บทที่ 13

1422 Words
"แล้วนั่นคุณจะไปไหน" เธออนุญาตให้เขาเข้ามานอนในห้องด้วยได้แล้ว แต่อีกฝ่ายยังจะเดินเข้าไปในห้องของตัวเองอยู่ "ไม่เห็นหรือไงว่าตัวเปียกต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า" "นายอย่าปิดประตูห้องนะ" "ไม่ปิดเธอก็แอบดูน่ะสิ" "บ้าใครจะไปแอบดู" ภูตะวันก้าวเข้าไปในห้องที่บอกเธอว่าเป็นห้องของตัวเอง แต่ที่จริงห้องนี้ไม่ใช่หรอก และในห้องนี้ก็ไม่มีข้าวของอะไรด้วย พอเข้ามาในห้องเขาก็เปิดหน้าต่างด้านหลัง แล้วรับเอาของจากคนที่รออยู่นอกหน้าต่าง "นาย..นาย.." "อะไร!" ทีแรกถึงกับสะดุ้ง เพราะไม่ได้ล็อกประตูห้องกลัวว่าเธอจะเปิดพรวดพราดเข้ามาเห็นลูกน้องที่ยืนอยู่นอกหน้าต่าง "เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหรือยัง" "อยากรู้ก็เข้ามาดูเองสิ" มือหนาเอื้อมไปปิดหน้าต่างและล็อกไว้ "จะบ้าเหรอ รีบเปลี่ยนรีบมาหน่อย" "ขี้กลัวขนาดนี้ไปเรียนต่อต่างประเทศได้ยังไงเนี่ย" เขาพึมพำในขณะที่เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จภูตะวันก็ออกมา และเห็นว่าเธอถือเทียนยืนรออยู่หน้าห้อง "แล้วนี่ไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเหรอ" "เปลี่ยนสิแต่นายมายืนรออยู่หน้าห้องได้ไหม" "อืม!" "อย่าไปไหนนะ และก็อย่าเพิ่งเข้ามาในห้องด้วย" ไม่รู้ตัวว่าไปไว้ใจเขาตั้งแต่เมื่อไร แต่ก็มีแค่เขาคนเดียวจะไม่ไว้ใจก็ไม่ได้ หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จพลอยไพลินก็เรียกให้เขาเข้ามาในห้อง "นายนอนมุมนั้นนะ" นิ้วเรียวชี้ไปมุมข้างประตู ส่วนเธออยู่อีกมุมหนึ่งข้างตู้เสื้อผ้า ในห้องนี้ไม่มีห้องน้ำถ้าจะใช้ห้องน้ำคือด้านนอก "นอนตรงนี้มีที่นอนที่ไหนล่ะ" "ถ้างั้นก็กลับไปเอาที่ห้องนั้นมาสิ" "ห้องนั้นก็ไม่มี" "แล้วนายนอนยังไง" "แต่ก่อนก็นอนห้องนี้แหละ" ดีนะที่คิดได้ไว เพราะห้องนี้มีที่นอน ถ้าพูดแบบนั้นเธอคงเชื่อ "นายเข้าไปเอาในบ้านหลังใหญ่มานอนได้ไหม" "ใครจะกล้าเอาของเจ้านายมานอน" "แล้วทำไงดีล่ะ ห้องมีตั้งหลายห้องต้องมีสักห้องสิที่มีที่นอน" "ไม่มีหรอก บ้านหลังนี้ยังไม่เคยมีคนมาอยู่" "อะไรนะ ดูตัวบ้านก็น่าจะสร้างมานานแล้ว" "ไม่ต้องสงสัยมากหรอกน่า" "ก็ได้ถ้างั้นฉันจะให้หมอนกับนาย" หมอนที่มีอยู่ใบเดียวเธอยื่นมันให้กับเขาไป "แล้วที่นอนกับผ้าห่มล่ะ" "นายเป็นผู้ชายนอนพื้นก็ได้มั้ง" "ผู้ชายไม่ใช่คนหรือไง" "แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ" "ก็นอนด้วยกัน" "ไม่ได้!" "ถ้าไม่ได้งั้นฉันไปนอนห้องอื่น" เขาไม่พูดเปล่ายังเอื้อมมือไปเปิดประตูห้อง "ก็ได้!" ยังไงต้องให้ผ่านคืนนี้ไปให้ได้ก่อน "แต่นายห้ามทำอะไรฉันนะ" "บอกตัวเองดีกว่ามั้ง" "ใครจะไปทำอะไรนาย" ภูตะวันส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะทิ้งตัวนอนลงหมอนใบเดียวที่มีอยู่ "เขยิบไปหน่อยสิ" "เขยิบก็ตกที่นอนน่ะสิ" "หันหลังก็ได้" เขาพ่นลมหายใจออกมาแบบรำคาญก่อนที่จะนอนตะแคงข้างหันหลังให้ "อย่าให้เจอนะ จะเอาให้ตายเลย" เธอหมายถึงพี่ชาย เพราะที่เธอต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้ก็เพราะเพชรกล้า ถึงแม้พี่ชายจะเกเรแต่ก็ไม่ติดการพนันขนาดนี้ ถ้าเธอมองใบหน้าเขา และถ้าในห้องนี้สว่างพอคงเห็นรอยยิ้มเยาะเจ้าเล่ห์ที่อีกฝ่ายนอนฟังเธอพูดอยู่ ดึกๆ คืนนั้น.. "ทำไมต้องปวดตอนนี้ด้วยเนี่ย" กว่าจะหลับได้เพราะมัวระแวงคนที่นอนอยู่ข้างๆ แต่พอหลับดันปวดปัสสาวะอีก พลอยไพลินชะโงกใบหน้าไปมองคนที่นอนหันหลังอยู่ ลองกลั้นดูอีกหน่อยใกล้สว่างแล้วมั้ง..เพราะเธอไม่มีนาฬิกาดูเวลาเลยไม่รู้ว่าตอนนี้มันกี่โมงกี่ยามแล้ว แต่มันไม่ได้เป็นแบบที่คิดเลยยิ่งนอนก็ยิ่งปวดปัสสาวะหนักขึ้น จนแทบจะกลั้นไม่อยู่อยู่แล้ว "คุณ..คุณ.. ตื่นหน่อยสิฉันอยากเข้าห้องน้ำ" "อืม!" คนที่นอนหลับอยู่เปล่งเสียงออกมาเหมือนรำคาญแถมยังยกมือขึ้นมาปิดหูไว้ "นายตะวัน ถ้านายไม่พาฉันไปเข้าห้องน้ำมีหวังราดตรงนี้แน่" "อะไรของเธออีก..." คนตัวโตดันกายลุกขึ้นแบบหงุดหงิด "ก็ในนี้ไม่มีห้องน้ำ" "ก็รีบไปสิ" "ฉันมองไม่เห็นทาง เทียนก็ดับแล้วด้วย" "โอ๊ย.. ภาระจริงๆ เลย!" ประโยคนี้ตั้งแต่รู้จักกับเธอมาไม่รู้ว่าพูดไปกี่รอบแล้ว และก็คงต้องพูดไปอีกสักระยะหนึ่ง "ถ้าไม่อยากให้ฉันเป็นภาระก็พาฉันไปส่งสิ" "พูดมากรีบเดินตามมา" ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วก็เดินไปเปิดประตูห้อง ด้านนอกพอมีแสงสว่างจากดาวและเดือนอยู่บ้าง พลอยไพลินเดินตามไปจนถึงห้องน้ำ "ในนี้มีน้ำใช่ไหม" "มี" เขาให้ลูกน้องเตรียมน้ำไว้เฉพาะใช้งาน "นายอยู่ที่นี่นานแล้วเหรอ แล้วนายเป็นลูกน้องหรือเป็นหนี้เขา" เธอชวนคุยตอนที่กำลังทำธุระอยู่ เหมือนว่าให้เสียงพูดกลบเสียงในห้องน้ำ "อยากรู้ไปทำไม" "ก็เผื่อถ้าฉันออกไปได้​ ถ้านายเป็นหนี้ฉันจะใช้หนี้ให้นายด้วยไง" ถ้าเธออยู่ใกล้คงได้ยินเสียงกลืนน้ำลายลงคอของคนที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ "เสร็จหรือยังรีบออกมาสิ ง่วงจะตายอยู่แล้วพรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้าอีก" "เสร็จแล้ว" โชคดีนะที่ยังมีน้ำพอให้ทำความสะอาดห้องน้ำและจุดซ่อนเร้นได้ หลังจากที่ใช้ห้องน้ำเสร็จเขาก็พาเธอกลับมาที่ห้องนอน เช้าวันต่อมา.. "พ่อเลี้ยง..พ่อเลี้ยงครับ" พอได้ยินเสียงเรียกภูตะวันก็รีบหันไปมองในบ้าน เพราะกลัวว่าเธอจะออกมาเห็น "มีอะไร" "พวกที่บ่อนส่งข่าวมาครับว่าตอนนี้กำนันอยู่ที่นั่น" "มันมาทำไมวะ" "คงมาตามลูกชายกลับบ้านครับ" "มันยังไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม" ภูตะวันหมายถึงเรื่องที่เขาจับตัวลูกสาวกำนันมาไว้ที่นี่ "ผมว่ายังไม่รู้หรอกครับ" เพราะถ้ารู้คงไม่อยู่เฉยแบบนี้แน่ "แล้วมึงจัดการตามที่กูสั่งไว้ไหม" "ครับ" "ถ้างั้นก็ให้มันกลับไปกับพ่อมันก่อน" เขามั่นใจว่ายังไงเพชรกล้าก็ไม่มีทางแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปแน่ เพราะตอนนี้หนี้ไม่ได้อยู่ที่หลัก 150 ล้านเหมือนเดิมแล้ว "คุณ.." "รีบไปสิวะ!" ได้ยินเสียงเธอเรียกมาจากในบ้านเขารีบหันไปตะคอกลูกน้องที่แอบอยู่พุ่มไม้ "พ่อเลี้ยงนั่นแหละอย่ามีพิรุธสิครับ" "ใครมีพิรุธ" จากที่นั่งพรวนดินอยู่เขารีบดันตัวลุกขึ้นแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน "นายตะวัน" "อะไร เรียกทำไมนักหนา" "ฉันจะเรียกนายมากินข้าวไง ทำไมต้องตะคอกด้วย" "กินได้แน่นะ" "ลองชิมดูสิ" "เธอนั่นแหละชิมดูก่อน" "ฉันเป็นคนทำก็ต้องชิมอยู่แล้ว" "ชิมแล้วแน่นะ" มือหนาเอื้อมไปจับช้อนกำลังจะตักแกงอะไรสักอย่าง วันนี้หน้าตาไม่เหมือนแกงจืดแต่ก็ดูไม่ออกว่ามันคือแกงอะไร แต่เขาก็เปลี่ยนใจหันไปตักทอดไข่แทน เพราะถึงยังไงทอดไข่ก็ต้องพอกินได้บ้างแหละ "แอะๆๆ" "ทำไม ไม่อร่อยอีกแล้วเหรอ" "เธอแกล้งฉันหรือเปล่าเนี่ย" ชายหนุ่มรีบหาน้ำมาดื่ม "ถ้างั้นนายลองจานนี้ดู" หญิงสาวขยับอาหารจานนั้นมาตรงหน้าอีกฝ่าย ทีแรกกำลังจะว่าให้ว่าอาหารคงรสชาติไม่แตกต่างกัน แต่พอเห็นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนใจเอื้อมมือไปตักแกงถ้วยนั้นขึ้นมาชิมดู "อืม.. พอกินได้" "จริงเหรอ" จากใบหน้าที่เป็นกังวลอยู่เมื่อครู่มีรอยยิ้มออกมา จนคนที่อมน้ำแกงอยู่ในปากเผลอกลืนมันลงไป "แอะๆๆๆ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD