รถม้าค่อย ๆเคลื่อนตัวสู่ปราสาทหรือบ้านของเธอข้างนอกเงียบแล้วภายในรถม้าเงียบยิ่งกว่าบรรยากาศที่อึมครึมก่อตัวลอยวนไปทั่วยิ่งตัวต้นเหตุอย่างเธอนี่ถึงกับต้องนั่งนิ่งมาตลอดทาง
"ท่านพี่เจ้าค่ะคือน้อ.. ..."
"อลิซค่ะพี่ว่าน้องคงจะง่วงแล้วมาพี่จะช่วยกล่อมน้องเอง"
ไม่ว่าเปล่าท่านพี่ผู้น่ารักก็คว้าตัวฉันที่นั่งข้างๆมาไว้บนตักตัวเองก่อนจะกดหัวฉันให้ซบลงกับอกแน่นๆแล้วค่อยๆลูบผมฉันอย่างแผ่วเบาทำราวกับโลกนี้มีเพียงเราสอง
ฉันได้แต่ชำเลืองตามองไปยังอีกคนที่นั่งอยู่ตรงมุมสุดของรถม้าก่อนจะได้แต่นึกขอโทษอยู่ในใจ ถ้าไม่เป็นเพราะฉันท่านพี่คงไม่มีอาการแผ่ไอสังหารออกมากดข่มอีกคนเช่นนั้น ‘ขอโทษด้วยแต่นายคงต้องรับเคราะห์ไปก่อนนะซีน ฮือ T-T’
2ชั่วโมงที่แล้ว
.
.
ฉันได้แต่นั่งมองซีนตาปริบ ๆนี่ท่านพี่กล้าทิ้งฉันไว้จริงๆหรือเนี้ย แล้วไอ้ความรู้สึกที่กระวนกระวายใจต่อคนตรงหน้าฉันไม่รู้จะรับมือยังไง ร่างกายมันราวกับถูกชายหนุ่มคนนี้ดึงดูดความสนใจไปหมด ยิ่งมองลำคอก็ยิ่งแห้งผากกลิ่นหอมๆก็เริ่มกลับมาเล่นงานฉันอีกครั้ง
"เอ่อ.....นายนะ....ไม่ซิซีนคุณมานั่งบนโต๊ะรอก็ได้นะ"
เด็กหนุ่มลังเลใจไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆเดินมานั่งที่โต๊ะกับเธอ
"ขออภัยที่มารบกวนขอรับและไม่ต้องเรียกข้าว่าคุณหรอกเรียกซีนเฉยๆก็ได้นะ"
ซีนหันหน้ามาพูดกับฉันเบาๆก่อนจะยิ้มอย่างใสซื่อให้ซึ่งนะจุด ๆนี้บอกเลย.
ตายค่ะ......แพ้ดาเมจขั้นรุนแรง ทั้งร่างกายและจิตใจโดนโจมตีไปหมดแล้วค่ะ
‘ใจฉันสั่นไปหมดเมื่อกี้’
เฮือก!!!อยู่ๆตาของฉันก็เริ่มพร่าเลือนกลิ่นหอมที่ฉันได้กลิ่นตอนนั้นก็เริ่มอบอวลอีกครั้ง แม้แต่สติของฉันก็เริ่มที่จะเลือนลางเหมือนกันแต่กลิ่นที่ได้ในครั้งนี้มันช่างอ่อนหวานล่อลวงตัวเธอเสียจริง
ฉันพยายามที่จะเรียกสติของตัวเองกลับมาก่อนจะหันไปแย้มยิ้มให้ซีนน้อยๆและไม่ได้พูดอะไร แต่ยิ่งมองหน้าซีนก็ยิ่งต้องอดกลั้นอย่างหนักเมื่อสายตาของฉันดันเอาแต่จ้องมองลำคอขาวผ่องของชายหนุ่ม
'อ่า.........มันไม่ตลกเลยนะอีกคนก็อยู่ตรงหน้าแท้ๆ แล้วไอ้อาการนี่อีกนี่ฉันอยาก.........เขาเหรอโอ๊ย!!!ให้ตายเถอะ'
อลิซที่กำลังตีกับความคิดของตัวเองก็ไม่ได้สนใจมองซีนจึงไม่ทันเห็นสายตาของซีนที่จ้องเธออย่างหลงใหล เมื่อเขานั้นได้โดนมนต์เสน่ห์ของตัวเธอที่เผลอปล่อยออกมาโดยไม่รู้ตัว ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มของเธอก็ยิ่งทำให้ซีนถลำลึกลงไปกับเธอมากขึ้นอีก แล้วความรู้สึกร้อนรุ่มที่มันกำลังเริ่มตีวนอยู่ที่หน้าท้องของเขาจากตอนแรกที่แผ่วเบาก็เริ่มรุนแรงขึ้นๆ จนเขาได้แต่แอบครางเบาๆในลำคอเพื่อลดอาการที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้
'นี่มันอะไรทำไมร่างกายของเขามีอาการตื่นตัวขนาดนี้'
"อะนี่กินน้ำชาก่อนซิเธอคงจะกระหายน้ำ"
อลิซเห็นสีหน้าเหม่อๆของซีนก็นึกว่าเหนื่อยจึงรีบรินชาให้ดื่มก่อนจะยื่นส่งให้และในจังหวะนั้นซีนก็ยื่นมือมารับแต่เขาก็ดันเผลอจับเอามือของเธอด้วย
~ปร๊าบ~
เมื่อมือของทั้งคู่สัมผัสกันก็มีความรู้สึกราวกับมีกระแสพลังบางอย่างกำลังวิ่งเข้าสู่หัวใจของพวกเขา อลิซเงยหน้ามองซีนก่อนจะเห็นว่าเขาก็มองเธออยู่เช่นกัน ทั้งคู่สบสายตากันอยู่เนิ่นนานจนระยะห่างของใบหน้าทั้งสองคนเริ่มใกล้กันขึ้นเรื่อยๆจนอลิซมองเห็นดวงตาคู่หนึ่งและขนตาที่ดำเป็นแพสวยของซีน
~อืม~
มีเสียงครางเบาๆเมื่อริมฝีปากของทั้งคู่แตะกัน ความรุ่มร้อนของวิญญาณได้ถูกกระตุ้น จากริมฝีปากที่เริ่มแตะแค่เบาๆก็ค่อยๆรุนแรงขึ้น ลิ้นทั้งสองเริ่มเข้าพัวพันเกาะเกี่ยวกันไปมาอย่างไม่ยอมที่จะแยกจาก ความประหม่าความเขินอายถูกหลงลืมทิ้งไปลืมแม้กระทั่งว่าพวกเขาเพิ่งพบเจอกันเป็นครั้งแรก
"แฮ่กๆซีนอืมมมม"
อลิซเริ่มปล่อยตัวตามสันชาติญาณดิบของแวมไพร์เธอกระชากซีนเข้ามาใกล้ก่อนจะขึ้นไปนั่งคร่อมที่ตักของชายหนุ่ม โดยทางนั้นก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีแพราะเขาได้ใช้แขนทั้งสองข้างโอบรัดกอดเอวของเธอไว้
มือของอลิซเริ่มลูบไล้ไปตามตัวของซีนซึ่งเธอคิดว่ามันช่างแน่นและสมบูรณ์แบบถึงจะไม่เท่าท่านพี่แต่มันก็ถูกใจเธอเป็นอย่างมาก
"อะท่านหญิง....อ่าาาา"
ซีนถึงกับครางกระเส่าเมื่ออลิซใช้ลิ้นเล็กๆของเธอชิมวนไปมาที่คอของตนซึ่งซีนก็ไม่ได้น้อยหน้า เมื่อมือทั้งสองข้างของซีนก็ได้เริ่มลูบไล้ไปตามสะโพกสวยที่กำลังบดทับตรงนั้นของตนอย่างไม่เกรงกลัว สตินึกคิดของทั้งคู่ได้ถูกสันชาตญาณดึงไปตามอารมณ์หมดแล้ว
เมื่ออลิซได้ชิมรสชาติของชายตรงหน้าจนพอใจแล้วเธอก็ได้ปล่อยเขี้ยวออกมาก่อนจะกัดเข้าตรงคอของชายหนุ่ม ครั้งนี้เธอยังรู้จักผ่อนแรงกัดไม่ได้ทำรุนแรงเหมือนคราวที่เธอพึ่งหัดกัดครั้งแรก แต่ถึงอย่างไรความรู้สึกของคนที่โดนกัดก็เต็มไปด้วยความสุขอยู่ดี
"อ๊าาาาท่านหญิงขะ.....ข้า...ร้อน....ข้าอึดอัด"
ซีนที่ถูกฝังคมเขี้ยวร่างกายก็เริ่มมีความต้องการของอารมณ์กำหนัด มือทั้งสองข้างของชายหนุ่มเริ่มแปะป่ายไปทั่วตัวของหญิงสาวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะยังมีเศษเสี้ยวหนึ่งที่คอยดึงสติของเขาไว้ไม่ให้ลงมือทำอะไรให้เลยเถิด
แต่ในใจลึกๆเขากลับรู้สึกว่าต้องมากกว่านี้ ‘ข้าอยากทำได้มากกว่านี้’
อลิซเองก็รับรู้ถึงอารมณ์ที่ร้อนแรงนี้ของซีน เธอจึงใช้ความรู้สึกนำทางเพราะไม่อาจควบคุมไว้ได้หมด แต่อย่างน้อยเธอก็ต้องรับผิดชอบต่อเจ้างูน้อยที่ดันหน้าท้องเธออยู่ตอนนี้
'ชาติก่อนใช่ว่าจะไม่เคยเสียเมื่อไหร่'
เธอคิดอย่างปลอบใจก่อนจะเริ่มขยับเอวเบาๆและล้วงมือเข้ากางเกงของชายหนุ่มเพื่อช่วยเขาปลดปล่อยความอึดอัดนี้
นี่คือสุดยอดวิชาดัชนีนางเลยที่เธอภูมิใจ
ฉันค่อยๆกุมงูน้อยที่ไม่น้อยอย่างที่คิดก่อนจะขยับขึ้นลงเบาๆแต่สียงของอีกคนที่กำลังครวญครางอยากสุขสมก็ทำให้เธอต้องเร่งมือขยับให้เร็วขึ้น เธอดูแลทั้งลำแท่งและไม่ลืมหยอกล้อลูกบอลแฝดจนซีนถึงกลับหลุดครางชื่อของเธอออกมาแม้จะไม่ดังแต่มันก็ยิ่งทำให้เธอฮึกเหิมจนกล้าที่จะเร่งจังหวะและลูกเล่นเข้าไปอีก
"ทะ.....ท่าน.....ท่านหญิงอลิซ...อะ.....อะ"
เธอใช้นิ้ววนตรงปลายหัวเบาๆก่อนจะลูบลงไปทักทาลูกบอลแฝดหยอกเย้าให้อีกคนขนลุกซู่ก่อนจะกลับมาสนใจกับงูน้อยที่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ‘อึดไปไหนค่ะ’
"ชอบหรือไม่....อืม"
อลิซถอดเขี้ยวออกก่อนจะหันมาถามมือก็ยังทำจังหวะขึ้นลงแถมสะโพกก็ยังขยับหมุนวนเพิ่มความเสียวอีกทาง
"อะ.....อะ.....ไม่ไหวแล้ว...ขะ...ข้า...จะเสร็จแล้ว"
ชายหนุ่มไม่เคยรู้สึกสุขสมขนาดนี้ ยิ่งใกล้จะถึงความสุขสมทางอารมณ์เลือดของเขาก็ยิ่งเดือดพล่านไปทั่วทั้งตัว
อลิซที่รอจังหวะนี้ก็รีบเร่งให้พร้อมทั้งกัดเข้าที่คอของซีนอีกครั้งเพื่อรับรสเลือดที่อร่อยที่สุดจากความรู้สึกสุขสมของเหยื่อ
"อะ.....อ่าาาาาาาาา"
"อื้มมมมม"
เสียงครางประสานกันพร้อมกับที่ชายหนุ่มกระตุกเจ้างูน้อยพ่นพิษสวาทออกมา
"แฮ่กๆ....อื้มท่านหญิง"
อลิซที่ยังง่วนกับการใช้ลิ้นทำความสะอาดเลือดตาลำคอของซีนอยู่ก็หาได้สนใจกับอาการเขินอายของชายหนุ่ม
"แอ๊ด....ปัง"
"อลิซพ................"
.
"นี่มันอะไรกัน!!!!"
...........
ร้านอาหารนั้นห้องพังไปแถบหนึ่งเพราะโดนแรงกดดันของท่านพี่ เคราะห์ดีที่พี่ชายมาเห็นฉากสุดท้าย สติของฉันกลับคืนมาอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่เร็วเท่าท่านพี่ที่กระชากตัวฉันออกมาจากซีนแล้วกอดไว้อย่างหวงแหน
"อธิบายมาเดี๋ยวนี้!!!!"
..
....
ใครจะกล้าละค่ะถามหน่อยฉันก็แถสุดๆเลยเถอะมีคนเคยกล่าวไว้ถ้าจะโกหกต้องมีความจริงปนอยู่จะได้สมจริงซึ่งฉันก็บอกแค่ว่าหิวคุมตัวเองไม่อยู่เลยเผลอกระโจนใส่ซีนที่อยู่ตรงหน้าแถมยังขู่พี่ชายอีกว่าถ้ายังถามไม่หยุดฉันจะไม่พูดด้วยทำให้ท่านพี่ได้แต่ข่มกลั้นความหงุดหงิดส่วนฉันแอบหันมองซีนที่ยังนิ่งเงียบ
เออดีฉันนี่เหงื่อแตกตกร่องตูดแล้วเว้ยยิ่งกว่าสามีจับได้ว่าภรรยามีชู้ซุกกิ๊กอีกนะ
แต่อลิซลืมนึกไปว่าคำโกหกของเธอมันไม่สามารถใช้ได้กับโลกนี้ที่มีความเชื่อเกี่ยวกับคู่ของโชคชะตา แต่เพราะคำบอกเล่าเรื่องกลิ่นหอมของอีกฝ่ายต่างหากที่ทำให้พี่อลันต้องข่มกลั้นความโมโหลงไปและพยายามทำใจยอมรับอีกคนกลับไปด้วย
.
สุดท้ายก็ได้กลับบ้านหลังจากที่ตกลงเรื่องค่าเสียหายและค่าไถ่ตัวของซีนเสร็จ แม้ท่านพี่จะยังเคืองแต่ก็ต้องทำเพราะเห็นว่าจะใช้ซีนเป็นพยานในการจับกลุ่มโจรที่มีผู้มีอำนาจหนุนหลังอยู่
และมันก็มีช่วงเวลาหนึ่งที่ท่านพี่ต้องแยกออกไปลงสัญญากับเจ้าของร้านทำให้ฉันมีโอกาสคุยกับซีน
"เดี๋ยวซีน......เอ่ออลิซต้องขอโทษมากๆนะคะ"
ฉันที่ตอนนี้สติกลับมาครบถ้วนก็โคตรๆรู้สึกผิดจนต้องรีบมาขอโทษคนที่ฉันทำร่าน..แค่กๆๆๆๆ....ตะกละใส่
ซีนหันมามองฉันก่อนจะยิ้มน้อยๆให้
"ข้าไม่เป็นไรท่านหญิง อย่าขอโทษข้าด้วยเรื่องนี้เพราะสำหรับข้าเรื่องที่เกิดขึ้นมันถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในช่วงเวลาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา"
อ่า.....ดาเมจกระจายใจฉันเริ่มสั่นรุนแรงและความร้อนก็เริ่มลามไปถึงใบหน้าจนร้อนผ่าวเลยละ
"หึหึ....ข้าขอบอกไว้ตอนนี้เลยว่า"
ซีนกล่าวบอกเบาๆก่อนจะหยุดทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมอง เขาก้มหน้าลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกันเพื่อจ้องมองเข้าไปในดวงตาของฉัน ยามที่เราทั้งคู่สบตากันก็มีความรู้สึกว่ากำลังถูกดึงลงไปใต้น้ำ
"ข้าขอบอกไว้ให้ท่านรู้เลยว่าข้าจะไม่ยอมแพ้และต่อจากนี้ไปข้าจะเอาจริง.......ท่านอลิซที่รัก"
“O_O”
อุดปากกรี๊ด ผู้ชายไม่ตรงปก