เกรทได้เข้ามายังห้องของมิคกี้ ที่มีพร้อมทุกอย่างเหมือนห้องเดิมที่บ้านของมิคกี้ ซึ่งเกรทเห็นห้องของมิคกี้เขาจึงเกิดความคิดอยากที่จะมาอยู่ที่นี่เหมือนกัน แต่ติดตรงที่พ่อกับแม่ของเขาให้ไปอยู่กับน้า เกรทจึงไม่อาจปฏิเสธได้ เขาจึงจำเป็นต้องอยู่กับน้าที่ไม่ค่อยสนิทเท่าไรนัก ซึ่งเขาก็รู้สึกอึดอัดพอสมควร
“มาอยู่ด้วยกันไหม”มิคกี้พูดขึ้นและนั่งลงบนเตียงนอน
“ไมได้หรอก พ่อกับแม่เราไม่ให้อยู่หรอก”
“เราอยากอยู่ พ่อกับแม่ห้ามไม่ได้หรอก”
“ได้สิ แต่เราไม่ใช่นายที่ชอบขัดใจพ่อ แต่พ่อของนายก็อ่อนลงเยอะเลยนะ ตั้งแต่นายสอบติดนี่ อยากได้อะไรก็ประเคนให้ทุกอย่าง”
“ใช่ แต่มีอยู่อย่างเดียวเรายังไม่ได้เลย”
“อะไรล่ะ”
“ตัวนายไง”มิคกี้ส่งสายตาหวานให้เกรท
“เมื่อไหรนายจะเลิกบ้าสักที นายเป็นจริงๆเหรอหรือว่าแกล้ง”
“เป็นอะไรล่ะ”
“ก็เป็นแบบไงล่ะ ที่ชอบผู้ชายนะ”
“ก็ใช่น่ะสิ นายยังไม่รู้อีกเหรอว่าเราสองคนเป็นเหมือนกัน”
“ใช่เหรอนายคนเดียวมั้ง”
“จะคนเดียวได้ไง ก็นายเป็นแฟนเราแล้วเคยได้กันด้วย ทำไมจะเป็นแฟนกันไมได้ หรือนายคิดว่าความสัมพันธ์ของเราสองคน ไม่ใช่ความรักมีแค่เซ็กส์ ถ้านายคิดอย่างนั้นเราก็โอเค”
“เดี๋ยวก่อนนะเราได้กันตอนไหน ทำไมเราไม่รู้เรื่องเลย”เกรทมีสีหน้าที่มึนงง เพราะเขากับมิคกี้ไม่เคยมีอะไรกันแบบนั้น
“อายเหรอ ไม่เป็นไรหรอกความสัมพันธ์นี้ เราจะรู้กันเพียงสองคนเท่านั้น เป็นความลับสุดยอดดีไหม”
“บ้า ใครอยากมีอะไรกับนายล่ะ”
“ไม่อยากจริงเหรอ แต่เราอยากนะ”มิคกี้ลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปหาเกรท
“นายจะเข้ามาทำไม”
“เราจะพิสูจน์ไงว่านายรักเราหรือเปล่า”
“พิสูจน์อย่างไง”
“นายยืนอยู่เฉยๆนะ เดี๋ยวเราจะหอมแก้มนาย แล้วนายลองสังเกตความรู้สึกของตัวเองว่ารู้สึกอย่างไร”
“ไม่เอาน่า จะหอมแก้มอะไร”
“ผู้ชายเหมือนกันหอมแก้มกันก็ไม่น่าเกลียดหรอก ไม่มีอะไรเสียหายด้วย นายยืนนิ่งๆนะเราจะพิสูจน์”
“เหรอ ก็ได้”
เกรทยืนนิ่งๆหลับตา ส่วนมิคกี้ค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้เกรท และค่อยๆใช้ริมฝีปากสัมผัสที่แก้มของจ๊อบอย่างแผ่วเบา
ความรู้สึกทางกายของเกรทขนลุกไปทั้งตัว ส่วนทางใจเขารู้สึกดีอยากให้มิคกี้สัมผัสนานๆ ส่วนความรู้สึกของมิคกี้จากแต่ก่อนแค่แกล้ง และคิดเรื่องเซ็กส์แค่นั้น แต่กับวันนี้ความรู้สึกของเขาเปลื่ยนไป มิคกี้อยากสัมผัสเกรทให้นานขึ้นและอยากทำต่อไปอีก
มิคกี้เห็นเกรทยืนนิ่งเขาจึงเลื่อนริมฝีปาก มาประกบริมฝีปากของเกรท ส่วนเกรทก็อยากสนองกลับ แต่เขาก็หักห้ามใจได้และผลักร่างของมิคกี้ให้ออกห่าง
“พอแล้ว ทำอะไรกันน่าเกลียดมากเลย”เกรทเช็ดริมฝีปาก
“เราขอโทษ”มิคกี้เดินกลับไปนั่งบนเตียง เพราะความรู้สึกของเขาตอนนี้ได้เปลื่ยนไปมาก และเขาค่อนข้างแน่ใจแล้วว่า ได้รักเกรทจริงๆ แต่ที่เขาไม่ทำต่อ เพราะมิคกี้คิดว่าในช่วงเวลานี้เป็นอดีต ถ้าวันใดวันหนึ่งเขาได้กลับไปในอนาคต ทั้งเขาก็เกรทจะทำเช่นไร เขาจึงไม่อยากสานสัมพันธ์นี้ต่อไปอีก
ในส่วนของเกรทด้วยความรู้สึกแปลกที่มีต่อมิคกี้ เขาไม่อยากจะเชื่อตัวเองและพยายามปฏิเสธจิตใจตัวเอง ว่ามันไม่ใช่ความจริงเป็นเพียงความรู้สึกระหว่างเพื่อน
“เรากลับก่อนนะ เดี๋ยวถึงบ้านจะมืดค่ำซะก่อน”
“เดี๋ยวเราลงไปส่ง”
มิคกี้เดินลงไปส่งเกรทที่หน้าหอพักของเขา ซึ่งทั้งสองนั้นไม่ได้พูดคุยกันแม้แต่คำเดียว เพราะด้วยความรู้สึกที่แปลกหลังจากได้สัมผัสร่างกายกัน
“กลับแล้วนะพรุ่งนี้เจอกัน”
“ฮือ”มิคกี้พยักหน้า และมองเกรทเดินขึ้นรถเมล์ไป หลังจากนั้นเขาจึงหันหลังกลับเดินเข้าห้องพักของเขา ซึ่งมิคกี้อดคิดถึงสัมผัสนั้นไมได้ เขาอยากจะได้เรือนร่างของเกรท ความรู้สึกนี้เขาเคยมีกับบอมบอมคนที่เขาเคยรักมาก่อน
มิคกี้ได้นอนคิดทั้งคืนระหว่างเรื่องของเขากับเกรท ซึ่งมิคกี้ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเดินหน้าสานต่อความสัมพันธ์นี้ เพราะครั้งที่เขากลับไปในอนาคต ก็ได้เจอเกรทในวัยผู้ใหญ่ที่มาหาแม่ของเขาที่บ้าน ถ้าวันใดเขาได้กลับไปในอนาคตอีก วันนั้นเขาก็ยังมีเกรทในวัยผู้ใหญ่ที่รักอยู่ มิคกี้จึงตัดสินใจเดินหน้าท้าความรักในครั้งนี้ แต่ก็มีอีกอย่างที่เขาอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะในความเป็นจริงเขาไม่ใช่ต่อแต่เป็นมิคกี้ ซี่งตรงนี้แหละที่มิคกี้กลัว เนื่องด้วยเกรทนั้นรักกับต่อในความคิดของมิคกี้ แต่ในความจริงทั้งสองเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เกินเลยไปกว่านี้เลยแม้แต่น้อย เขาจึงเกิดความไม่สบายใจถ้าได้กลับไปในอนาคต แต่ในเมื่อมิคกี้ได้รักเกรทเข้าแล้ว เขาจึงยอมทำทุกอย่างให้ได้มา ส่วนเรื่องอื่นเขาสนใจอยู่แต่ให้เลือกมิคกี้ยอมเลือกความสุขให้ตัวเองดีกว่า
ในระหว่างที่มิคกี้เดินออกจากหอพักเขาก็ได้เจอ ชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินออกมาพร้อมกับเขา และทั้งสองเป็นฝ่ายทักทายมิคกี้ก่อน
“เอ๊ะ เราเห็นเธอเรียนอยู่ที่คณะรัฐศาสตร์ใช่ไหม”สาวสวยคณะนิเทศศาสตร์ทักมิคกี้
“ใช่ครับ จำผมได้ด้วย”มิคกี้ยิ้มให้
“พอดีเราไปหาเพื่อนที่คณะรัฐศาตร์ เห็นเธอกับแฝดหรือเป็นพี่น้องกันหรือเปล่าหน้าตาคล้ายกันมาก”
“อ๋อ เพื่อนกัน บังเอิญเราหน้าคล้ายกัน เราชื่อมิคกี้น่ะ ส่วนเพื่อนเราชื่อพายัพ”มิคกี้ถือโอกาสแนะนำตัวทันที
“ส่วนเราสุจิตราเรียกเราสุเฉยๆก็ได้ และนี่เพื่อนเรา หน่อย”
“ยินดีที่รู้จัก” และมิคกี้ก็สะดุดกับเพื่อนของสุจิตรา เพราะมีความคล้ายบอมบอมอดีตคนเคยรักของเขา ซึ่งหน้าตาแนวน่ารักใสๆ
“รู้จักกันไว้ก็ดีเหมือนกัน อยู่หอพักเดียวกันถ้ามีอะไรก็จะได้คอยช่วยเหลือกัน”
“เราก็เช่นนั้น”
หลังจากแนะนำตัวกันเสร็จทั้งสามก็เดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย ซึ่งคณะรัฐศาสตร์จะอยู่ด้านหน้าสุด เมื่อไปถึงหน้าคณะรัฐศาสตร์พายัพเห็นมิคกี้เดินมากับคนที่เขาไม่รู้จัก ด้วยนิสัยของพายัพจึงไม่มีทางที่จะพลาดเข้าไปหาและพูดคุย
“เห้ย มิคกี้”พายัพเดินเข้ามาหามิคกี้
“อ้าวมาแต่เช้าเลย”มิคกี้มองหน้าพายัพ แต่พายัพกับมองไปที่สุชาดา
“แนะนำให้รู้จักหน่อยสิ”พายัพสะกิดมิคกี้
ซึ่งมิคกี้ไม่พอใจอย่างมากที่พายัพพ่อของเขาในอดีต มีแววเจ้าชู้อย่างเห็นได้ชัด เพราะสุชาดาสวยเปรี้ยวเฉี่ยวทันสมัยมาก มิคกี้จึงเกิดความกลัวรักของพ่อกับแม่ของเขาจะไม่ลงตัว แต่เขาก็จำเป็นต้องแนะนำอย่างเสียมิได้
“นี่สุชาดา พึ่งรู้จักกันเมื่อกี้ อยู่ข้างห้องเรานั่นแหละส่วนอีกคนก็หน่อย”
“ยินดีที่รู้จักครับ”พายัพได้แต่มองสุชาดาหาสนใจหน่อยแม้แต่น้อย
“อ้าวสุมาได้ไง”จรัญเพื่อนของสุชาดาที่เรียนคณะรัฐศาสตร์เดินเข้ามาหา
“พอดีเราเจอมิคกี้ที่หน้าหอพักเลยเดินมาพร้อมกัน”สุชาดาพูด
“รู้จักกันด้วยเหรอ”พายัพหน้าเสีย เพราะเขาคิดไปว่าจรัญเพื่อนร่วมคณะเป็นแฟนของสุชาดา
“เพื่อนกันสมัยเรียนมัธยมนะ”จรัญพูด
“รู้จักกันก็ดีแล้วเพื่อนกันทั้งนั้น ถ้างั้นเราไปเรียนก่อนนะ ไปหน่อย”สุชาดาพยักหน้าให้หน่อย
ก่อนที่หน่อยจะเดินไปที่คณะนิเทศศาสตร์เขาก็หันมามองมิคกี้แว่บหนึ่ง หลังจากนั้นก็อมยิ้มเพราะมิคกี้ได้ยิ้มตอบกลับอย่างทันท่วงที
หลังจากหน่อยและสุชาดาได้เดินไปยังคณะนิเทศศาสตร์ พายัพจึงหันมาคุยกับจรัญเพื่อนอีกคนที่ยังไม่ค่อยสนิทกันเท่าไร
“ถามตรงๆเลยนะ เพื่อนหรือแฟน”พายัพถาม
“เพื่อนสิ ทั้งสองคนนั่นแหละ”จรัญเสียงหนักแน่น
“แจ๋วเลย เดี๋ยวเราจีบสุชาดา ส่วนหน่อยยกให้มิคกี้มันไป เห็นส่งสายตาให้กันด้วย”
“เกี่ยวไรกัน นายจีบโสภิตา สาวอักษรอยู่ไม่ใช่เหรอ เลือกเอาสักคน ไม่ใช่จีบมั่วไปหมด”มิคกี้มีน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ
“นายอย่าคิดอะไรมากสิวะ จีบคนไหนติดก็รับคนนั้นเป็นแฟนซิ”
“จริงของมิคกี้มัน นายต้องเลือกเอาสักคน ถ้านายไม่เลือก เราจะบอกสุชาดาว่านายจีบทีละหลายคน”จรัญพูดขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่เริ่มฉุน
“ใช่ เราก็จะบอกเกรทเพื่อนเรา ให้ไปบอกโสภิตาว่านายจีบสาวนิเทศศาสตร์ด้วย”
“นายสองคนนี่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลย ผู้ชายมันก็มีบ้างนั่นแหละเขี้ยวเล็บ”
“แต่ไม่ใช่กับเพื่อนของเรา”จรัญพูดขึ้น
“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่กับแม่ของเรา”มิคกี้เผลอพูด
“ฮ่ะ”จรัญและพายัพหันหน้ามามองมิคกี้พร้อมกัน
“อ๋อ แม่ของลูกนายนั่นแหละ”มิคกี้พูดไม่ทันคิด
“อะไรของนายวะกูงงไปหมดแล้ว”
“เอาเหอะ มิคกี้มันจะพูดอะไรก็เรื่องของมัน แต่นายต้องเลือกว่าจะจีบใคร”จรัญหันมามองหน้าพายัพ
“ก็ได้ ก็ต้องโสภิตาน่ะสิ”พายัพพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย
“ดีมาก”มิคกี้ยิ้มได้ในทันที
“เอ่อก็ดีแล้ว ทำไมถึงเลือกโสภิตา แต่ทำไมไม่เลือกเพื่อนของเรา”จรัญรู้สึกสงสัย
“เมื่อวานตามไปถึงบ้านเลยนะ รู้ไหมเจอใคร”
“ใคร”มิคกี้ถาม
“พ่อกับแม่เราน่ะสิ “
“พ่อกับแม่นายไปอยู่บ้านโสภิตาได้ไง”มิคกี้งง แต่สักพักมิคกี้ก็เข้าใจได้ในทันที เพราะปู่กับย่าของเขานั้น รู้จักตากับยายของเขามาตั้งแต่เด็ก เพียงแต่พอเริ่มโตขึ้นต่างแยกย้ายไปคนละทาง และกลับมาเจอกันอีกครั้งก็ตอนนี้ มิคกี้จำได้ในอนาคตพ่อของเขาเคยเล่าให้ฟัง
“ก็พ่อแม่ของเรากับพ่อแม่ของโสภิตารู้จักกันน่ะสิ โลกกลมดีแท้”
“แล้วยังมีหน้าจะมาจีบเพื่อนเราอีกนายนี่เกินไปแล้วนะ”จรัญมีสีหน้าที่จริงจัง
“เห้ย กูขอโทษ”
“ไม่เป็นไร”
มิคกี้รู้สึกดีใจที่พายัพเลิกคิดที่จะจีบสุชาดา เพราะถ้าเกิดพายัพจีบติด เหตุการณ์ในอนาคตคงจะเปลื่ยน เขาอยากเป็นลูกของคุณหญิงโสภิตาเหมือนเดิม
“เข้าเรียนกันเถอะ”มิคกี้ชวนเพื่อนใหม่ที่พึ่งเริ่มสนิท
หลังเลิกเรียนมิคกี้ไปหาเกรทแต่ไม่เจอ เพราะวันนี้เกรทมีเรียนครึ่งวัน เขาจึงกลับบ้านตั้งแต่ช่วงกลางวัน มิคกี้จึงเดินกลับห้องพักคนเดียว ในระหว่างทางที่เขากำลังจะไปที่หอพักของเขา พลันสายตาก็เห็นหน่อยอยู่ในตู้โทรศัพท์ของ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย เขาแอบยืนมองดูหน่อย ส่วนหนึ่งที่เขาหยุดดูเพราะเขาชอบความเก่าของยุคสมัย ยิ่งเห็นหน่อยควักเหรียญมาหนึ่งกำมือแล้วหยอดใส่ตู้ ซึ่งหน่อยโทรไม่ได้นานก็วางหูโทรศัพท์ลง และล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงทั้งซ้ายขวาหาเหรียญ แต่มิคกี้คาดว่าเงินเหรียญของหน่อยหมด เพราะหน่อยได้เปิดประตูออกมาจากตู้โทรศัพท์และเดินไปทางหอพัก
มิคกี้จึงรีบก้าวเท้าตามอย่างไว เพื่อที่จะให้ทันหน่อย เพราะหน่อยเดินไม่มองซ้ายขวา จ้ำอ้าวเดินอย่างเดียว
“จะรีบไปไหนหอพักก็อยู่แค่นี่เอง”มิคกี้เดินข้างๆหน่อย
“รีบกลับหอไง”หน่อยพูดเสียงราบเรียบ
“หอก็อยู่แค่นี้จะรีบไปไหน เราว่าแวะกินข้าวกันก่อนดีไหม จะได้ไม่ต้องลงมาหาอะไรกินอีก”
“ไม่หรอก เดี๋ยวเราทำกินเอง”
“ไม่ต้องทำสักวันก็ได้ เดี๋ยวเราเลี้ยงเองวันนี้”
“ไม่หรอก พวกเรายังเป็นนักศึกษากันอยู่เลย เราไม่อยากรบกวนนายหรอก”
“ไม่รบกวนหรอก เรามีเงินเลี้ยงนาย”
“รู้ว่ามีเงิน แต่เราพึ่งรู้จักกัน จะมาเลี้ยงเนื่องในโอกาสอะไร”
“ก็เนื่องในโอกาสที่รู้จักกันไง”
“นายนี่แปลกหนอ มาเลี้ยงข้าวผู้ชาย”
“นายเป็นผู้ชายเหรอ”มิคกี้อมยิ้ม
“เราไม่อยากจะพูดกับนายแล้ว แยกกันตรงนี้แหละ”หน่อยรีบเดินเพราะเขารู้สึกเขินอาย
“จะรีบไปไหน”มิคกี้จับมือไว้
“ปล่อยนะ”หน่อยแกะมือของมิคกี้แล้วรีบวิ่งเข้าไปในหอพักทันที
มิคกี้ยืนอมยิ้มเพราะหน่อยภายนอกมีความคล้ายบอมบอมอดีตคนเคยรักของเขา แต่ที่แตกต่างกันที่นิสัยที่สุดขั้วคนละทางเลย บอมบอมนั้นแสนมั่นปากเจ็บนิสัยแปลกประหลาด แต่กับหน่อยเรียบร้อยน่ารักน่าทะนุถนอม ในขณะที่เขากำลังมองหน่อยที่วิ่งกระดุกกระดิ๊กเข้าหอนั้น ใบหน้าของเกรทหนุ่มหน้าคมก็โผล่เข้ามาทันที