7

1285 Words
“มักน้อยเสียจริง” เขาจับคางสาวเอาไว้ก่อนจะทาบริมฝีปากลงไปหา มือหนาเลื่อนไปสัมผัสกับไหล่บอบบาง ก่อนจะวกกลับมาตรงปทุมถันอวบอิ่ม ริมฝีปากร้อนของเขาแทะเล็มไปตามไหปลาร้า ก่อนจะซุกเข้าตรงซอกคอหอมกรุ่น ชัชครางเบา ๆ ขณะยืนขึ้นเต็มความสูง เขาถอดเสื้อออกทางศีรษะอย่างรวดเร็ว ทำให้เธอได้เห็นซิกซ์แพ็กของเขาอย่างชัดเจน ก่อนที่ชัชจะคลุกเคล้าเข้ามาใหม่ เขาซุกไซ้หนักขึ้น จัดการกับเสื้อผ้าของเธอออกจากกาย จับเธอแยกขาออกจนกว้าง พร้อมด้วยการกดแทรกความเป็นชายเข้าหาอย่างหิวกระหาย “อ๊า... แน่นฉิบ ทำไมถึงได้แน่นแบบนี้” สอดเสียบกันกี่ครั้งเธอก็ยังแนบแน่นจนใบหน้าของเขาเหยเก อาจเพราะเธอสดซิงและไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน จนตกเป็นของเขา นั่นเลยทำให้ไม่ว่ากี่ครั้งที่เขาสอดแทรกก็ยังคับแน่น ตัดรัดดีเยี่ยม ยอมรับว่าหลงใหลกับความสาวสด แต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอทำให้เขาสุขใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ชัชเองก็ตกใจกับความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน ความรู้สึกเฉยชาที่มีต่อผู้หญิงมันแปรเปลี่ยนไปได้อย่างไรเขาไม่รู้ตัว แต่สิ่งที่ทำให้เขาอยากทำในทุก ๆ วันคือการได้เห็นหน้าเธอ ได้เห็นรอยยิ้ม ได้กอดเธอ ได้ฟังเสียงหวาน ๆ ช่างเอาใจของเธอ ชัชยิ่งกระแทกสะโพกสอบเข้าหาร่องสาวจนร่างของเธอสั่นคลอนเบียดอัดไปกับโซฟาตัวยาวจนแทบพังพิน ขาเธออ้ากว้าง อ้อมแขนน้อยกอดรัดร่างแข็งแรงที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ร่างของมยุรินโยกคลอนรุนแรงไปตามแรงกระแทกกระทั้น เธอปรือตามองเขาด้วยความรัก เสียวซ่านและวาบหวามจนต้องเผยอปากร้องครางแทบขาดใจ กายหนุ่มสาวโชกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อโซมกาย จวบจนใกล้ถึงจุดแตกพร่า เขาก็ร้องบอกเธอด้วยใบหน้าเหยเก พร้อมทั้งกระแทกสะโพกเข้าหาเธอไม่ยั้งแรงจนมยุรินร้องครางไม่เป็นส่ำ “คุณชัชคะ หนูไม่ไหวแล้วค่ะ” “ไม่ไหวก็ไม่ต้องอั้น อ๊า...” ชัชเกร็งกระตุก กระแทกถี่ ๆ เพียงไม่นานก็แตกพร่าเต็มร่องสาว “ออกไปกินข้าวข้างนอกกันไหม” ชัชเอ่ยถามเด็กสาว “ออกไปได้เหรอคะ” ประโยคใสซื่อของเธอทำให้เขาต้องถามกลับ “ทำไมถึงจะออกไปไม่ได้ล่ะ” “เปล่าค่ะ คือหนูมาอยู่กรุงเทพฯ ไม่เคยออกไปไหนเลยค่ะ” เธออ้อมแอ้มตอบ พี่สาวพามาทำงานบ้านที่นี่เธอก็ไม่เคยออกไปไหนเลย จริง ๆ แล้วตอนมาอยู่แรก ๆ เธอไม่ได้พักอยู่ที่แพนเฮ้าส์แห่งนี้ แต่เช่าบ้านอยู่กับพี่สาว ชัชจ้างให้พี่สาวกับเธอมาทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้าเพียงเท่านั้น เพราะพี่สาวเป็นแฟนของลูกน้อง ชัชเลยไว้ใจให้เข้ามาดูแลที่นี่ให้ เธอเลยตามติดมาด้วย “ก็จะพาออกไปนี่ไง” “คือหนูไม่มีเสื้อผ้าใส่เลยค่ะ จะให้ออกไปสภาพนี้คุณไม่อายหรือคะ” เธอก้มมองตัวเอง “อยากให้ซื้อเสื้อผ้าให้เหรอ” “ไม่ใช่นะคะ แต่หนูแต่งตัวมอซอ ไม่กล้าเดินใกล้คุณหรอกค่ะ” “เธอมีชื่อเล่นไหม” “ชื่อรินค่ะ” “อืม...” เขาครางรับ ดูผ่อนคลายและใจดีกว่าวันแรกที่ได้เจอกัน เธอชอบมองเท้าขาวสะอาดของเขา เล็บเท้าตัดอย่างเรียบร้อย ใต้ร่มผ้าของเขาขาวเพียงใดเธอเห็นมันอย่างชัดเจน เส้นขนสีดำเข้มที่ตัดกับผิวสีขาวทำให้เขาดูเซ็กซี่อย่างไม่น่าเชื่อ เธอไล่สายตาขึ้นไปยังช่วงขาเพรียวและหยุดที่หน้าท้องแกร่งที่อัดแน่นไปด้วยซิกซ์แพ็ก อกกว้างของเขาผึ่งผาย ลำคอหนา ใบหน้าเรียวคมสัน คางผ่า ปากหยักได้รูป สีแดงจัดอย่างคนสุขภาพดี จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้ม และดวงตาของเขาก็ทำให้เธอใจละลาย ชัชจัดว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาดี เขาหล่อเหลา ดูดีทุกระเบียบนิ้ว ผมของเขานุ่มมือยามที่ได้สัมผัส เขาตัดผมเปิดข้างรองทรงสูง มันดูดีเข้ากับใบหน้าได้รูปของเขา “จะมองอีกนานไหม” ริมฝีปากแดงจัดเอื้อนเอ่ย เธอหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนจะหน้าแดงซ่านที่เผลอมองเขายาวนานขนาดนี้ “หนูขอโทษค่ะ” “แทนตัวเองด้วยชื่อเล่นสิ ฉันชอบ” “ชอบหรือคะ” “ไหนลองเปิดตู้เสื้อผ้าให้ดูหน่อยซิ ว่าเธอมีเสื้อผ้าอะไรพอจะใส่ออกไปข้างนอกกับฉันได้บ้าง” เขาเปลี่ยนเรื่อง เธอก็รีบทำตาม เปิดตู้เสื้อผ้าอย่างอาย ๆ เพราะมีแต่เสื้อผ้าเก่า ๆ ย้วย ๆ จริง ๆ เขาก็เคยเห็นเธอแต่งตัว แต่คิดว่าอยู่บ้านทำความสะอาดบ้าน เธอคงไม่อยากพิถีพิถันในการแต่งตัว ชัชขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะหันมามองเด็กสาวตรงหน้า เธอเป็นเด็กสาวตัวเล็ก ผิวขาวเนียนละเอียด หน้าตาจัดว่าน่ารักและจะเรียกว่าสวยก็ย่อมได้ ถ้าจับแต่งตัวให้ดูดีสักหน่อย รับรองว่าผู้ชายมองเหลียวหลัง พอคิดมาถึงประโยคหลัง เขาก็รู้สึกหวงเธอขึ้นมาจับใจ เขาไม่อยากให้ผู้ชายคนไหนมองเธอ เธอเหมือนดอกไม้ป่าหอมกรุ่นที่หลงเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ แม้ที่นี่จะไม่ใช่เมืองหลวง แต่ก็เป็นจังหวัดใหญ่ที่เจริญไม่แพ้กรุงเทพฯ เธอเหมือนดอกไม้ป่า ที่นอกจากกลิ่นจะหอมแล้วความสวยก็งดงามกว่าดอกไม้พลาสติกในเมืองใหญ่เสียอีก ชัชหงุดหงิดตัวเอง ชักจะคิดเรื่องของเมียทาสในปกครองมากไปจนฟุ้งซ่าน “รอเดี๋ยว” เขาพูดขึ้นก่อนจะรวบเสื้อผ้าของเธอออกมาจากตู้และจัดการยัดใส่ถุงขยะ “คุณชัชทำอะไรคะ” มยุรินเอ่ยถามอย่างตกใจ “เสื้อผ้าพวกนี้ควรทิ้ง ผ้าขี้ริ้วบ้านฉันจะยังดูดีกว่าเสื้อผ้าของเธออีก” “แล้วหนู เอ๊ย! รินจะเอาอะไรใส่คะ” “ก็บอกว่ารอเดี๋ยว” ประโยคของเขาทำให้เธอรอคอย และได้พบว่าเพียงไม่นานก็มีเสื้อผ้าถูกนำมาส่งเป็นจำนวนมาก “ไปลองให้ดูหน่อย” เขาเอ่ยกับเธอหลังจากโบกมือไล่พนักงานของร้านกลับไปก่อน เจ้าของร้านเป็นเพื่อนสนิทกัน ชัชจึงสามารถเรียกให้พนักงานนำชุดมาให้ลองได้เท่าที่ต้องการแล้วค่อยเรียกเก็บเงินทีหลัง “ให้หนูลองชุดเหรอคะ” อย่างไรเธอก็ติดเรียกแทนตัวเองว่าหนูอยู่ดี ชัชเลยปล่อยผ่าน “ใช่ ลองสวมให้ดูหน่อยว่าพอดีไหม ฉันบอกขนาดรูปร่างเธอไปแล้ว ร้านนี้เขาเก่งไม่น่าพลาด” ชัชทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวยาวราคาแพง มองเมียทาสใต้ปกครองไม่วางตา “เอาชุดนั้นก่อนแล้วกัน” เขาชี้ไปยังเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นธรรมดาที่แขวนอยู่ในราว เป็นชุดสำหรับใส่อยู่บ้าน แต่มีป้ายราคาแขวนเอาไว้ตรงคอเสื้อ เธอพลิกดูราคาอย่างไม่ตั้งใจก่อนจะวางแทบไม่ทัน “ทำไมเสื้อผ้าพวกนี้แพงจังเลยคะ แค่เสื้อยืดธรรมดากับกางเกงขาสั้นเองค่ะ” “ของแบรนด์เนมมักจะแพงเสมอ” เขาโบกไม้โบกมือให้เธอไปลองชุด มยุรินนำเสื้อผ้ามาลองสวมใส่ดู เธอจับเนื้อผ้าแล้วเห็นถึงความแตกต่าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD