บทที่ 6 ร่างกายล่อนจ้อน

1124 Words
ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด ทีแรกเธอตกใจแทบสิ้นสติเพราะคิดว่าพี่พีท บอกความจริงกับเขาไปหมดแล้ว ‘เฮ้อ! เกือบพลาดสารภาพเอง’ “คือว่า...พี่เขาก็แค่เผลอพูดออกมานิดเดียวเองค่ะ” แพทตี้แอบไขว้นิ้วไปซ่อนไปข้างหลัง ถ้าเกิดคุณเนติรู้ว่าเธอได้เห็นคลิปลับทั้งสองคลิปแบบเต็มตา ยังไม่รู้ว่าเธอจะซ่อนหน้าไว้ที่ไหนดี? สัดส่วนอันแสนเย้ายวนใจของเขายังหลอกหลอนเธออยู่ทุกคืน คราวก่อนแค่เห็นเขาแหงนหน้าอ้าปาก เธอยังอดจินตนาการลามกไม่ได้ ครั้งนี้คลิปกล้องปากกาตัวนั้น เธอได้เห็นส่วนลับของเขาชัดเจน ....แม่เจ้า! ชวนตะลึงมาก.... ร่างกายตอนเปลือยของเนติ เหมือนนายแบบกางเกงชั้นในชายไม่มีผิด แม้จะดูภายนอกดูโปร่งแต่...ของจริง แน่นไปทุกสัดส่วน โดยเฉพาะ...ส่วนลับ! “จะมากจะน้อยก็ไม่ควรพูดเรื่องของผม” ชายหนุ่มสายตากราดเกรี้ยว “โดยเฉพาะคุณ คุณเป็นลูกน้องของผม ขอเตือนนะ หากเรื่องของผมแพร่งพรายออกไปแม้เพียงนิด ผมจะถือว่าสาเหตุมาจากคุณ” “อ้าว! ไหงงั้นล่ะท่านรอง?” แพทตี้เผลอยืดตัวเงยหน้าขึ้นสบตาเขา เนติกำลังโมโห เขาหมายจะข่มขู่ให้แพทตี้กลัว จึงยืดตัวขึ้น สองมือค้ำผนังกักร่างของหญิงสาวเอาไว้ “ตัวเองทำเองทั้งนั้น ยังจะโทษคนอื่นอีก” “คุณ! นี่คุณกำลังว่าผมเหรอ?” “ก็ใช่น่ะสิ! ไอ้คลิปอุบาทว์พวกนั้น ถ้าท่านรองไม่ส่ำส่อนก็คงไม่ถูกอัดเอาไว้หรอก?” เนติถูกหญิงสาวด่าฉอดๆ ก็ไม่สบอารมณ์ เขาใช้มือข้างหนึ่งบีบไหล่ของเธอไว้ “โอ๊ย! เจ็บนะ...คุกคามลูกน้องมันผิดกฎหมายนะท่านรอง” พอได้ยินคำขู่ เนติก็ปล่อยมือที่บีบไหล่เธอไว้ทันที หญิงสาวรีบถือโอกาสหลบออกจากกรงแขนของชายหนุ่ม “นี่คุณคิดจะต่อรองกับผมงั้นเหรอ?” ดวงตาใต้แว่นใสกรอบดำวาววับ “ก็ไม่เชิงค่ะ แต่ถ้าวันไหน ท่านรองคิดจะไล่ฉันออก ก็ไม่แน่ว่าฉันจะเจ็บใจถึงขนาดเล่าให้คนในบริษัทฟังจนทั่ว” “พิมพ์ทิวา!” แพทตี้สะดุ้งแต่ก็พยายามทำใจดีสู้เสือ หันขวับกลับมามองร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคายของคนตรงหน้า “ท่านรองคะ ถ้าบีบบังคับให้หมามันจนตรอกก็ไม่แน่นะคะว่ามันจะแว้งกลับมากัด” เนติได้แต่ยืนกำหมัดแน่น เขาคิดจะเรียกพิมพ์ทิวา โปรแกรมเมอร์ที่ดูหน่อมแน้มมาเพื่อข่มขู่แต่กลับถูกเธอข่มขู่กลับ “ก็ได้! งั้นเราพบกันครึ่งทาง ขอเพียงคุณไม่เอ่ยเรื่องของผมกับใคร และบอกให้แฟนของคุณหุบปากไว้ให้แน่น คุณจะยังทำงานที่นี่ได้โดยสงบสุข” เป็นเพราะจ้องตากับเขาอยู่นานนับนาที แพทตี้จึงได้เริ่มนึกถึงภาพในคลิปที่สอง เธอเผลอมองไล่ลงจากใบหน้า ลำคอ ไปจนถึงแผ่นอกแล้วกลืนน้ำลาย เนติเห็นสายตาของแพทตี้ก็รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ‘ผู้หญิงเลว มีแฟนอยู่แล้วยังจะทำสายตาโลมเลียผู้ชายหล่ออีก’ ไม่เพียงแค่นั้น สายตาของแพทตี้ยังไล่ลงไปต่ำกว่าเข็มขัดและแฝงด้วยความหมายที่เขาเคยเห็นจากสายตาของผู้หญิงที่คิดอยากจะขึ้นเตียงกับเขา “นี่คุณ! คุณมองผมแบบนี้หมายความว่าไง?” หญิงสาวสะดุ้ง “ไม่มีอะไร๊?” เธอรีบเมินหน้าหนี เนติรีบยกมือสองข้างขึ้นทาบอก “ต่อไป เราสองคนต่างคนต่างอยู่ ผมไม่ยุ่งกับคุณ คุณไม่ยุ่งกับผมก็แล้วกัน” แพทตี้เดินออกจากห้องทำงานของรองผู้จัดการแผนกมาได้ เข่าของเธอก็แทบอ่อนลงหน้าประตู การถูกเขาขังไว้ในกรงแขนแข็งแกร่ง จะว่าไปก็เหมือนกับในละครหลังข่าวที่เธอเคยดูไม่มีผิด ‘ทั้งหล่อ ทั้งเซ็กซี่ ทั้งส่ำสัน...ตรงนั้นก็...’ หญิงสาวเดินตาลอยออกมาจนถึงมุมเลี้ยว ‘เฮ้อ! เราต้องระงับจิตระงับใจให้มากๆ ซะแล้ว’ “โอ๊ะ!” “ตกใจมากเหรอ?” “ปัดโธ่! พี่เพียว ทีหลังอย่ามาเงียบๆ จะได้ไหม?” “มาๆ พี่ประคองกลับห้องทำงาน” เพียวยิ้มเจ้าเล่ห์ “ว่าแต่ท่านรองรูปหล่อทำไมถึงเรียกเธอไปคนเดียวอ่ะ?” “ก็เรียกไปด่าน่ะสิ” แพทตี้ไหวตัวทัน รีบแต่งเรื่องหลอกเพื่อนร่วมงาน “เขาไม่พอใจงานส่วนของแพทน่ะ นี่คงต้องกลับไปแก้งานอีกบานเลยพี่” เพียวเห็นใบหน้าซีดเซียวและสายตาเลื่อนลอยของแพทตี้แล้วเชื่อสนิทใจ “ท่านรองนี่ดุมากเลยใช่ไหม? เสียงตวาดดังออกมาถึงหน้าห้องแน่ะ” “พี่เพียวได้ยินด้วยเหรอ?” “เออสิ! พี่มาถึงก็ได้ยินเขาเรียกชื่อดังมาก” “อย่างอื่นล่ะ พี่ไม่ได้ยินเลยเหรอ? หมายถึงตอนที่เขาด่าแพทอ่ะ” “ไม่ได้ยิน” แพทตี้ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก หากพี่เพียวรู้เรื่องคลิปลับเข้า งานนี้เธอคงถูกไล่ออกจากบริษัทแน่ๆ เธอแอบกดข้อความนัดหมายหาเพื่อนซี้ร่วมอีกสองคน ...มีแต่เพื่อนกลุ่มนี้เท่านั้นที่ไว้ใจได้... หลังเลิกงาน แพทตี้ไปรอที่คอนโด เอสกับปันรักหอบหิ้วเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ขวดเล็กๆ มาด้วยสองถุงใหญ่ “พวกแกคิดจะเมาแล้วนอนที่นี่เลยสินะ” “คอนโดแกเหมาะจะเมาแล้วปลิ้นนี่? อีกอย่าง แกก็อยู่คนเดียวด้วย สะดวกสบายทุกอย่าง ต่อไปถ้าแกแอบเอาผัวมาอยู่ล่ะก็ พวกฉันก็คงมายาก” “อืม...สมพรปากเหอะ ขนาดแฟนยังหาไม่ได้ แล้วผัวจะไปเอามาจากไหน?” คนทั้งสามเอาอาหารและเครื่องดื่มมาล้อมวงบนโต๊ะญี่ปุ่นตัวใหญ่ที่ห้องโถงกลาง ผนังใกล้ๆ มีจอโทรทัศน์ขนาดห้าสิบนิ้วตั้งไว้ เอสพลิกตัวขึ้นไปนอนคว่ำอยู่บนโซฟานุ่มตัวใหญ่ “มาช่วยกันแกะของกินสิยะ จะกินแรงเพื่อนหรือไง?” ปันรักร้องเรียก เอสรีบเด้งตัวขึ้นไปช่วยอย่างว่องไว พอเริ่มดื่มกันหมดไปคนละสองสามขวด ปริมาณแอลกอฮอล์แม้จะมีไม่กี่เปอร์เซ็นต์แต่ก็ทำให้การพูดคุยครึกครื้น “เล่ามาได้แล้ว วันนี้แกเรียกพวกเรามาทำไม?” สีหน้าเจ้าของห้องแดงก่ำ “เรื่องนี้เกี่ยวกับเจ้านายของฉัน ต้องบอกไว้ก่อนว่ารู้แล้วช่วยกันเหยียบให้มิด” ***********************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD