บทที่ 3 สถานที่ลับ [2/3]

1094 Words
มะ..เมื่อกี้ฉันได้คุยกับพี่เหมันต์ด้วย ไม่อยากจะเชื่อเลย เหมือนฝันไปเลยอ่ะ แถมพี่เหมันต์ยังถามชื่อฉันด้วย อยากจะกรีดร้องดัง ๆ ออกมา แต่ก็ต้องฮึบเอาไว้เพราะตอนนี้ถึงเวลาเรียนต่อคาบบ่ายแล้ว อยากหันไปเม้าท์กับเพื่อนสองคน แต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้ หลังเรียนคาบบ่ายเสร็จ ฉันก็รีบเล่าให้เพื่อนสองคนฟัง สองคนนั้นพอได้ยินฉันเล่าให้ฟังก็พากันบิดตัวไปมาและกรีดร้องด้วยความเขินแทนฉัน และกว่าเราสามคนจะเม้าท์มอยกันเสร็จก็เลยเวลาเลิกเรียนมาเกือบครึ่งชั่วโมง จึงรีบพากันแยกย้ายกลับบ้าน ฉันที่รู้สึกปวดฉี่จึงแวะเข้าห้องน้ำก่อน และเมื่อเดินออกมาจากตึกเรียนก็สวนเข้ากับทีชเชอร์ภูมินทร์ซึ่งเป็นทีชเชอร์สอนวิชาวิทยาศาสตร์พอดี “ยลดา” ทีชเชอร์ภูมินทร์เมื่อเห็นฉันก็เอ่ยเรียกชื่อจริงของฉัน ซึ่ง ‘ยลดา’ แปลว่า งดงามมาก...และไม่เข้ากับหนังหน้าของฉันแบบสุด ๆ “คะ ทีชเชอร์ภูมินทร์” ฉันขานรับแล้วเอามือกุมไว้ที่ด้านหน้าอย่างนอบน้อม “ทีชเชอร์รบกวนอะไรหน่อยสิ” “มีอะไรเหรอคะ?” “ทีชเชอร์ฝากไปบอกเด็กห้องหนึ่งให้หน่อยว่าพรุ่งนี้คาบวิทยาศาสตร์งดนะ ทีชเชอร์ติดธุระ เผอิญว่าทีชเชอร์ไม่มีช่องทางติดต่อกับเด็กห้องนั้นสักคน” “ได้ค่ะ” “ขอบใจมากยลดา” “ไม่เป็นไรค่ะ สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ทีชเชอร์ภูมินทร์แล้วโค้งตัวเดินผ่านออกมา ว่าแต่ฉันจะไปหาเด็กห้องหนึ่งจากไหนล่ะ เวลานี้คงแยกย้ายกันกลับบ้านเกือบหมดแล้วมั้ง ยิ่งเป็นวันศุกร์แบบนี้ด้วย ขณะกำลังคิดหนักอยู่ สายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นร่างบางของใครบางคนที่พอมองปราดเดียวก็รู้เลยว่าเป็นใคร “ของขวัญ” ฉันตะโกนเรียกของขวัญแล้ววิ่งเข้าไปหา พอมาถึงของขวัญก็เลิกคิ้วถามฉันด้วยสีหน้าดูแปลกประหลาดใจ “มีอะไรเหรอ?” “ทีชเชอร์ภูมินทร์ฝากมาบอกว่าพรุ่งนี้ห้องหนึ่งงดคาบวิทยาศาสตร์นะ ทีชเชอร์ติดธุระ” ฉันพูดบอกของขวัญไปแบบประหม่า ไม่กล้ามองหน้าของขวัญด้วยซ้ำ เธอสวยและน่ารักมากจริง ๆ “โอเค ขอบใจมาก” ของขวัญยิ้มบาง ๆ พร้อมเอ่ยขอบคุณให้ฉัน ฉันจึงพยักหน้าและยิ้มตอบ ขณะที่กำลังจะหมุนตัวกลับหลังหันต้องหยุดชะงักเมื่อจู่ ๆ ลูกบอลก็กลิ้งมาหยุดอยู่ที่เท้าของฉัน ก่อนจะได้ยินเสียงตะโกนบอกจากกลุ่มรุ่นพี่ที่สนามฟุตบอล “น้องคนสวยเก็บลูกบอลให้พี่หน่อยครับ” ฉันหันไปมองหน้าของขวัญแบบงงงวย เพราะลูกบอลมันอยู่ที่เท้าฉัน แต่รุ่นพี่พวกนั้นบอกให้คนสวยเก็บให้ ซึ่งมันไม่ใช่ฉันแน่ ๆ อาจจะเป็นของขวัญ แต่ทว่าของขวัญกลับปรายตามองลูกบอลที่เท้าฉันแวบหนึ่งก่อนจะเดินจากไปแบบไม่สนใจไยดี ฉันจึงก้มมองลูกบอลที่เท้าตัวเองบ้างแล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ ใครเก็บให้ก็คงเหมือนกันนั่นแหละ พี่เขาคงรู้สึกดีเหมือนกัน แค่ถ้าเป็นฉันอาจจะน้อยกว่าของขวัญซะหน่อย ฉันก้มลงไปเก็บลูกบอลแล้วเดินเอามาส่งคืนให้รุ่นพี่ที่ข้างสนามฟุตบอล ทว่าก็โดนสายตาประหลาดมองใส่ “พี่บอกน้องของขวัญ น้องขี้เหร่สะเออะเก็บมาให้ทำไมว่ะ!” รุ่นพี่ตรงหน้าคว้าลูกบอลไปจากมือฉันอย่างแรงแบบดูหัวเสียไม่น้อย สีหน้าแววตาดูผิดหวังมาก “น้องแม่งสาระแนว่ะ สวยให้ได้ครึ่งหนึ่งของน้องของขวัญแล้วค่อยเสือกมาทำตัวมีน้ำใจกับพวกพี่นะครับ” รุ่นพี่อีกคนพูดเสริมทัพอย่างไม่พอใจไม่ต่างกัน ได้ยินรุ่นพี่พูดออกมาดังนั้นก็ทำเอาฉันรู้สึกชาไปทั้งหน้า ตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดหวั่น ไม่ชอบเลยเวลามีคนมาว่าแบบนี้ แถมยังบอกว่าฉันขี้เหร่อีก ทั้งเจ็บปวดในใจ ทั้งอับอาย หันมองรอบข้างก็เห็นคนมองมาที่ฉันเป็นตาเดียว บ้างก็กระซิบกระซาบกัน บ้างก็หัวเราะเยาะด้วยแววตาสมเพชเวทนาให้ฉัน ทำเหมือนฉันเป็นตัวตลก ไม่ชอบเลยเวลาที่มีคนมองมาที่ฉันด้วยสายตาแบบนั้น มันทำตัวไม่ถูก รู้สึกประหม่าจนอยากจะหายวาร์ปไปจากตรงนี้ซะตอนนี้เลย “ยืนทำหน้าบื้อทำไมครับ รีบไสหัวไปสิน้องหัวฟู” ฉันก็อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลจากตรงนี้เหมือนกัน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเหมือนเท้าขยับเขยื้อนไม่ได้เหมือนถูกสาปให้ยืนอยู่แค่ตรงนี้ จึงทำได้แค่ยืนให้พวกพี่เขาพูดจาดูถูกและบูลลี่ใส่อย่างสนุกปาก “เกะกะสายตาพวกพี่ว่ะ” ฉันเม้มปากแน่นพลางกำชายเสื้อนักเรียนของตัวเองแน่นพยายามข่มความอับอาย ขอบตาร้อนผ่าวคล้ายจะมีของเหลวสีใสไหลออกมา แต่ก็พยายามกลั้นไว้ ไม่อยากให้มันไหลออกมาต่อหน้ารุ่นพี่ใจร้ายพวกนี้ “น้องแม่งทำหน้าตาโคตรน่ากลัวเลยว่ะ ฮ่า ๆๆ” “หน้าโคตรจี้ ฮ่า ๆๆๆ” เมื่อเห็นฉันทำหน้าประหลาด พวกพี่เขาก็พากันหัวเราะชอบใจ ยิ่งตอกย้ำให้ฉันเจ็บปวดใจและอับอายมากกว่าเดิม “กูหมดอารมณ์อยากเล่นต่อแล้วว่ะไอ้พต” “กูด้วย หลบดิ้!” พลั่ก! พี่เขามองเคืองใส่แล้วเดินชนไหล่ฉันทำเหมือนฉันเป็นตัวเกะกะ ทั้ง ๆ ที่มีที่ว่างให้พี่เขาเดินตั้งเยอะแยะ “อะ..โอ๊ย!” พี่เขาไม่ได้ชนฉันแรงมากหรอก แต่ขาที่อ่อนแรงทำให้ฉันเซล้มลงเข่ากระแทกพื้นจนหลุดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด “น้องขี้เหร่นี่แม่งโคตรน่ารำคาญเลยว่ะ!” แทนที่พี่เขาจะรู้สึกผิดแต่กลับสบถอย่างหัวเสียใส่ฉันซะงั้น และมันก็ทำให้น้ำใส ๆ ไหลรินออกมาจากเบ้าตาแบบอดไม่ไหว ความรู้สึกมากมายผสมปนเปและตีรวนกันมั่วไปหมดในทรวงอก ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้ แต่ไม่มีเรี่ยวแรงลุกขึ้นวิ่งหนีออกไป “พวกมึงแม่งน่ารังเกียจ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD