ตอนที่ 6

1523 Words
ชาบูจัดเต็มก่อนเข้าโรงหนังจนคิดว่าน่าจะเข้าไปนอนมากกว่าเข้าไปดู แน่นท้องมากเวอร์อีผี! กระเป๋าที่เธอสะพายมาวันนี้สร้างปัญหาให้เพราะว่ากลัวมันเปื้อน กลัวมันเป็นรอย กลัวสารพัดเลยเพราะปรกติเธอเป็นคนไม่ติดแบรนด์เนมไงแล้วดูกระเป๋ากี่แสนว่ะเนี่ย “มึงชาแนลสวยนะใครให้ว่ะ?” อันเหล่ตามองกระเป๋าราคาแพงมากของเพื่อน “หรือว่าเฮียจากัวร์?” ผิงมองบอกตามเป็นประกายเพิ่มอีก “อีดอกผู้เปย์หนักเวอร์!!!” “พอเลยพวกมึง! เนี่ยกูยังไม่เห็นหน้าคนให้เลยไม่รู้ไปตายคาอกสาวคนไหน” ก็ตื่นมาเห็นวางไว้อยู่อะคนให้เสือกไม่อยู่ เธอยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลยสักคำเพราะยังไม่เห็นหน้าหรือถ้าเห็นหน้าก็อาจจหาเรื่องชิ่งหนีเหมือนทุกครั้ง “หึงหรอ…” “กูเปล่าเว้ยอีผี!!” “แหนะ! หน้าแดงมึงหึงก็พูดมาเถอะ!” “แดกไปเลย!” เพื่อนล่ะคนมันน่าเย็บปากนักแซวอยู่นั่น เอาเข้าจริงเธอยังกลัวเฮียจากัวร์ไม่จางหายเลย เขาชอบมาโผล่แบบเงียบๆแล้วก็ไปเงียบๆมองเธอเหมือนดุแต่บางครั้งก็เหมือนว่าอยากจะจับกินงั้นแหละที่สำคัญเธอคุยกับเขาไม่เคยรู้เรื่องหรอก คนอะไรเปลี่ยนเรื่องไวมากแล้วสมองเธอก็มีแค่เนี่ยเองตามไม่ทันหรอกนะ “เฮียจากัวร์รักมึงจะตายเมื่อไรมึงจะยอมว่ะ?” อันถามเพื่อนด้วยความสงสัยหนักมาก “เออใช่ เนี่ยในแก็งสัตว์โลกน่ารักเหลือมึงคนเดียวแล้วนะเว้ย! กูเห็นตามมึงมาเป็นปีแล้วนะทำไมใจมึงยังแข็งได้ขนาดนี้นะ” ผิงถามซ้ำอีกไม่เข้าใจเพื่อน “ผิงจับมินนี่ใส่พานถวายเฮียจากัวร์เลยป่ะ?” “มึง! ความคิดบรรเจิดวะ!” “เหี้ยว่ะ! แดกเร็วๆเลยกูอยากดูหนังแล้ว!” นี่เธอต้องระวังเพื่อนไหมเนี่ยแต่ล่ะคนแลดูอยากให้เธอได้กับเขามากเลย นี่ถ้าเกิดว่าเฮียจากัวร์ได้ยินนะที่เพื่อนพูดนะ เธอคิดภาพรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาออกเลยว่าจะสยองขวัญขนาดไหน แต่ป่านนี้คงไปหลับคาอกใครสักคนแล้วมั้งได้ข่าวว่ามีเด็กเยอะนักนี่มีคนบอกว่าเขาเลี้ยงได้เลี้ยงดีจนอีกนิดเดียวจะเปิดฮาเร็มได้แล้ว และมีอีกข้อที่ทำให้ใจแข็งไม่หวั่นไหวอะไรง่ายๆทั้งที่หลายอย่างชัดเจน คือเฮียจากัวร์ไม่เคยบอกรักเธอสักครั้งสิ่งที่เขาทำก็อย่างที่เห็นมันทั้งแปลกทั้งพิลึกชอบกล เขาแอบเข้าห้องเธอได้ไงยังไม่รู้เลย! อีกโต๊ะใกล้ๆชายหนุ่มใส่แว่นดำสวมหมวกนั่งถือตะเกียบคีบเนื้อไปหัวเราะไปกับคำพูดของเด็กๆที่ดูจะสนับสนุนเขามากเหลือเกิน เขาขับรถตามเธอมาจนถึงที่นี่แล้วคิดว่าคงต้องกลับแล้วแหละเพราะว่ามีประชุมต่อ “เมื่อไรจะว่างอยู่กัน 2 คนนะ” เขาอยากหาเวลาอยู่ตามลำพังกับเธอแต่มันน้อยมากยิ่งเธอปิดโอกาสด้วยยิ่งแล้วใหญ่ มินนี่เป็นเด็กสดใสมาก เธอเปร่งประกายมากกว่าทุกคนแล้วเอาใจเขาไปทีล่ะน้อยจนกลัวว่าสักวันจะรักจนถอนตัวไม่ขึ้นนี่สิ เขาไม่เคยบอกรักมินนี่เลยนะแต่การกระทำต่อให้มองจากดวงจันทร์ก็รู้ว่าพิเศษกว่าใครที่เขาเคยมี “ไปซะแล้ว!” เขาเรียกพนักงานมาเก็บเงินทั้งที่แทบไม่ได้กินเลยมัวแต่แอบฟังพวกเธอคุยกันเรื่องเขาอยู่ สถานีต่อไปคือดูหนังจ้า! แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆเหมือนว่ามีคนคอยตามคอยมองตลอดเวลา เธอไม่ได้รู้สึกคนเดียวนะเพราะเพื่อนก็เป็นเหมือนกันเลยต้องรีบเดินให้เร็วขึ้น “ท้องจะแตกแล้วมึงยังยัดป็อปคอร์นอีกหรอ?” นับถือความกินจุของเพื่อนจริงๆนะ “มึงกูมีผัวต้องกินเอาแรงเยอะๆป่ะ มึงแม่งคนโสดจะเข้าใจอะไรเล่า!” อันจ่ายค่าป็อปคอร์นและน้ำอัดลมเสร็จเดินนำเพื่อนเข้าโรงหนังตามเวลา “กูว่าแปลกๆ” “อุปทานหมู่ป่ะ? กูแทบจะแหกตาตามมึงแล้วนะมินนี่!” ผิงมองไปรอบๆไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกแต่เพื่อนพูดมาตลอดทางไง “เหรอว่ะ? ไปดูหนังเหอะ!” ก็พยายามจะไม่คิดอะไรแล้วไงแต่ก็คิดเหมือนเดิมนั่นแหละ เธอยืนรอเพื่อนคุยโทรศัพท์กับผัวก่อนแล้วค่อยไปพร้อมกันทีเดียวถึงจะสายหน่อยแต่ไม่เป็นไรเพราะหนังน่าจะเริ่มฉายพอดี เอาจริงนะขี้เกียจดูโฆษณา หันตอนนี้แหละ…หันเลย!! “ก็ไม่มีใครหนิ” เธออุตส่าห์รอจังหวะเผลอจะหันไปแต่ก็ว่างเปล่าไร้คนน่าสงสัย หลังจากเธอเดินเข้าไปในโรงหนังจากัวร์เดินออกจากเสาต้นใหญ่ที่ปิดบังตัวไว้แล้วหัวเราะนิดๆในความฉลาดของเธอ เมื่อกี้เกือบถูกจับได้แล้วนะ เขาอยากจะซื้อตั้วตามเข้าไปแต่ว่าเวลาหมดแล้วไว้เจอกันใหม่แล้วกันนะมินนี่! ผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์แสนหฤโหดเพราะสิ้นเดือนแล้วเธอถูกตัดค่าขนมด้วยนี่สิ พี่โบ๊ทลงความเห็นว่าเธอเอาเงินไปลงกับเที่ยวกับเหล้าเบียร์มากกว่าเรื่องเรียน โถว่…แก่แล้วก็ไม่เข้าใจวัยรุ่นเลย! “มึงผิงอะ?” เพื่อนหายไปหนึ่งต้องถามหา “ไปกับผัววิศวะแล้วไปเหอะมึงป่านนี้คงกินกันลั่นห้องแล้วมั้ง!” อันพูดติดตลก “ในมอ.นี่นะ!” เห้ย! ไปเอากันตรงไหนไม่บอกกันเลยอยากจะตามไปแอบดูจัง! “อืมในมอ.นี่แหละเด็ด ไปเถอะกูหิวข้าวแล้ว” “เออ ไปก็ไป” งงมากเลยอยู่ดีๆเพื่อนก็หายไปหาผัวทิ้งให้เพื่อนที่แสนดีนั่งรอกินข้าวเที่ยงตั้ง 10 นาที ออกมากินข้าวที่โรงอาหารเพราะไม่มีรถสักคน ครั่นจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์แล้วดูแดดมันก็ร้อนไปคงได้ละลายก่อนถึงร้านอาหารพอดี ช่วงเย็นเพื่อนขับรถมาส่งที่หอพักพร้อมกับรอยแดงที่คอจนน่ากลัว เธอก็ขี้เกียจถามอะไรนอกจากลงจากรถขึ้นห้องไปแค่นั้น นี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมพี่โบ๊ทไม่หาคอนโดให้อยู่แต่ให้มาอยู่ที่หอพักแทน มันเหนื่อยนะตอนขึ้นบันไดเนี่ย! เธอกำลังบ่นในใจอยู่ดีๆก็มีคนมาจับแขนดึงเข้าหาจนเกือบล้มคว้ำแหนะพอเงยหน้ามองเท่านั้นแหละ ‘หนีไป’ คำเดียวดังในหัว “มินนี่ไปกินข้าวกับเฮียนะ” “เฮียจากัวร์!!” ตายล่ะยังไม่อยากเจอเขานะ “ปะ...ปล่อยแขนมินนี่ก่อน” เธอค่อยๆแกะมือเขาออกจากแขนเธอแล้วรีบวิ่งขึ้นไปห้องหนีเขาให้เร็วที่สุด มันเหนื่อยนะการวิ่งหนีผู้ชายเนี่ย! ก๊อกๆๆ… “เปิดประตูดีๆหรือให้เฮียพังเข้าไป” อะไรกันคนแค่มาหาเพราะคิดถึงแต่เด็กเวรไม่รู้สึกดีใจแล้วยังวิ่งหนีไปอีก เขากำลังจะเปิดประตูเองแล้วแต่มินนี่เปิดให้ก่อน “หนีหน้าเฮียทำไม?” เธอทำเหมือนเขาเป็นโรคจิตงั้นแหละ “ก็...ก็...จะเข้าห้องน้ำปวดอึเลยรีบเฉยๆ” ตอแหลได้โล่อีกถ้าจะรอดจากเขาได้เสียงไม่สั่นขนาดนี้ “ไม่เนียน!” “เข้ามาในห้องมา” สุดท้ายเขาก็จับได้เหมือนเดิม ทำไมนะโลกถึงต้องเหวี่ยงคนฉลาดเป็นกรดมาให้ด้วย หาคนโง่หลอกง่ายไม่มีสมองมาให้เธอไม่ได้รึไงกัน จากัวร์เดินเข้ามาภายในห้องพักนักศึกษามองเหมือนกันว่าไม่เคยมาทั้งที่แอบเข้ามาบ่อยพอสมควรเลย กระเป๋าที่ให้เป็นของขวัญดูเหมือนจะชอบใจเพราะเห็นใช้ทุกวัน “ห้องเรียบร้อยดีนี่” ไม่รกไม่สกปรกเพราะเขาตามเก็บกวาดให้นิดหน่อยเวลาเธอไม่อยู่ห้องแล้วยังชอบซื้อของเอาเข้ามาไว้โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าเป็นของใครแต่ก็กิน “พอดีว่าเป็นกุลสตรีค่ะ” “ชอบกระเป๋าไหม?” “เฮียจากัวร์อย่าทำให้กลัวได้ป่ะ?” ปรกติเธอก็กลัวเขาอยู่แล้วนะนี่เขามาห้องเธอครั้งแรกมองรอบๆเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง หึ! มินนี่ไม่เคยเอาผู้ชายมาเลยนะคนที่มาจีบเธอเจ็บตัวเกือบทุกคนจนน่างงใจว่าเป็นฝีมือพี่ชายจริงรึเปล่า บางคนที่ทำท่าว่าจะคุยกันได้ยาวก็ลาออกจากมหาลัยหนีไปซะงั้น งงนะแต่คงเป็นเพราะพี่ชายหวงแค่นั้น!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD