนต์ชญาเข้าไปดึงแขไขแต่ด้วยความที่แขไขร่างอ้วนใหญ่เธอจึงดึงเอาไว้ไม่ไหว
"น้ำมนต์มันอยู่นั่น" รักยมตะโกนบอกน้ำมนต์เมื่อเห็นวิญญาณสาวชุดดำผมยาวลอยอยู่เหนือหัวของแขไข
"มาอีกแล้วหรือ กำปั่นถ่วงเวลาไว้ก่อนนะ" มนต์ชญารีบกลับเข้าไปเอาน้ำมนต์ออกมา
"จิ๊ดริดจ้อยร่อยช่วยอ้าปากเจ๊แขหน่อย" มนต์ชญาบอกรักยมน้อย
"ได้เลย ฮึบๆๆ" รักยมสองตนช่วยกันเอามือเล็กๆง้างปากของแขไข
เมื่อปากถูกง้างขึ้นมนต์ชญาก็กรอกน้ำมนต์เข้าปากหล่อนทันที
"กรี๊ดดดด" วิญญาณร่างดำปลิวลอยหายไปพร้อมเสียงแสบแก้วหู
"เจ๊แข เป็นไงบ้าง เจ๊แข" กำปั่นเอามือตบหน้าแขไขเบาๆช่วยเรียกสติ
"โอยยย อ้าวนังหนูมาทำอะไรกันตรงนี้ อ้าวแล้วนี่ ว้าย!ใครเอาชุดอะไรมาใส่ให้ฉันเนี่ย ตายแล้ว" แขไขตกใจเมื่อก้มลงมองดูเห็นเสื้อผ้าตัวเอง
"คือเจ๊แขคะ พี่แพรวให้มาตามเจ๊เข้าไปแต่งหน้าทำผมให้คุณคีตะหน่อยค่ะ" มนต์ชญาไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
"คีตะ ว้ายใช่ฉันต้องรีบไปทำงานต่อ" แขไขลุกลี้ลุกลนเดินเข้าไปในบริษัทท่าทางกรีดรายจีบมือ
"กลับมาเป็นเจ๊แขคนเดิมแล้วสินะ เล่นเอาเหนื่อย" มนต์ชญาทั้งหอบทั้งถอนหายใจ
...............................
"ยังไงอีแก้วตา โดนไล่มาอีกแล้วใครวะกล้ามาต่อกรกับข้า" ชายชุดดำพูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา
"อะไรนะ เด็กผู้หญิง มันไม่ธรรมดาเสียแล้ว" ดวงวิญญาณชุดดำสื่อสารกับเขาโดยไม่ต้องออกเสียง
............................