เมื่อฉันได้รู้ความจริง1

2033 Words
วันนี้ทั่วปราสาทวุ่นวายแต่เช้าเหล่าพ่อบ้านและสาวใช้ต่างก็วิ่งทำงานอยู่ทั่วทุกมุมบ้าน การจัดเตรียมสถานที่สำหรับงานเลี้ยงที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ทุกคนต่างลงมือลงแรงทำอย่างเต็มที่เพราะวันนี้คือวันสำคัญของท่านชายอลัน มันเป็นอีกหนึ่งอย่างในการแสดงถึงความบ่งบอกว่าปีศาจในวัยนี้พร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว พ่อบ่านใหญ่ถึงกับลงมาควบคุมด้วยตัวเองเพราะไม่อาจจะให้งานนี้เกิดปัญหาได้ทุกคนในปราสาทจึงเพิ่มความใส่ใจยิ่งๆขึ้นไปอีก ส่วนฉันเองก็ถูกเหล่าเมดสาวเข้ามาปลุกให้ลุกขึ้นมาขัดเนื้อขัดตัวตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นทั้ง ๆ ที่ตาของฉันยังลืมไม่ขึ้นด้วยซ้ำ เพราะมีเรื่องเมื่อคืนกว่าที่จะคุยกันเสร็จและกว่าที่จะได้กลับเข้าห้องนอนก็เลยครึ่งคืนมาแล้ว ยิ่งคิดยิ่งหนักใจไม่รู้ว่าโชคช่วยหรือดวงซวยที่ท่านพ่อท่านแม่กลับมาพอดี ท่านพี่ที่เห็นผู้ปกครองกลับมาก็รีบเล่าใหญ่จนฉันคิดว่าอาจจะต้องโดนทำโทษแน่ ๆ ยิ่งสายตาที่ท่านพ่อมองมาที่ฉันและซีนมันยิ่งรู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่างที่ทำให้อึดอัดใจจนฉันแทบอยากจะลุกวิ่งหนีตอนนั้นเลย แต่สุดท้ายกลับเป็นฉันที่ต้องตกตะลึงส่วนท่านพี่ก็มีอาการไม่พอใจหลุดออกมาทางสีหน้าเมื่อได้ฟังคำตัดสินของท่านพ่อ ก็เพราะท่านพ่อไม่ว่าอะไรแถมยังส่งเสริมรับเอาซีนมาทำหน้าที่องค์ลักษณ์ให้ฉันอีกด้วย แม้ท่านพี่จะแย้งขึ้นมาพร้อมเหตุผลอะไรท่านพ่อก็ไม่เปลี่ยนคำตัดสิน ก่อนที่ท่านจะรั้งท่านพี่ไว้แล้วไล่ให้ฉันกลับไปนอนและยังให้พ่อบ้านนำทางพาซีนไปยังห้องพักอีกด้านของปราสาท แม้จะเดินจากมาอย่างงงๆพร้อมกับเสียงพูดอย่างไม่พอใจของพี่ชายเธอก็ไม่ยอมที่จะเหลียวมองไปด้านหลังเลยสักนิด ‘รีบหนีสิ รออะไร’ ระหว่างเดินในโถงทางเดินฉันก็แอบเหลือบมองซีนนิดหน่อยก็เห็นว่าเขาเอาแต่อมยิ้มจนดวงตาส่องประกายแวววาวก่อนจะแยกกันตรงทางเดินโดยที่อลิซไม่รู้เลยว่าสายตาที่ซีนใช้มองตามหลังของเธอมันได้เปลี่ยนไปเป็นอีกแบบ 'ท่านอลิซข้าเป็นของท่านแล้ว' กลับมาที่ตอนนี้หลังจากที่เหล่าเมดได้แปลงโฉมของเธอจนพอใจแล้วพวกเธอก็ปล่อยให้ฉันได้พักบ้างก่อนที่จะถึงเวลาเริ่มงานฉลองวันเกิดของท่านพี่ในเย็นนี้ "เฮ้อ~~กว่าจะได้พักแบบสบายๆก็บ่ายคล้อยแล้วหรือเนี๊ย" ฉันนั่งพึมพำอยู่คนเดียวบนที่นอนที่แสนสบายก่อนจะทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้เมื่อคืนท่านพ่อคุยกับท่านพี่เช่นไรเช้านี้จึงไม่เห็นหน้าท่านพี่สุดหล่อเลย เฮ้อออ ก๊อกๆ "ขออนุญาตขอรับคุณหนู" เสียงท่านพ่อบ้านดังขึ้นที่หน้าห้องเบาๆทำให้ฉันดึงสายตากลับมาก่อนจะเดินไปเปิดประตู "ค่ะ" เมื่อเปิดประตูก็เห็นท่านพ่อบ้านที่กำลังอุ้มกล่องใบใหญ่กับซีนที่ถือกล่องเล็กอีกสามกล่องยืนอยู่ข้างหลังท่านพ่อบ้าน ฉันแอบมองซีนที่ถูกจับอาบน้ำแต่งตัวใหม่ดูเหมือนแทบจะกลายเป็นคนละคนกับเมื่อคืน ดูมีออร่าของหนุ่มหล่อไอดอลของเมื่อชาติก่อนของฉันเลย “คุณหนูข้าขออนุญาตเอาของเข้าไปวางในห้องขอรับ” ท่านพ่อบ้านเอ่ยขออนุญาตเอาของมาวางในห้อง เขาได้พาซีนเอาของทั้งหมดเข้ามาจัดเรียงไว้เพื่อให้คุณหนูได้ใส่ในคืนนี้ ของพวกนี้ก็คือชุดและเครื่องประดับนั่นเอง ฉันยืนดูเงียบๆเมื่อท่านพ่อบ้านจัดของเสร็จก็เดินออกไปจากห้องและปิดประตูทันที 'ดะเดี๋ยวนี่ลืมใครไปหรือเปล่า' อลิซหันกลับมามองดูชายหนุ่มอีกคนที่ยังไม่ทันได้ออกไปเลย ซีนก็เอาแต่ยืนมองฉันตาปริบๆไม่ยอมพูดจาจนฉันเริ่มที่จะรู้สึกอึดอัดจนต้องเป็นฝ่ายทำลายบรรยากาศที่ชวนปวดหัวนี้ "มีอะไรรึเปล่าซีน" “…….” ซีน “พูดมาเถอะค่ะ มีอะไรบอกอลิซได้” "ท่านหญิงยังดูสบายดีอยู่นะขอรับ" ฉันเงยหน้ามองซีนเมื่อได้ฟังคำถามแปลกๆแต่ก็ต้องตกใจกับสายตาที่ดูเศร้าสร้อยของชายหนุ่มตรงหน้าแทน "เอ่อเป็นอะไรหรือเปล่าซีนมีใครทำให้ลำบากใจหรือ" ฉันเดินเข้าไปหาซีนเพื่อสำรวจเขาใกล้ๆแต่ก็ไม่เห็นมีสิ่งที่แปลกอะไร..เอ๊ะ! "กำไลนั่นสวยดีนะนายเอามาจากไหนหรือ" ฉันจ้องมองไปที่กำไลลวดลายประหลาดๆบนข้อมือของซีนอย่างสนใจ ตระกูลนี้ให้ของมีราคากับคนในปกครองอย่างนี้เลยเหรอดูแลดีจังแหะ ซีนได้แต่ถอนหายใจก่อนจะฝืนยิ้มออกมา "กำไลกลบกลิ่นไอของปีศาจนะขอรับผมพึ่งได้มาเมื่อเช้าจาก.....คุณชายอลั..น" ท้ายเสียงแผ่วเบาแต่เธอก็จับน้ำเสียงได้อยู่ดี ดูเหมือนซีนจะไม่พอใจหน่อยๆมั้ง เอาละฉันว่ากำไลนี้คงมีปัญหาแล้วละ อย่างท่านพี่น่ะไม่มีทางที่จะมอบของให้คนที่ไม่ชอบหน้าอย่างแน่นอน "ถอดมันออกมาดูได้ไหมค่ะ" ฉันจับแขนซีนขึ้นมาเมื่อเห็นซีนพยักหน้ารับก่อนจะค่อยๆถอดกำไลออกอย่างระมัดระวัง พอกำไลเจ้าปัญหาหลุดเท่านั้นแหละกลิ่นหอมก็พุ่งออกมาจากตัวของซีนฟุ้งอบอวลไปทั่วห้อง อลิซที่ยืนต่อหน้าของซีนก็ได้รับผลกระทบอย่างแรง ลำคอของเธอเริ่มแห้งผากและรู้สึกกระหายอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งยามที่หันมามองซีนฉันก็เริ่มรู้สึกคุมตัวเองไม่อยู่จนเผลอโถมตัวเข้าใส่ชายหนุ่มอย่างแรงส่งผลให้ทั้งคู่ล้มลงไปกับพื้นห้อง "ท่านหญิง...อะ" ดวงตาของอลิซมีประกายฉ่ำวาวดูเย้ายวนทั้งร่างของเธอปล่อยเสน่ห์ออกมาดึงดูดชายหนุ่มที่นอนอยู่ใต้ร่างของเธอ ยามนี้สติของอลิซถูกสัญชาตญาณควบคุมเกือบครึ่ง เธอเริ่มซุกไซร้สูดดมความหอมที่มาจากร่างตรงหน้า มือของเธอก็ไม่อยู่นิ่งใช้ปัดป่ายไล่วนไปทั่วก่อนจะเริ่มแกะกระดุมเสื้อที่มันกำลังเกะกะอยู่ออก ในหัวของเธอบอกว่าให้ทำเพื่อที่จะได้กินอย่างสะดวก "ซีน.....อืม~~เจ้าช่างอร่อยจริงๆ" "อ๊า~~ท่านหญิงอลิซ" เมื่อริมฝีปากสุดสวยนั่นเอาแต่ขบเม้นรอบคอของตนซีนก็ได้แต่ข่มกลั้นอารมณ์ที่กำลังร้อนผ่าวอย่างสุดกำลังเพราะเขากลัวเสียงครางของตนจะไปถึงหูของท่านชาย 'ข้าขอแค่อีกครั้งเดียวพันธะนี้ก็จะมั่นคงกว่าเดิมแม้ข้าจะต้องใช้เล่ห์กลก็เถอะขอแค่ครั้งนี้เท่านั้น' อึก...อืม~~~ อลิซเลิกหยอกเย้าเหยื่อเล่นก่อนที่เธอจะปล่อยเขี้ยวออกมาและกัดลงไปที่คอของซีน แสงสว่างวาบเล็กๆที่ปรากฏตรงแผ่นหลังของอลิซทำให้ซีนถึงกับหลั่งน้ำตาแบบไร้เสียง "อืม~~~ซีนเป็นอะไร" ฉันเงยหน้าถามเมื่อได้รับรสแปลกๆที่ต่างจากเดิม "เปล่าขอรับข้าแค่ดีใจที่ท่านหญิงไม่รังเกียจเลือดของข้า" เขาส่งยิ้มที่สวยงามมาให้จนเธอต้องฝ่ายหลบสายตา 'อร๊ายซีนคนบ้า' อะ...อึก ฉันแก้เขินด้วยการกัดอีกด้านของคอ ก่อนจะทิ้งตัวแนบลงไปบนตัวของซีน ฉันรู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังดันก้นของเธออยู่ ‘อรุก บางอย่างที่ชาติก่อนเธอคุ้นเคยเพราะเคยผ่านการใช้งานมันมาแล้ว’ เห็นแก่เลือดอร่อยๆที่เธอกำลังกินจะช่วยให้สบายตัวก็แล้วกันนะ อลิซใช้มือลูบเล้าร่างของซีนก่อนที่จะเริ่มไล่วนลงไปที่เป้ากางเกงของชายหนุ่ม 'เหอะ....แม่ไม่ยอมให้ยั่วคนเดียวหรอกฉันคนนี้ก็ยั่วตัวแม่นะขอบอก' เสียงครวญครางของซีนคงเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดีที่สุดว่าตอนนี้เขากำลังมีความสุขมากแค่ไหน โดยที่ทั้งคู่ต่างก็ไม่รู้เลยว่าตรงด้านนอกห้องนั้นกำลังมีชายคนหนึ่งที่เกิดโทสะอย่างแรงอยู่ "คุณชายขอรับคุณท่านเรียกให้ไปพบขอรับ" พ่อบ้านที่ตามมาทันได้รีบรั้งท่านชายอลันให้ไปหาเจ้านายของตนก่อนที่จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น "อืม" อลันที่ข่มความโกรธลงได้ก็รีบเดินไปหาท่านพ่อทันทีเพราะกลัวที่จะอดใจพังประตูเข้าไปดึงเจ้าคนมากเล่ห์ออกมาไม่ได้ แม้ครั้งนี้เขาจะได้การตอบรับแต่ก็ไม่อาจที่จะครอบครองเพียงคนเดียวเหรอ… "ขออนุญาติครับท่านพ่อ" "เข้ามาซิ" คนเป็นพ่อได้แต่ถอนหายใจเมื่อเห็นอาการของลูกชายที่เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด "อลันพ่อรู้ว่าลูกไม่พอใจที่พ่อช่วยเหลือซีน" คนเป็นพ่อได้แต่ถอนหายใจอย่างหมดความที่จะช่วยเหลือ "แล้วเหตุใดท่านพ่อถึ...ง.." "อลันบางสิ่งเจ้าก็ไม่อาจฝืนโชคชะตาได้อลิซคือราเชียร์เจ้าต้องยอมรับ พ่อรู้ว่าเจ้ารู้สึกเช่นไรแต่สิ่งที่เจ้าทำเป็นผลร้ายต่อน้องอยู่รู้หรือไม่" "ท่านพ่อข้ารู้แต่มันยาก……ยากที่จะยอมรับจริงๆ" อลันได้แต่กำมือของตัวเองที่กุมอยู่จนนิ้วแทบแตก "พ่อรู้แต่เจ้าต้องยอมรับให้ได้ทุกวันนี้มันก็ดีกว่าแต่ก่อนไม่ใช่รึหรือเจ้าอยากให้น้องกลับไปเป็นแบบเดิมกัน พ่อว่าหากเป็นอย่างเมื่อก่อนเป็นเจ้าเองนะที่จะเจ็บปวด" สิ้นคำของท่านพ่ออลันถึงกับหน้าซีดถ้าหากน้องสาวของตนกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนตนจะทนได้รึไม่ แววตาที่รังเกียจตนน้ำเสียงที่ห่างเหินนั่นเขาไม่แน่ใจว่าจะทนมันได้อีกแล้ว "เตรียมตัวสำหรับคืนนี้เถิดทำให้ดีที่สุดก็พอ" ท่านดยุคผู้ยิ่งใหญ่ได้แต่ตบบ่าให้กำลังใจกับบุตรชายของตน . ตอนนี้อลิซกำลังนั่งให้เหล่าเมดสาวแต่งตัวให้และต้องเขินอายกับสายตาล้อเลียนของสาวใช้กลุ่มนี้ เฮ้อไม่น่าเลยเพราะความตะกละกับความย่ามใจแท้ๆฉันถึงต้องมาโดนมองแบบนี้ ภาพลักษณ์ที่แสนดีงาน(?)ของฉันต้องกลายเป็นสาวใจกล้าร่านราคะไปแล้ว....อือๆ "ท่านหญิงอย่าได้เอียงอายเลยเจ้าค่ะของแบบนี้ยิ่งดังยิ่งดีแสดงว่าเรามีอำนาจเหนือชายมากล้นด้วยเสน่ห์นะคะ" คริ คริ "พอเลยไม่พูดแล้วรีบแต่งตัวให้เสร็จสักทีงานเลี้ยงจะเริ่มแล้วนะ" ฉันแสร้งทำเป็นดุทั้งที่ใบหน้าของฉันตอนนี้คงจะแดงก่ำทั้งสองข้าง แม้ว่าร่างกายของแวมไพร์ปกติจะซีดยิ่งกว่ากระดาษก็เถอะ ถ้าได้มีเรื่องน่าอายอย่างนี้ใครละจะไปเก็บอาการอยู่กัน นี่ขนาดพวกนางไม่เห็นเรื่องราวภายในห้องยังคิดไปไกลได้เลยทีเดียว 'อยากจะบ้าตายฉันยังรอดปลอดภัยไม่บุบสลายนะยะ' ฉันก็ได้แค่คิดในใจตอนนี้ต้องรวมสติและดึงความสุขุมมาโดยเร็ว แต่จะว่าไปฉันก็ใช้ได้อยู่นะวิชามือของฉันความช่ำชองยังไม่ตกเลยหุหุ ครึ่งชั่วโมงฉันรีดไปสามครั้งถึงกับต้องไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเลยทีเดียวเหอะๆ อลิซหลงอยู่ในภวังค์จนเหล่าสาวใช้ต้องสะกิดให้เพื่อนดูคุณหนูที่ตอนนี้เอาแต่นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD