บทนำ
"อื้อ...อ๊ะ! พอแล้วเต ลืมไปแล้วเหรอว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะ"
'เมลบี' ดันแผ่นอกเปลือยเปล่าของคนบนร่างออกและเชยใบหน้าขึ้น พร้อมกับถลึงตาใส่เมื่อคนตัวโตยังคลอเคลียและซุกไซ้จากร่างกายเธอไม่ห่าง แถมยังมีทีท่าว่าจะรังแกเธอไม่รู้จักจบสิ้น!
"เมลยังดีที่นอนบนรถได้ เตนี่เป็นคนขับนะ แต่เตก็ไม่บ่นสักคำ"
คนขับรถตอบนิ่ง ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเลยสักนิด หนำซ้ำยังพรมจูบและประทับริมฝีปากลงที่เนินอกของหญิงสาว ราวกับหลงใหลมัวเมาจนไม่อาจผละออกไปเลยสักนิด
"เต! เดี๋ยวเถอะนะ! อื้อ...พะ...พอแล้วเต พอเถอะนะ"
จากน้ำเสียงแข็งและแววตาดุดันกลับกลายเป็นอ่อนยวบและสั่นระริก เมื่อถูกมือหนาสัมผัสเข้ากับจุดอ่อนไหวที่ตอนนี้แดงช้ำจากการกระทำของคนบนร่าง มือเล็กทุบตีที่บ่าแกร่ง ทั้งจิกทั้งข่วนแต่กลับเรียกเสียงหัวเราะร่วนแทนที่จะยอมทำตามคำร้องขอของเธอ
"โอเค ๆ เตพอแล้วก็ได้" เมื่อกลั่นแกล้งหญิงสาวจนพอใจก็ยอมผละออกพลิกตัวล้มนอนลงข้างกาย
'เตโช' จัดแจงให้คนตัวเล็กนอนหนุนที่ต้นแขนขณะที่วงแขนแกร่งก็กอดรัดเอวบางเอาไว้หลวม ๆ อ้อมกอดอบอุ่นบนเตียงกว้างนับว่ากลายเป็นกิจวัตรของเขาและเธอไปเสียแล้ว
ใบหน้าหวานซบอิงเข้าหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ แต่ทว่าแววตาคู่นั้นกลับสั่นระริก รวมไปถึงวงแขนที่กระชับกอดรัดคนข้างกายเอาไว้ราวกับจมฝังทุกความรู้สึกและถ่ายทอดให้กับเขาเพียงผู้เดียว
"พรุ่งนี้เมลจะตื่นกี่โมง ปลุกเตด้วยสิ" เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยพลางลูบเรือนผมของหญิงสาวด้วยความรักและหวงแหน
"น่าจะเจ็ดโมงแหละ กว่าจะได้ออกก็คงเก้าโมงพอดี"
"เตตื่นเต้นมากเลย ไม่คิดว่าจะได้เป็นลุงคนแล้วนะเนี่ย" รอยยิ้มกว้างปรากฏฉายบนใบหน้าหล่อเหลา พลันเมื่อนึกถึงเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่ได้เป็นคุณพ่อป้ายแดง ส่วนตัวเขาเองก็ได้เป็นคุณลุงที่จะมีหลานตัวน้อยให้อุ้ม
ในวันพรุ่งนี้เตโชและรุ่นน้องสาวอีกสองคนได้นัดแนะกันไปที่บ้านของคุณพ่อป้ายแดงเพราะอยากเห็นหน้าหลาน อีกทั้งยังมีของติดมือเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการรับขวัญหลานที่ตั้งใจเลือกซื้อให้โดยเฉพาะ เตโชเลยถือโอกาสนี้ที่จะพาเมลบีไปพบเจอทุกคนและเปิดตัวในฐานะแฟนของเขา
"เต..." คนตัวเล็กยิ้มบาง ๆ แต่แววตากลับสั่นระริกและมีหยาดน้ำตาเอ่อคลอ
"หืม"
เตโชดึงแฟนสาวเข้ามากอดไว้แน่น กดริมฝีปากฝังลึกที่ขมับเล็กและเกลี่ยไล้เรือนผมนุ่มที่สยายเต็มหมอนใบใหญ่ เวลาที่ได้อยู่กับเธอสองคนแบบนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด และเขาก็อยากเก็บช่วงเวลานี้เอาไว้ให้นานที่สุด
"เตจำเรื่องที่เมลเคยบอกเตตอนที่เราคบกันได้หรือเปล่า"
"โอ้โห...นานเหมือนกันนะ เตขอคิดก่อนนะ" เตโชทำท่านึกคิด เพราะมันก็ผ่านไปเกือบสองปีได้แล้วที่เขาและเธอตกลงคบหากันเป็นแฟน
"เรื่องสัญญาที่พ่อกับแม่ของเมลทำไว้กับเสี่ยชัย" ไม่รอให้เสียเวลาหญิงสาวก็เอ่ยแทรกเพราะไม่อยากแฟนหนุ่มต้องคิดนาน
แววตาหวานสั่นระริกกอดกระชับร่างกายของเตโชเอาไว้แน่น เธอพยายามกลัดกั้นเสียงสะอื้นและหยาดน้ำตาเอาไว้ก่อนจะกรีดยิ้มปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
"เตจำได้ ทำไมเหรอ มีอะไรรึเปล่าเมล" เสียงเข้มเอ่ยถามแต่ภายในใจกลับรู้สึกถึงความไม่ปกติของแฟนสาวข้างกาย อยู่ ๆ ก็นึกหวั่น ทั้งที่เขาเคยคิดว่าสัญญานั้นเป็นเพียงสัญญาของพ่อและแม่ของเมลบี ซึ่งมันไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลยสักนิด
"อยากรู้ไหมว่ามันคือสัญญาอะไร"
เตโชพยักหน้ารับทำให้เมลบีคลี่ยิ้มและกอบกุมมือลงบนใบหน้าหล่อเหลา ศีรษะเล็กนอนหนุนบนอกแกร่งพลางกอดกระชับวงแขนเพื่อเก็บความอบอุ่นจากแฟนหนุ่มให้มากที่สุด แววตาใสแจ๋วแต่กลับมีหยาดน้ำตาเอ่อล้นจนต้องรีบเบนหน้าหนีเพราะไม่อยากร้องไห้ออกมาในเวลาแบบนี้
"เมื่อสี่ปีก่อน...ธุรกิจที่พ่อกับแม่ของเมลสร้างมันพังไม่เป็นท่าเพราะเศรษฐกิจย่ำแย่ ตอนนั้นบ้านเมลติดหนี้ธนาคารแล้วก็หนี้นอกระบบมากกว่าร้อยล้าน ทุกวันเมลก็จะเห็นเจ้าหนี้มาทวงเงินอยู่ตลอด บางวันก็เอาปืนมาขู่ด้วยนะ เหมือนในหนังเลยแหละ"
หญิงสาวเอ่ยปนเสียงขำเมื่อนึกถึงเรื่องราวเจ็บปวดในอดีต มันเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ขมขื่น แม้ว่าจะผ่านมานานกว่าสี่ปีแล้วแต่เธอยังจดจำภาพเหตุการณ์เหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
มือหนาของเตโชลูบเบา ๆ ที่เรือนผมนุ่มอย่างปลอบประโลม เขาไม่เคยรับรู้เรื่องนี้ แต่พอรู้ว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้เคยพบเจอกับความเจ็บปวดสาหัสแบบนั้นก็ยิ่งทำให้เขาเห็นใจ
"แม่กับพ่อเมลทำงานหนักมาก ไม่ว่าจะรับจ้างขับรถส่งของหรือขายของที่ตลาดนัด ที่ดินที่เป็นมรดกก็เอาไปขายจนหมด ส่วนเมลเองก็ต้องทำงานพาร์ทไทม์เพราะอยากแบ่งเบาภาระ แต่โชคดีนะที่มีคนแนะนำให้เมลไปถ่ายโฆษณา มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เมลเข้าวงการ...พอเมลเริ่มถ่ายโฆษณาก็มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ บางเดือนได้หลายแสนเลยนะ แต่มันก็ไม่พอใช้หนี้อยู่ดี"
เตโชก้มลงมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้ออกสีเมื่อน้ำตาเริ่มไหลหลั่งเกินกว่าจะกลัดกั้น เขาปาดน้ำตาออกช้า ๆ หวังอยู่เคียงข้าง แม้ว่าจะเป็นความเจ็บปวดจากอดีตที่ผ่านมาก็ตาม
