EP.2 คนที่สูญเสีย
"ไม่จริง!" ผมเอ่ยถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งและไร้ซึ่งเรี่ยวแรงใด ๆ
ความรู้สึกมันเหมือนกับว่าหัวใจที่อยู่ในอกถูกควักออกไปต่อหน้าต่อตา ในตอนนี้สติของผมเหมือนหลุดออกไปจากร่างกายแล้ว
เสียงของผู้ชายคนนั้นยังคงอู้อี้ ๆ พูดต่อไปในวินาทีที่หูของผมมันดับสนิท ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะตั้งสติอีกครั้ง แม้ว่าสมองทุกส่วนหยุดทำงานไปกะทันหัน คำพูดของชายแปลกหน้าคนนั้น ทำให้มือของผมชาจนไม่สามารถจะถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้ได้เลย
(ตอนนี้ร่างของเธออยู่ที่โรงพยาบาล ROMI ญาติสามารถเดินทางมายืนยันตัวตนได้ด้วยตนเองเลยนะครับ)
(ผมขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ) เสียงของเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงพูดต่อไปจนจบ แต่เจคอปไม่สามารถที่จะเปล่งเสียงตอบกลับไปได้เลยแม้แต่คำเดียว
"ไม่จริง...ไม่จริงอะ...ไม่จริง!" ผมส่ายหน้าและทรุดลงกับพื้น
พร้อมกับกำหมัดแน่น แล้วทุบหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองลงไปซ้ำ ๆ จนมันดับสนิทและแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ
ตุ้บ ๆ ตุ้บ ๆ (ไม่จริง!) ผมแผดเสียงดังลั่นห้องด้วยความรู้สึกอ้างว้างและว่างเปล่า โลกทั้งใบที่มีเหมือนพังลงตรงหน้า
"เป็นไปไม่ได้...ชมพูคงโกรธเลยแกล้งเราแน่ ๆ " ผมพยายามจะหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา เพราะผมคิดว่าชมพูคงแค่แกล้งแหย่ผมเล่นเท่านั้น มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้...
"มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ ไม่!" ผมยกมือที่เปื้อนคราบเลือดปาดหยดน้ำตาบนใบหน้าตัวเอง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และรีบขับรถออกไปหาเธอในทันที
งานสวดอภิธรรมศพคืนแรก
"ชมพูเธอไปดีแล้วนะเว้ย" ทินกร หรือไอ้กรเพื่อนสนิทที่สุดของผมเดินเข้ามาปลอบใจ
"มึงรู้ได้ไงว่าไปดี ...มึงเคยตายหรือไง" ผมหันไปว่ามัน ก่อนจะกระดกเหล้าและนั่งพิงโลงศพน้ำตาไหลพราก
"ไอ้เจค มึงตั้งสติหน่อยดิวะ" ไอ้กรพยายามจะเดินเข้ามาปลอบใจผม เหมือนกับทุก ๆ คน
ฟุ่บ!
"ไสหัวไป! กูอยากอยู่คนเดียว" ผมสะบัดมือของมันออกไป ก่อนจะนั่งหันหลังให้กับเพื่อนรักของตัวเองในทันที
"เออ ๆ งั้นกูไปจุดธูปไหว้ชมพูก่อนแล้วกันนะ" ไอ้กรจำต้องเป็นฝ่ายเดินถอยออกไป เพราะสภาพจิตใจผมไม่ได้อยู่สภาวะที่พร้อมจะพูดคุยกับใครทั้งนั้น
"ชมพู...ตื่นขึ้นมาได้ไหม" ผมลูบโลงศพของเธอทั้งน้ำตา
"เจคขอโทษ..." น้ำตาลูกผู้ชายมันไหลออกมาอย่างง่ายดาย
ความผูกพันที่ผมมีต่อชมพูมันยาวนานมาก ๆ เกินกว่าที่ผมจะตัดความรู้สึกเสียใจออกไปได้ เราสองคนเป็นเพื่อนกันมาก็หลายปี เธอค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาในชีวิตของผม จนกลายเป็นคนสำคัญ และเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดคนหนึ่งในชีวิตเลย
ชมพูเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ยอมรับในตัวของผมได้ทุกอย่าง เป็นคนที่ยอมอดทนกับผมในทุกเรื่อง
ซึ่งในวันนี้ตัวผมก็เพิ่งเข้าใจความคิดของเธอทุกอย่าง ในวันที่ผมสูญเสียเธอไปแล้วตลอดกาล
"ฮือ...กลับมาได้ไหม" ผมหยิบที่ตรวจครรภ์ออกมาพร้อมกับกำเอาไว้ในมือแน่น
เหตุผลที่เธอร้องขอไม่ให้เลื่อนงานแต่งก็เพราะว่าเธอกำลังตั้งท้อง และเธอไม่ต้องการให้ใคร ๆ มาครหาเรื่องที่เธอท้องก่อนแต่ง เพราะครอบครัวของชมพูเองก็มีหน้ามีตาในสังคมไม่แพ้กัน
"ทำไม...ทำไมไม่บอกกันตรง ๆ ว่าท้อง" ผมนั่งพิงอยู่ข้างโลงศพของเธอ ไม่ยอมลุกไปไหนไกลห่างเลยแม้แต่เพียงก้าวเดียว
"ทำไมเธอกับลูกถึงใจร้ายแบบนี้" ผมร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกผิดและเจ็บลึกลงไปในหัวใจ
ผมยกกระดกเหล้าดื่มเพียวร์ ๆ จนหมดขวด เพื่อให้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดของผมมันทุเลาเบาลงได้บ้างสักนิดเดียวก็ยังดี
ผมลูบโลงศพของเธอและหลั่งน้ำตาออกมาอย่างหมดอาลัยตายอยากในชีวิต
"ไว้ค่อยมางานเผาเถอะ ตอนนี้ทางเราไม่พร้อมจะเจอหน้าพวกคุณ" เสียงของพ่อชมพูพูดขึ้นกับใครบางคน
"พ่อ...เขามาแล้วก็ให้ไหว้ลูกเราเถอะ อุบัติเหตุมันไม่มีใครอยากให้เกิดหรอกน่า" แม่ของชมพูที่ร้องไห้ไปก็พูดแทรกขึ้นด้วยอีกคน
"ให้หนูได้ขอขมาคุณแพรชมพูเถอะนะคะ หนูอยากมาแสดงความเสียใจด้วยจริง ๆ ค่ะ" เสียงพูดของหญิงสาวคนหนึ่งดึงดูดให้ผมวางขวดเหล้าลง และพยายามจับใจความฟังในสิ่งที่เธอพูด
เสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินมาหยุดอยู่ตรงทางด้านหน้าของโลงศพ โดยมีผมนั่งพิงอยู่ทางด้านหลัง
"คุณแพรชมพูคะ...ดิฉันมาเพื่อที่จะขอขมาและขอโทษในทุก ๆ สิ่งที่เกิดขึ้น ขอให้คุณได้ไปสู่ยังภพภูมิที่ดีนะคะ" เสียงของผู้หญิงคนนั้นและคำพูดของเธอ มันเหมือนเอาเหล็กแหลมมาทิ่มแทงหัวใจของผมซ้ำ ๆ อีกครั้งและอีกครั้ง
"มึงสินะ...ที่ฆ่าเมียกับลูกกู" ผมขบกรามแน่นก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นยืนทันทีที่มันพูดขอขมาจบลง
หญิงสาวยกมือพนมไหว้และปักธูปลงที่กระถางธูปหน้ารูปของชมพูทั้งน้ำตา
เคร้ง! ผมเดินตรงเข้าไปยกเท้าถีบกระถางธูปจนคว่ำลง ทำให้ปลายธูปร้อน ๆ กระเด็นไปโดนที่หน้าตักของเธออย่างตั้งใจ
"แต่กูไม่ให้อภัย!"
[ END : เจคอป ]