“หรงเอ๋อร์! หรงเอ๋อร์!”เสียงร้องเรียกเพื่อปลุกให้คนที่กำลังหลับใหลอยู่บนเบาะรถติดกับคนขับให้ตื่นขึ้น เมื่อขับรถมาถึงจุดหมายปลายทาง พลางเหลือบสายตามองตรงไปที่ใบหน้าสวยคมเฉี่ยวของคนที่ยังคงนอนนิ่งอยู่เช่นเดิม
“เอ้า! อะไรกันนี่เด็กคนนี้เรียกเท่าไรก็ไม่ยอมตื่น ไปอดหลับอดนอนมาจากที่ไหนเมื่อคืนก็เข้านอนตั้งแต่สามทุ่ม”หญิงสาวพูดพลางยื่นมือไปเขย่าร่างของน้องสาวที่นอนหันหน้าไปทางหน้าต่างด้านซ้ายมือ จึงทำให้ไม่ล่วงรู้ว่าน้องสาวของเธอกำลังนอนร้องไห้อยู่ในเวลานั้น
“หรงเอ๋อร์ตื่นได้แล้ว! ทำไมนอนขี้เซาแบบนี้”พูดพลางเขย่าร่างของน้องสาวแรงมากขึ้นไปอีก
ฮึก! ฮึก! เสียงสะอื้นไห้ดังติดต่อกันออกมาได้ยินอย่างชัดเจนจนหญิงสาวที่กำลังเขย่าร่างน้องอยู่ในเวลานั้นหยุดนิ่งไปทันที
“หรงเอ๋อร์ร้องไห้เหรอ! หรงเอ๋อร์เป็นอะไรไป! หรงเอ๋อร์”
คนเป็นพี่พูดพลางตรงเข้าเขย่าร่างของน้องสาวพร้อมจับใบหน้าที่อิงซบอยู่กับประตูด้านหน้าให้เงยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันแรงเขย่าและมือทั้งสองข้างของพี่สาวที่กำลังจับใบหน้าของคนเป็นน้องให้หันกลับมาตั้งตรงตามเดิมทำให้เธอรู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับอาการที่เรียกว่ามึนงงและสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“พี่ใหญ่มีอะไร! ทำไมเขย่าตัวนี้หนูแรงแบบนี้”หญิงสาวถามกลับไปด้วยความงุนงงพลางยกนิ้วชี้ขึ้นปาดน้ำตาเมื่อรู้สึกว่ามีหยาดน้ำใสๆ เอ่อล้นออกมาจากขอบตาของเธออยู่ในเวลานี้ พร้อมเสียงของพี่สาวพูดขึ้น
“แกเป็นอะไรหรงเอ๋อร์ ทำไมนอนร้องไห้ออกมาแบบนั้นมีเรื่องอะไรทุกข์ใจเก็บซ่อนเอาไว้อย่างนั้นเหรอ แล้วนี่ร้องไห้ตอนกำลังหลับมันกระทบกระเทือนจิตใจแกมากเลยใช่ไหม”เสียงของคนเป็นพี่ถามเร็วราวปืนกล
นิ้วมือที่เปื้อนหยาดน้ำตาปรากฏอยู่บนนิ้วสวยเรียวงามของหญิงสาวนามว่าฮัวฟู่หรง ดาราสาวน้องใหม่ของวงการบันเทิงจีนที่เพิ่งเดบิวต์ งานแสดงและมีซีรีสออกสู่สายตาได้ไม่ถึงสองปีจากสถาบันการแสดงชื่อดังที่สุดในกรุงปักกิ่ง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจับจ้องนิ้วของตัวเองด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
“นี่เราร้องไห้อย่างนั้นเหรอ”หญิงสาวพูดพึมพำพร้อมเสียงของฮัวมู่หลันพี่สาวของเธอพูดแทรกขึ้น
“ใช่! แกร้องไห้ออกมาทั้งที่กำลังหลับ มีอะไรเกิดขึ้นเหรอหรงเอ๋อร์ รีบบอกเจ๊เดี๋ยวนี้”ฮัวมู่หลันคาดคั้นถามน้องสาว
ข้างฝ่ายคนเป็นน้องยังคงนั่งงงพยายามคิดทบทวนว่าทำไมจึงนอนร้องไห้ออกมา ก่อนจะนึกถึงภาพเหตุการณ์บางอย่างที่ปรากฏขึ้นให้เธอได้เห็นในความฝันเมื่อครู่
“หรือว่าจะเป็นความฝันเมื่อครู่ตอนที่เราเผลอหลับไป เฮ้ย! ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ในความฝันแล้วทำไมเราจะต้องร้องตามเขาออกมาด้วย เดือนนี้ทำไมถึงได้ฝันแบบนี้ซ้ำๆ กันหลายครั้งแล้วนะแปลกจังเลย”ฮัวฟู่หรงบ่นพึมพำก่อนจะเก็บเรื่องความฝันประหลาดเอาไว้คนเดียว
เพราะแน่นอนว่าถ้าเล่าให้พี่สาวของเธอฟัง จะต้องถูกไปเช็คระบบประสาทอย่างแน่นอน ด้วยเพราะกลัวเธอจะเป็นอะไรมากกว่านี้ซึ่งฮัวมู่หลันและฮัวฟู่หรง เป็นทายาทผู้หญิงที่มีอยู่เพียงแค่นี้ของตระกูลฮัว นอกนั้นภายในตระกูลที่เครือญาติเดียวกันล้วนเป็นผู้ชายแทบทั้งสิ้น
ด้วยเพราะแทบจะไม่มีลูกหลานที่เป็นสตรีอยู่ในตระกูลฮัว ดังนั้นจึงทำให้สองพี่น้องถูกดูแลเอาใจใส่จากทางตระกูลฮัวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพดูแลอย่างละเอียดไม่ยอมให้คลาดสายตาไปได้
“ว่าไงละเราไม่ได้ยินที่เจ๊ถามเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงขนาดเก็บกดร้องไห้ออกมาทั้งที่หลับอยู่แบบนั้นหรือว่านางเถียนเถียนทำอะไรแกอีก”ฮัวมู่หลันถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วง
ฮัวฟู่หรงฉีกยิ้มจนเห็นลักยิ้มแสนจะน่ารักส่งกลับไปให้พี่สาวพร้อมเอ่ยขึ้น
“คนอย่างเถียนเถียนจะทำอะไรหนูได้ พี่ใหญ่วางใจเถอะ เพียงแต่ว่าหนูจำไม่ได้เลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเผลอหลับไปตอนไหน และร้องไห้ออกมาทำไมก็ไม่รู้”หญิงสาวหลีกเลี่ยงคำตอบที่จะพาลทำให้เธอพบกับความยุ่งยากมากขึ้นไปอีก
“แน่ใจนะว่าไม่มีอะไร! แกไม่ได้โกหกพี่ใหญ่นะหรงเอ๋อร์”ฮัวมู่หลันถามย้ำน้องสาวกลับไป
อือ...หญิงสาวส่งเสียงขานรับในลำคอพลางพยักหน้าขึ้นลงพร้อมรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“อ้าว! นี่ถึงเหิงเตี้ยนแล้วเหรอไม่ทันได้สังเกตเลย พี่ใหญ่ขับรถหรือบินมากันแน่”หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่องพลางถามกลับไป
“ฉันก็ขับรถมาสิยะจะบินมาได้อย่างไง ไม่ใช่นกนะเธอจะได้บินโฉบเฉี่ยวไปมาเหมือนอะไรแบบนั้น”
คำพูดของพี่สาวทำให้ฮัวฟู่หรงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้พอได้ยินเสียงพี่สาวบ่นกลับมาเช่นนั้น
“ไม่แซวพี่ใหญ่แล้วรีบเอารถไปจอดก่อนเถอะ แล้วค่อยนั่งรถกอลฟ์เข้าไปภายในเหิงเตี้ยน วันนี้ทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องพวกเราต้องมีธุระกับกองถ่ายอีก เพราะผู้กำกับเรียกให้กลับมาเล่นละครเรื่องนี้และให้สวมตัวละครเดิม หลังจากที่เถียนเถียนถอนตัวออกไป แต่บทจะเป็นตัวเดินเรื่องหลักหรือแค่ตัวสมทบตามที่สืบข่าวมาได้หรือเปล่านี้สิ พวกเรายังต้องรอลุ้นอีกนะพี่ใหญ่”เธอบอกพี่สาว
“พี่ใหญ่ไปบนที่วัดมาแล้วขอให้บทที่แกได้รับเป็นตัวเดินเรื่องหลักมีฉากออกไม่ต้องหมดทั้งเรื่องก็ได้แต่ขอให้เกินครึ่งเรื่องก็ยังดี แล้วจะรออะไรให้เสียเวลาละยะก็รีบเข้าไปกันเลย”
ฮัวมู่หลันพูดพลางสตาร์รถอย่างรวดเร็ว พร้อมขับรถคันหรูออกจากบริเวณดังกล่าวเพื่อนำไปจอดในสถานที่ทางสตูดิโอมีไว้บริการอย่างไม่รอช้า
เหิงเตี้ยน สตูดิโอ
Hengdian World Studios แหล่งถ่ายทำซีรีส์สุดฮิตที่อยู่คู่วงการบันเทิงจีนมานานกว่า 20 ปี ดีกรีความยิ่งใหญ่ก้าวขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก!!
เดิมทีเหิงเตี้ยนเป็นเพียงชื่อของตำบลหนึ่งในประเทศจีน หากแต่ไม่ได้เป็นตำบลธรรมดาทั่วไป ในความเป็นจริงแล้วเป็นมากกว่าตำบลหนึ่งเสียอีก เพราะที่นี่เป็นชื่อของสตูดิโอถ่ายทำซีรีส์หนังจีนยอดฮิตของจีนอีกด้วย นั่นคือHengdian World Studios ซึ่งเป็นสตูดิโอถ่ายทำแห่งแรกของจีน ที่เปิดตัวในปี 1996 โดยมีที่ตั้งอยู่ที่ตำบลเหิงเตี้ยน เมืองตงหยาง มณฑลเจ้อเจียง ภายใต้การดูแลของบริษัท Zhejiang Hengdian Film City Co., Ltd.
ซึ่งเป็นบริษัทลูกของHengdian Group โดยผู้ก่อตั้งนามว่า สวีเหวินหรง (Xu Wenrong)
พื้นที่ของสิ่งปลูกสร้างในHengdian World Studios รวมทั้งหมดกว่า 495,995 ตารางเมตร มีฉากถ่ายทำในร่ม ถนน สวนดอกไม้รวมแล้วกว่า 276 จุด โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นฉากสำหรับถ่ายซีรียหนังจีนโบราณ 106 จุด
และฉากในยุคสมัยอื่นๆ อีกกว่า 170 จุด ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยปัจจุบัน ยุคสาธารณรัฐ เซี่ยงไฮ้สมัยใหม่ สมัยราชวงศ์ถัง ราชวงศ์ซ่ง ราชวงศ์หมิง ราชวงศ์ชิง ช่วงฉินและฮั่นเป็นต้น
ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่มหาศาลจึงทำให้Hengdian World Studios ขึ้นชื่อว่าเป็นสตูดิโอถ่ายทำที่ใหญ่ที่สุดในโลก! และได้รับการขนานนามว่า ถ้าที่อเมริกามี Hollywood ที่นี่ก็เป็น “Chinawood” ของจีนนั่นเอง
และโรงถ่ายเหิงเตี้ยนในวันนี้มีกองถ่ายมากมาย ซึ่งผู้จัดละครหลายบริษัทกำลังลงมือถ่ายทำซีรีสเรื่องยาวเพื่อนำออกอากาศให้ความบันเทิงกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่ได้รับชมในไตรมาสที่สอง
และหนึ่งในกองถ่ายเหล่านั้นมีซีรีสฟอร์มยักษ์ที่กำลังจะทำพิธีบวงสรวงเกิดขึ้นก่อนถ่ายทำเป็นทางการในอีกหนึ่งเดือนถัดไป ภายในบริเวณพระราชวังจำลองและจะทำทีเซอร์เพื่อทำการโปรโมทซีรีสพร้อมนักแสดงหลักที่มาร่วมพิธีบวงสรวงเป็นวันแรกด้วยเช่นกัน
นักแสดงนำที่มีชื่อเสียงระดับซุบเปอร์สตาร์ถูกเลือกให้มาสวมบทบาทในซีรีสเรื่อง “จอมใจแม่ทัพทมิฬ” ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยยุคจ้านกว๋อของขุนพลอินลี่ซานของแคว้นฉิน หนึ่งในหกขุนพลเทพของเจาอ๋อง ที่มีชื่อเสียงปรากฏในพงศาวดารจีน
เหล่าขุนพลเทพทั้งหก ถือเป็นขุนศึกผู้กล้าเฝ้าคอยปกป้องและค้ำราชบัลลังก์ต้าฉินที่ถูกบันทึกเอาไว้ในพงศาวดารจีน แต่ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ และมีผลงานในการทำสงครามมาอย่างมากมาย อีกทั้งเป็นที่ไว้วางพระทัยของเจาอ๋องมากที่สุดก็คือขุนพลอินลี่ซาน แม่ทัพทมิฬ ซึ่งได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยฝีมือการเขียนบทละครชื่อดังของทีมเขียนบทจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ทำการเขียนบทละครนี้ขึ้นมาซึ่งอาศัยเรื่องเล่ามาจากบันทึกของตระกูลอิน
ซึ่งสกุลอินนั้นเป็นต้นตระกูลของสวีเหวินหรง ในยุคปัจจุบัน ผู้ก่อตั้งของเหิงเตี้ยน สตูดิโอนี้ขึ้นมา แน่นอนว่าเมื่อมีเรื่องราวของต้นตระกูลซึ่งเป็นบรรพบุรุษมีหรือที่ไม่อยากจะเผยแพร่ให้คนรุ่นหลังในยุคปัจจุบันได้ล่วงรู้ งบประมาณการสร้างจึงถูกอนุมัติมาอย่างมหาศาลเพื่อถ่ายทำซีรีสจอมใจแม่ทัพทมิฬ ซึ่งมีความยาวถึง 70 ตอนเลยทีเดียวและมีคิวถ่ายทำนานกว่าสองปี
และแน่นอนว่าบทบาทของแม่ทัพทมิฬ จะต้องเป็นพระเอกระดับซุบเปอร์สตาร์เบอร์ต้นๆ ของวงการบันเทิงมังกร รวมไปถึงบทบาทนางเอกซึ่งเป็นระดับซุบเปอร์สตาร์ตัวแม่เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีนางรองและตัวละครสมทบที่มีบทพูดและต้องเข้าฉากแสดงหน้ากล้องก็มีอยู่ไม่ใช่น้อย ซึ่งซีรีสเรื่องดังกล่าวได้ขนนักแสดงนำ นักแสดงสมทบและตัวประกอบรวมแล้วนับพันชีวิต
ภายในห้องแต่งตัว
ห้องแต่งตัวซึ่งเป็นโถงขนาดใหญ่ ใช้เป็นสถานที่สำหรับแต่งหน้า ทำผมให้กับบรรดานักแสดงนำและนักแสดงสมทบ สำหรับนักแสดงที่เป็นตัวละครหลักถูกแยกไปอยู่อีกห้องไม่รวมกับนักแสดงตัวประกอบ
ในขณะที่ภายในห้องแต่งตัวของบรรดานักแสดงหลักก็ยังแบ่งห้องแยกนักแสดงนำระดับซุบเปอร์สตาร์ที่มีทีมช่างแต่งหน้าและทำผมส่วนตัวต่างหากออกไปอีก เป็นการแบ่งแยกระดับความโด่งดังของตัวเองได้อย่างชัดเจน
“คุณฮัวฟู่หรง! คุณฮัวฟู่หรงอยู่ที่ไหนคะ ส่งเสียงหน่อย!”ทีมงานผู้กำกับตะโกนเรียกชื่อหนึ่งในนักแสดงซีรีสเรื่องดัง
“อยู่นี่ค่ะ!!!”เสียงของเจ้าตัวตะโกนตอบพลางรีบยกมือขึ้น ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาผู้ช่วยผู้กำกับที่กำลังยืนมองเธออยู่ตรงหน้าประตูบริเวณทางออกของห้องแต่งตัว
ทันทีที่เธอเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผู้ช่วยผู้กำกับที่กำลังมองสำรวจนักแสดงหน้าใหม่ที่กำลังมาแรงอยู่ในเวลานี้นำมาสวมบทบาทแทนนักแสดงที่ถูกเคสติ้งเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่กลับถอนตัวออกไปโดยให้เหตุผลว่า
เธอเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงอยู่ในวงการระดับหนึ่งไม่ควรจะได้รับบทบาทที่ออกมาเพียงแค่สิบตอนซึ่งมันน้อยเกินไป ทั้งๆ ที่ซีรีส มีความยาวถึง 70 ตอน อีกทั้งบทบาทที่ได้รับดูแล้วไม่โดดเด่นและไม่เป็นตัวเดินเรื่องหลักแม้แต่น้อย
“คุณก็คือฮัวฟู่หรงที่เป็นน้องใหม่ในวงการกำลังมาแรงนี้เอง เพิ่งได้ร่วมงานกันเป็นครั้งแรกและได้เห็นตัวจริงก็วันนี้แหละ”ผู้ช่วยผู้กำกับพูดพลางยืนมองนักแสดงสาวหน้าใหม่ที่เข้ามาร่วมเล่นซีรีสฟอร์มยักษ์กับทีมงานเป็นเรื่องแรก
ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราฉีกยิ้มกว้างจนแก้มบุ๋มเห็นลักยิ้มทั้งสองข้างได้อย่างชัดเจน
“ใช่ค่ะ! หนูชื่อฮัวฟู่หรง”หญิงสาวตอบกลับไปพลางยืนมองหน้าผู้ช่วยผู้กำกับเมื่ออีกฝ่ายมองสำรวจเธอตาไม่กะพริบ
“เข้าท่า...สวย...เฉี่ยวและหน้าคม ตาโต ดีกว่าคนที่แสดงเป็นนางเอกและแม่เถียนเถียนจอมเรื่องมากเสียอีก”ผู้ช่วยสาววัยกลางคน แต่งกายคล้ายทอมบอยคิดในใจพลางยื่นบทละครที่อยู่ในมือปึกใหญ่ให้แก่เด็กสาวพร้อมเอ่ยขึ้น
“นี่คือบทละครที่เพิ่งจะเสร็จสมบูรณ์นำมาแจกจ่ายให้กับนักแสดงหลักและนักแสดงสมทบวันนี้ ในส่วนที่คุณมีฉากถ่ายทำจะมีทั้งหมด 45 ตอนด้วยกัน อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าพร้อมเปิดกล้องเป็นทางการ มีเวลาให้ท่องบทละครนี้พอสมควรไม่น่าเชื่อเลยนะว่าคุณจะมีชื่อแซ่ไปตรงกับตัวละครที่ได้สวมบทบาทนี้เข้าให้พอดีเลย”คำกล่าวของผู้ช่วยทอมบอยตรงหน้าซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานถ่ายทำบอกกลับมา เล่นเอาดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความแปลกใจ
“ชื่อแซ่ของหนูเหมือนกับตัวละครในเรื่องนี้จริงเหรอคะ รู้แต่ว่าตัวละครเรื่องนี้คือฮูหยินฮัวที่ใช้แซ่เดียวกับหนูแต่ไม่คิดว่าจะมามีชื่อเหมือนกันอีกด้วย”หญิงสาวถามกลับไปด้วยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเช่นนั้น
“ก็นั่นนะสิอะไรโลกมันจะกลมเสียขนาดนั้นก็ไม่รู้ จะเป็นเพราะว่าโชคเข้าข้างก็อาจเป็นได้นะ เพราะนักแสดงคนเดิมที่เล่นบทนี้แจ้งถอนตัวออกไปอย่างกะทันหัน รายนั้นเขาบอกว่าเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่งของวงการ ทั้งที่ได้เล่นละครฟอร์มยักษ์แต่กลับมีบทบาทเพียงแค่ไม่กี่ตอนเท่านั้น มันไม่คุ้มค่าที่จะทุ่มเทการแสดงของเขาออกมา พอมีชื่อเสียงขึ้นมาหน่อยก็เริ่มจะเรื่องมากเป็นแบบนี้กันทุกคน หวังว่าเธอจะไม่เป็นแบบนั้นนะพอดังขึ้นมาแล้ว”
ฮัวฟู่หรงยืนฟังทำตาปริบๆ เมื่อได้ยินผู้ช่วยผู้กำกับพูดออกมาแบบนั้น หญิงสาวก้มลงมองบทละครที่กำลังยื่นส่งมาให้ก่อนจะรับเอามาไว้อย่างรวดเร็ว
“ฟู่หรงจะพยายามอย่างเต็มที่ค่ะผู้กำกับ ส่วนผลตอบรับจะออกมาเป็นอย่างไรนั้นก็อยู่ที่คนดูว่าชื่นชอบการแสดงของหนูไหม”หญิงสาวตอบอย่างถ่อมตนพร้อมเสียงของอีกฝ่ายเอ่ยสวนกลับมา
“ฉันไม่ใช่ผู้กำกับหรอกนะเป็นแค่ผู้ช่วยเท่านั้น เอาเป็นว่าเรียกผู้ช่วยเหลียงก็พอแล้ว”ผู้ช่วยวัยกลางคนบอกเด็กสาวกลับไปพร้อมพูดขึ้นอีกครั้ง
“นี่ถ้าเถียนเถียนรู้ว่า บทของตัวละครที่ถอนตัวไปอย่างกะทันหันเป็นตัวเดินเรื่องหลักเลยละก็ คงได้ลงไปนอนชักดิ้นชักงอตายแน่ๆ เลย คุณรู้จักเถียนเถียนไม่ใช่เหรอเห็นว่าจบการแสดงมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน น่าจะรู้จักนิสัยกันดี เดิมทีทางทีมงานคัดตัวคุณเพื่อที่จะให้แสดงบทนี้ แต่กลับเปลี่ยนให้เถียนเถียนมาเล่นตัวละครนี้แทนคุณ แล้วอย่างไงละสุดท้ายคุณเธอก็มาถอนตัวออกไป ทำให้กองถ่ายพากันวุ่นวายกันไปหมด”ผู้ช่วยทอมบอยบ่นพึมพำต่อหน้าหญิงสาว
ฮัวฟู่หรงยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้เมื่อถูกถามถึงอดีตเพื่อนสนิทที่เคยคุ้นเคยกันมาก่อน
“แค่คนเคยรู้จักกันนะคะ ส่วนเรื่องนิสัยฟู่หรงไม่ขอวิจารณ์ก็แล้วกันเกิดมีแฟนคลับนางอยู่แถวนี้เดี๋ยวทัวร์จะลงเอาได้”
คำกล่าวของหญิงสาวทำให้ผู้ช่วยเหลียงพยักหน้าขึ้นลง เพราะเธอสัมผัสกับความเรื่องมากของดาราเจ้าปัญหาคนที่กำลังกล่าวถึงเป็นอย่างดี จนต้องได้คัดตัวนักแสดงใหม่มาแทนที่และก็ได้ฮัวฟู่หรงที่ถูกวางตัวเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วเข้ามาสมบทบาทนี้ได้อย่างเหมาะเจาะและลงตัวที่สุด
“ถ้าเถียนเถียนมารู้ว่าบทบาทของตัวละครที่เคยคิดว่าไม่ใช่ตัวเดินหลักของเรื่องและมีบทน้อยตามที่เข้าใจจากข่าวโคมลอยจนถอนตัวออกมาจากทีมนักแสดง บอกเลยว่าโง่มากเพราะทางทีมงานบอกย้ำหลายครั้งแล้วว่า ตราบใดที่บทละครยังไม่เสร็จ โอกาสย่อมพลิกเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา สุดท้ายแล้วบทนี้ก็กลายมาเป็นของคุณที่ถูกเลือกให้เล่นตั้งแต่แรก แม้ว่าจะไม่ใช่นางเอกของเรื่องก็ตามแต่ถ้าใครได้เล่นบทนี้รับรองเลยว่า“ดังแน่นอน”ผู้ช่วยทอมบอยบอกกับหญิงสาว
ฮัวฟู่หรงยืนฟังอย่างตั้งใจพลางกอดบทละครเอาไว้แนบอกของตัวเองจนแน่นพร้อมอ่านตัวหนังสือขนาดใหญ่ที่อยู่บนแผ่นกระดาษใบแรก
“บทละครจอมใจแม่ทัพทมิฬ ตัวละครฮัวฟู่หรง”หญิงสาวอ่านข้อความดังกล่าวพร้อมเสียงของผู้ช่วยเหลียงดังขึ้น
“บทนี้ถูกปล่อยข่าวออกมาตลอดเวลา ว่าเป็นตัวประกอบบ้างละ บทน้อยโผล่ออกมาแค่ไม่กี่ตอนไม่จำเป็นต้องมีตัวละครนี้เลยก็ได้ มีแต่คนรู้ดีไปกว่าคนเขียนบททั้งนั้น แล้วเถียนเถียนก็เชื่อตามข่าวที่ปล่อยออกมาเสียด้วยนะก็เลยถอนตัวออกไป แบบนี้เขาเรียกว่าไม่มีดวงซุบเปอร์สตาร์ แต่คุณที่เคยถูกวางตัวเอาไว้ตั้งแต่แรกก็ได้บทนี้กลับมาครองจนได้ เพราะฉะนั้นแสดงให้เต็มที่เลยนะคุณฟู่หรง”ผู้ช่วยเหลียงบอกกับหญิงสาวพลางยกมือตบลงบนบ่าบอบบางเบาๆ ก่อนจะเดินจากไป
ฮัวฟู่หรงยืนมองตามหลังผู้ช่วยเหลียงอยู่เพียงครู่ ร่างระหงหันกลับมาพร้อมบทละครที่กอดเอาไว้แนบอกของเธอเอาไว้แน่น รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นอยู่บนใบหน้าของเธอด้วยความสะใจ
เมื่อสามารถแย่งชิงบทละครที่จะต้องเป็นของเธอตั้งแต่แรกจากอดีตเพื่อนสนิทมาครอบครองได้เป็นผลสำเร็จ โดยมีเสียงร้องเรียกของผู้จัดการส่วนตัว ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นฮัวมู่หลันพี่สาวของเธอนั้นเอง
“เป็นอย่างไงบ้างหรงเอ๋อร์ ตกลงบทฮูหยินฮัวเป็นของแกแน่นอนแล้วใช่ไหม!”ฮัวมู่หลันถามน้องสาวทันทีที่เดินกลับมาถึงบริเวณโซนห้องแต่งตัวของบรรดานักแสดงในซีรีสเรื่องดัง
หญิงสาวไม่พูดอะไรออกมาแต่กลับยื่นบทละครปึกใหญ่ตรงหน้าให้กับพี่สาวของเธอเพื่อยืนยันในความสำเร็จที่ได้รับครั้งนี้
“เยี่ยมไปเลยหรงเอ๋อร์!”ฮัวมู่หลันพูดด้วยความดีใจทันทีที่เห็นบทละครดังกล่าวปรากฏอยู่ตรงหน้าพร้อมเอ่ยขึ้น
“ในที่สุดอดีตเพื่อนสนิทของแกก็เกมจนได้ มันถือว่าเป็นลูกคนรวยและครอบครัวมีอิทธิพลในวงการนี้ อยากเล่นบทไหนก็ใช้เส้นสายของตระกูลเข้ามาแย่งไปหมด เจอแผนซ้อนแผนของแกเข้าไปถอนตัวจากเรื่องนี้ออกไปเองทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ทางทีมงานเล็งตัวแกเพื่อที่จะให้มาแสดงบทนี้ตั้งแต่แรกแล้ว”ฮัวมู่หลันพูดอย่างเข่นเคี้ยวเมื่อเอ่ยถึงอดีตเพื่อนสนิทของน้องสาว
“บทนี้มีหนูเท่านั้นพี่ใหญ่ที่จะได้เล่น จุดอ่อนของเถียนเถียนไม่ใครรู้ดีไปกว่านี้หนูหรอก แผนของเราจึงสำเร็จตามที่วางเอาไว้”หญิงสาวบอกกลับไป
“ฉันละอยากรู้จริงๆ เลยว่านางเถียนเถียนจอมแถ ทำไมจ้องที่จะจองล้างจองผลาญแกนักนะ เมื่อก่อนสนิทกันชนิดที่ว่ากินนอนมาด้วยกัน แต่พอแกเรียนจบได้เกียรตินิยมและมีบริษัทมาจองตัวทำสัญญากับบริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการ แม่นั่นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย สิ่งที่ทำกับแกพี่ใหญ่ไม่มีวันลืมหรอกนะทำราวกับว่าผูกอาฆาตพยาบาทมาจากชาติปางก่อนเลย”
เสียงบ่นของฮัวมู่หลันทำให้น้องสาวยกยิ้มขึ้นที่มุมปากออกมาเล็กน้อยพร้อมเอ่ยขึ้น
“คงเป็นเพราะเขาไม่ได้ตั้งใจที่อยากจะเป็นเพื่อนหนูจริงๆ ไงละคะพี่ใหญ่ แต่มาเพื่อหวังผลประโยชน์จากหนูทำให้เรียนจบจากสถาบันการแสดงด้วยคะแนนสูงมากเลยทีเดียว เพราะเถียนเถียนมีข้อแลกเปลี่ยนกับครอบครัวของเขาที่หนูเคยเล่าให้ฟังไง”ฮัวฟู่หรงพูดย้ำเตือนให้พี่สาวได้คิด
คิ้วเรียวค่อนข้างบางของฮัวมู่หลันขมวดเข้าหากันเมื่อน้องสาวบอกกลับมา
“อ่อ...จำได้แล้ว พวกประเภทคบคนเพื่อหวังผลประโยชน์ไม่มีความจริงใจพี่ใหญ่ละเกลียดจริงๆ เลยให้ตายสิ พอเห็นแกก้าวหน้าเหนือกว่า แม่นี่ก็ชักดิ้นชักงอจะขาดใจตาย เล่นละครตบตาจนแกใจอ่อนพลาดท่าเสียรู้ให้แม่นั่นได้บทฮูหยินฮัวนี้ไป แต่สุดท้ายคิดว่าตัวเองฉลาดและร้ายเป็นคนเดียวหรือไง ที่ไหนได้หรงเอ๋อร์พี่ใหญ่ร้ายยิ่งกว่าเสียอีก”ฮัวมู่หลันพูดอย่างสะใจ
รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยเฉี่ยวคมของฮัวฟู่หรง เมื่อนางร้ายดาวรุ่งที่สวมบทบาทเป็นตัวละครต่างๆ ในวงการบันเทิงซึ่งในชีวิตจริงทั้งสองก็ไม่แตกต่างไปจากนางร้ายที่พวกเธอสวมบทแม้แต่น้อย
ในขณะที่ฮัวฟู่หรงเธอนั้นร้ายแบบน้ำนิ่งไหลลึก ฉลาดและเป็นจอมวางแผน ส่วนจางเถียนเถียนร้ายแบบโฉงฉ่าง
สองสาวสวยต่างเป็นดาราน้องใหม่ที่กำลังมาแรงด้วยกันทั้งคู่ มีชื่อเสียงอยู่ในระดับที่เริ่มจะมีแฟนคลับติดตามในระดับหนึ่งแต่ยังไม่ดังเป็นพลุแตกเสียที เพราะยังไม่มีบทบาทที่เข้าตาและท้าทายความสามารถ