บทที่ 4 ไม่มีทางเลือก

1482 Words
“นั่นไงแฟนยัยฟ้าเดินมานู่นแล้ว” ทั้งบริเวณหันตามนิ้วเรียวที่ชี้ไปยังชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนสีซีดแสนธรรมดา แต่เมื่ออยู่บนตัวเขากลับทำให้ทุกอย่างมันโดดเด่นเอาเสียมาก ๆ เส้นผมสีน้ำตาลอ่อน โครงหน้าและทรงคิ้วได้รูป จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยัก และสิ่งที่ดึงดูดสายตาผู้คนมากที่สุดก็คือดวงตาทรงเสน่ห์คู่นั้นที่ดูทะเล้น เจ้าเล่ห์ และร้ายกาจ ชวนให้คนมองใจเต้นไม่เป็นส่ำ บรรยากาศรอบตัวชายหนุ่มดูมีชีวิตชีวาเข้าถึงง่ายต่างจากเพื่อนสนิทอย่างพยัคฆ์และอัศวิน ทว่านภาลัยที่รู้จักเขามานานรู้ว่านั่นเป็นเพียงสิ่งที่เขาจำแลงขึ้นมา เพื่อซ่อนความโหดร้ายและรุนแรงไว้อย่างแนบเนียน “พี่กรทางนี้” ลิลลี่โบกไม้โบกมือให้พี่ชายก่อนจะเข้าไปลากร่างสูงให้มายืนอยู่ข้างเธอ โดยไม่ได้สังเกตท่าทางแข็งทื่อของเพื่อนสนิทเลยสักนิด “อย่ามาโกหกกันน่า” แก้มใสที่เริ่มหน้าเสียเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคง ถ้าให้เทียบดราก้อนกับอเล็กซ์มันคนละชั้นกันเลยนี่ “ฉันจะโกหกไปทำไม” ลิลลี่เชิดหน้าก่อนจะเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง ไม่พอแค่นั้นเธอยังหันมาหาแนวร่วมอย่างนภาลัยอีกด้วย “จริงไหมฟ้า” “ฮะ อะ…อื้ม” มาถึงขั้นนี้แล้วเธอไม่ยอมเสียหน้าให้ชายชั่วหญิงชู้ได้ใจแน่ ร่างเล็กทำใจกล้าเข้าไปคว้าแขนแข็งแรงมากอดไว้อย่างสนิทสนมก่อนจะแสร้งทำเป็นเขย่งเอียงใบหน้าเข้าหาแก้มสากของอีกคน ถ้าคนภายนอกคงคิดว่าเรากำลังหอมแก้มเพื่อแสดงความรัก แต่จุดประสงค์ของนภาลัยคือ... “ช่วยหน่อยนะคะ” “...” “นะพี่กร แล้วพี่จะให้ฟ้าทำอะไรก็ได้” ดราก้อนยังไม่ให้คำตอบ เขาผละออกก่อนจะหันหน้าเข้าหาเธอ มือใหญ่ประคองแก้มใสพร้อมกับนิ้วยาวที่เกลี่ยไปมาอย่างอ่อนโยน นัยน์ตาคู่นั้นสบประสานอย่างท้าทายก่อนที่เสียงเข้มจะเอ่ยบางอย่าง “ทุกอย่าง ?” “อื้ม ทุกอย่าง อื้อ !” เมื่อได้รับคำมั่นปากร้อนก็ประกบลงมาทันที การแสดงความรักสุดเร่าร้อนทำกลุ่มเพื่อนที่ยืนดูเหตุการณ์ถึงกับตกใจไปตาม ๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่ตัวต้นเรื่องอย่างลิลลี่และตัวเธอเอง ! มือเล็กหมายจะดันแผ่นอกอีกคนออกไปแต่เมื่อเหลือบไปเห็นสายตาของอเล็กซ์ที่มองมา นภาลัยก็เปลี่ยนเป็นขยุ้มเนื้อผ้าราคาแพงพร้อมกับเปิดปากเอียงหน้าให้อีกคนเข้ามาสำรวจโพรงร้อนได้อย่างถนัดถนี่ และท่าทางอย่างนั้นเรียกรอยยิ้มดราก้อนได้เป็นอย่างดี ท่อนแขนอีกข้างโอบรั้งเอวบางให้เข้ามาแนบชิดจนนภาลัยสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายที่ร้อนผ่าว ดราก้อนส่งความนิ่มหยุ่นเข้าไปกวาดต้อนความหวานภายใน เรียวลิ้นลากไล่ไปตามไรฟันก่อนจะวกกลับมาเกี่ยวพันอวัยวะเดียวกันโดยที่นภาลัยทำเพียงอ่อนโอนให้อีกฝ่ายเป็นคนนำพา ทั้งที่ภายในผับเต็มไปด้วยเสียงเพลงและเสียงพูดคุยจอแจแต่ในโสตประสาทเล็ก ๆ นี่กลับมีเพียงเสียงเฉอะแฉะที่ก้องอยู่ภายใน และการจูบครั้งนี้ทำให้นภาลัยละซึ่งความสนใจจากผู้คนรอบตัวไปทั้งหมด เพียงได้ลิ้มรสสัมผัสไร้เดียงสาก็ทำดราก้อนคิดไปถึงเรื่องคืนนั้น และยิ่งเมื่อคิดว่าสิ่งที่เขาต้องการจากเธอคนนี้คืออะไร รสจูบก็ยิ่งทวีความรุนแรง “อื้อ~” ทั้งสองจูบกันเนิ่นนานจนนภาลัยแทบหมดลมหายใจ แต่ถึงกระนั้นดราก้อนก็ไม่ยอมปล่อยริมฝีปากเธอเป็นอิสระ จนต้องแอบสะกิดแผ่นอกหนาย้ำ ๆ เป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอจะไม่ไหวแล้ว และเหมือนดราก้อนจะมีเมตตาอยู่บ้างเมื่อเขาค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออก และเพราะการจูบยาวนานทำให้เกิดน้ำสีเงินเชื่อมระหว่างเราเป็นสายก่อนที่อีกฝ่ายจะส่งลิ้นหนาออกมาตัดมัน ริมฝีปากบวมเจ่อเป็นหลักฐานชั้นดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่มันลึกซึ้งและร้อนแรงมากแค่ไหน ดวงหน้าสวยก้มงุดขณะที่ดราก้อนยังโอบเอวเธอไว้ไม่ห่าง แม้นภาลัยจะดูเป็นสาวแซ่บแต่ต้องมาจูบกันต่อหน้าคนเป็นสิบขนาดนี้ไม่เขินก็บ้าแล้ว “ไม่จริงหรอก ต้องวางแผนกันไว้แน่ ๆ” แก้มใสที่ดูจะได้สติก่อนใครชี้หน้าเราสองคนอย่างเอาเรื่อง เสียงแหลมที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งเห็น “งั้นเหรอ จะให้ทำอีกก็ได้ แต่กลัวมันไม่จบแค่นี้เพราะแฟนฉันฮอตสุด ๆ เลยนี่” น้ำเสียงราบเรียบทว่าคำพูดคำจากลับเต็มไปด้วยความกำกวมและสองแง่สองง่ามทำนภาลัยหน้าแดงกว่าเดิม เธอรู้ว่าเขาเป็นพวกพูดขวานผ่าซากแต่ไม่คิดว่าจะหน้าไม่อายขนาดนี้ ! “นั่นสิ ฉันกับฟ้าสนิทกันมากและพี่กรก็รู้จักฟ้ามานานเหมือนกัน ถ้าจะคบกันก็ไม่แปลกสักหน่อย” “ฟ้า เรามาคุยกันหน่อยไหม” อเล็กซ์ที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ และนั่นเรียกสีหน้าสงสัยของนภาลัยและสีหน้าไม่พอใจของแก้มใสได้ดี “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย เราไปกันเถอะพี่กร” นภาลัยเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่งโดยไม่ลืมสวมบทบาทแฟนกำมะลอไปด้วย “ถ้าพี่เอาตัวแฟนไปก่อนคงไม่เป็นอะไรนะ” ดราก้อนหันกลับไปบอกน้องสาวขณะที่แขนยาวยังโอบรอบเอวนภาลัยไม่ห่าง “อะ...อื้ม ไม่เป็นไรเลย” “งั้นเราก็ไปกันเถอะ คืนนี้มีอะไรต้องทำอีกเยอะ” ดราก้อนพูดอย่างไม่เบาเสียงทำคนที่อยู่แถวนั้นได้ยินกันหมด มีหลายคนที่มองมาด้วยสายตาอิจฉา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงซุบซิบเรื่องความสัมพันธ์ของเราทั้งสี่คน แต่เธอไม่สนใจหรอก ขอแค่ได้ตอกหน้าชายหญิงคู่นั้นให้สาสมกับความเจ็บใจก็พอแล้ว... นภาลัยถูกพามายังรถสปอร์ตสุดหรูอย่างช่วยไม่ได้เพราะมีสายตาหลายคู่คอยจับจ้องพวกเราอยู่ บรรยากาศในรถเงียบเชียบ ไม่มีบทสนทนาแม้แต่เสียงเพลงอีกฝ่ายก็ไม่คิดจะเปิดเพื่อลดความอึดอัดระหว่างเราด้วยซ้ำ “เออ...พี่กรจอดข้างหน้าก็ได้ เดี๋ยวฟ้ากลับเองไม่รบกวนพี่” สิ้นเสียงดราก้อนก็มีปฏิกิริยาบางอย่าง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ เขากดล็อกรถทั้งคัน ก่อนที่รถยนต์คันสวยจะเลี้ยวเข้าไปยังคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง และถ้าเธอจำไม่ผิดนี่มันคอนโดมิเนียมที่เขาอาศัยอยู่ “ตามขึ้นมา อย่าคิดหนี” “แต่ว่า-” “ไหนบอกจะทำตามที่ฉันต้องการทุกอย่าง” “ก็ใช่” “งั้นก็ตามมา” เมื่อถูกยอกย้อนคำที่เคยพูด นภาลัยก็ได้แต่ยอมเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในลิฟต์ส่วนตัว และเมื่อถึงชั้นที่ต้องการเขาก็เดินนำออกไปก่อน เพราะที่อยู่ของดราก้อนคือเพนท์เฮาส์ชั้นบนสุดของตึกทำให้แค่เปิดประตูลิฟต์ออกไปก็เป็นอาณาเขตของเขาทั้งหมด “คุยกันตรงนี้ก็ได้นะคะ” “แน่ใจ ? เรื่องที่ฉันคุยมันไม่จบง่าย ๆ หรอกนะ” “พี่หมายความว่าไง” “ก็ไม่ยังไง ฉันแค่จะทำตามที่ต้องการเท่านั้นเอง” “งะ...งั้นพี่ก็บอกมาสิ” “นี่เธอไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งไม่รู้เนี่ย” “...” นภาลัยได้แต่ตีหน้าสงสัยเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เขาต้องการอะไรเธอจะไปรู้ได้อย่างไร แต่ไม่ทันจะได้ถามกลับไปประโยคที่ดราก้อนพูดก็ฉายวาบเข้ามาในหัว “เรื่องเมื่อคืนฉันชอบแล้วก็ติดใจเซ็กซ์ของเธอมากจนอยากทำมันอีก” “แต่นั่นมัน-” “นอกจากเรื่องนั้นแล้วเธอจะตอบแทนอะไรฉันได้งั้นเหรอ” “แต่ว่าเรื่องแบบนั้นมันต้องทำกับคนที่รักไม่ใช่หรือไง” “หึ” ดราก้อนไม่ตอบ เขาทำเพียงขบขันประโยคสุดเชยของเธอและมันเรียกสีหน้าไม่พอใจของนภาลัยได้ดี “วันนั้นก็พิสูจน์แล้วนี่ว่าร่างกายของเรามันเข้ากันได้โคตรดีจริงไหม” “อึก !” “หรือจะให้ฉันไปบอกความจริงกับทุกคน” “ดะ...เดี๋ยว” ถ้าเขาทำอย่างนั้นเธอก็ไม่ต่างจากพวกลวงโลกเลยน่ะสิ อีกอย่างถ้าต้องเสียหน้าให้ชายหญิงคู่นั้นยอมให้นภาลัยกัดลิ้นตายดีกว่า “งั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วสาวน้อย” “อื้อ~”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD