ในงานคอนเสิร์ต

1299 Words
"ฉันขอเติมของเพิ่มนะครั้งก่อนคีตะไม่ได้กินเค้กที่ฉันส่งไปให้ คราวนี้ฉันจะส่งไปใหม่" เสียงคนโทรมาสั่งให้ชายชุดดำทำอะไรบางอย่างให้ โดยมีจุดประสงค์พุ่งเป้าไปที่คีตะ "ได้ คราวนี้อย่าให้พลาดอีกล่ะ อ่อเหมือนมีคนคอยช่วยไอ้หนุ่มนั่นอยู่นะ นังแก้วตาของข้าเข้าไม่ถึงมันเสียที" "ใคร" "ข้าไม่รู้ แต่มันไม่ธรรมดา ถ้ามันไล่นังแก้วตาของข้าได้แสดงว่ามันมองเห็นนังแก้วตา"ชายชุดดำอธิบาย "ไว้ฉันจะสืบดูอีกที" พูดเพียงเท่านี้คนที่โทรมาหาชายชุดดำก็วางสายลง ส่วนชายชุดดำก็นั่งบริกรรมคาถาต่อในท่านั่งสมาธิและมือนับลูกประคำไปด้วย ............................. "กลับมานอนหง่าวกันแล้วแกทีนี้ เงินยังเก็บไม่พอค่าเทอมเลย" กำปั่นบ่นขณะนั่งรถเมล์กลับหอพักกัน "งั้นเราประหยัดย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันเถอะ"มนต์ชญาชวนเพื่อน "จะดีหรือ" "ไม่เห็นเป็นไรเลยแกเป็นผู้หญิงนะ" "แต่พ่อแกไม่รู้นะ ฉันเกรงใจ" "ไม่เป็นอะไรหรอกพ่อไม่รู้ไม่เห็นเสียหน่อย ถึงรู้พ่อบุญล้อมของฉันก็ต้องเข้าใจ" "โอเค เดี๋ยวแจ้งเจ้าของหอล่วงหน้าแล้วฉันจะย้ายลงมาอยู่กับแก" กำปั่นยิ้มอ่อนให้เพื่อน "ฉันขอโทษที่ทำให้แกพลอยไม่มีงานทำไปด้วย" คราวนี้มนต์ชญาเป็นฝ่ายเสียงอ่อนบ้าง "ช่างมันเถอะเรามันเลือดสุพรรณไปด้วยกันกลับด้วยกัน งานพาร์ทไทม์หาไม่ยากหรอกอะไรฉันก็ทำได้" กำปั่นตบไหล่เพื่อนเบาๆ "ไปแกกลับหอแล้ววันย้ายฉันจะไปช่วยแกขนของ" หลังจากที่ถึงหน้าหอพักแล้วมนต์ชญากล่าวลาเพื่อแยกย้ายห้องใครห้องมัน .......................................... ในวันงาน คอนเสิร์ตถูกจัดขึ้นในฮอลล์ขนาดใหญ่ความจุได้หลายพันคนสมกับระดับซุปเปอร์สตาร์ดังอย่างคีตะ บัตรทุกที่ถูกจองจนเต็มไม่มีเหลือ "ทานเยอะๆนะคะพี่คีย์ เป็นกำลังใจให้ก่อนขึ้นคอนเสิร์ตค่ะ" เค้กช็อคโกแลตก้อนใหม่ถูกส่งมาให้คีตะถึงงานคอนเสิร์ตก่อนเวลาที่ต้องขึ้นเวที "มีคนเอามาให้ครับ มาฝากไว้แล้วก็ไป" ทีมงานเดินถือถุงกระดาษหรูจากร้านเดิมที่มีกล่องเค้กบรรจุอยู่ข้างในเข้ามาให้ ตอนนั้นแพรวพราวไม่อยู่เพราะกำลังง่วนอยู่กับการจัดการต่างๆภายในงาน "ขอบคุณครับ สงสัยจะมิกกี้เจ้าเดิม" คีตะรู้ว่าใครส่งมาเพราะเคยคุยกันไว้ "มา คราวนี้จะไม่ให้เจ้าของเสียน้ำใจสักชิ้นสองชิ้นก่อนขึ้นเวที" คีตะยิ้มเพราะเขาชอบทานเค้กร้านนี้มากโดยเฉพาะเค้กช็อคโกแลต "ไปหามิกกี้..............." เสียงเย็นเสียงหนึ่งลอยเข้าหูของคีตะหลังจากที่เขาได้ทานเค้กเข้าไป "เป็นอะไรนะรู้สึกง่วงๆ" คีตะสะบัดหัวไล่ความง่วงและขอกาแฟจากทีมงาน ......................................... แพรวพราวสังเกตุว่าในระหว่างที่คีตะกำลังร้องเพลงอยู่บนเวทีนั้น เขาเดินเข้ามายื่นมือให้แฟนคลับที่ชื่อมิกกี้จับบ่อยมากเป็นพิเศษ คอยมองมาทางเธออยู่คนเดียว จะว่าเป็นเพราะมิกกี้เป็นแฟนคลับเบอร์ต้นๆก็อาจจะใช่แต่คนอื่นๆที่เปย์มากกว่ามิกกี้ไม่เห็นคีตะจะเข้าไปหาหรือให้ความสนใจเป็นพิเศษเท่าเธอคนนี้เลย ทั้งที่ปกติคนที่เขาสนิทมากกว่ามิกกี้ก็มี จนจบคอนเสิร์ตคีตะเหมือนจะยังไม่ยอมจบกับแฟนคลับคนนี้ ซึ่งแพรวพราวกลัวภาพลักษณ์ของเขาเสียหายจึงห้ามกันสุดตัว ถึงขั้นที่คีตะพูดเสียงดังหงุดหงิดใส่ซึ่งเขาไม่เคยทำมาก่อน "อย่ามายุ่งกับผม!" "นี่คีย์ไม่เคยตะคอกใส่พี่เลยนะ" แพรวพราวตกใจในท่าทางที่เขาทำหลังจากที่เธอห้ามไม่ให้ไปไหนมาไหนกับมิกกี้ตามลำพังสองต่อสอง "ผม...ขอโทษแต่ผมจะไป" เขาเหมือนคนสองบุคลิกในเวลาเดียวกันเหมือนจะรู้ตัวแต่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้ "เป็นตายยังไงพี่ก็ไม่ให้คีย์ไป กลับบ้านกับพี่ ขอโทษนะคะน้องมิกกี้พี่คงให้คีย์ไปกับน้องไม่ได้เพราะว่าช่วงนี้ผู้ใหญ่คุมเข้มหนักเพื่อเตรียมตัวเล่นละครคู่กับนางเอกตัวท็อปของวงการจ้ะไม่อยากให้มีเรื่องเสียหายเดี๋ยวละครจะขายไม่ออก" แพรวพราวสั่งคีตะเสียงจริงจังและหันไปพูดกับมิกกี้ด้วยคำพูดกึ่งจริงกึ่งกระแทกแดกดัน คีตะมองตามมิกกี้ตาละห้อยเพราะว่าแพรวพราวเรียกสต๊าฟเข้ามาช่วยดึงคีตะขึ้นรถไปกับเธอ "มิกกี้จะโทรหานะคะ" เธอท้าทายด้วยการหยอดคำพูดและโบกมือให้เขาต่อหน้าแพรวพราว .............................. "โอ้ย ใครเนี่ยมาตัดหน้ารถ" "ปิ๊นๆๆๆๆ บ้าจริงเชียวจะเดินจะข้ามถนนไม่ดูตาม้าตาเรือ" แพรวพราวบีบแตรไล่เมื่อมีใครบางคนในชุดดำวิ่งตัดหน้ารถเธออย่างรวดเร็วระหว่างที่เธอกำลังเลี้ยวเข้าซอยบ้านคีตะ "เข้าบ้านแล้วไม่ต้องแอบออกไปนะคีย์ พรุ่งนี้มีฟิตติ้ง" แพรวพราวไปส่งเขาถึงหน้าบ้านพร้อมปิดประตูให้เรียบร้อย "ตุ๊บ!" เสียงวัตถุก้อนใหญ่ร่วงลงบนหลังคารถเธอ เมื่อเธอขับรถออกมาจากบ้านคีตะได้สักพักแต่ยังอยู่บนถนนในซอยอยุ่ "ว๊ายยยยยกรี๊ดดดด" แพรวพราวร้องเสียงหลงใจเต้นระรัวเมื่อมีร่างดำทะมึนห้อยหัวลงมาเกาะที่กระจกหน้ารถเธอ ใบหน้าของมันแสยะยิ้มเผยให้เห็นฟันดำทั่วทั้งปาก รวมไปถึงริมฝีปากที่ดูดำด้านและหยาบกร้านแตกระแหงเหมือนดินที่แล้งน้ำมานาน แพรวพราวเบรคกระทันหันขับรถไปต่อไม่ถูกได้แต่ตกใจกลัวเอามือปิดตาตัวเอง นานอยู่สักพักจนกระทั่ง "ปิ๊นนนน" เสียงรถคันหลังบีบแตรยาวไล่เธอพร้อมเปิดกระจกลงมาด่า "ซื้อถนนไว้ใช้จอดรถหรือคุณ จอดขวางทางไม่เผื่อแผ่ชาวบ้านเลย" เมื่อด่าระบายความโกรธได้รถคันดังกล่าวก็แซงหน้าขับหนีไปอย่างรวดเร็ว แพรวพราวไม่ทันได้รู้สึกโกรธแต่รู้สึกสับสนมากกว่าว่าเมื่อสักครู่เธอเจอตัวอะไร อันที่จริงต้องขอบคุณรถคันนั้นที่ทำให้เธอได้สติและดูเหมือนว่าจะช่วยไล่ภาพอันน่าสยดสยองต่อหน้าเธอให้อันตรธานหายไปโดยอัตโนมัติ "น้ำมนต์!"คนเดียวที่เธอนึกถึงในเวลานี้ "ฮัดชิ้ววว" น้ำมนต์จาม "ใครคิดถึงน้ำมนต์น๊า" กระจิ๊ดริด และกระจ้อยร่อย โผล่มาทางด้านหลังของมนต์ชญาโน้มตัวลงแล้วแหงนหน้ามาหาเธอแกล้งทักทาย "ใครจะคิดถึง โดนด่าถึงล่ะไม่ว่า" น้ำมนต์ไม่คิดว่าจะมีใครคิดถึงเธอนอกจากพ่อบญล้อม "จริงสิ พ่อบุญล้อมเป็นยังไงบ้างนะ ไม่ได้โทรหานานเลย" "พ่อสบายดีจ้ะ พวกเราไปหาพ่อในสมาธิบ่อย" สองรักยมรายงาน "มิน่าล่ะ ถึงไม่ค่อยโทรมาเพราะมีสายรายงานความเคลื่อนไหวแล้วนี่เอง" "นี่ถ้ายังหางานพิเศษที่ใหม่ไม่ได้น้ำมนต์ว่าปิดเทอมนี้จะกลับไปหาพ่อเสียหน่อย คิดถึงหลวงปู่บัวกับแม่ตานีด้วย" "เย้ๆๆๆ กลับไปเล่นกัน" สองรักยมน้อยเห็นดีเห็นงามดีใจที่จะได้กลับไปวิ่งเล่นที่กว้างๆอีกครั้งกับเหล่าวิญญาณที่คุ้นเคย ......................................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD