บทที่ 6

1220 Words
ท้องฟ้าในยามราตรีมืดมิดไร้แสงจันทร์สาดส่อง ลมเย็นอ่อนๆ พัดพากินหอมเย็นของดอกราตรีเข้ามาปะทะจมูก ขณะที่ทุกคนในบ้านกำลังหลับสบายกับอากาศอันแสนอบอุ่น ร่างสูงใหญ่กำยำหล่อเหลาดังบุรุษกรีกโบราณเปิดประตูห้องออกกว้างในมือมีเป้สนามใบใหญ่พร้อมสำหรับการเดินทาง สารวัตรปวรุตม์เดินผ่านหน้าห้องนอนของน้องสาว ช่างใจอยู่นิดหนึ่งก่อนจะเคาะประตูเรียกคนข้างใน เขาอยากให้น้องสาวกับน้องเขยออกมาส่ง วันนี้เขาต้องเดินทางไปจังหวัดเลย ก่อนจะไปก็อยากจะให้น้องสาวน้องเขยออกมาอวยพรหรือพูดคุยกันนิดหน่อย ปวรุตม์เคาะประตูห้องอยู่ประมาณ 5 นาทีคนในห้องก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นมาเปิดประตู “ไอ้พัน! มึงจะนอนไปถึงไหนวะ ไหนว่าเป็นคนหูไวนอนตื่นไว กูเคาะประตูจนมือจะหักแล้วยังไม่ตื่นอีก” ปวรุตม์บ่นอย่างหัวเสีย เดินกระแทกส้นเท้าลงมาด้านล่างแล้วตรงดิ่งไปยังรถแลนด์โรเวอร์ พ.ต.ต.พันธวุธกับขวัญชนกยืนอยู่ใกล้ๆ รถแลนด์โรเวอร์สบตากันแล้วแอบยิ้มขำเมื่อได้ยินเสียงบ่นเป็นหมีกินผึ้งของคนตัวใหญ่ที่กำลังเดินมาที่รถ “บ่นอะไรแต่เช้า” พันธวุธยืนพิงรถด้วยท่าสบายๆ พลางเลิกคิ้วถามคนที่กำลังบ่นกระปอดกระแปด สารวัตรปวรุตม์เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาคมกริบเปล่งประกายดีใจให้เห็น มุมปากกระตุกรอยยิ้มเมื่อได้ยินเสียงของคู่กัด “ยุ่งอะไรด้วย แล้วมึงพาเมียมายืนตากน้ำค้างทำไมไม่รู้จักไปหลับไปนอน” ปวรุตม์แกล้งทำหน้าบึ้งต่อว่าน้องเขยทั้งๆ ที่แอบดีใจที่ทั้งสองอุตส่าห์ตื่นมาส่ง “เรามาส่งพี่รุตค่ะ” ขวัญชนกเอ่ยบอกพี่ชายยิ้มๆ “ไม่ต้องมาส่งก็ได้ มายืนตากน้ำค้างแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายทั้งแม่ทั้งลูก” ปวรุตม์ต่อว่าน้องสาวเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง “เฮอะ!” พันธวุธทำเสียงขึ้นจมูก นัยน์ตาคมจ้องมองปวรุตม์เขม็ง “ถ้ารู้ว่าจะถูกด่า ไม่ลงมาส่งดีกว่า” “มึงตื่นมาส่งกูเหรอ” ปวรุตม์เอ่ยถามน้ำเสียงระคนดีใจ “ไม่ได้อยากลงมาส่งหรอก ถ้าหลินไม่ปลุกก็ไม่ตื่นเด็ดขาด!” พันธวุธปดหน้าตาเฉยจนขวัญชนกอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะพันธวุธต่างหากที่เป็นคนปลุกเธอให้ลงมาส่งพี่ชาย “งั้นมึงกลับไปนอนเลย” ปวรุตม์ทำหน้าบึ้งเอ่ยไล่น้องเขย “ไม่ไป! ลงมาแล้วก็รอส่งไอ้สารวัตรขี้อวดให้ไปไกลๆ ก่อน” พันธวุธตวาดกลับเสียงดังลั่นไม่ยอมอ่อนข้อให้พี่ภรรยา ปวรุตม์กัดฟันกรอดๆ ทำท่าฮึ่มๆ จะเล่นงานน้องเขยแต่ขวัญชนกเอ่ยห้ามไว้ก่อน “พอแล้ว ทั้ง2 คนเลย ห้ามเถียงกันอีก พี่พันมีอะไรจะให้พี่รุตไม่ใช่หรือ ทำไมไม่เอามาให้สักที” ขวัญชนกส่ายหน้าอย่างระอาหันไปบอกสามีให้เอาของที่เตรียมไว้ให้พี่ชาย ถ้าขืนปล่อยให้ทะเลาะกันแบบนี้สงสัยพี่ชายเธอจะไม่ได้ไปเมืองเลยแน่ “มึงจะให้อะไรกู” ปวรุตม์เอ่ยถามด้วยความอยากรู้ระคนตื่นเต้น สารวัตรพันธวุธยื่นรูปภาพที่ใส่กรอบอย่างดีให้พี่ภรรยา “เอ้า! เอาไป” คนที่ยื่นให้เอ่ยแบบเขินๆ พ.ต.ท.ปวรุตม์มองภาพในมือแล้วแอบอมยิ้มเป็นภาพที่พันธวุธใส่เครื่องแบบตำรวจเต็มยศยืนเด่นสง่างาม หล่อเหลา ส่วนน้องอาร์ตนั่งยิ้มแป้นคู่กับขวัญชนก “เอารูปครอบครัวมาให้ทำไม” ปวรุตม์ทำเป็นแกล้งถามคนที่กำลังยืนยิ้มกริ่ม “ก็เผื่อว่า...ไปอยู่เมืองเลยคนเดียวมันเงียบเหงา เป็นโรค Homesick คิดถึงคนที่บ้าน ไม่มีใครชวนทะเลาะ ถ้าเหงามากๆ ก็หยิบภาพครอบครัวอันแสนอบอุ่นขึ้นมาดูให้คลายเหงา” พันธวุธเอ่ยกลั้วหัวเราะมองปวรุตม์ด้วยนัยน์ตาเต้นระริกขบขำ ปวรุตม์มองภาพอีกครั้งก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มกริ่มเอ่ยแขวะน้องเขยบ้าง “เออ...ก็ดีเหมือนกันวะ ถ้าเมืองเลยไม่มีเป้ากระดาษ กูจะฉีกรูปมึงมาทำเป็นเป้าเอาไว้ซ้อมยิงปืน กูรับรองเลยนะโว๊ย! ฝีมือระดับแชมป์ยิงปืนอย่างกู ยิงแม่นเจาะตรงหัวกะโหลกมึงแน่” ปวรุตม์ยิ้มเผล่ตีสีหน้ากวนๆ ใส่น้องเขยจนอีกฝ่ายต้องยื่นมือมาเพื่อดึงรูปกลับคืน “ไอ้สารวัตรปวรุตม์เอารูปคืนมา” “ไม่คืนโว๊ย!” ปวรุตม์หัวเราะร่วนชักมือหนีแล้วเอารูปไปเก็บด้านหน้ารถ ได้ทะเลาะกับคู่กัดพอหอมปากหอมคอทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น สารวัตรหนุ่มมองเวลาบนนาฬิกาเรือนแพงใกล้จะเช้าแล้ว ตะวันเริ่มโผล่ขึ้นบนขอบฟ้า ฝูงนกเริ่มบินออกหากิน เสียงไก่ขันเจื้อยแจ้วดังแว่วมาแต่ไกล ปวรุตม์ถอนหายใจยาวคงต้องถึงเวลาออกเดินทางแล้ว เขาอยากไปถึงเมืองเลยก่อนมืดค่ำ สารวัตรหนุ่มเดินไปสวมกอดร่างอวบอิ่มของน้องสาวไว้แน่น “พี่คงต้องไปแล้ว ไม่อยากไปถึงเมืองเลยดึกเกินไป ดูแลตัวเองกับหลานพี่ให้ดีๆ นะ ฝากกราบลาคุณพ่อกับคุณแม่ด้วยพี่ไม่อยากไปปลุกท่าน” ปวรุตม์ลูบเบาๆ ที่หน้าท้องนูนนิดๆ ของน้องสาว พันธวุธยืดตัวตรงสีหน้าจริงจังจับมือปวรุตม์เขย่าเบาๆ “ฝากดูแลครอบครัวของกูด้วย” ปวรุตม์เอ่ยฝากฝั่งจากนั้นสารวัตรทั้งสองก็กอดกันแน่นด้วยความรัก ทั้งปวรุตม์และพันธวุธต่างก็ตบบ่าของกันและกันอย่างหนักๆ “ไปปราบลิง เอ้ย!...ไปทำหน้าที่ของคุณรุตเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก ขอรับรองด้วยเกียรติว่าสารวัตรพันธวุธจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุด” ปวรุตม์ถลึงตามองน้องเขยตอนที่ได้ยินประโยคแรก “ดูแลน้องกูให้ดีๆ ล่ะ ถึงกูจะไปอยู่เมืองเลย ถ้ามึงทำให้น้องกูร้องไห้ กูจะลงมากระทืบถึงนี่” สารวัตรปวรุตม์เอ่ยขู่ก่อนจะก้าวเข้าไปในรถ “รีบๆ ไปเถอะ เดี๋ยวอีก 2-3 เดือนเราจะตามไปฮันนีมูนที่นั่น” พันธวุธเอ่ยยิ้มๆ สารวัตรปวรุตม์กลอกตาอย่างเซ็งจัดรู้ว่านอกจากจะไปฮันนีมูนแล้วไอ้น้องเขยต้องมีแผนอื่นแอบแฝงด้วย ขวัญชนกเดินไปเกาะประตูรถไว้พลางอวยพรพี่ชายด้วยสีหน้ายิ้มๆ “พี่รุตขับรถดีๆ นะ เดินทางโดยปลอดภัย พี่พันว่างเมื่อไหร่หลินจะตามไปดูหน้าพี่สะใภ้ถึงเมืองเลย” “เฮ้อ!...รำคาญ! อยากเห็นลิงเห็นค่างไปทำไมวะ พี่ไปแล้ว ขี้เกียจเถียงกับพวกแก” ปวรุตม์แกล้งถอนหายใจเหมือนรำคาญพอขับรถออกมาพ้นบ้าน สารวัตรหนุ่มตบเบาๆ ที่เป้สนามซึ่งภายในมีอัลบั้มรูปที่เขาพกติดตัวมาด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD