“เกรงใจครูน้ำหอมค่ะ ยายค่อยๆ เดินมาเองก็ได้” ยายไสวกล่าวอย่างเกรงใจ
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะคุณยาย บ้านคุณยายใกล้แค่นี้เอง น้ำหอมเดินไปกลับไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจครูค่ะ” หญิงชราไม่ต้องการขัดน้ำใจของคุณครูสาว เพราะทุกครั้งที่นางมาส่งหลานชายที่โรงเรียน พอเลิกเรียกอักษราจะเป็นฝ่ายไปส่งน้องป๋องที่บ้าน
“คุณยายค่อยๆ เดินกลับบ้านนะคะ ถ้าน้ำหอมไม่ติดว่าวันนี้ต้องอยู่เวรรับนักเรียน น้ำหอมจะไปส่งคุณยายที่บ้านค่ะ”
“ขอบใจมากจ้ะ ยายไปก่อนนะ” ไสวกล่าวขอบใจในน้ำใจของอักษราที่สวยงามทั้งหน้าตาและจิตใจ
ระหว่างที่อักษรากำลังทำหน้าที่ของตนเองอยู่นั้น เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตกอยู่ในสายตาของคนกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ในรถกระบะแบบสี่ประตู สายตาของคนที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย ที่จ้องเขม็งไปยังร่างของคุณครูสาวไม่วางตา
“คนนี้แน่ใช่ไหมครับนายหัว?” สมศักดิ์พลขับเอ่ยถามเจ้านายจอมโหด
“…” คนถูกถามนิ่งไม่ตอบและไม่ละสายตาจากครูสาวคนสวย
“นายหัวครับ นายหัว” เสียงของสมศักดิ์ดังมากขึ้น แล้วมากพอที่จะดึงสติของปุณณ์ให้หวนกลับมา
“แหกปากซะดังลั่นรถเลยนะมึงไอ้เข้ เรียกกูเบาๆ ก็ได้” ผู้เป็นนายตวาดกลับ
“ก็ผมเรียกนายเบาๆ นายได้ยินซะที่ไหนล่ะครับ” สมศักดิ์สวนกลับ
“แล้วมึงเรียกกูทำไม?”
“ผมจะถามนายว่า ครูคนนั้นคือเป้าหมายของเราใช่ไหมครับ?”
“เออใช่” ปุณณ์ตอบอย่างไม่สบอารมณ์
“แหม สวยเชียวนะครับนายหัว มิน่าล่ะพี่พีถึงได้หัวใจท้อแท้ไปติดพันครูคนสวย”
ปากของสมศักดิ์วอนหาเรื่องเจ็บตัวเสียแล้ว และพอเขาพูดจบสายตามหาประลัยของเจ้านายหนุ่มก็หันมามองผู้พูด ที่ต้องรีบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ
“วอนโดนบาทาซะแล้วไอ้เข้ มึงเอาผู้หญิงแบบนี้มาเปรียบกับน้องสาวกูได้ยังไง สวยแต่รูปจูบไม่หอมกูก็กระเดือกไม่ลงหรอกโว้ย” เสียงของปุณณ์ไม่พอใจเต็มที่
“ครับๆ ผมไม่พูด ไม่เปรียบเทียบแล้วครับ”
สมศักดิ์รู้ดีว่าเวลานี้สิ่งที่ตนเองต้องทำมากที่สุดคือหยุดพูด ไม่เช่นนั้นแล้วบนใบหน้าของตนอาจจะเขียวช้ำจากหมัดหนักๆ ของผู้เป็นนาย
“ดีมาก มึงไม่ต้องพูด เก็บปากไว้กินข้าวก็พอ พูดมากเดี๋ยวปากมึงจะกินน้ำพริกไม่ได้” เจ้านายหนุ่มไม่วายกำชับแกมข่มขู่ลูกน้องปากมาก “ไปได้แล้ว เย็นนี้ค่อยมาจัดการ”
ปุณณ์สั่งสมศักดิ์ที่ทะยานจากจุดที่จอดรถทันที ก่อนที่เจ้านายขี้โมโหจะเดือดเลือดพล่านมากกว่านี้ การที่นายหัวแห่งเกาะไข่แก้วมาจอดดูเป้าหมายของตนในครั้งนี้ เพราะต้องการมาดูความเคลื่อนไหวของอักษราหรือน้ำหอม ผู้หญิงที่ทำให้ปนัดดาต้องหลั่งน้ำตา
ราวสี่โมงเย็นรถยนต์คันหนึ่งเคลื่อนตัวมาจอดหน้าโรงเรียน ก่อนที่เจ้าของรถคันนั้นจะก้าวลงมาจากรถแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนอย่างคุ้นเคย เขาเดินตรงไปยังห้องอนุบาลชั้น 2/3
“พี่มารับแล้วครับคนสวย” พีรวัฒน์เอ่ยบอกอักษราที่กำลังเก็บอุปกรณ์การเรียนให้เข้าที่เข้าทาง
“รอน้ำหอมเดี๋ยวเดียวนะคะพี่พี น้ำหอมเก็บของก่อน” อักษราครูสาวแสนสวยเงยหน้าบอกคนรัก
“ครับ พี่รอได้ครับ” ผู้พูดเดินเข้ามาในห้อง หย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ “วันนี้ลูกค้ายกเลิกนัด พี่ว่าเราไปดูหนังกันดีกว่านะ”
“ตามใจพี่พีค่ะ น้ำหอมได้ทั้งนั้น” เธอตอบคนรักขณะที่มือยังคงทำงานอย่างแข็งขัน
พีรวัฒน์มองคนรักด้วยความรู้สึกผิด การที่เขายังไม่เลิกคบกับอักษราทั้งที่อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เขาจะต้องแต่งงานกับปนัดดาหญิงสาวที่เขาไม่คิดว่าจะแต่งงานด้วย สาเหตุเป็นเพราะว่าครอบครัวของเขาต้องการเงินก้อนใหญ่มาจุนเจือบริษัทที่ตกอยู่ในสภาวะขาดสภาพคล่อง แล้วปนัดดาหญิงสาวผู้ร่ำรวยคือแหล่งเงินที่เขาต้องการ ประจวบเหมาะกับที่เธอเองก็ชอบพอในตัวเขาอยู่ก่อนแล้ว ทำให้เรื่องมันง่ายขึ้น
เขายังทำตัวปกติ ไปไหนมาไหนกับอักษรา ผู้หญิงที่เขารักและไม่คิดจะตีจาก เพราะอักษราเป็นสาวนิสัยดี เรียบร้อย อ่อนโยนและอ่อนหวาน เป็นผู้หญิงที่เขาอยู่ใกล้แล้วมีความสุข ต่างกับปนัดดาที่มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง ขี้วีน เจ้าอารมณ์ อยู่ใกล้เขารู้สึกราวกับว่าอยู่ในขุมนรก แต่ก็ต้องทนเพราะเงิน อีกประการหนึ่งคือ ปนัดดามีพี่ชายที่ดุยิ่งกว่าเสือ พานจะขย้ำหัวเขาได้ทุกเวลาหากทำให้ปนัดดาเสียใจ เขาจึงต้องทำดีกับปนัดดา ยอมเธอทุกอย่าง พีรวัฒน์ตั้งใจไว้ว่า ตนเองจะอยู่กินกับปนัดดาสักพักแล้วค่อยหย่าขาด จากนั้นก็มาแต่งงานกับอักษรา
“เราไปกินข้าวกันก่อนนะแล้วค่อยไปดูหนัง พี่หิวจนอยากจะกินน้ำหอมแทนข้าวแล้ว” เขาพูดอย่างมีความหมายซ่อนเร้น และนั่นทำให้ดวงหน้าสาวแดงเถือกด้วยความเขินอาย
“พี่พีพูดอะไรก็ไม่รู้ น้ำหอมไม่ใช่ข้าวนะคะจะกินแทนได้ไง” เธอสวนกลับแก้เขิน เอี้ยวตัวไปหยิบกระเป๋าสะพายเมื่อเก็บของเสร็จเรียบร้อย
“พี่พูดจริงๆ นี่น่า พี่หิวจนมองเห็นน้ำหอมเป็นอาหารจานโปรด”
ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่คบหากันเป็นคนรัก พีรวัฒน์ไม่เคยล่วงเกินอักษรามากไปกว่าจับมือ โอบกอด จุมพิตหลังมือและหอมแก้ม เขาให้เกียรติอักษราเสมอมา อดเปรี้ยวไว้กินหวานในคืนวันวิวาห์
“งั้นเรารีบไปกันดีกว่าคะ ก่อนที่พี่พีจะกินน้ำหอม”
ครูสาวเดินมาหาคนรักที่นั่งอยู่ไม่ไกล ก่อนที่ฝ่ายชายจะยื่นมือมาช่วยเธอถือของ จากนั้นก็เดินเคียงกันออกไปจากห้องเรียน
ดวงตาแข็งกระด้างของปุณณ์มองร่างของว่าที่น้องเขยที่เดินเคียงคู่มากับอักษราไม่วางตา และดูเหมือนว่าดวงตาคู่นี้จะเต็มไปด้วยเปลวไฟบรรลัยกัลป์ มือใหญ่ของนายหัวหนุ่มกำแน่น สกัดกลั้นอารมณ์ของตนเองเต็มที่
“เอาไงดีครับนายหัว?” สมศักดิ์ที่พอจะรู้อารมณ์ของเจ้านาย ใจกล้าถามออกไป เพราะไม่คิดว่า
พีรวัฒน์จะมารับเป้าหมายที่พวกเขาจะลักพาตัว
“ตามไป” ปุณณ์ตอบสั้นๆ สมศักดิ์จึงเคลื่อนรถขับตามรถยนต์ยุโรปคันหรูของพีรวัฒน์ตามไปไม่ห่างเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย