วันนี้เหมันต์เข้าไปในไร่ตั้งแต่เช้าตรู่และอยู่ที่นั่นตลอดทั้งวัน ส่วนน้ำฟ้าก็อยู่ดูแลคิมหันต์ที่บ้าน เป็นเพื่อนเล่นเหมือนเช่นทุกวัน ใจจริงเธอเองก็อยากจะเข้าไปช่วยงานในไร่บ้าง แต่ทว่าเหมันต์ยังไม่อนุญาตโดยให้เหตุผลว่ายังไม่ถึงเวลา ตอนนี้เธอจึงได้แต่นั่งรออยู่ที่บ้านพร้อมกับไอ้ตัวเล็ก ที่กำลังวิ่งเล่นซุกซนอยู่ตรงหน้านี้
“น้องคิมอยากไปหาคุณพ่อในไร่ไหมครับ”
“อยากไปสิครับ” คิมหันต์รีบวิ่งแจ้นเข้ามาหา ก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“ถ้าอย่างนั้นเราเข้าไปหาคุณพ่อในไร่กันนะครับ”
“เย้!” คิมหันต์กระโดดโลดเต้นเมื่อรู้ว่าจะได้เข้าไปในไร่
“ก่อนอื่นเราต้องเข้าไปในครัวก่อน แม่จะทำกับข้าวเที่ยงไปส่งคุณพ่อ เราจะได้ไม่โดนดุไงล่ะครับ” แต่ในใจน้ำฟ้ากลับคิดว่าคงไม่วายที่เหมันต์จะดุให้ แต่การเอาข้าวเที่ยงไปส่งมันน่าจะพอทุเลาลงได้บ้างเท่านั้นเอง
“ครับผม”
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะครับ”
น้ำฟ้าเดินจูงมือลูกเลี้ยงเข้าไปในครัวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เข้ามาในห้องครัวแล้ว ก็พบว่าป้าบัวคลี่กำลังงุ่นอยู่กับการเตรียมของ สำหรับทำมื้อเที่ยงอยู่กับคำปอง น้ำฟ้าจึงเดินเข้าไปร่วมวงด้วย แต่ทว่าเมื่อคำปองเห็นเธอกลับมองด้วยหางตาอย่างขัดใจ
“ป้าบัวคะ”
“อ้าวแม่เลี้ยงเข้ามาทำอะไรในนี้คะเนี่ย”
“หนูว่าจะทำปิ่นโตไปส่งพ่อเลี้ยงที่ไร่ค่ะ”
“อ้าว! ทำไมคะ”
“คือหนูอยากจะไปเซอร์ไพรซ์พ่อเลี้ยงค่ะ ป้าบัวไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อหนูนะคะ เพราะหนูว่าจะไปทานกับพ่อเลี้ยงที่โน่นเลย”
“ทำเป็นอยากเอาอกเอาใจชิส์” คำปองยืนกอดอกทำเป็นพูดลอยๆ
“นังคำปองจะพูดจะจาอะไรระวังปากด้วยนะ” ป้าบัวคลี่รีบหันไปเอ่ยตำหนิทันที
“หนูไม่ได้ว่าใครซะหน่อยนี่จ๊ะป้า แค่พูดลอยๆ”
“ช่างเถอะค่ะป้า ว่าแต่กำลังทำอะไรอยู่คะเนี่ย”
“ป้ากำลังจะทำน้ำพริกหนุ่มค่ะ เห็นว่าตั้งแต่มาแม่เลี้ยงยังไม่ได้ทานอาหารเหนือเลยสักมื้อ”
“พอดีเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นหนูจะช่วยป้าทำ ถ้ามีน้ำพริกหนุ่มก็ต้องมีไส้อั่วแล้วก็แคปหมูใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ” ป้าบัวคลี่ตอบพร้อมทั้งส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ต่างจากคำปองที่เอาแต่ทำหน้าตาบูดบึ้ง ราวกับเหม็นขี้หน้านายหญิงของบ้านเสียเหลือเกิน
“มีคนช่วยแล้วถ้างั้นหนูไปล่ะนะป้า”
“ไม่ต้องมาทำเป็นอู้เลยนะมึง เอาผ้าไปซักเดี๋ยวนี้เลย” ป้าบัวยืนเท้าสะเอวชี้หน้าสั่ง
“ไปก็ได้ดีกว่าอยู่ในนี้ อึดอัดจะแย่”
ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็สะบัดตูดเดินออกไปจากครัว ป้าบัวคลี่เห็นอย่างนั้นก็ส่ายศีรษะเบาๆ เธอเบื่อกับพฤติกรรมของเด็กคนนี้เหลือเกิน สอนอย่างไรก็ไม่เคยรู้จักจำ
“ป้าขอโทษแทนนังเด็กคนนี้ด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะป้าหนูไม่ได้ถือสาอะไรหรอก”
“โชคดีที่แม่เลี้ยงเปลี่ยนไปแล้ว ไม่งั้นนังคำปองคงจะโดนตบไปแล้วแน่ๆ”
“หนูเปลี่ยนไปขนาดนั้นเลยเหรอคะป้า”
“ป้าก็พูดไปอย่างนั้นละค่ะ แต่ก็จริงนะที่แม่เลี้ยงเปลี่ยนไปเยอะเลย ป้าถามจริงๆ เถอะค่ะแม่เลี้ยงไปทำอะไรมา ทำไมนิสัยเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างนี้” ป้าบัวคลี่เอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจัง ทำเอาน้ำฟ้าถึงกับยิ้มเจื่อน ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
“สงสัยเป็นเพราะแต่งงานมั้งค่ะ เลยทำให้หนูเปลี่ยนไป แบบว่าอยากเป็นเมียที่ดีอะไรประมาณนั้น” น้ำฟ้าคิดอะไรไม่ออกนอกจากประโยคที่เอ่ยออกไปเมื่อครู่
“อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง สงสัยต้องให้นังคำปองมันแต่งงานบ้างแล้วล่ะถึงจะเปลี่ยนนิสัยได้บ้าง” ป้าบัวคลี่พูดขำๆ
“ว่าแต่คำปองเธอมีแฟนหรือยังคะป้า”
“ยังค่ะ ดูอย่างนี้มันก็เลือกผู้ชายนะคะ ตาสีตาสามันไม่คุยด้วยหรอกค่ะ ต้องโน่นคนมีสตางค์มันถึงอยากจะคุยกัน”
“อย่างพ่อเลี้ยงแบบนี้ใช่ไหมคะ” น้ำฟ้ามองตาเดียวก็รู้ว่าคำปองคิดอย่างไรกับสามีเธอ
“ก็ประมาณนั้นค่ะ แม่เลี้ยงอย่าคิดอะไรมากเลยนะคะ พ่อเลี้ยงไม่เอามันมาทำเมียหรอก ถ้าเอาป่านนี้มันคงได้เป็นเมียพ่อเลี้ยงไปแล้ว เพราะมันอ่อยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร”
“ถึงเขาจะมีใครอีกหนูก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกค่ะ มันเป็นความสุขของเขา” นั่นเพราะเธอเองก็ไม่ได้มีสิทธิ์อะไรอยู่แล้วต่างหาก
“ไม่ได้นะคะ เรื่องอย่างนี้คนเป็นเมียห้ามยอมเด็ดขาด” ป้าบัวคลี่รีบเอ่ยค้านความคิดของน้ำฟ้าทันที
“ทำไมคะป้า”
“โอ๊ย! ป้าจะเป็นลม เพราะถ้าสามีมีบ้านเล็กบ้านน้อย มันจะทำให้ชีวิตคู่ของเราต้องมีแต่ความวุ่นวาย ไม่มีความสุขยังไงคะ”
“แต่ถ้าพ่อเลี้ยงอยากมีจริงๆ ฉันจะห้ามอะไรได้คะ”
“ทำไมจะห้ามไม่ได้คะ เรามีของดีอยู่ในตัวซะอย่าง ผู้ชายร้อยทั้งร้อยย่อมแพ้มารยาหญิง ป้าแนะนำว่าแม่เลี้ยงต้องเอาอกเอาใจพ่อเลี้ยงให้มากๆ แค่นี้เขาก็ไม่มีทางไปไหนรอดแล้วค่ะ”
“ถ้างั้นหนูจะลองทำตามที่ป้าแนะนำนะคะ แต่ไม่รู้จะได้ผลหรือเปล่า” น้ำฟ้ายิ้มให้
“ดีมากค่ะป้าว่ามันจะต้องได้ผลแน่นอน”
ทั้งสองช่วยกันทำอาหารไปสนทนาไปอย่างสนุกปาก ในที่สุดกับข้าวมื้อเที่ยงก็เสร็จเรียบร้อย
น้ำฟ้าถือปิ่นโตสองเถาเดินออกไปจากครัวพร้อมกับคิมหันต์ ก่อนจะนำไปวางไว้ในตะแกรงหน้ารถจักรยานเพื่อเตรียมตัวเข้าไปในไร่
“จะขับจักรยานไปจริงๆ เหรอคะแม่เลี้ยง”
“จริงสิคะป้า”
“ป้าว่าให้คนสวนขับรถไปส่งจะดีกว่านะคะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้าสนุกดีออก จริงไหมครับน้องคิม”
“จริงครับ” คิมหันต์เองก็เห็นด้วยเต็มที่ ตามประสาเด็กที่ชอบเล่นอะไรซุกซนอยู่แล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็ระวังหน่อยนะคะ ถ้าแม่เลี้ยงกับคุณหนูเป็นอะไรขึ้นมาป้าคงโดนดุแน่”
“หนูรับรองว่าจะไม่ให้ป้าเดือดร้อนด้วยแน่นอนค่ะ หนูไปแล้วนะคะเดี๋ยวจะไม่ทันมื้อเที่ยง”
“ค่ะแม่เลี้ยง”
สนทนากับป้าบัวคลี่เสร็จแล้ว น้ำฟ้าก็ปั่นจักรยานเข้าไปในไร่ โดยมีลูกเลี้ยงนั่งซ้อนท้ายไปด้วย ส่วนป้าบัวได้แต่มองตามหลังด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุเข้าให้
น้ำฟ้าปั่นจักรยานเข้าไปในไร่โดยไม่รู้เส้นทาง โชคดีที่มีเด็กชายตัวน้อยที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยเป็นคนบอกทาง จุดหมายปลายทางของน้ำฟ้าก็คือไร่ส้ม ซึ่งค่อนข้างจะอยู่ไกลจากตัวบ้านพอสมควร จนทำให้เจ้าหล่อนเสียเหงื่ออยู่ไม่น้อยในการปั่นจักรยานครั้งนี้
“คุณพ่อยืนอยู่นั่นไงครับ” คิมหันต์ชี้ไปข้างหน้าที่ตอนนี้กำลังมีคนงานจำนวนหลายสิบคน กำลังเร่งเก็บผลผลิตอยู่ตามจุดต่างๆ โดยมีเหมันต์กำลังยืนควบคุมดูแลกำลังอยู่ไม่ห่าง บางครั้งก็ช่วยเก็บผลส้มอีกด้วย
“ถึงซะทีสินะ” น้ำฟ้าถึงกับปาดเหงื่อออกจากแก้มขาวเมื่อลงจากรถ ก่อนจะจอดจักรยานไว้ข้างรถกระบะ ที่มีตะกร้าส้มถูกนำไปวางไว้จนเกือบเต็ม