"ไหนบอกว่าพอกินได้ไง" เห็นอาการอีกฝ่ายก็พอจะรู้แล้วว่าอาหารของเธอคงไม่ได้เรื่อง
"ถามจริงเหอะ ทำอาหารไม่เป็นจริงๆ เหรอ"
"ก็ทำอยู่นี่ไง"
"ทำเป็นกับทำได้มันไม่เหมือนกันนะ"
"ถ้างั้นก็ไม่ต้องกิน!"
"ถ้าไม่กินของพวกนี้แล้วจะกินอะไรล่ะ วันหลังก็เพลาๆ ความเค็มลงบ้าง" พอเขาเอาจานข้าวมาเขี่ยดูวันนี้ไม่ใช่ข้าวต้ม..แต่มันเป็นข้าวไม่สุกแทน
"ถ้าทำเป็นทำไมไม่ทำเองล่ะ" เห็นสายตาเขาที่มองมาเธอก็เลยเปิดก่อน เพราะได้ยินว่าถ้าเปิดก่อนได้เปรียบ
"แล้วเธอจะอยู่เป็นคุณนายหรือไง..กินข้าวเสร็จแล้วก็ต้องทำความสะอาดบ้านด้วยนะ"
"บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้จะทำยังไง ฉันไม่ทำคนเดียวหรอกนะ"
"แต่เธอต้องทำ"
"แล้วนายล่ะจะทำอะไร"
"ทำสวนไง"
"นายทำความสะอาดบ้านช่วยฉันก่อนไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้งานใครงานมัน" พูดจบภูตะวันก็ตักอาหารใส่ปาก "แอะๆๆ จะเป็นโรคไตตายก่อนไหมวะกู"
หลังจากทานข้าวเสร็จเขาก็ให้เธอล้างถ้วยล้างชาม และก็ทำความสะอาดบ้านต่อ
ภูตะวันออกมาจากบ้านแล้วเดินไปทางบ่อน้ำ เพราะต้องไปดูเสื้อผ้าที่ตากไว้เมื่อคืนนี้
"พวกมึงทำอะไร"
"พ่อเลี้ยงมากับใครครับ" ทั้งสองคนรีบหลบเพราะคิดว่าพ่อเลี้ยงมากับผู้หญิงคนนั้น
"ไม่ต้องหลบหรอกกูมาคนเดียว แล้วนี่พวกมึงทำอะไรกันอยู่"
"ก็ทำทางลงให้ไงครับ"
"ใครสั่งให้ทำ"
"เมื่อวานนี้พวกผมเห็นพ่อเลี้ยง..."
"ถ้ากูไม่สั่งห้ามทำ แล้วก็ทำกลับให้เหมือนเดิมด้วย"
"อะไรนะครับ?"
"จะสงสัยอะไรนักหนา น้ำในห้องน้ำก็ไม่ต้องเอาไปใส่"
"ไม่ใส่แล้วจะมีน้ำใช้เหรอครับ"
"กูจัดการเอง พวกมึงลงเขาไปได้แล้ว"
"ให้พวกผมลงไปแล้วใครจะดูแลพ่อเลี้ยงล่ะครับ"
"กูอายุเท่าไรแล้ววะ"
"ถ้างั้นพวกผมจะรออยู่เชิงเขาถ้ามีอะไรพ่อเลี้ยงก็โทรเรียกนะครับ"
"อืม!"
ผ่านไปสักพักเขาก็เดินกลับมาที่บ้านหลังใหญ่
"นายไปไหนมา"
"อยู่แถวนี้แหละ"
"แถวนี้ยังไงฉันเรียกหาก็ไม่ได้ยิน"
"จะเรียกหาทำไม"
"น้ำในห้องน้ำไม่มีแล้วไปเปิดเครื่องปั่นไฟหน่อยสิ"
"ยังไม่ถึงเวลาเปิดเลย"
"แล้วจะเอาน้ำที่ไหนมาใช้"
"ไปเอาถังเดี๋ยวจะพาไปตักน้ำ"
"ตักน้ำ? ตักที่ไหน"
"จะที่ไหนล่ะ"
"อย่าบอกนะว่าไปตักที่บ่อน้ำนั่น"
"อืม"
"แล้วจะหิ้วกลับมายังไงเปิดเครื่องปั่นไฟจะไม่ง่ายกว่าเหรอ"
"ชีวิตเธอนี่คงสุขสบายมากไปแล้วนะ"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย"
"แล้วแต่นะถ้างั้นฉันจะกลับไปทำงาน"
"เดี๋ยวก่อนสิ ไปตักน้ำก็ได้" พลอยไพลินรีบไปเอาถังน้ำที่คิดว่าจะหิ้วน้ำได้เดินตามหลังเขาไป
บ่อน้ำ..
