Episode 06 ไม่ใช่เรื่องของเด็ก

1255 Words
Episode 06 “หมายความว่ายังไง…คุณจะเอาลูกฉันไปทำอะไรกันแน่?” ผู้เป็นแม่เบิกตากว้างพร้อมกับบีบมือเราไว้แน่น “ต้องอยู่กับคุณไปตลอดชีวิตเลยงั้นเหรอ?” “ใช่! ลูกสาวของเธอจะต้องเป็นทาสรับใช้ฉันไปตลอดชีวิต ฉันสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ สั่งให้วันนี้เป็นแม่บ้าน พรุ่งนี้เป็นคนขับรถก็ต้องทำ ทำทุกอย่างตามที่ฉันบอก จะได้รับอิสระคืนก็ต่อเมื่อฉันตายจากโลกนี้ไป หรือไม่…ลูกสาวของเธอก็ต้องเป็นฝ่ายตายก่อน ทดแทนเงินห้าพันล้านที่พ่อของเธอได้ไป ถ้าเธอตกลง…ก็ไปเก็บของซะ” เขาแสยะยิ้ม ก่อนที่จะหยัดตัวลุกขึ้นยืน “อย่าลีลาล่ะ ฉันไม่อยากรอนาน” “แต่ตอนแรกคุณขู่หนูกับแม่ว่าถ้าไม่อยากตายก็เอาเงินมาคืน แต่ตอนนี้ดันบอกว่าไม่ทำผู้หญิง คุณต้องการจะทำอะไรกันแน่ จะเอายังไงกันแน่คะ หนูงง” “ฉันก็แค่พูดขู่ไปงั้นแหละ…เร็วๆ! ถ้าเกิดไม่ยอมตกลงตามนี้ ฉันก็จะยังไม่ฆ่า แต่อาจจะส่งเธอไปให้เพื่อนฉันที่ชายแดนฆ่าแทน! หรือจะเอาแบบนี้!” “แต่หนูยังเรียนอยู่นะคะ ถ้าเกิดไป…หนูจะยังได้เรียนอยู่ไหม แล้ว! หนูจะมีโอกาสได้เห็นเดือนเห็นตะวัน จะมีโอกาสได้เจอแม่อีกไหมคะ!?” “เธอก็ได้ใช้ชีวิตปกติของเธอเหมือนเดิม เพียงแต่เวลามีเรื่องอะไร จะไปไหนอะไรยังไงเธอก็ต้องบอกฉันก่อน แล้วก็ต้องมาทำงานให้ฉันแบบไม่ขัดใจ” “งั้น…คุณต้องช่วยดูแลแม่ของหนูนะ คือ! ถ้าปล่อยให้แม่อยู่คนเดียว หนูเป็นห่วง บางทีอาจจะมีคนที่มาตามหาเงินกับพ่อหนูแบบคุณอีกก็ได้ แต่พวกเขาอาจจะไม่ได้ใจดีแบบคุณ หนูกลัวว่าแม่จะไม่ปลอดภัย” “อืม…จะให้คนมาคอยเฝ้าก็แล้วกัน ไปเก็บของ…ฉันจะรอเธออยู่ที่รถ” ว่าจบ ร่างสูงก็เดินออกจากบ้านไป “หนูจะเอาแบบนี้จริงๆ เหรอลูก?” คุณแม่หันขวับมาถามเราทันทีด้วยความเป็นห่วง “แล้วถ้าสุดท้ายเขาไม่ได้ใจดีอย่างที่คิดล่ะ แม่กลัวว่าเขาจะหลอกเรา เราเรียกเขากลับมาคุยใหม่ดีไหม แม่ไม่สบายใจเลย” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ ก่อนหน้านี้หนูโดนโรคจิตตามแล้วเขาอยู่แถวนั้นพอดี หนูก็เลยแสร้งทำเป็นว่ารู้จักกับเขา เข้าไปขอความช่วยเหลือจากเขา ซึ่งเขาก็ให้ความช่วยเหลือหนูเป็นอย่างดี หนูเชื่อใจเขาค่ะว่าเขาจะไม่โกหก” “เฮ้อ…แม่ขอโทษนะที่ไม่สามารถช่วยอะไรลูกได้เลย ถ้าเกิด…พ่อเขาหยุดตามที่แม่ขอร้องไว้ตั้งแต่แรกทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ หนูคิดว่าพ่อเขาก็พยายามที่จะออกจากวงการนี้จนสุดทางแล้ว เดี๋ยวหนูขอตัวไปเก็บของก่อนนะคะ แล้วถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้น หรือถ้าหากเขาทำร้ายหนู หนูจะรีบโทรบอกแม่ทันทีค่ะ” ว่าจบเราก็รีบขึ้นไปเก็บของและไปกับเขาทันที “คุณจะพาหนูไปแม็กซิโกวันนี้เลยเหรอคะ?” ร่างบางกล่าวถาม ในขณะที่ตอนนี้เราอยู่ด้วยกันบนรถ “แล้วจะกลับมาประเทศไทยอีกทีวันไหน?” “ใครบอกเธอว่าฉันจะไปแม็กซิโก” เขาพูดตอบ สายตาก็เหลือบมามองเรานิ่งๆ “ฉันจะอยู่ที่ประเทศไทยต่างหาก” “อยู่ได้ยังไงอะคะ? คุณ…มีบ้านอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?” “มีสิ…คุณย่าของฉันท่านชอบประเทศไทยมาก พอถึงวัยเกษียณท่านก็ขอมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่ อยู่มายี่สิบปีแล้ว” “อ๋อ…แบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ หนูจะได้ไม่ต้องเป็นกังวล ตอนแรกคิดว่าจะต้องจากกันไปอยู่คนละทวีปซะแล้วแหละ” “เรื่องแม่เธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะจัดการให้ ส่วนเธอ…ก็ทำหน้าที่ต่อจากนี้ให้ดีก็แล้วกัน นับจากนี้ฉันคือเจ้าชีวิตของเธอ ถ้าฉันสั่งให้เธอว่ายน้ำเธอก็ต้องทำ ถ้าฉันสั่งให้เธอกระโดดตบร้อยครั้งก็ต้องทำ ตำแหน่งงานในบ้านของเธอฉันขอตั้งชื่อให้ว่า ตำแหน่ง…เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว” “เอ่อ…แรงบันดาลใจมาจากเพลงสินะคะ” เราขำแห้งพร้อมกับส่ายหัวไปมาเบาๆ “ไม่ต้องรู้เรื่องความเป็นมาหรอก! เอาเป็นว่าถ้าใครถามว่าเธออยู่ที่นี่ในฐานะอะไรก็ตอบเขาไปตามนี้ก็แล้วกัน! อ่อ…พอไปถึงก็เอาของขึ้นไปเก็บนะ ห้องของเธอจะอยู่ชั้นสอง ใกล้กันกับห้องของฉัน ถ้าหากถามว่าทำไม…เพราะฉันต้องเอาเธอมาไว้ใกล้ๆ ตัว ที่นี่ประเทศไทย ง่ายต่อการหลบหนี” “ถ้าฉันปล่อยเธอเกินไป ก็อาจจะทำให้เธอหนีไปก็ได้ ซึ่ง…ถ้าฉันไม่ได้สั่งให้เธอหนี เธอก็ห้ามหนีไปไหนด้วยเช่นกัน!” “ค…ค่ะ” ✂️✂️✂️✂️✂️✂️ “โห…บ้านหลังใหญ่จังเลยค่ะ” เราอ้าปากค้างทันทีเมื่อมาถึง บ้านของคุณย่านั้นใหญ่โตมาก ทั้งๆ ที่เขาเป็นชาวแม็กซิโกที่อยากจะใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่เมืองไทย แต่กลับกัน…บ้านดันหลังใหญ่กว่าคนไทยเป็นร้อยเท่า “อย่างกับวังเลยค่ะ” “แน่นอน…แต่นี่ยังเทียบไม่ได้กับบ้านของฉันที่แม็กซิโกนะ” เขาไหวไหล่ และเอื้อมมือมาคว้ามือเรียวบางเดินเข้าไปในบ้าน “ไปสวัสดีคุณย่าก่อนเถอะ” “ค…ค่ะ!” ตัวของเราปลิวดั่งลม คุณเขาจูงมือเราเดินเข้ามาในบ้าน ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ ที่ดังมาจากที่ไหนสักแห่งในบ้าน บวกกับเสียงเพลงตื๊ดที่ดังเหมือนกับอยู่ในผับ “หนูได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดของผู้หญิง…คุณได้ยินเหมือนกันไหมคะ?” “ไม่ต้องไปสนใจหรอก มันไม่ใช่เรื่องของเด็ก” เขาตอบ ก่อนที่จะดันตัวเราให้เดินเข้าไปหาคุณย่า ที่กำลังนั่งถักไหมพรมอยู่ที่โซฟา “นี่คือคุณย่าของฉัน” “สวัสดีค่ะคุณย่า” เรายกมือขึ้นไหว้และฉีกยิ้มกว้างๆ ให้คุณย่าอย่างเป็นมิตร “หนูชื่อเบฬินนะคะ ตำแหน่งงานเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วค่ะ” “อืม…ฉันรู้แล้วล่ะ จากนี้ไปก็คงจะอยู่ด้วยกันที่นี่อีกนานเลยนะ” คุณย่ายิ้มกริ่ม “เดี๋ยวหนูไปเก็บของนะ ส่วนควินต์…เพื่อนๆ ของหลานมาหาน่ะ ตอนนี้พวกเขากำลังปาร์ตี้กันอยู่ที่สระน้ำ” “ครับ” เขาพยักหน้าเบาๆ แต่ก่อนที่จะเดินออกไปหาเพื่อนของตัวเองที่สระน้ำ เขาก็ได้ให้แม่บ้านคนหนึ่งพาเราขึ้นไปยังห้องพักของตัวเอง “พาเธอไปเก็บของให้เรียบร้อย แล้วถ้าคุณย่าอยากจะใช้อะไรก็ให้เธอทำไป แต่อย่าให้เธอออกไปที่สระน้ำเด็ดขาด!” “รับทราบค่ะ” แม่บ้านผู้หนึ่งพยักหน้ารับทราบคำสั่ง ก่อนที่เธอจะเดินนำเราขึ้นไปยังชั้นสอง เพื่อที่จะพาเราไปเก็บของที่ห้อง แต่ทำไม…ถึงไม่ให้เราไปที่สระน้ำล่ะ? งง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD