ท่านนายพลหัวเราะฮึๆ ก่อนจะเอ่ยตอบแทนด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “จะมีอะไร...ก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“ที่ว่าไม่เป็นเรื่อง แล้วมันคือเรื่องอะไรคะ ทำไมต้องทะเลาะกันจนหน้ายับแบบนี้“ ขวัญชนกรับสำลีที่เหยาะทิงเจอร์ไอโอดีนมาจากเด็กหน่อยแล้วจิ้มเข้าไปแรงๆ ที่หางตาของสามีจนอีกฝ่ายร้องลั่น
“โอ๊ย!...เบาๆ สิครับ พี่พันแสบนะครับ” สารวัตรพันตะโกนร้องลั่นแต่พอเห็นสายตาเยาะเย้ยของคู่กรณีที่กำลังยิ้มเยาะอยู่ก็หุบปากฉับ!
“ทียังงี้มาทำเป็นสำออย ตอนแลกหมัดแลกกำปั้นกันหลินไม่เห็นมีใครร้องว่าเจ็บสักคน จะบอกได้หรือยังว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร วันนี้แจกันแตกไป 3 ใบแล้วนะ ถ้านับรวมทั้งเดือนก็เป็นสิบแล้ว” ขวัญชนกมองค้อนสามีด้วยความหมั่นไส้พลางเอ่ยต่อว่าทั้งสองคนอย่างอดไม่อยู่
สารวัตรปวรุตม์เห็นน้องเขยตัวแสบทำหน้าจ๋อยก็หัวเราะขบขำพลางเติมฟืนเข้าไปในกองไฟอีกรอบ
“ไอ้สารวัตรพัน...เจอเสียงดุๆ แค่นี้ก็ทำหน้าจ๋อยงอเป็นลูกแมว แบบนี้สมัครเข้าชมรมคนกลัวเมียได้เลยมึง”
สารวัตรพันธวุธลุกเป็นไฟถลึงตามองอีกฝ่ายจนแทบถลนเบ้าตาพร้อมกับทำเสียงเยาะในลำคอ “ฮึ! ทำเป็นว่าคนอื่นไปเถอะ ถึงคราวตัวเองเมื่อไหร่จะรู้สึก! ผมจะคอยดูเสืออย่างคุณรุตงอเป็นแมว ถึงตอนนั้นจะหัวเราะเยาะให้เสียงดังกว่าคุณรุตอีก”
“อีกนานวะไอ้พัน เจ้าสาวกูยังไม่เกิดเลย” สารวัตรปวรุตม์หัวเราะร่วนด้วยความขบขำ
“ตกลงทะเลาะกันเรื่องอะไรคะ” ขวัญชนกอดรนทนไม่ไหวจึงต้องเอ่ยถามอีกรอบ
“ก็ไอ้สารวัตรพันมันเสือกบอกว่ามันเก่งกว่าพี่ พูดมาได้ไงว่าจับคนร้ายได้เป็นร้อย ฮึ!...ทำเป็นอวดเก่ง กูก็จับได้เป็นร้อยเหมือนกันวะ” ท้ายประโยคสารวัตรปวรุตม์หันไปถลึงตาและพูดโอ้อวดน้องเขย
“98 คน ยังไม่ครบร้อย” พันธวุธบอกจำนวนที่แน่ชัดไม่ยอมพี่ภรรยาง่ายๆ
“เออ...ก็เกือบๆ ร้อยนั่นแหละวะ” ปวรุตม์เถียงหน้าดำหน้าแดงไปหมดแบบข้างๆ คูๆ
ขวัญชนกนั่งฟังแล้วก็ปวดหัวส่ายหน้าอย่างระอา2 สิงห์ที่ห้ำหั่นกันไม่เลิก “เฮ้อ...เรื่องขี้หมูรา ขี้หมาแห้งแท้ๆ”
“เหม็นขี้หน้าไอ้สารวัตรขี้อวด” ปวรุตม์ตวาดน้องเขยเสียงดัง
“เหมือนกัน เหม็นขี้หน้าไอ้สารวัตรขี้โม้” พันธวุธตอกกลับทันควัน สายตาทั้งคู่จ้องมองกันเขม็งอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ต่างก็ไม่ยอมหลบสายตากัน
“เหม็นขี้หน้ากันแบบนี้ ย้ายบ้านหนีเลยดีมั้ยคะ ต่อไปพี่พันก็ไม่ต้องเจอหน้าพี่รุต ส่วนพี่รุตก็ไม่ต้องมีใครมาพูดโอ้อวดให้หงุดหงิดอารมณ์ หลินก็จะได้ไม่ต้องปวดหัวด้วย” ขวัญชนกเอ่ยแนะนำทางออกที่ดี แล้วก็ต้องแอบยิ้มขำออกมาเมื่อสารวัตรทั้งสองพร้อมใจกันเอ่ยปฏิเสธออกมาเสียงดัง
“ไม่ให้ย้าย!” พันธวุธกับปวรุตม์ตะโกนปฏิเสธพร้อมๆ กันจนขวัญชนกกับท่านนายพลอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“ถ้าไม่ให้ย้ายก็อย่าหาเรื่องปวดหัวให้หลินได้มั้ยคะ รู้หรือเปล่าว่าเวลาคุณแม่หงุดหงิดอารมณ์เสียมันมีผลต่อเด็กในครรภ์ด้วย” ขวัญชนกปล่อยหมัดฮุกออกมาจนทำให้สารวัตรทั้งสองทำหน้าจ๋อยอย่างสำนึกผิด
สารวัตรพันธวุธลูบหน้าท้องภรรยาเบาๆ พลางเอ่ยขอโทษเสียงอ่อน “พ่อพันขอโทษครับ อย่าโกรธพ่อนะ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว”
สารวัตรปวรุตม์เอื้อมมือจะไปลูบท้องน้องสาวบ้าง แต่ก็ถูกมือใหญ่ของพันธวุธตีลงมาหนักๆ พร้อมกับถลึงตามอง ปวรุตม์ถลึงตาตอบเหมือนกันก่อนจะลูบที่ท้องนูนของน้องสาวบ้าง
“ลุงรุตก็ขอโทษเหมือนกัน ต่อไปจะไม่ทำให้เจ้าหนูโกรธอีกแล้ว”
ไม่น่าเชื่อว่าคนตัวใหญ่แข็งกร้าวดุดันอย่างนายตำรวจทั้ง 2 นายจะเอ่ยน้ำคำขอโทษได้นุ่นนวลไพเราะเสนาะหู เพื่อเห็นแก่หลานในท้อง มือใหญ่แข็งแกร่งของนายตำรวจทั้งสองนายที่คอยพิทักษ์รักษาอธิปไตยของประเทศชาติ เอื้อมมือมาจับกันแน่นแล้วเขย่าเบาๆ เพื่อเป็นการประกาศสงบศึกชั่วคราว
“สงบศึกชั่วคราวนะไอ้น้องเขย” ปวรุตม์เอ่ยยิ้มๆ นัยน์ตาคมเต้นระริกแพรวพราว
“ได้ๆ สงบศึกชั่วคราว” พันธวุธเอ่ยตอบรับ นัยน์ตามันระยับเผยแววเจ้าเล่ห์ให้เห็น ขวัญชนกเห็นดวงตาของทั้งคู่แล้วไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่นัก แต่ให้สงบศึกสักพักก็ยังดีกว่าทะเลาะกันทั้งวัน
“คุณพ่อ ลุงรุต ฟุตบอลมาแล้ว” น้องอาร์ตตะโกนบอกสารวัตรทั้งสองเมื่อฟุตบอลลีกต่างประเทศทีมโปรดของทั้งสองคนกำลังจะลงแข่ง พอได้ยินคำว่า ’ฟุตบอล’ ทั้งคู่ถึงกับหูผึ่งหันไปสนใจฟุตบอลทันที
“ไอ้พัน กูว่าวันนี้ทีมเราต้องชนะแน่นอนวะ กุนซือมันวางแผนมาดี” สารวัตรปวรุตม์จ้องเขม็งที่ทีวีจอใหญ่แล้วหันมาเอ่ยวิเคราะห์กับน้องเขย
“ใช่ๆ ชนะชัวร์ กองหน้าฝ่ายตรงข้ามเจ็บไปตั้ง2 แล้วกองหลังที่เอามาลงก็อ่อนๆ ทั้งนั้น งานนี้ชนะใสๆ”
สารวัตรพันธวุธยิ้มให้ปวรุตม์แล้วเอ่ยวิเคราะห์บ้าง ขวัญชนกกับท่านนายพลสบตากันแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ ด้วยความระอา เมื่อสักครู่ทะเลาะกันแทบเป็นแทบตาย แต่เมื่อฟุตบอลทีมโปรดกำลังจะลงแข่ง ทั้งสอง2 สิงห์กลับหันมาดีกันเอ่ยวิเคราะห์และเชียร์ฟุตบอลอย่างสนุกสนาน ขวัญชนกถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนแล้วลุกขึ้นไปช่วยมารดาทำกับข้าวต่อ
++++++++++++
คุณหญิงขวัญฤทัยยิ้มบางๆ ให้ลูกสาวที่กำลังเดินเข้ามาในห้องครัว “เป็นไงลูก มวยคู่เอกจบหรือยัง”
“จบแล้วค่ะ กว่าจะสงบศึกได้หลินแทบแย่ คุณพ่อกับน้องอาร์ตก็ไม่ยอมห้ามทั้งคู่ ปล่อยให้ทะเลาะกันทุกวันเลย” ขวัญชนกบ่นพึมพำค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความระมัดระวัง
“คราวนี้ทะเลาะกันเรื่องอะไรอีก” คุณหญิงเอ่ยถามล้อๆ รู้อยู่แล้วว่าคงไม่พ้นเรื่องไร้สาระเหมือนเดิม
“เหมือนเดิมค่ะคุณแม่ เรื่องความเก่งกาจของแต่ละคน ตะกี้บอกว่าเหม็นขี้หน้ากัน พอหลินบอกว่าจะย้ายบ้านจะได้ไม่ต้องเจอกัน ทั้งสองก็ปฏิเสธคอเป็นเอ็นไม่ให้ย้าย”
คุณหญิงหัวเราะออกมาเบาๆ “ปล่อยๆ ไปเถอะลูก ทะเลาะกันเดี๋ยวเดียวก็ดีกันแล้ว ทั้งพี่รุตกับคุณพันเขารักกันดีออก”
“ค่ะ ข้อนี้หลินทราบค่ะ” ขวัญชนกยิ้มรับคำพูดของมารดา
“แล้วทำยังไงถึงเงียบลงได้”
“ก็ฟุตบอลทีมโปรดกำลังจะลงแข่งค่ะ ก็เลยเงียบไปได้สักพัก” ขวัญชนกเอ่ยยิ้มๆ