"เสื้อผ้าฉันที่ตากอยู่ตรงนี้ไปไหน" เมื่อคืนนี้เธอตากเสื้อผ้าชุดที่ใส่ติดตัวมาด้วย
"ก็ไม่รู้สิ"
"มีคนมาแอบเอาไปหรือเปล่า" หญิงสาวเริ่มใจไม่ดีเพราะชุดชั้นในที่มีอยู่ชุดเดียวเธอเอาเสื้อตากทับไว้ และตอนนี้เธอก็ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในด้วย โชคดีที่มีเสื้อหลวมๆ ใส่ทับอยู่ก็เลยดูไม่ออก
ที่จริงภูตะวันนั่นแหละเก็บไป แต่พอได้โกหกว่าไม่รู้แล้วก็เลยต้องโกหกต่อ
"เสื้อผ้าในตู้ ก็มีให้เปลี่ยน จะตกใจอะไรนักหนา"
"แต่มันไม่มีชุด...." เธอกำลังจะบอกว่าไม่มีชุดชั้นในโชคดีที่หยุดคำพูดไว้ได้ทัน เพราะยังไงเขาก็เป็นผู้ชายจะพูดให้รู้ลึกขนาดนั้นคงไม่ได้
"ไม่มีชุดอะไร"
จะเอายังไงดีล่ะทีนี้ .. พลอยไพลินนึกขึ้นได้ว่าเธอเป็นคนทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ จะลองค้นดูเผื่อว่าภรรยาเจ้าของบ้านทิ้งชุดพวกนั้นไว้
"นั่นรอยอะไร" ถ้ามาช่วงค่ำคงมองไม่เห็นรอย
"รอยอะไร" ชายหนุ่มแกล้งชะโงกหน้าลงไปมองตรงบ่อน้ำที่มีความชัน
"เหมือนมีใครมาขุดทำอะไรเลย"
"ใครจะบ้ามาขุด พื้นที่แถวนี้เป็นของเจ้าของบ้านทั้งหมด ไม่มีใครกล้าบุกรุกหรอก รีบลงไปตักน้ำสิ" ชักจะโมโหให้ลูกน้องแล้ว บอกให้ทำให้เหมือนเดิมยังทิ้งร่องรอยไว้อีก
"คุณจะให้ฉันลงไปตักน้ำเหรอ?"
"ก็ได้เดี๋ยวฉันไปตักเอง" อะไรวะเนี่ยลำบากตัวเองอีกแล้ว
เท้าแกร่งค่อยๆ ก้าวลงริมตลิ่งที่มีความชัน
"มายืนรอรับน้ำด้วย"
"ฉันจะยกได้เหรอ"
"เธอจะให้ฉันทำคนเดียวหรือไง"
"แต่มันหนักนะ"
"ถ้างั้นก็ไม่ต้องเอา" ชายหนุ่มไม่พูดเปล่ากำลังจะทิ้งถังน้ำลงไป
"ก็ได้ คุณตักน้ำแล้วส่งขึ้นมา"
ภูตะวันโน้มตัวลงไปตักน้ำในบ่อ ก่อนที่จะยื่นถังนั้นขึ้นไปให้กับเธอที่ยืนรออยู่ด้านบน
"ทำไมมันหนักจังเลย" เธอตัวเล็กๆ และไม่เคยทำอะไรแบบนี้ด้วยก็เลยไม่มีแรงดึงน้ำถังนั้นขึ้นมา จนภูตะวันต้องดันก้นถังเพื่อส่งแรงขึ้นมาให้ก่อน
"หิ้วเอาน้ำสิ"
"อย่าบอกนะว่าคุณจะให้ฉันเป็นคนยกน้ำนี้ไปที่บ้าน"
"ถ้าไม่ใช่เธอแล้วใครจะหิ้ว"
"ฉันหิ้วไม่ไหวหรอกนะ"
"แล้วแต่ถ้างั้นก็ไม่ต้องเอาไป..ทิ้งมันไว้นี่แหละ"
"คุณตะวันคะ ฉันหิ้วไม่ไหวจริงๆ และฉันจำเป็นต้องใช้น้ำด้วย"
จากที่กำลังจะก้าวเท้าเดินนำหน้าไปก่อน เท้านั้นถึงกับก้าวต่อไม่ได้เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดอ้อนเหมือนขอร้อง
"เป็นภาระกูอีก" สายตาคมกรอกมองบนก่อนที่จะพ่นลมหายใจ แล้วโน้มตัวลงไปยกน้ำถังนั้นเดินนำหน้าไปก่อน ดีนะที่ไล่ไอ้พวกนั้นลงเขาไปก่อนถ้าไม่งั้นคงถูกพวกมันหัวเราะเยาะอีกแน่เลย
"หึหึ" แต่คนที่ขำกลับเป็นพลอยไพลินเธออดเอ็นดูไม่ได้ถึงแม้ว่าเขาจะพูดไม่เพราะ พูดไม่เข้าหูแต่ก็ยอมทำตามที่เธอขอ
จนถึงช่วงเย็นของวันนั้น..
"วันนี้ไม่ไปอาบน้ำเหรอ"
"ไม่"
"แน่ใจนะว่าจะไม่อาบ" สายตาคมมองสำรวจเรือนร่างของเธอ ถ้าไม่อาบมันต้องมีกลิ่นแน่
"มองอะไร"
"ใครจะกล้านอนเป็นเพื่อน"
"บ้าหรือเปล่าฉันจะอาบน้ำที่ตักมาเมื่อตอนกลางวันไง"
"น้ำนิดเดียวจะอาบไปได้ยังไง"
"มีแค่ไหนก็อาบแค่นั้นแหละ"
"แล้วจะล้าง...ทั่วเหรอ"
"เรื่องของฉัน!"
ผ่านไปไม่นานตะวันก็ลับขอบฟ้า
"นายตะวันทำไมไม่จุดเทียน"
"เทียนเหลือไม่เยอะเอาไว้จุดยามจำเป็น"
"นายก็ลงไปซื้อเทียนมาสิ"
"จะให้เดินลงเขาหรือไงใครจะบ้าเดินลงไป"
"แล้วทำไมนายไม่เอารถคันนั้นมาไว้ใช้เอาไปจอดไว้ทำไมข้างล่าง"
"ก็มันเป็นรถเจ้านาย"
"โอ๊ยอะไรก็อ้างแต่เจ้านาย" ดีนะที่อาบน้ำตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด พอฟ้ามืดแล้วเธอก็กลับเข้าห้องนอน ไม่เคยต้องเข้านอนเร็วขนาดนี้มาก่อน
"นายตะวัน!" ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อ
"อะไรของเธออีก"
"ฉันจะนอนแล้วเมื่อไรนายจะเข้าห้อง"
"เรียกเข้าห้องเหมือนเป็นผัวเมียกันเลยนะ"
"นายพูดอะไร"
"เปล่า.."
"อย่าให้ฉันได้ยินอีก" ว่าแล้วเธอก็นอนหันหลังให้ ส่วนอีกฝ่ายก็นอนลงข้างๆ เธอนั่นแหละ เวลานี้ยังไม่ถึงสองทุ่มเลย มันเลยทำให้ทั้งสองนอนไม่หลับ
"ฉันถามอะไรหน่อยสิ นายคิดจะอยู่แบบนี้อีกนานไหม"
"ก็คงต้องให้ถึงเช้า"
"ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น นายจะอยู่เฝ้าบ้านนี้ให้เขาอีกนานไหม"
"ถามทำไม"
"ถ้านายพาฉันหนี.."
จากที่นอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่เขาถึงกับหันขวับไปมองคนในความมืด
"ถึงยังไงเจ้าของบ้านหลังนี้ก็ไม่ได้มาสนใจอะไรอยู่แล้ว และหนี้นั่นก็ไม่ใช่หนี้ที่ฉันก่อขึ้น นายไม่สงสารฉันหรือไง"
"เธอก็เลยจะให้ฉันพาหนี ไม่คิดหรอว่าถ้าหนีลงไปแล้วอาจจะถูกเก็บ.. ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ"
"นายกลัวตายขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ใครไม่กลัวตายล่ะ"
"ถ้านายช่วยฉันหนีไปได้ ฉันสัญญาว่าจะให้พ่อช่วยนาย.."
พอเธอพูดถึงพ่อเท่านั้นแหละคนร่างหนาที่นอนอยู่ข้างๆ ก็ดันตัวลุกขึ้น
"คุณจะไปไหน"
"ออกไปสูดอากาศ นอนไปก่อนเลย"
"เดี๋ยวก่อนสิ มันมืดฉันกลัว"
"ก็จุดเทียนสิวะ!"
จากที่กำลังจะเดินตามเขาไปพอได้ยินน้ำเสียงนั้นเธอก็รีบกลับเข้ามาในห้อง ทำไมเขาต้องโมโหขนาดนั้นด้วย
เช้าวันต่อมา.. เมื่อคืนนี้ก็นอนรออยู่ว่าเขาจะกลับเข้ามาในห้องตอนไหนจนเธอเผลอหลับไป
"กรี๊ดดดดด" เสียงกรี๊ดดังขึ้นพร้อมกับมือที่เอื้อมไปคว้าผ้าห่มมาปิดบังร่างกายตัวเองไว้ เพราะเธอใส่ผ้าถุงนอน และผ้าถุงนั้นก็เปิดขึ้นมาจนถึงเอว "ไอ้บ้า แกมองอะไร!"
ภูตะวันต้องรีบเรียกสติตัวเองกลับมาก่อน เพราะสิ่งแรกที่เขาลืมตาขึ้นมาเห็นคือความโหนกนูนที่ไม่มีอะไรปิดบังเลยแม้แต่กางเกงชั้นใน
"ออกไปนะ!" เท้าเรียวที่อยู่ใต้ผ้าห่มถีบคนข้างๆ ให้ออกจากห้องไป ที่เขามองเห็นเพราะว่าด้านนอกสว่างมากแล้ว จนแสงสว่างนั้นสาดส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง