ได้เวลาเริ่มงาน

2149 Words
เมื่อถึงเวลานัดหมายมนต์ชญาก็มานั่งรอกำปั่นเพื่อเดินทางไปขึ้นรถด้วยกัน "พ่อจ๋าไม่ต้องไปส่งก็ได้อยู่ทำงานไปเถอะ แดดมันร้อนเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งเอา ขนส่งอยู่ไม่ไกลน้ำมนต์ไปได้สบายมาก" มนต์ชญาเป็นห่วงพ่อ "เอ็งนี่เห็นข้าแก่มากนักหรือไง" บุญล้อมทำท่างอนลูกสาว "โอ๋ๆๆน๊า นั่นกำปั่นมาแล้ว น้ำมนต์ไปแล้วนะจ๊ะเดี๋ยวจะโทรมาหาอย่าลืมชาร์ทแบตไว้ด้วยล่ะ" น้ำมนต์ทำท่าสั่งผู้เป็นพ่อเพราะรู้ว่าเขาทำงานจนชอบลืม มนต์ชญาวิ่งไปหาเพื่อนที่กำลังเดินมาเหมือนเป็นเด็กที่อยู่ในวัยทะโมน "รอพวกเราด้วยจ๊ะน้องน้ำมนต์ บ๊ายบายนะพ่อ" สองรักยมตะโกนเรียกน้ำมนต์พร้อมหันมาโบกไม้โบกมือให้บุญล้อมแล้วลอยตามไป .................................................................................................................................. "นี่ปั่นฉันว่าจะไปทำงานพิเศษช่วงปิดเทอมแล้วก็ทำเป็นพาร์ทไทม์วันที่ไม่มีเรียน แกอยากไปทำด้วยกันไหม พอดีพี่เขาเคยถามมาว่ามีเพื่อนแนะนำอีกไหมยังขาดคนอยู่" มนต์ชญาชวนเพื่อนรักระหว่างนั่งรถทัวร์เข้ากรุงเทพด้วยกัน "ที่ไหนยังไงว่ามาถ้าได้เงินยังไงก็สน" กำปั่นพร้อมลุยขอแค่ได้เงิน "เป็นทีมงานคอยดูแลศิลปิน" "เฮ้ย ถามจริงได้งานดีขนาดนั้นเลยหรือ" กำปั่นสงสัยว่าจะได้งานดูแลศิลปินเลยหรือ "ฉันพูดให้ดูดีไปอย่างนั้นและที่จริงก็เด็กยกของเก็บของน่ะแล้วแต่เขาจะใช้เพียงแต่ว่าเราทำงานในกองถ่ายหรือเป็นทีมงานเวลาจัดเตรียมสถานที่ให้ดารานักร้องนักแสดงพวกนี้ " มนต์ชญาสาธยาย "โธ่พูดซะสวยหรูแล้วได้เงินดีป่าวล่ะ" "ก็ค่าจ้างรายวัน 300 - 400 บาทมีโอทีนะถ้าต้องอยู่ดึก" "ทำสิ แกทำฉันก็ทำ" กำปั่นตกลงด้วย "พวกเราก็ทำด้วย" เสียงสองรักยมเกาะเบาะที่นั่งแล้วโผล่หัวขึ้นมาประสานเสียงกัน "เขาไม่รับเด็กจ้ะ" มนต์ชญาแลบลิ้นให้ "ไม่เด็กนะที่จริงพี่เกิดก่อนน้ำมนต์ตั้งหลายสิบปี" กระจิ๊ดริดบอกเสียงใสไร้เดียวสา "นี่ถ้าน้ำมนต์พาจิ๊ดริดกับจ้อยร่อยไปทำงานด้วยห้ามซนนะบอกไว้ก่อน" เธอหันหน้าไปทำท่าทางเหมือนคุณครูสั่งเด็กอนุบาล หลังจากที่คุยเล่นกันไปเพลินๆ ทั้งคู่ก็หลับไปจนถึงสถานีขนส่งกรุงเทพ เพื่อนสองคนพากันนั่งรถไฟฟ้าแล้วเดินต่อเข้าซอยตรงไปยังหอพักกำปั่นและมนต์ชญาอยู่หอเดียวกันซึ่งเป็นหอนอกชายหญิงแต่คนละห้องคนละชั้น "นี่ปั่นพรุ่งนี้เริ่มงานนะ เดี๋ยวไปด้วยกันเลยถ้าพี่เขาตกลงรับแกด้วยก็ทำด้วยกันเลย" มนต์ชญาบอกเพื่อนก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้าห้องตัวเอง "ได้ยังไม่มีเรียนพอดี แล้วเจอกัน" "เฮ้ออออ เหนื่อยจังเลยเดินทางแต่ละที" มนต์ชญาพูดพร้อมกระโจนลงเตียงนอนเอาหน้าฟุบลงที่หมอน "น้ำมนต์ไม่อาบน้ำหรือ" เสียงสองรักยมมาดึงตัวเธอ "ไม่อ่ะ นอนละ" เธอตอบทั้งที่ไม่ลืมตา "ข้าวก็ไม่กิน น้ำก็ไม่อาบ เฮ้อ มนุษย์" กระจิ๊ดริดกะจ้อยร่อยส่ายหน้าระอาใจ ..................................................................................................................................... วันนี้มนต์ชญาพากำปั่นเพื่อนสนิทมายังสถานที่ทำงานและตรงเข้าไปติดต่อถามหาฝ่ายบุคคลที่รับตนเข้าทำงาน "สวัสดีค่ะพี่หนูมนต์ชญาที่มาเริ่มงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ค่ะ" เธอแนะนำตัว "อ่อ โอเคแล้วอีกคนล่ะคะทำด้วยกันหรือเปล่า" ฝ่ายบุคคลถาม "พอดีพี่คนที่เขาเป็นคนรับหนูเขาถามว่ามีเพื่อนด้วยไหมทีมงานยังขาดคนอยู่หนูก็เลยพามาด้วยค่ะเผื่อพี่เขาสนใจรับเลย" "นี่เด็กฝึกงานหรือพี่ต้องการคนน่ะขอพี่ก่อนได้ไหมสองคนเลย" แพรวพราวผู้จัดการส่วนตัวศิลปินคนดังเดินมาหาฝ่ายบุคคลที่กำลังคุยกับวัยรุ่นทั้งสองคนอยู่ "อ้าวพี่แพรว พอดีจะให้น้องไปอยู่ทีมช่วยยกของของพี่น้ำค่ะ" ฝ่ายบุคคลอธิบาย "พี่ขอด่วน คีตะกำลังจะมีงานคอนเสิร์ตทั้งงานสัมภาษณ์รายการออกกองละคร เต็มไปหมดเลย แล้วเด็กมันลากันกะทันหันพี่ไม่มีเด็กไปช่วยเลย ไหนจะบรรดาแฟนคลับงานมีตติ้งอีกไม่งั้นวุ่นน่าดู" แพรวพราวบ่นๆ "ได้ค่ะพี่ ให้พี่ไปก่อนก็ได้ งั้นเธอสองคนไปกรอกเอกสารเพิ่มเติมเสร็จแล้วก็เดินตามพี่แพรวไปเลยนะจ๊ะ งานก็แล้วแต่พี่แพรวเขาจะสั่งเลย" ฝ่ายบุคคลตอบรับแพรวพราวแล้วก็หันไปสั่งเด็กทั้งสองคน "ไปกำปั่นฟลุ๊คนะแกได้งานเลย" มนต์ชญาดีใจที่เพื่อนได้งาน "ฉันได้ยินว่าไปทำงานกับทีมของคีตะหรือ โคตรโชคดีเลยอ่ะ ได้ใกล้ชิดศิลปินดังขนาดนี้ทำฟรีก็ยอม" กำปั่นพูดด้วยความดีใจ "นั่นน่ะสิ นี่ถ้าเราจะขอถ่ายรูปกับเขา เขาจะถ่ายด้วยไหมนะ" เธออดตื่นเต้นตามไปด้วยไม่ได้ คีตะ นักร้อง นักแสดงหนุ่มรูปหล่อ ขวัญใจวัยรุ่นทั้งหลาย เขาเป็นที่ชื่นชมของสาวจริงและสาวเทียมทั้งประเทศ ด้วยใบหน้าคมเข้ม ผิวขาวใส จมูกโด่งได้รูปแถมมีลักยิ้มที่ยิ้มทีแทบจะทำใครต่อใครละลายไปต่อหน้า รูปร่างสูงถึง 180 เซนติเมตร เสียงดีร้องเพลงไพเราะและฝีมือการแสดงก็ไม่ธรรมดา ได้รับรางวัลนักแสดงนำและนักแสดงดาวรุ่งมาจนรางวัลเต็มตู้ไปหมด แฟนคลับเองก็มีจำนวนคับคั่งไปไหนมาไหนมีแต่คนห้อมล้อมอยากเข้าถึงตัวเขา จนเป็นที่น่าหนักใจของแพรวพราว ผู้จัดการส่วนตัวที่ต้องมาคอยแก้ปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน มนต์ชญาเองและกำปั่นก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับของเขาเช่นเดียวกัน "มา ตามพี่มานี่ พี่จะบอกงานคร่าวๆให้เธอสองคนฟัง ก่อนอื่นขอแนะนำตัวอีกครั้งนะจ๊ะ พี่แพรวพราวเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคีตะ ส่วนคีตะคงไม่ต้องบอกนะว่าเป็นใคร" แพรวพราวยิ้ม "แล้วน้องสองคนล่ะแนะนำตัวเองหน่อย" แพรวพราวถามบ้าง "หนูชื่อมนต์ชญาค่ะ เรียกน้ำมนต์ก็ได้ค่ะ" "ผมกำปั่นครับ" "โอเคจ้ะ ทีนี้งานของเธอสองคนคือเวลามีงานคอนเสิร์ตหรืออีเว้นท์ที่ไหนก็ต้องคอยเป็นลูกมือพี่ๆทีมงานหลักในการส่งของจัดของแล้วก็ยกของ อื่นๆก็แล้วแต่พี่ๆจะเรียกใช้ก็ช่วยๆไปตามกำลังของเราและหน้างาน เช่น เตรียมน้ำดื่มของว่าง อาหารให้ศิลปินทีมงาน ประมาณนี้ เวลางานไม่แน่นอนดังนั้นพวกหนูต้องจัดตารางวันเรียนกับวันรับงานกันเองนะจ๊ะ" แพรวพราวอธิบายยาว "ไม่มีปัญหาค่ะ พวกเราทำได้" มนต์ชญายิ้มรับ "ดีมากจ๊ะ งั้นวันนี้ไปเรียนรู้งานเบื้องต้นดูสถานที่ก่อน จะได้คล่องไม่เก้กังเวลาพี่ทีมงานเรียกใช้" แพรวพราวเป็นคนที่คล่องตัวสมกับเป็นผู้จัดการศิลปิน "พี่แพรวผมขอดูลำดับคิวการขึ้นเวทีหน่อยครับ เผื่อมีอยากปรับเปลี่ยนตรงไหน" คีตะเดินมาพอดีและหยุดคุยกับผู้จัดการสาว "อ่อได้จ้ะ" แพรวพราวหันไปหยิบกระดาษงานคิวแล้วหันไปคุยกับคีตะ "ว้าววว งุ้ยยยย ตัวจริงหล่อมากฉันอยากกรี๊ดอ่ะแก" มนต์ชญาหันมาทำหน้าเขินกับเพื่อนรัก "จริงด้วยโคตรเท่ห์ นี่คือไอดอลฉันเลยนะแก" กำปั่นก็เป็นไปกับเธอด้วย เมื่อคุยงานกันเสร็จคีตะก็เดินผ่านทั้งสองคนไปด้วยใบหน้านิ่งเชิดรักษาหมาดทั้งมนต์ชญาและกำปั่นจึงทำได้แค่มองตามแบบเหลียวหลังด้วยความชื่นชมยากจะหาอะไร เปรียบ แต่มองตามได้สักพักมนต์ชญาก็ต้องเอามือขยี้ตาตัวเองว่าสิ่งที่เห็นมันเป็นเพียงแค่ตาฝาดหรือเปล่า "สงสัยจะตาฝาด" "เป็นอะไรน้ำมนต์" กำปั่นถามเมือเห็นท่าทางเธอมองตามคีตะแบบไม่วางตา "ฉันน่าจะตาฝาดน่ะ" เธอตอบเพราะไม่แน่ใจ สิ่งที่มนต์ชญาเห็นมันเป็นเงาสีดำที่คืบคลานตามคีตะไป ลักษณะเป็นเงาที่ไม่มีรุูปร่างเป็นกลุ่มควันสีดำทมึนสูงเกินศรีษะของคีตะ คล้ายว่าจะกลืนร่างเขาแต่ก็ไม่เชิงมันคลุมอยู่ทั่วบริเวณรอบๆตัวเขา "ไปเถอะไปทำงานกันเดี๋ยวจะโดนดุเอา"มนต์ชญาชวนกำปั่นไปทำงานตามที่ได้รับบรีฟจากแพรวพราว ................................................................................................................................. "คีย์ พี่ว่าเราดูเหนื่อยๆนะ พักผ่อนน้อยหรือเปล่าช่วงนี้" ผู้จัดการสาวรุ่นพี่ทักเขาเมื่อเดินมาที่ห้องพักศิลปิน "ผมก็นอนพักตามปกติของเวลาที่มีนะครับพี่ ถ้าจะว่านอนน้อยก็มีบ้างวันที่ถ่ายละครยันสว่าง แต่วันรุ่งขึ้นผมก็ไม่ได้มีคิวถ่ายผมก็นอนพักอยู่นะ ผมดูโทรมขนาดนั้นเลยหรือครับ " คีตะไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติของตัวเอง "ก็ยังไม่ถึงกับโทรมหรอกแต่ดูไม่ค่อยสดชื่นน่ะ วันไหนไม่ไหวจริงๆก็บอกนะ ถ้ามีคิวพอเลื่อนได้พี่จะเลื่อนให้ เอาสุขภาพเราไว้ด้วย" แพรวพราวพูดพร้อมแตะที่ไหล่เขาด้วย ความเป็นห่วง "ขอบคุณครับพี่ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องเร่งปิดกองคงต้องฝืนๆกันไปก่อนครับ" "งั้นพี่ขอตัวไปดูงานด้านนอกก่อนนะแล้วเดี๋ยวเรามาไล่ดูคิวงานกันต่อ" "ครับ" "เออ พี่ลืมบอก มีแฟนคลับมาฝากของให้น่ะตั้งแต่เช้าแล้วพี่ลืมเอามาให้" แพรวพราวพูดพร้อมยื่นถุงกระดาษให้เขา "แฟนคลับพวกนี้เขาก็น่ารักดีนะครับตามดูแลสนับสนุนผมตลอด โดยเฉพาะของกินผมใกล้จะบวมตัวแตกแล้ว" คีตะพูดไปพร้อมยิ้มไป "ฮืมมมม" เสียงคำรามเบาๆลอยตามลมมา "สร้อยคอ สวยดีแฮะ" เขาหยิบกล่องซึ่งอยู่ในถุงกระดาษนั้นแกะออกมาดูก็พบว่าเป็นสร้อยคอและร็อคเก็ตทรงรีที่เปิดมาก็มีรูปของเขาอยู่ด้านใน เขายังไม่ได้ใส่มัน เก็บใส่กล่องและไว้ในถุงกระดาษตามเดิม "เคร้งงงงง" เสียงของหล่นกลิ้งลงมาจากโต๊ะ "อะไรหล่นน่ะพี่แพรว แก่แล้วซุ่มซ่ามนะ" คีตะแกล้งแซวแพรวพราวแต่ไม่มีเสียงตอบ "พี่แพรว พี่แพรว" เขาเรียกสองครั้งเมื่อไม่มีเสียงตอบจึงหันหน้าไปดู "อ้าว ไม่อยู่แล้วหรือ" เขาหันกลับมาอ่านเอกสารในมือต่อแบบไม่ได้ใส่ใจ ................................................................................................................................ จนถึงเวลาเย็น "พี่แพรวคะ ถ้าวันนี้ไม่มีงานอะไรแล้วน้ำมนต์กับเพื่อนขอตัวกลับก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้พวกเรามาใหม่ค่ะ" มนต์ชญาแจ้งขอตัวกับแพรวพราว "ได้จ้ะ" แพรวพราวตอบกลับพร้อมจับต้นคอ "ชู้วววว! ลงมาเดี๋ยวนี้" มนต์ชญาทำเสียงเอ็ดสองรักยมที่กำลังเกาะคอเกาะขาแพรวพราว "ว่าอะไรนะจ๊ะ" แพรวพราวหันมาถามแต่มือก็ยังจับที่ต้นคอเหมือนเหมื่อยมากและขาก็ขยับไม่ได้ข้างหนึ่ง "มะ มะไม่มีอะไรค่ะพี่พอดีน้ำมนต์พูดกับกำปั่นค่ะ" มนต์ชญาแถไป ใครจะกล้าบอกความจริงว่าสองตัวแสบแสนซนกำลังเล่นสนุกที่คอเธออยู่ "กะจิ๊ดริด กะจ้อยร่อย ถ้าไม่มางดขนมนะวันนี้" มนต์ชญาพูดแบบกัดฟันไม่อยากออกเสียงดัง พอได้ยินว่าจะต้องอดขนมสองรักยมก็รีบเงยหน้ามองมาที่มนต์ชญาและทำตามคำสั่งทันที "ก็ได้ๆ กำลังสนุก พี่คนสวยตัวห๊อมหอม" "ไปนะคะ สวัสดีค่ะ" มนต์ชญาสะกิดกำปั่นให้เดินกลับด้วยน้ำเสียงมีพิรุธ "จ้ะๆ สวัสดีจ้ะ เอทำไม่เมื่อกี้ปวดคอ ขาก็ขยับไม่ได้เมื่อคืนไม่ได้นอนตกหมอนนะ แล้วขาอยู่ดีๆก็เป็นเหน็บชา" แพรวพราวเดินไปพร้อมพูดคนเดียวด้วยความงุนงงว่าเธอเป็น อะไร "จิ๊ดริดจ้อยร่อย!" เมื่อเดินออกมาด้านหน้าอาคาร มนต์ชญาก็กอดอกเรียกสองแสบทันที "จ๋าาาาาา" สองรักยมประสานเสียง "ถ้ามาแล้วซนอีก น้ำมนต์จะไม่ให้มาด้วยแล้วนะ" มนต์ชญาคาดโทษ "จ้า แต่ล้อเล่นนิดเดียวเอง อย่าโกรธน๊าาาา นะๆๆ" สองแสบตัวจิ๋วเขย่าแขนเธอออดอ้อน "ไป กลับบ้านกัน เดี๋ยวไม่ให้กินขนมซะเลยนี่" เธอยังคงเดินบ่นไปตามทาง ......................................................................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD