บทที่2
เหตุฉุกเฉิน
///หนูอัยย์///
ย้อนกลับไปเมื่อ2ปีก่อน ฉันเป็นเพียงเด็กบ้านเมตตาของคุณท่าน อยู่ในจังหวัดเล็ก ฉันจะได้รับเงินเดือนจากคุณท่านเดือนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน แต่ต้องเจียดเงินไว้ให้ครบเดือนเพราะการเรียนมหาวิทยาลัยมันใช้เงินเยอะมาก แต่จู่ๆก็มีเรื่องให้ฉันต้องยื่นมือเข้าไปช่วย
ฉันมีเพื่อนอยู่หนึ่งคนชื่อซัน มันอยู่กับแม่ตามลำพังช่วงที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัยก็ไปอาศัยกินข้าวบ้านมันตลอด จนแม่มันเกิดอุบัติเหตุต้องผ่าตัดใช้เงินเกือบสามแสน สมบัติที่มีมันจึงเอาออกไปขายเพื่อรักษาแม่มัน แต่ผ่าตัดแล้วแม่มันก็ไม่สามารถเดินได้กลายเป็นอัมพาต พูดได้ขยับตัวได้แต่ขาขยับไม่ได้
ฉันจึงทำได้แค่เจียดเงินเดือนที่คุณท่านให้มาช่วยเหลือมัน เพราะมันต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ช่วงที่มันทำงานฉันกับเจ้หลินก็จะคอยดูแล ส่วนใครที่ไม่รู้ว่าเจ้หลินคือใคร เจ้หลินก็คือคนที่คุณท่านให้ช่วยดูแลฉันเพราะการช่วยเหลือของคุณท่านหวังผลให้ฉันได้แต่งงานกับหลานชาย
ตอนที่ไอ้ซันมันรู้ว่าฉันต้องมาแต่งงานตามเจตนารมณ์ของคุณท่านมันเสียใจมากมันชอบฉัน ฉันรู้แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ฉันจึงสัญญากับมันไว้ว่าฉันจะมาแต่งงานตามเจตนารมณ์แล้วค่อยเลิก ฟังดูอาจจะเห็นแก่ตัวแต่จะให้ฉันทำยังไง ต้องมาแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักฉันทำไม่ได้หรอก
///เพลิง///
ผมเดินเข้าไปหาคุณย่าเพื่อคุยเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวแต่คุณพ่อผมท่านไม่ไว้ใจจึงเดินตามมายืนข้างผม
"คุณย่าครับผมยอมเสียสละให้ไอ้อัคนีแต่งก่อนเลย"
"เหอะ! ไอ้ตัวดีมันหนีขึ้นเรือสำราญไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว! มีลูกมีหลานแต่ละคนพอกันหมด!!"
ผมหันไปมองหน้าคุณพ่อท่านเองก็ไม่รู้จะช่วยผมยังไง ผมเลยหว่านล้อมคุณย่าอีกครั้งแต่ท่านก็ยืนยันคำเดิมว่าผมต้องแต่งงานไม่อย่างนั้นบ้านหลังใหญ่ท่านจะยกให้ยัยอัยย์โดยไม่มีข้อแม้
"คุณย่าเอาอะไรคิดจะยกบ้านให้ยัยนั่น ดูก็รู้ออกทรงมิจฉาชีพจะตาย!" พ่อผมพยักหน้าเห็นด้วย
"แกก็ให้เงินไปสิ จะได้จบๆ"
"คุณแม่ครับเรื่องหัวใจบังคับกันไม่ได้นะครับ"
"ฉันถือว่าการตัดสินใจของฉันถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ไม่แต่งก็ไม่เป็นไรบ้านหลังนี้พร้อมที่ดินบนเกาะนี้ฉันจะยกให้หนูอัยย์ ส่วนพวกแกก็ไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าที่ทำมาหากินให้หนูอัยย์ก็แล้วกัน!"
ใครจะไปยอม!!! ผมไม่ยอมแน่ พ่อผมก็ดูหัวร้อนไม่ต่างกัน ยัยนั่นมันวิเศษมาจากไหนทำไมคุณย่าถึงได้สปอยล์นัก
วันต่อมา
ผมเดินออกมารับแสงแดดยามเช้าแต่พอมองไปด้านนอกก็เห็นยัยมิจฉาชีพกำลังวิ่งออกกำลังกายผ่านหน้าบ้านผมพร้อมกับเสียงร้องเพลง
"Hi~~ คุณสามีขาา~"
ผมกัดฟันกรอดมองยัยบ้านั่นด้วยความโมโห ตั้งใจจะตื่นแต่เช้ามารับแสงแดดต้องมาหดหู่เศร้าหมองเพราะยัยมิจฉาชีพที่กำลังจะเข้ามาฮุบสมบัติของตระกูลผม
"น่ารักดีนะลูก" พะพายเดินตามออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์แต่ดันมาเห็นหนูอัยย์โบกไม้โบกมือให้ลูกชาย
"สภาพ หน้าตาอย่างกับแมวเป้าเอาอะไรมาน่ารัก" ผมตอบแม่ไปตามที่เห็นก่อนจะชิ่งหนีเข้าบ้าน เข้ามาก็เจอพ่อยืนบิดเอวอยู่นี่ก็เหลือเกิน
"ปวดเอวจริงๆ"
"แต่ละคน!" ผมตัดสินใจหยิบกุญแจรถสปอร์ตขับหนีออกมาที่กาสิโนถ้าไอ้อัคนีอยู่ผมคงไม่ต้องมาซวยแบบนี้ ไอ้น้องเวร!!
กาสิโน
ผมเดินเข้ามาก็เจอน้องสาวตัวดีอย่างไอริ กำลังเดินก่อกวนบอดี้การ์ดของผมจนทุกคนวุ่นวายกันไปหมด นี่กาสิโนหรือสนามโรงเรียนอนุบาลหมีน้อยวะ
"ทำอะไรกัน!" เสียงก้องกังวานทำเอาทุกคนหยุดชะงักแม้แต่ไอริ เธอรีบยืนบังน้องหนูที่พามาไล่ปล้ำบอดี้การ์ดของผม จริงๆอาหมอน่าจะพาไอริไปเช็กประสาทบ้างนะ
"เฮ้ออ ว่างๆไม่มีอะไรทำเลยพาน้องหนูมาปลดปล่อย ตีฉิ่งจนจิ๋มแดงกันหมดแล้ว =__=!"
"อะ ไอริ!! พูดอะไรแบบนี้! พวกมึงเอาน้องหนูไปส่งบ้านอาหมอและรายงานพฤติกรรมของไอริด้วย ส่วนไอริเรียนจบแล้วเรื่องคีรินนี่ยังไง"
"เฮียไอริง้อคีรินแล้ว แต่คีรินไม่สนใจ เย็นชา เฉยเมยแต่ไอริไม่สนใจหรอกนะ ตีฉิ่งก็ได้!"
ผมมองหน้าน้องสาวจนเธอทำหน้าหงอยเดินมากอดแขนผม เบื้องลึกของไอริกับไอ้คีรินผมไม่ค่อยรู้หรอก แต่เรื่องที่ผมรู้ผมก็ไม่อยากพูดเพราะผมกระทืบแม่งไปรอบนึงแล้ว
"เฮียว่าคีรินจะมีแฟนใหม่ไหมคะ =__="
"เสียดายอะดิ ทันตแพทย์สุดหล่อดีกรีนักเรียนนอก ทายาทโรงพยาบาลเอกชนลูกชายของหมอคิม ถ้าเฮียเป็นผู้หญิงคงพลีกายถวายชีวิตให้มันไปแล้ว"
"เฮียย!! หึ! คนยิ่งคิดมากอยู่ เฮียรู้ไหมเมื่อวันงานนะไอริตามง้อจนไม่ได้นอนคีรินก็ไม่สนใจ หึ!ใจร้ายชะมัด!"
ผมคงช่วยอะไรมากไม่ได้เพราะไอ้ธารินน้องชายผมอีกคนลูกของอาธารากับอาน้ำรินบอกว่าจบงานท่องเที่ยวมันก็กลับไปเลย ไม่สนใจไอริที่วิ่งตามด้วยซ้ำ
"ช่างมันหาใหม่เพื่อนเฮียโสดๆก็เยอะสนใจไหมล่ะ"
"ไม่!! ไอริจะแต่งงานกับคีรินเท่านั้นค่ะ >[]-------------------------------------------
ไม่รู้จะตกใจเรื่องไหนก่อนดีเลยค่ะ ไอริเธอแสบมากกกก