Chapter 4 เมื่อรักมาถึงทางตัน

2114 Words
Chapter 4 เมื่อรักมาถึงทางตัน "ขอให้โชคดีนะคะ กานดาจะคอยเป็นกำลังใจให้" ถ้อยคำเอื้อนเอ่ยตามมาด้วยรอยยิ้มส่งผ่านกำลังใจหลังจากรถแล่นมาจอดเทียบหน้าบ้านอลิน ซึ่งวันนี้ปราชญ์ตัดสินใจที่จะมาง้อภรรยาอีกครั้งถึงบ้านของเจ้าหล่อน ตามคำรบเร้าของดากานดาที่อยากให้เขาลองดูอีกสักครั้ง การมาครั้งนี้เขาได้พาเด็กๆ มาด้วย หวังให้อลินเห็นหน้าลูกแล้วเปลี่ยนใจ เขาได้แต่หวังว่าวันนี้จะกลับบ้านไปพร้อมกับเธอ "ไปกันเถอะ" ทั้งหมดพากันลงจากรถเพื่อเข้าไปด้านใน แม่บ้านที่มารอรับยืนยิ้มรออยู่ เมื่อเห็นว่าคนที่มาเยือนเป็นใคร "ลินอยู่มั้ยครับ" "กำลังกลับมาค่ะ เชิญข้างในก่อนค่ะคุณหมอ" ปราชญ์พาเด็กๆ เดินตามแม่บ้านเพื่อเข้าไปรอภรรยาข้างใน ในระหว่างนั้น แม่ยายของเขาก็เดินมารับหน้าพอดี "สวัสดีค่ะคุณยาย" ลลินยกมือไหว้โดยไม่ต้องรอให้ใครบอก อนงค์ฉีกยิ้มกว้างรับไหว้หลาน ก่อนเดินเข้ามารั้งร่างนั้นเข้าไปกอดด้วยความเอ็นดู "คิดถึงจังเลย นึกว่าจะลืมคุณยายเสียแล้ว" คนพูดหอมแก้มทั้งสองข้างของหลานสาวด้วยความคิดถึง ก่อนจะผละไปรับหลานชายจากอ้อมอกของผู้เป็นพ่อมาอุ้มบ้าง จมูกกดหนักๆ ลงบนแก้มซาลาเปาด้วยความมันเขี้ยว "คิดถึงจัง ไม่ได้เจอกันนาน ดูโตขึ้นผิดหูผิดตาเลยนะหลานยาย" "คุณแม่ครับ ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณแม่" "คุยกับแม่..." "ครับ...เรื่องลิน..." รอยยิ้มบนใบหน้าของอนงค์เจื่อนลงไป หล่อนเหลือบมองมาทางดากานดาที่ยืนยิ้มเฝื่อนรออยู่ "เอ่อ...ตามสบายนะคะ เดี๋ยวกานดาจะพาเด็กๆ ไปเดินเล่นในสวน" "ฝากน้องด้วยนะกานดา พี่ขอคุยธุระเป็นการส่วนตัว" "ค่ะ" ดากานดารับหลานชายมาอุ้มไว้ ก่อนจะพยักพเยิดให้ ลลินเดินตามออกไปยังสวนข้างบ้าน ด้วยจะพาหลานไปยังบ่อปลาคาร์ฟเพื่อเปิดทางให้ปราชญ์ได้คุยแบบเปิดใจกับแม่ยาย เรื่องทุกอย่างที่ค้างคาจะได้จบสิ้นกันในวันนี้เลย ซึ่งหล่อนเคยบอกเขาไปแล้วว่าผู้หญิงต้องการอะไร และไม่รู้เลยว่าเขาจะนำคำพูดของตนไปนอนคิดทบทวนหรือไม่ การเดินมาพบกันครึ่งทาง จะทำให้ทั้งคู่จับมือกันก้าวเดินไปบนถนนชีวิตได้อย่างตลอดรอดฝั่ง ไม่จบลงด้วยการหย่าร้างอันมาจากความไม่ลงรอยทางความคิด ที่ต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์อยากเอาชนะด้วยกันทั้งคู่ "เมื่อไหร่คุณแม่จะกลับไปอยู่กับลลินคะคุณอา ลลิน คิดถึงคุณแม่ อยากให้คุณแม่กอดนอนทุกๆ คืน" คำถามที่มาจากความไร้เดียงสาทำให้ดากานดาถึงกับนิ่งอึ้ง หล่อนหลบสายตาจากแววตากลมโตดำขลับที่จับจ้อง มองไปยังฝูงปลาที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในสายน้ำฉ่ำเย็น...ในขณะที่หลานสาวนั้นเริ่มรู้ความ แต่หลานชายที่นั่งอยู่บนตักกลับส่งเสียงอ้อแอ้คุยกับตัวเองอย่างไม่ประสีประสา วัยที่ยังเล็กมากทำให้ใจต้องไหววูบเพราะสงสารเด็กๆ จับใจ "คุณแม่กับปาป๊าไม่พูดกันเหรอคะ" "ปะ เปล่าจ้ะ ที่คุณแม่ของลลินไม่ค่อยได้กลับบ้าน ก็เพราะงานยุ่งมากๆ จ้ะ อีกไม่นานนะคะ อีกไม่นานคุณแม่ก็จะกลับไปหาพวกหนู" "คุณอาไม่ได้หลอกลลินนะคะ" "ไม่จ้ะ อาจะโกหกลลินทำไมล่ะจ๊ะ" "อะแฮ่ม" เสียงกระแอมที่ดังแทรก ทำให้การสนทนาสะดุดลง หันไปมองก็เห็นว่าใครยืนอยู่ไม่ไกล "คุณแม่!" เพียงเท่านั้น ลลินก็ผลุนผลันลุกนั่ง วิ่งโผเข้าไปหามารดาด้วยความดีใจและความคิดถึง สองแขนเล็กๆ กอดเอวมารดาเอาไว้พร้อมกับหน้าที่ซุกซบเข้าหาตามความโหยหาที่สะสมมานานวัน "คิดถึงคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ" อลินกอดตอบร่างนั้น หากแต่สายตากลับมองเลยไปยังดากานดา เรื่องวันก่อนแวบเข้ามาในใจจนทนเก็บเอาไว้ไม่ได้ "ไงจ๊ะลลิน ไปเที่ยวทะเลมาสนุกมั้ยเอ่ย" ยิ้มแปลกๆ ของอีกฝ่ายทำให้ดากานดาสัมผัสได้ถึงความไม่ปกติ ในแววตาเสมือนเจือความไม่พอใจอยู่ในนั้น "สนุกมากๆ เลยค่ะคุณแม่ เสียดายที่คุณแม่ไม่ได้ไปกับพวกเรา" จากนั้นเรื่องเล่ามากมายก็ถูกเล่าผ่านปากด้วยความไร้เดียงสา โดยไม่รู้เลยว่าบางเรื่องก็กระทบกับความรู้สึกอันแสนอ่อนไหวของคนฟัง ก่อให้เกิดอารมณ์หึงหวงเพราะอดคิดไปไกลไม่ได้...หลังเด็กๆ หลับหมดแล้ว สามีของหล่อนและน้องสาวนอกไส้มีความลับอะไรนอกเหนือจากการรับรู้ของเด็กๆ บ้าง หล่อนกลัวเหลือเกิน ชายหญิงใกล้กันในบรรยากาศเป็นใจ แล้วมันจะไปเหลืออะไร ผู้ชายที่ไม่ใช่พระอิฐพระปูนเช่นสามีของเธอ จะซื่อสัตย์ในยามลับหลังได้ขนาดนั้นเชียวหรือ อลินเฝ้าถามตัวเอง "เธอไปทะเลมากับปราชญ์ คงมีความสุขมากเลยสินะกานดา" "เอ่อ...กานดาไปช่วยดูแลน้องค่ะ น้องธามกำลังซนน่าดูเลยนะคะ" อลินแค่นยิ้ม มือขาวเนียนลูบลงบนศีรษะกลมทุย ก่อนจะก้มหน้าลงคลี่ยิ้มให้ลูกสาว "ลลินจ๊ะ หนูเข้าไปอยู่กับคุณยายก่อนนะ แม่มีธุระจะคุยกับคุณอาของหนูสักครู่" "ค่ะคุณแม่" เดินแยกตัวออกไปด้วยความไร้เดียงสา อลินมองตามร่างนั้นจนลับสายตา ก่อนจะหันมามองหน้าคนที่นั่งกอดลูกชายของตนไว้บนตัก "รู้สึกว่าระยะหลังมานี้ เธอจะไปไหนมาไหนกับปราชญ์เขาบ่อยเหลือเกินนะ" ก็แค่ไปทะเลกับมาเป็นเพื่อนเขาในวันนี้...นั่นคือสิ่งที่กานดาโต้แย้งในใจ หากแต่ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ได้แต่คลี่ยิ้มปร่าแปร่งให้เจ้าของแววตาชวนทะเลาะ "วันนี้พี่ปราชญ์ให้มาช่วยดูแลน้องธามค่ะ กานดาก็เลยมาเป็นเพื่อนเขา" คนฟังแค่นหัวเราะ อารมณ์หึงหวงทำให้โพล่งออกมาโดยขาดการไตร่ตรองที่ดี "ไม่ใช่ว่า...เธอเห็นว่าพี่กับเขากำลังจะหย่ากัน ก็เลยถือโอกาสรอเสียบ!" "พี่ลิน! กานดาไม่ได้..." "ไม่เป็นอะไรหรอกหากเธอคิดเช่นนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าอาย พี่จะยกผัวให้เธอก็ได้ เพราะถึงอย่างไรเราสองคนก็จะหย่ากันอยู่แล้ว" "พี่ลินพูดอะไรออกมาคะ ถ้าพี่ปราชญ์ได้ยิน เขาจะคิดยังไง!" "ก็เห็นเธอมีอาการอยากได้ พี่ก็จะยกให้ เชิญไปรักกันให้สบายใจ เพราะพี่ก็ไม่ได้รู้สึกเสน่หาอะไรในตัวเขาอีกแล้ว" "ลิน!" เสียงเข้มที่ดังแทรก ทำให้ทั้งสองหันไปมองด้วยแววตาตื่นตระหนก เห็นปราชญ์ยืนอยู่ไม่ไกล สีหน้าของเขาสื่อถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน "ปราชญ์! ขะ คุณมาตั้งแต่ตอนไหนคะ" "ก็ทันตอนที่คุณพูดคำนั้นออกมานั่นไง ผมไม่คิดเลยว่าลับหลังผมคุณจะพูดมันออกมาจากปากได้" ชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้ สบตากับดากานดาเป็นอันรู้กันว่าให้พาหลานแยกตัวออกไปก่อน เขามีเรื่องจะคุยกับภรรยาเป็นการส่วนตัว คล้อยหลังดากานดา ความเงียบก็มาห่มคลุม อารมณ์หึงหวงที่สามีไปเที่ยวทะเลกับน้องสาวโดยไม่บอก ทำให้ทิฐิในใจ อลินเพิ่มพูนมากขึ้น "ผมเสียใจรู้ไหม ที่คุณพูดกับกานดาแบบนั้น" "แล้วทีคุณล่ะคะ คุณไปเที่ยวทะเลกับเธอโดยไม่บอกลินสักคำ" เพราะดากานดาไปด้วยเขาจึงไม่อยากบอก กลัวว่าจะเป็นปัญหา แล้วก็เป็นปัญหาจริงๆ เมื่อหล่อนรู้ในท้ายที่สุด "ผมมาหาคุณในวันนี้ไม่ได้มาชวนทะเลาะ แต่...ผมจะมารับคุณกลับบ้าน" ปราชญ์ยอมเป็นฝ่ายอ่อนลงก่อน หากแต่ไม่อาจทำให้ทิฐิในใจอลินจางลงไปได้ เรื่องซื้อบ้านกับลงทุนอสังหาฯกับเพื่อนเขายังไม่ยอมเอ่ยถึง ทั้งเรื่องที่เขาทำแต่งานจนไม่มีเวลาให้ ก็มาเจอเรื่องใหม่ระหว่างเขากับดากานดา นั่นทำให้อลินคิดไปไกล กลัวว่าหากคืนดีด้วยแล้วก็จะเข้าสู่วังวนเดิมๆ น้ำเสียงออกแนวหาเรื่องจึงเอื้อนเอ่ยผ่านปาก "ลินอดคิดไม่ได้ คุณใกล้ชิดกับกานดาแบบนี้ อดคิดไม่ได้ว่าคุณกับเธอมีอะไรกันหรือยัง!" "บ้าเหรอลิน! นั่น...น้องสาวผมนะ" "คุณก็รู้อยู่แก่ใจ นั่นไม่ใช่ในสายเลือดเดียวกัน" "ผมก็ไม่ได้มั่วขนาดนั้น ผมมีเมียแล้ว จะทำแบบนั้นได้ไง" "ลินไม่อยากจะเชื่อ ยิ่งคุณไปทะเลด้วยกันแบบนี้ มันจะเหลือเหรอคะ!" "ทุเรศมากๆ เลยนะลิน ที่คุณคิดแบบนั้น" อารมณ์ของปราชญ์เริ่มคุกรุ่น เมื่อหล่อนยัดเยียดข้อหาที่เขาไม่ได้ทำ ที่สำคัญ เขาไม่ได้คิดอะไรกับดากานดาในเชิงชู้สาวแม้สักนิดเดียว "กลับไปเถอะค่ะ ลินไม่มีอะไรจะคุยกับคุณอีกต่อไปแล้ว" "วันนี้ผมตั้งใจจะมาคุยกับคุณดีๆ ตั้งใจจะพบกันครึ่งทางกับความต้องการของคุณ แต่...ดูท่าว่าผมจะเสียเวลาเปล่า เพราะดูแล้วคุณไม่พร้อมที่จะจับมือร่วมกันเดินไปข้างหน้ากับผมอีกแล้ว บอกตามตรง...ผมเริ่มท้อแล้วล่ะลิน ผมเหนื่อย...เหนื่อยที่จะวิ่งทำตามความต้องการของใคร" "นั่นไงคะ ที่คุณเหนื่อย ก็เพราะความรู้สึกที่คุณมีกับลินนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว คุณเปลี่ยนไปค่ะปราชญ์ คุณไม่อาจเติมเต็มสิ่งที่ลินต้องการได้" "เมื่อแรกที่เราเจอกัน คุณรักผมเพราะอะไร ยังจำได้ไหม...ยังจำได้ไหมวันแรกที่เราเจอกัน ยังจำได้ไหม…คืนแรกที่เราได้นอนจับมือกัน" "....." "ผมชักสงสัยเสียแล้ว บางที...ที่คุณอยากหย่ากับผม ไม่ใช่เพราะเหตุผลร้อยแปดที่คุณยกมาอ้างหรอก แต่เป็นเพราะวันนี้คุณหมดใจจากผมแล้ว คุณไม่รักผมอีกต่อไปแล้ว ไม่อย่าง นั้น คุณคงไม่คิดยัดเยียดเรื่องนั้นให้ผมเป็นฝ่ายผิดหรอก" "ปราชญ์!" "ผมเสียใจที่ผมซื่อสัตย์กับคุณมาตลอด ไม่เคยคิดนอกใจ แต่...คุณกลับตอบแทนความรักที่ผมมีให้คุณแบบนี้...ก็ได้ลิน...ในเมื่อคุณยืนยันที่จะหย่า ผมก็จะเลิกพยายามอีกต่อไปแล้ว ผมจะหย่าให้คุณโดยเร็วที่สุด หลังจากที่...ผมเคลียร์เรื่องสิ่งที่คุณสมควรจะได้เรียบร้อยแล้ว!" ความอัดอั้นใจผสานความเหนื่อยล้า ประกอบกับความขุ่นเคืองเรืองที่อลินพูดใส่ดากานดา ทำให้ปราชญ์ตัดสินใจจบทุกสิ่ง เขามองหน้าหล่อนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนหันหลังเดินจากมาด้วยหัวใจที่เจ็บแปลบโดยไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองอีก...ในวันนี้เขามั่นใจแล้วว่า อลินต้องการหย่าขาดจากเขาเพราะใจหมดรักที่เคยมีให้ และเขาควรจะปล่อยหล่อนไปเสียที ให้หล่อนไปเริ่มต้นใหม่กับคนที่คู่ควร... "ไปกันเถอะกานดา กลับบ้านเรา" ดากานดางุนงงเมื่อจู่ๆ ปราชญ์ก็ปราดเข้ามาคว้าข้อมือหล่อนเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเดินตรงเข้าไปหาแม่ยาย ไหว้ลาท่านแล้วรับลูกชายมาอุ้มเอาไว้ ท่ามกลางความตกใจของอนงค์ว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะเดียวกัน อลินก็เดินตามเข้ามาสมทบ "ปล่อยเขาไปเถอะค่ะคุณแม่ เราคุยกัน...เรียบร้อยแล้ว..." อลินสูดลมหายใจเข้าออกให้ลึก จ้องหน้าสามีตาเขม็ง หล่อนตามมาทันเห็นภาพที่เขาคว้าข้อมือดากานดาเพื่อไปจากตรงนี้ นั่นยิ่งตอกย้ำความเชื่อในใจ ปราชญ์พยักหน้าให้ดากานดาพาลลินเดินตามออกไปข้างนอก แววตาซ่อนความเจ็บปวดเหลือบสบตากับภรรยา ไม่มีแม้รอยยิ้มแทนคำลา...อลินมองตามแผ่นหลังกว้างที่ค่อยๆ อุ้มลูกเดินไกลห่างออกไปเรื่อยๆ ข้างกายคือดากานดาที่จูงมือลูกสาวของหล่อนกลับไป ความรู้สึกร้องบอก วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่เขาและหล่อนจะได้คุยกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD