Chapter 8 สัมพันธ์สวาท (2)
"บ้าจริง ตามมาที่นี่เหรอเนี่ย นึกว่าจะแวะนอนที่คลินิกเสียอีก"
ดากานดาต้องเปลี่ยนใจไม่เดินออกไปนอกบ้าน เมื่อโผล่หน้าออกไปแล้วเห็นปราชญ์อุ้มลูกชายเดินหัวร่อต่อกระซิกกับลูกสาวมาแต่ไกล ในมือของลลินคือถุงขนมที่หอบหิ้วมาเต็มไม้เต็มมือ นั่นคงเป็นของฝากที่เขาบอกจะซื้อมาฝากหล่อน และเขาไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าจะตามมานอนที่บ้าน การที่จู่ๆ เขาก็หอบลูกหอบเต้ามาที่บ้านหลังนี้ ทำให้นึกกลัวอยู่ไม่น้อยว่าเขาอาจจะหาเรื่องใกล้ชิดกันอีกครั้ง เพราะเขาไม่ยอมให้หล่อนได้อยู่ไกลตาแม้สักวันเดียว
'เรื่องนี้จะต้องไม่มีใครรู้ เพราะถ้า...เขากลับไปคืนดีกัน แล้วเราจะไปอยู่ตรงไหน'
นั่นคือความจริงอันแสนเจ็บปวดกับความลับที่จำต้องปกปิดผู้ใหญ่ และก่อนที่เขาจะเดินมาถึง ดากานดารีบเดินกลับ ไปทางเก่า วิ่งขึ้นบันไดเพื่อไปหลบอยู่ในห้องนอน เมื่อจู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ เมื่อนึกไปว่าเขาเพิ่งกลับมาจากการทานข้าวกับอดีตภรรยา...
"ไปไหนกันมาครับ คุณอาถึงไม่ได้ไปด้วย"
ธารณ์เดินมาดักหน้าเมื่อเห็นน้องชายเข้ามาในบ้านพร้อมกับลูกๆ ความที่ยังไร้เดียงสา ลลินจึงโพล่งออกมาโดยที่คุณพ่อห้ามไม่ทัน
"ไปทานข้าวกับคุณแม่มาค่ะคุณลุง"
ธารณ์ถึงกับหุบยิ้ม มองหน้าน้องชายตัวดีด้วยสายตาที่สื่อถึงความขัดใจ...ปราชญ์เหมือนรู้ว่าพี่ชายจะพูดอะไรต่อ จึงรีบให้ลูกสาวหลบไปที่อื่นชั่วคราว
"เอาขนมไปให้คุณอาสิครับลลิน บอกว่าปาป๊าซื้อมาฝาก"
"ค่ะ ปาป๊า"
"คุณอาน่าจะอยู่ในห้องครับ หนูลองไปเรียกดูนะ"
ธารณ์ยิ้มให้หลานสาว...เมื่อลับหลังร่างน้อยๆ นั้นแล้ว เขาก็ตวัดสายตากลับมาทางน้องชาย
"กี่ครั้งแล้วที่นายออกไปพบกับแม่ของลูกแบบนี้"
"เดือนละครั้งครับ ก็แค่...ไปทานข้าวด้วยกัน"
ปราชญ์บอกไม่หมด เขาตัดเรื่องที่อลินเคยมานอนที่คลินิกออกไป หากบอกให้พี่ชายรู้ คงต้องทะเลาะกันบ้านแตกแน่นอน
"ลืมไปแล้วใช่ไหมว่าใครที่ทำให้นายเจ็บจนเจียนตาย
เสียใจจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ใคร...ที่ขอนายหย่าเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทั้งที่คุณแม่ก็ขอร้องไว้ตั้งหลายครั้งว่าให้เห็นแก่ลูก"
"ครับ...เรื่องนั้น...ผมไม่เคยลืม ที่ทำลงไปก็เพื่อซื้อความ รู้สึกของลูกเท่านั้น"
"ตอนนี้อดีตเมียนายเริ่มคิดถึงลูกแล้วเหรอ แต่ก่อนไม่เห็นคิดถึงจิตใจของเด็กๆ หากคิดถึงลูก ก็ต่างคนต่างพาไปก็ได้นี่ นายก็ให้เธอมารับลูกไปเลี้ยง ผลัดกันก็ได้ ทำไมยังต้องไปมาหาสู่กันแบบนี้"
"ลลินยังเด็ก เขาไม่รู้ว่าพ่อกับแม่เลิกกัน เขาไม่เข้าใจเหตุผลของผู้ใหญ่หรอกครับ หากทำเช่นนั้น ลลินจะเสียใจเอาได้ ผมกลัวว่า...ลูกจะมีปมด้อยตั้งแต่เขายังเล็ก"
"แล้วนายจะปิดลูกไปได้อีกนานเท่าไหร่กัน ลลินกับธามก็ต้องโตขึ้นทุกวัน ปิดไม่ได้ตลอดหรอกนะ"
"....."
คำถามของพี่ชายทำเอาปราชญ์นิ่งเงียบ เขาเองก็ตอบตัวเองไม่ได้เช่นกัน ว่าจะปิดลูกไปได้อีกนานสักแค่ไหน
"หวั่นใจจริงๆ กลัวนายจะใจอ่อนให้กับเธออีกครั้ง"
"เชื่อผมนะครับ เรื่องระหว่างผมกับลินมันไม่มีทางเป็นไปได้อีก ผมจะไม่เดินย้อนกลับไปทางเก่าแน่นอน"
"ได้ข่าวว่าเงินที่ได้ไปจากนายเธอก็ใช้จนหมดตัวแล้ว ไม่ใช่ว่าย้อนกลับมาเพราะเรื่องนี้นะ"
"เธอจะไม่มีวันได้อะไรจากผมอีก...ไม่มีวัน..."
ปราชญ์ส่งลูกให้พี่ชายรับไปอุ้มไว้แล้วเดินหนีมาจากตรงนั้น เขารู้ว่าทุกคนเป็นห่วงกลัวว่าเขาจะกลับไปคืนดีกับอลินแล้วก็เข้ารอยเดิมเพราะนิสัยส่วนตัวที่ขัดแย้งกัน ตอนที่หล่อนท้าหย่าทุกคนในบ้านต่างไม่เห็นด้วย และเมื่อหล่อนตัดสินใจขึ้นมาจริงๆ จึงสร้างความไม่พอใจให้แก่ทางบ้านของเขาเป็นอย่างมาก คนที่ขุ่นเคืองมากที่สุดนั่นก็คือบิดาและมารดาของเขา หากท่านทั้งสองรู้เรื่องนี้ เขาจะต้องถูกตำหนิเสียยกใหญ่อย่างแน่นอน แต่เขาเชื่อว่าพี่ชายจะไม่พูดต่อ รู้ในนิสัยกันดีว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะไม่มายุ่งวุ่นวายเรื่องของคนอื่นจนเกินพอดี...ในขณะ เดียวกัน เขาก็กลัวเหลือเกิน กลัวว่าใครบางคนจะรอไม่ไหวจนเป็นฝ่ายยอมจากไป
'หวังว่าเธอจะรอพี่ได้นะกานดา หวังว่าเธอคงเข้าใจว่าที่ทำลงไปก็เพื่อลูกเท่านั้น...'
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเมื่อยามสองทุ่มเศษ ลลินที่กำลังนอนคลอเคลียอยู่กับดากานดารีบขันอาสาลงจากเตียงไปเปิดประตู และคนที่ยืนยิ้มอยู่หน้าห้องก็เป็นคนเดียวกับที่สาวน้อยคาดเอาไว้ คนที่ชอบมาเคาะบ่อยๆ ไม่ใช่ใคร เป็นคุณพ่อของตนนั่นเอง
"นอนหรือยังครับ"
"ยังค่ะปาป๊า นอนดูหนังอยู่"
แววตาซ่อนเล่ห์มองเลยไปยังคนที่อยู่บนเตียง ก่อนจะเริ่มหว่านล้อมลูกสาว
"พรุ่งนี้คุณลุงก็จะกลับไปหาพี่ๆ แล้ว ไม่ไปนอนกับคุณลุงบ้างเหรอครับ คืนนี้น้องก็นอนกับคุณลุงนะ"
เพียงเท่านั้น ดากานดาก็ผลุนผลันลงจากเตียง เดินมาประกบหลานสาวเพราะกลัวถูกคุณพ่อหลอกจนยอมไปนอนห้องอื่น...เมื่อนั้น...ก็จะเข้าทางเขาที่หวังผลไว้แล้ว เขาต้องการเข้าหาเพื่อหลอกล่อให้หล่อนพลาดท่าเสียที คิดอย่างรู้เท่าทันคนที่ยืนยิ้มอยู่หน้าประตู
"คุณลุงเปิดการ์ตูนที่หนูชอบด้วยนะ ไม่ไปดูกับคุณลุงเหรอครับ"
ปราชญ์ยังคงหว่านล้อม และเหมือนจะได้ผลเมื่อสาวน้อยมีท่าทีลังเล หากแต่ดากานดาก็ขัดขึ้นเสียก่อน
"ดูการ์ตูนมากๆ ไม่ดีนะจ๊ะ ถ้าจะไปนอนกับคุณลุงคุณอาก็เหงาแย่เลยน่ะสิ"
"นานๆ ดูไม่เป็นไรหรอกครับ แล้วก็...หนูควรให้คุณอาได้พักผ่อนบ้าง ไปนอนกับคุณลุงสักคืนนะ"
สาวน้อยก็ช่างว่านอนสอนง่ายจนน่าชัง เชื่อคุณพ่อโดยไม่รู้เลยว่านั่นคือแผนการณ์ชั่วร้ายเพื่อหวังผลอะไรบางอย่าง เจ้าตัวตัดสินใจเดินกลับไปหยิบตุ๊กตาหมีมากอดไว้แนบอก ก่อนจะเดินย้อนกลับมาที่หน้าประตู ฉีกยิ้มให้คนที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่หน้าห้องจนแก้มปริ
"ลลินจะไปดูการ์ตูนที่ห้องคุณลุงค่ะ"
"ไปเคาะห้องเรียกเลยครับ คุณลุงรออยู่"
"ลลินไปนอนห้องคุณลุงนะคะคุณอา"
พูดจบก็เดินลิ่วจากไปโดยไม่ฟังเสียง ดากานดาได้แต่มองตามด้วยแววตาละห้อยแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะหลานสาวนั้นเชื่อคุณพ่อโดยไม่มีข้อโต้แย้งและสงสัยอะไรเลย
"พี่ปราชญ์ หลอกเด็กทำไมคะ คนเจ้าเล่ห์"
"เสร็จไอ้ปราชญ์ล่ะ หึหึ"
เสียงหัวเราะในลำคอมาพร้อมกับร่างสูงที่รีบผลุบเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วก่อนจะมีคนมาเห็นว่าเขาดอดเข้าห้องน้องสาว ชายหนุ่มยืนขวางบานประตูเอาไว้แล้วกดล็อกเพื่อไม่ให้ใครเปิดเข้ามาได้...และแม้จะรู้ว่าคงไม่ได้ผล ดากานดาก็ยังคงเอ่ยไล่เสียงแข็ง
"พี่ปราชญ์ ออกไปเลยนะ เข้ามาทำไม!"
"ไม่ไป มีปัญหาอะไรไหม"
"ย่องเข้าห้องคนอื่นแบบนี้ ระวังความจะแตกเข้าสักวัน"
"ก็ดีเลย เธอจะได้เลิกปากแข็งเสียทีนะกานดา"
นั่นคือจุดแข็งของเขา อ้างเรื่องที่หล่อนกลัวเพื่อให้ยอมจำนน
"อย่าค่ะ..."
พยายามขัดขืนเมื่อเขารวบร่างของตนเข้าไปกอดแล้วฝังปลายจมูกลงบนพวงแก้มนุ่มคล้ายกับโหยหามานาน ทั้งที่ไม่ได้เจอกันไม่ทันข้ามวันด้วยซ้ำ ดากานดาใจหายวาบ เมื่อคิดไปถึงว่าคืนนี้เขาคงไม่ยอมกลับไปนอนที่ห้องของตัวง่ายๆ แน่นอน และเขาก็เคยทำมาแล้ว กับการขอล่วงล้ำมากกว่าการล่วงเกินภายนอก หล่อนเชื่อว่าเขาทำได้หากคิดจะทำ
"เรามีเรื่องต้องคุยกัน เพราะเธอน่ะทำความผิดไว้รู้ตัวมั้ย"
อยู่ดีๆ เขาก็ยัดข้อหามาให้โดยที่หล่อนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเรื่องอะไร...อ้อมกอดนั้นกระชับแนบแน่นแล้วรั้งร่างนุ่มๆ เข้าหาเตียงกว้าง ก่อนเขาจะทิ้งกายนั่งไปบนนั้น รั้งให้หล่อนนั่งลงบนตักแล้วกอดเอาไว้ ปลายคางสากระคายเกยไว้กับไหล่นวลเนียน
"กานดาทำอะไรผิดคะ"
"ไอ้เหนือมันโทร.หาพี่ บอกว่าเธออยากไปทำงานที่ร้านมัน จริงหรือเปล่ากานดา"
ปราชญ์หมายถึงอธิป และนี่คือสาเหตุที่เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก ร้อนรนจนต้องโร่มาเคลียร์กันตัวต่อตัวเพราะกลัวว่าหล่อนเป็นคนไปของานเพื่อนของเขาทำ
"แล้ว...พี่ปราชญ์ยอมให้กานดาไปทำหรือเปล่าคะ ถ้าหากกานดาอยากไป" รู้ทั้งรู้คำตอบแต่ก็อยากจะลองของ และเสียงเข้มๆ ก็สวนกลับ
"ไม่ให้ไป!"
"นึกแล้วว่าต้องได้คำตอบแบบนี้"
"เธอก็รู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว แล้วก็ยังจะดื้อกับพี่ใช่ไหม"
"บอกเหตุผลมาสิคะ ทำไมถึงไม่ให้ไป"
"เพราะ...พี่...พี่ไม่ไว้ใจไอ้เหนือ เดี๋ยวมันจีบเธอ"
"แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่ปราชญ์คะ ถ้าหากว่ากานดาจะคบกับใคร"
หล่อนหาเรื่องฆ่าตัวตาย เพียงเพราะรอแค่คำบอกรักให้มั่นใจหากแต่เขากลับไม่พูดมันออกมา วาจาประชดประชันจึงเอื้อนเอ่ยฆ่าตัวเองออกมา...นั่นเหมือนกับยิ่งกระตุ้นต่อมความหึงหวงให้ทวีคูณ เขาพลิกร่างหล่อนให้นอนหงายลงบนที่นอนแล้วโถมกายทาบทับกักเอาไว้...หัวใจร้องบอก หล่อนเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์คิดลึก แม้กระทั่งเพื่อนที่สนิทมากที่สุดก็ตาม
"กานดาอยากมีอิสระ พี่ปราชญ์จะขังกานดาเอาไว้แบบนี้เหรอคะ อีกนานแค่ไหนที่จะพ้นจากสภาพแบบนี้"
"อยากมีอิสระใช่มั้ย ได้เลยกานดา!"
เป็นอีกครั้งที่จบลงด้วยสัมผัสทางกาย...จูบ...ที่แสดงถึงการครอบครอง แม้แสนหวานแต่ก็มาพร้อมกับความเจ็บปวด คล้ายเขาต้องการฝากรอยจารึกเอาไว้ให้หล่อนได้จดจำ ใคร...ที่เป็นเจ้าของหัวใจอย่างแท้จริง
"หากเธอยังดื้อดึงที่จะไปทำงานกับไอ้เหนือ พี่จะไม่ปล่อยเธอให้ลอยนวลแล้วนะ"
"คอยดูนะ กานดาจะบอกทุกคนให้หมด กานดาจะบอกคุณป้าว่าพี่ปราชญ์ทำอะไรไว้กับกานดาบ้าง"
หล่อนขู่เสียงสั่น ถึงแม้จะรู้ว่าคนอย่างเขาไม่เคยกลัวเลยก็ตาม กลับเป็นหล่อนเองที่กลัวหากจะเปิดเผยความลับนี้ ได้แต่เป็นฝ่ายขอร้องไม่ให้เขาบอกใคร และนี่...จึงเป็นเหตุให้เขาหาเรื่องใกล้ชิดโดยนำเรื่องนี้ขึ้นมาขู่ทุกครั้ง และหล่อนต้องเป็นฝ่ายยอมอยู่ร่ำไป
"เอาสิ เอาเลย พูดออกมาให้หมด ถ้าเป็นเช่นนั้นเธออาจถูกจับแต่งงานเร็วขึ้นกว่าเดิมก็ได้ อยากให้เป็นแบบนั้นก็ขี่ม้าโพนี่ไปฟ้องทุกคนเลย พี่จะรอดู"
"คนใจร้าย...อื๊อ..."
คล้ายไม่สาแก่ใจ เขาจึงบดขยี้ความร้อนรุ่มลงบนกลีบปากนุ่มตามแรงรักแรงหวงที่ถาโถมรุมเร้า ฝ่ามือร้อนลากไล้เข้าใต้ชายเสื้อนุ่มลื่น ก่อนเคลื่อนขึ้นสูงขึ้นหาอกอิ่มทิ่มทะลุสายตา สองมือบีบเคล้นความนุ่มหยุ่นหน่วงหนักตามแรงอารมณ์ มาพร้อมเสียงกระซิบที่ทำเอาคนฟังขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง
"วันนี้เธอต้องถูกสั่งสอนขั้นร้ายแรง ข้อหาคุยกับไอ้เหนือลับหลังพี่ ทีหลัง...จะได้ไม่ทำอีก"
"ไม่ ไม่นะ! กานดากลัว"
"ดูสิ อะดรีนาลีนในตัวเธอกำลังวิ่งพล่าน กลัวพี่มากไหมกานดา"
"อื๊อ..."
ชายหนุ่มฝังหน้าลงฟอนเฟ้นกับความขาวอวบแน่นหนั่น พร้อมกับหยอกเย้าด้วยการเขี่ยปลายนิ้วลงบนตุ่มใตที่ชูชัน บี้คลึงเบาๆ จนสาวเจ้าขยับกายไปมาด้วยความหวามไหวจนขนลุกไปทั้งกาย
“อูยยย…กานดา เธอยั่วพี่”
“พะ พอแล้ว อืม…”
“อีกนิดนะคนดี ขออีกนิด”
“อื๊อ…พี่ปราชญ์ทำอะไร”
เสียงครางในลำคอด้วยความกระสันทำให้เขาย่ามใจ ฝ่ามือแกร่งเลื่อนลงต่ำแล้วทาบลงบนความอวบอูมที่ทิ่มทะลุสายตาหื่นกระหาย ปลายนิ้วเรียวยาวค่อยๆ ลากไล้ลูบตรงรอยแยกผ่านเนื้อผ้าบางๆ ที่แทบไม่ช่วยคุ้มกันอะไร นิ้วร้อนลูบไปลูบมาด้วยสัมผัสอ่อนละมุนจนซับในสีขาวสะอาดเปียกชุ่ม หยาดน้ำหวานแทรกซึมขึ้นมาจนปลายนิ้วแกร่งชุ่มลื่น
อา…เขาครางกระเส่าอยู่ในลำคอ อยากชิมหล่อนไปทั้งตัวจนทนไม่ไหว ความต้องการถึงขีดสุดทำให้เขาสอดปลายนิ้วเข้าสู่ช่องปากแล้วดูดกลืนน้ำหวานๆ ลงคอต่อหน้าคนที่นอนสั่นสะท้านจากสัมผัสหวามไหว กลิ่นของหล่อนช่างหอมหวานจนเขาอยากจะชิมอีกเรื่อยๆ เมื่อใจร่ำร้องปลายนิ้วจึงบดขยี้ลงไปที่กลีบเนื้อนุ่มอีกครั้ง เรียกเสียงครางเล็ดลอดเรียวปากสีสด เสียงที่ทำเอากลางกายแข็งขึงปวดหนึบอยู่ใต้กางเกงเนื้อดี
"อื๊อ...พี่ปราชญ์…อ๊า"
"กานดา..."
“อ๊า…อย่าหยุด”
หล่อนร้องสั่งเสียงพร่า ตามมาด้วยเสียงเนื้อผ้าฉีกขาดจากแรงชาย เขาดึงทึ้งกางเกงตัวจิ๋วที่ขาดร่องแร่งออกไปจากสะโพกผาย โยนทิ้งไปอย่างไร้ทิศทาง จับสองขาเรียวให้แยกออกจนเปิดกว้างมากขึ้น ก่อนฝังหน้าลงฟอนเฟ้นกับเนื้อนุ่มหอมหวานยั่วใจ ลิ้นสากร้อนตวัดลากไล้แล้วดูดดึงหน่วงหนัก สลับกับสอดลึกรุกล้ำเข้าหาโพรงสวาทนุ่มลื่นแล้วตวัดดูดกลืนน้ำหวานๆ ลงคอ พร้อมกันนั้นแท่งนิ้วก็สอดลึกรุกล้ำแล้วขยับเข้าออกอย่างระมัดระวัง เรียกเสียงครางกระเส่าพร้อมสะโพกผายที่ส่ายร่อนสอดรับกับจังหวะการเคลื่อนไหวของแท่งนิ้วร้อนรุกราน
“โอววว กานดา ร้อนแรงเหลือเกิน”
สาวไร้เดียงสาของเขาเปลี่ยนไปกลายเป็นแมวยั่วสวาท แววตากรุ่นไฟปรารถนาเหลือบมองใบหน้าที่แดงเห่อจนน่าใหลหลง หล่อนขบริมฝีปากใบหน้าแหงนเงยเพราะความเสียวซ่าน สองมือดึงทึ้งผ้าปูแล้วกำเอาไว้จนแน่น ในขณะที่แท่งนิ้วและลิ้นร้อนของเขายังคงทำงานอย่างสอดประสาน สักพักหล่อนก็ร้องออกมาไม่เป็นภาษา มาพร้อมร่างกายที่กระตุกเกร็งสั่น ความหวานล้ำทะลักทะลายเอ่อท้นเข้าหาลิ้นร้อนที่รอรับ อารมณ์ที่พุ่งพล่านทำให้เขาดูดกลืนสายสวาทลงคอทุกหยาดหยด มันมาจากความรักที่ซ่อนอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ
คนเสร็จสมนอนหมดแรงหายใจระทวยรวยริน แววตาฉ่ำเยิ้มปรือตามองเมื่อสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ถูไถอยู่นอกเส้นทางรัก ความแข็งขึงที่ไม่ยอมรุกล้ำเข้ามาข้างในแม้จะมีโอกาส หล่อนยิ่งหน้าแดงซ่าน เมื่อเห็นเขากำลังกระทำบางอย่างที่เรียกว่าการช่วยเหลือตัวเอง
“โอ้ววว…ซี๊ดดด…”
“อ๊ะ!”
หล่อนสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความอุ่นซ่านที่ฉีดพุ่งเข้าหากลีบเนื้อนุ่ม มาพร้อมกายของเขาที่กระตุกเกร็งสั่นและเสียงห้าวครางทุ้มต่ำอยู่ในลำคออย่างต่อเนื่อง สายสวาทอุ่นซ่านเลอะเปรอะเปื้อนอยู่นอกเส้นทางรัก มันมาจากความอัดอั้นที่เขาห่างหายจากเรื่องบนเตียงมานานวัน
หลังเสร็จสม คนตัวโตหมดแรงฟุบร่างเข้าหาคนที่ยังคงนอนนิ่งเพราะความปร่าแปร่งในหัวใจ สมองมึนเบลอคล้ายกับตกอยู่ในห้วงฝัน ริมฝีปากร้อนจากไฟสวาทจูบซับลงบนพวงแก้มแดงซ่านทั้งสองข้างราวเพิ่งผ่านพ้นสัมพันธ์รักลึกซึ้ง แม้จะไม่ได้ล่วงล้ำแต่หล่อนก็ช่วยทำให้เขามีความสุขจนหัวใจล่องลอย ท่ามกลางความเงียบงันยามราตรีกาล ทั้งสองต่างได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน มันร่ำร้องหากันและกันจนเต้นแรงให้สัมผัสได้ ความรู้สึกส่วนลึกของเขาและหล่อนร้องบอกอย่างนั้น
"ฮือๆ"
เสียงสะอื้นยังคงดังแว่วอยู่ในห้องนอนที่อบอวลไปด้วยไอเย็น ดากานดานอนตะแคงหันหลังเมื่อทุกอย่างเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด แม้เสียงปลอบประโลมนั้นยังคงดังคลอเคลียอยู่ข้างใบหู จูบ...ที่ฝากฝังลงบนขมับด้วยสัมผัสลุ่มลึกอ่อนละมุน หากแต่กลับไม่ได้ช่วยให้หยาดน้ำตาหยุดไหลได้เลย
"หยุดร้องเถอะนะกานดา พี่ขอโทษ"
"ขอโทษแล้วมันซื้อเวลากลับมาได้มั้ยล่ะคะ ไปไกลๆ เลย กานดารังเกียจพี่ปราชญ์ที่สุด ฮือๆ คนหื่น"
"แต่ถึงอย่างไร...เธอก็ยัง..."
เขาหยุดค้างเอาไว้เมื่อหล่อนเอี้ยวหน้ามามองด้วยแววตาขุ่นๆ เขาคลี่ยิ้มให้ด้วยแววตาพราวระยับกับท่าทีแสนงอนนั่นอย่างไม่รู้สึกผิด หล่อนทำโกรธขึ้งแม้จะเพิ่งผ่านพ้นวินาทีแห่งความสุขที่เขามอบให้ก็ตามที
"จะเสียใจทำไมกานดา ในเมื่อเธอยังไม่ได้เสียตัวให้พี่สักหน่อย"
แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ต่างจากถูกเขาล่วงล้ำ เมื่อเขาช่วยให้
หล่อนสุขสมแม้จะไม่ได้มีสัมพันธ์รักกันก็ตามที นั่นคือสิ่งที่หล่อนเถียงในใจอย่างนึกอับอาย ยังคงสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดอุ่นที่ปลอบประโลม อีกทั้งปลายนิ้วแกร่งที่ช่วยไล้คราบหยาดน้ำตาออกไปจากผิวแก้มนวลเนียน
"แล้วหลังจากนี้กานดาจะมองหน้าทุกคนได้อย่างไร จะมองหน้าน้องได้อย่างไร ในเมื่อพี่ปราชญ์...ฮือๆ"
สะอื้นจนไม่อาจเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาได้ รู้สึกอับอายเหลือแสนที่ปล่อยให้อารมณ์รักและต้องการมาครอบงำจนยอมให้เขากระทำแบบนั้นอย่างง่ายดาย เหมือนเสียตัวให้เขาไปแล้ว หัวใจร่ำร้องบอกเช่นนั้น
"แล้วก็จำเอาไว้นะกานดา เธอเป็นของพี่ ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้ ทำแบบที่พี่ทำกับเธอ"
"ฮือๆ เกลียด เกลียดที่สุด พี่ปราชญ์คนเดิมที่กานดารู้จักหายไปแล้ว"
"ยิ่งเกลียดก็ยิ่งเจอ เกลียดให้มากๆ เลยนะกานดา"
คนตัวโตยังคงกอดคนแสนงอนเอาไว้เช่นนั้น จมูกคมสันคลอเคลียอยู่ข้างพวงแก้มด้วยความหวงแหน แม้ไม่ได้มีสัมพันธ์รักลึกซึ้งหากแต่วันนี้เขาก็ล่วงล้ำหล่อนขึ้นมาอีกขั้น มันคือแผนของเขาที่ต้องการล่อหลอกให้หล่อนติดกับดักจนตกลงไปในหลุมพิศวาสที่ถูกขุดไว้รอ ค่อยๆ ตะล่อมให้กวางสาวเผลอไผลไปกับกลเกมรักที่เขาป้อนให้ จนในที่สุด...หล่อนก็พร้อมที่จะยอมมีสัมพันธ์รักลึกซึ้งกับเขาด้วยความเต็มใจ โดยที่เขาไม่ต้องออกแรงบังคับขืนใจให้รู้สึกอดสูใจตัวเอง