เขาไม่แปลกใจเลยที่เธอเติบโตมาได้ดีขนาดนี้ ตั้งแต่คบหากันมา เมลบีเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขานึกถึงภาพในอนาคตที่จะร่วมฝันจับมือกันสร้างครอบครัว ตอนนั้นเขารู้จักเธอในฐานะนักแสดงที่กำลังเป็นที่จับตามอง ส่วนตัวเขาเป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนธรรมดาเท่านั้น แล้วใครจะคิดว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้จะเคยผ่านเรื่องราวเจ็บปวดและความลำบากมาก่อน
"ตอนนั้นเหลืออีกยี่สิบล้านจะปลดหนี้ได้ แต่ทางธนาคารเองก็รอไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เจ้าหนี้ก็เริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งทำร้ายพ่อเมลแล้วก็ทำลายข้าวของในบ้าน พ่อเมลเลยตัดสินใจไปกู้เงินจากเสี่ยชัยอีกครั้ง"
"หืม เดี๋ยวนะเมล...กู้เงินอีกรอบเหรอ" เตโชขมวดคิ้วยุ่งและเอ่ยถามแฟนสาวด้วยความแปลกใจ
"แปลกใจล่ะสิ ทั้งที่พ่อแม่เมลเครดิตแย่ขนาดนั้นแต่ก็ยังไปกู้เงินจากเสี่ยชัย เตเองก็งงเหมือนกันใช่ไหม" เมลบีหัวเราะ เพราะในตอนแรกเธอเองก็สงสัยเช่นเดียวกับแฟนหนุ่ม
"ก็ใช่...เตแค่ไม่คิดว่าเสี่ยชัยจะให้ยืมน่ะ"
"เมลเองก็คิดไม่ว่าเสี่ยชัยจะให้ยืมเหมือนกัน แต่สรุปแล้วเสี่ยชัยก็ให้ยืมจริง ๆ นะ เงินนั้นก็เลยเอามาปลดหนี้ทั้งหมด ตอนนั้นเมลโล่งใจสุด ๆ เลยล่ะ เหมือนยกภูเขาออกจากอก ไม่ต้องรับงานเยอะ ๆ แล้ว ส่วนพ่อกับแม่เมลเองก็ไม่ต้องโหมงานหนัก"
เตโชยิ้มบาง ๆ เมื่อเห็นหนทางสว่างของเธอในตอนนั้น กว่าจะเป็นเมลบีนางเอกสาวดาวรุ่งได้นั้นต้องผ่านอะไรมามากมาย และวันนี้ก็คือวันของเธอที่จะได้ใช้ชีวิตของตัวเองสักที
"เสี่ยชัยก็ไม่เคยเร่งรัดเรื่องเงินเลยนะ แต่เมลเองนี่แหละที่ส่งเงินให้พ่อกับแม่ตลอด เพราะเมลอยากปิดหนี้เร็ว ๆ น่ะ"
"แล้วตอนนี้ปิดหมดแล้วใช่ไหม" เสียงทุ้มนุ่มหูพร้อมด้วยรอยจูบที่ขมับขวาทำให้เมลบีส่ายหน้าบาง ๆ แทนคำตอบ
"ตอนแรกเมลก็คิดว่าใกล้หมดแล้วล่ะ แต่จริง ๆ คือหนี้ไม่เคยลดเลยต่างหาก"
ทว่า...จากความอ่อนไหวแปรเปลี่ยนเป็นความแข็งกร้าว ดวงตาหวานแดงก่ำและสั่นเทาด้วยความโกรธและผิดหวังกับสิ่งที่พบเจอ หากแต่ไม่สามารถทำอะไรได้กับความโง่เขลาของตัวเอง
"มันไม่ใช่สัญญากู้ยืมเงิน แต่เป็นสัญญาแต่งงาน!"
น้ำเสียงแข็งที่เต็มไปด้วยความโกรธทำให้หยาดน้ำตาไหลหลั่งออกมาเป็นจำนวนมาก หญิงสาวตัวสั่นและกำมือแน่น เธอผิดหวังที่การตกลงทำสัญญาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดจะทรยศและหักหลังเธอได้
เงินจำนวนยี่สิบล้านแลกกับการที่เธอต้องแต่งงานกับเสี่ยชัย ทุกอย่างเป็นการตกลงร่วมกันของสองฝ่าย แต่เธอกลับไม่รับรู้เรื่องนี้เลยสักนิด!
"อีกหกเดือนเมลจะต้องแต่งงานกับเสี่ยชัย"
"ว่าไงนะ!?"
เตโชขยับตัวและจ้องมองแฟนสาวด้วยความตกใจ นัยน์ตาคู่นั้นมีแต่ความเสียใจและเจ็บปวด แต่คำพูดของเธอกลับหนักแน่นอย่างแน่ชัดว่าเธอจะต้องแต่งงานกับเจ้าหนี้จริง ๆ
"เราเลิกกันเถอะเต"