บทสุดท้าย (จบ) ฉันจะอยู่กับคุณ

1596 Words
บทสุดท้าย (จบ) ฉันจะอยู่กับคุณ “วันนี้ภรรยาของผมถูกคนบุกเข้ามาทำร้าย ผมยังจะกลับไปทำงานได้ยังไงกัน วันนี้ทั้งวันสมควรปลอบใจภรรยา” กู้เหยียนใช้มือหนึ่งจับท้ายทอยเล็กดึงรั้งคนบนตักเข้ามาจุมพิต เพียงแต่ริมฝีปากยังไม่ทันได้สัมผัสความหอมหวานใบหน้าของกวงจือหลินก็แสดงสีหน้าไม่สู้ดี ก่อนที่เธอจะพลิกตัวลงจากตักเขาวิ่งเข้าห้องน้ำโก่งคออาเจียนจนหน้าซีด “จือหลิน คุณเป็นยังไงบ้าง” กวงจือหลินไม่ตอบแต่ค่อยๆ หยัดตัวที่อ่อนแรงลุกขึ้นยืน กู้เหยียนขยับเข้าไปประคองเธอ เพียงแต่เมื่อเขาเข้าใกล้อาการคลื่นไส้อาเจียนของเธอก็กลับมาอีกครั้ง คิ้วเข้มของกู้เหยียนขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยพยายามวิเคราะห์อาการโรคของหญิงสาว “จือหลิน เดือนนี้รอบเดือนของคุณมาหรือยัง” คนที่กำลังโก่งคออาเจียนส่ายหน้าไปมา ในใจของกู้เหยียนพลันสั่นระรัว รีบวิ่งไปที่สถานพยาบาล แจ้งลาหยุดงานกับเซียวจูอินและหยิบที่ตรวจการตั้งครรภ์กลับมาด้วย “กู้เหยียน ผลเป็นยังไงบ้าง” หลังจากผ่านไปเพียง 3 นาทีดวงตาของกู้เหยียนก็เบิกกว้างขึ้นก่อนจะสบตาคนหน้าซีดแล้วโผเข้าโอบกอดเธอแน่น “จือหลิน คุณท้อง... คุณท้องแล้ว” ทว่ากวงจือหลินไม่ทันได้ยินดีกับเรื่องที่กู้เหยียนบอก ร่างกายของเธอก็มีอาการคลื่นไส้อีกครั้ง สุดท้ายเพื่อให้เธอหยุดอาเจียนกู้เหยียนจึงทำได้เพียงนั่งเฝ้าเธออยู่ห่างๆ เท่านั้น “หมอเซียวจือหลินเป็นยังไงบ้าง” “ฉันให้ยาแก้อาเจียนไปแล้วค่ะ ตอนนี้นอนหลับไปแล้ว” กู้เหยียนมองดูคนที่นอนบนเตียงด้วยความกังวล ในใจเกิดความรู้สึกไม่พอใจเจ้าตัวเล็กที่ยังไม่เกิดขึ้นมา “ทำหน้ายุ่งขนาดนี้ โมโหลูกหรือคะ” เซียวจูอินเอ่ยเย้าคนที่ปกติมักจะแสดงสีหน้าอ่อนโยน เข้าใจผู้คน และไม่ค่อยโกรธเคืองใคร แต่ตอนนี้กลับมีท่าทีขุ่นเคืองชัดเจนจนเก็บสีหน้าไม่ได้ “ยังไม่ทันเกิดก็สร้างปัญหาแล้ว มันน่าโมโหจริงๆ” “จะโมโหอะไรกันคะ คุณก็รู้ว่าอาการของคุณหนูกวงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายในช่วงการตั้งครรภ์” กู้เหยียนถอนหายใจยาวเรื่องนี้เขารู้ดี เพียงแต่สาเหตุที่ฮอร์โมนในร่างกายกวงจือหลินเป็นแบบนี้ก็เพราะเจ้าตัวเล็กในท้องเธอไม่ใช่หรือไง ยิ่งคิดก็ยิ่งชวนให้นึกโมโหนัก ...................................................... “ดีใจด้วยค่ะคุณกู้ คุณได้ลูกชาย” “ภรรยาของผมเป็นอย่างไรบ้าง” “คุณหนูกวงปลอดภัยดีค่ะ อีกสักครู่เจ้าหน้าที่จะพาไปที่ห้องพักฟื้นนะคะ” กู้เหยียนไม่ได้สนใจเด็กน้อยตัวแสบที่ทำให้เขาต้องห่างเหินจากภรรยาถึงสี่เดือน เมื่อเจ้าหน้าที่พากวงจือหลินมาส่งที่ห้องพักฟื้นเขาก็รีบขยับตัวไปยืนข้างๆ เธอ จับมือบางมากอบกุมด้วยความห่วงใยในทันที “จือหลิน คุณเป็นยังไงบ้างปวดแผลมากไหม” “ไม่ค่ะ” “คุณหนูกวงคะ หากพอมีแรงแล้วช่วยให้นมคุณชายน้อยหน่อยนะคะ” “ได้ค่ะ ส่งเขาให้ฉันได้เลย” “เธอเพิ่งคลอดยังอ่อนเพลียอยู่ เดี๋ยวแม่นมหม่าก็มาแล้ว เด็กก็ให้กินนมแม่นมหม่าไปก็แล้วกัน” กู้เหยียนบอกโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเด็กชายที่พยาบาลอุ้มมาส่ง ท่าทางโกรธเคืองนี้ของเขาเรียกรอยยิ้มให้คนบนเตียงในทันที เธอส่งสายตาให้พยาบาลสาวที่มีสีหน้างุนงงวางเด็กน้อยไว้ในเตียงเด็ก แล้วส่งสัญญาณให้ทุกคนออกไป ไม่นานเสียงร้องไห้ของเด็กชายก็ดังก้อง สุดท้ายกู้เหยียนก็จำใจหันไปอุ้มเด็กชายออกมาจากเตียงเด็ก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่สนใจใยดี แต่ทันทีที่ได้โอบอุ้มเด็กน้อยเข้าแนบอก สายใยบางอย่างก็ทำให้หัวใจของกู้เหยียนหวั่นไหว ยิ่งใบหน้าเล็กๆ มุดเข้าแนบอกของเขาแล้วหยุดส่งเสียงก่อกวนหัวใจของคนเป็นพ่อก็ถักทอความผูกพันขึ้นมาในทันที “ส่งลูกมาให้ฉันป้อนนมเถอะค่ะ” กู้เหยียนวางเด็กน้อยไว้ที่ข้างกายกวงจือหลิน จัดท่าให้เธอป้อนนมเด็กน้อยได้อย่างชำนาญก่อนจะมองดูปากเล็กๆ ดูดกลืนนมแม่ลงท้องอย่างตั้งใจ “สงสัยจะอิ่มแล้วค่ะ คุณพาลูกไปนอนเถอะค่ะ” “กินอิ่มแล้วต้องจับเรอก่อน จือหลินคุณพักผ่อนเถอะเดี๋ยวผมดูเขาเอง” กวงจือหลินไม่ได้ขัดข้อง สายตามองดูคนตัวโตโอบอุ้มคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกอิ่มเอม เดิมทีกู้เหยียนก็ไม่ใช่คนแข็งกร้าวอะไร แน่นอนว่าเพียงได้ใกล้ชิดกับเด็กน้อยความรู้สึกขุ่นเคืองตลอด 7 เดือนก็จางหายไปจนหมดสิ้น เมื่อได้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน คนที่จงเกลียดจงชังลูกน้อยมาตลอดก็ยังคงรับหน้าที่ดูแลทุกสิ่งราวกับตนเองเป็นแม่ที่คลอดเขาออกมาเอง “จือหลินคุณเสร็จหรือยังลูกหิวนมแล้ว” กวงจือหลินยิ้มกว้าง เดินออกจากห้องน้ำมารับเด็กน้อยเข้าแนบอก คงจะมีเพียงเรื่องให้นมเท่านั้นที่กู้เหยียนไม่สามารถทำแทนได้ และทุกครั้งที่เด็กน้อยดูดนมมารดา คนตัวโตก็จะคอยเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง “กู้เหยียน คุณไม่เหนื่อยหรือไง เรื่องเลี้ยงลูกให้แม่นมหม่าช่วยดูก็ได้” “ลูกตัวแค่นี้ผมเลี้ยงได้ไม่เหนื่อย” เมื่อเห็นกู้เหยียนยืนยันหนักแน่นกวงจือหลินก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร หลังจากป้อนนมเจ้าตัวน้อยเสร็จก็ส่งให้เขาจัดการต่อแล้วเอนตัวลงนอนบนเตียง ไม่นานคนตัวโตก็เดินกลับมาสอดแทรกตัวเข้าในผ้าห่ม พร้อมกับโอบกอดรั้งเธอมาแนบอก “จือหลิน ตอนนี้ลูกอายุ 6 เดือนแล้ว” “ค่ะ ฉันคุยกับคุณพ่อแล้วว่าจะจัดงานครบรอบหกเดือนให้เขา” “ลูกยังเล็กจัดงานเลี้ยงต้องเจอคนมาก อาจทำให้เขาไม่สบายได้ รอเขาอายุ 1 ปีค่อยจัดเถอะนะ” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นสบตาคมด้วยสายตาเป็นคำถาม หากไม่คิดเรื่องจัดงานอย่างนั้นกู้เหยียนเอ่ยถึงอายุของลูกขึ้นมาด้วยเหตุผลอะไร “หากลูกอายุครบ 6 เดือนก็หมายความว่าคุณสามารถตั้งครรภ์อีกครั้งได้แล้ว” ดวงตากลมพลันเบิกกว้าง มองแววตาเจ้าเล่ห์ที่แฝงความเร่าร้อนของกู้เหยียนด้วยความหวาดหวั่น ทว่าไม่ทันหาทางหนีทีไล่ร่างกายก็ถูกเขายึดตรึงและครอบครองอย่างดุเดือด แม้แต่เสียงร้องของเด็กชายข้างห้องก็ไม่สามารถหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของเขาได้ “กู้เหยียนหยุดก่อน ลูกตื่นแล้ว” “อื้ม... ผมให้แม่นมหม่าคอยดูแลเขาแล้ว คุณไม่ต้องกังวล” แน่นอนว่าเมื่อกู้เหยียนได้เริ่มลงมือแล้ว ให้กวงจือหลินยกเหตุผลใดมาอ้างก็ไม่อาจห้ามปรามเขาได้ ร่างกายของเธอถูกเขากลืนกินอย่างหนักหน่วง สมกับที่เขาต้องอดทนมาแรมปี ผ่านไปเพียงห้าเดือนตระกูลกวงก็ได้รับข่าวดีอีกครั้ง “ยินดีด้วยค่ะ คุณหนูกวงตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว” คำรายงานของหมอที่เอ่ยบอกผลตรวจทำให้กวงจือหลินยิ้มกว้าง ทว่ากู้เหยียนกลับมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด เมื่อขึ้นรถกลับบ้านกวงจือหลินจึงเอ่ยถามเขาด้วยความห่วงใย “กู้เหยียนคุณเป็นอะไรหรือเปล่า” “จือหลิน คุณ... ไม่เหม็นผมใช่ไหม อยู่ใกล้ผมแล้วอยากอาเจียนหรือเปล่า” เพราะครั้งก่อนกวงจือหลินแพ้ท้องทุกครั้งที่เข้าใกล้เขาทำให้กู้เหยียนต้องห่างเหินกับเธอร่วม 7 เดือน หากครั้งนี้เธอมีอาการอีกเขาที่เพิ่งได้ใกล้ชิดเธอไม่นานคงยากจะอดทนไหวแล้ว กวงจือหลินยิ้มกว้างในทันทีที่ได้ยินความกังวลใจของกู้เหยียน เธอกดจมูกลงบนแก้มสากแล้วสูดลมหายใจจนสุด ก่อนบอกเสียงสดใส “ดูเหมือนลูกคนนี้จะไม่ค่อยดื้อสักเท่าไหร่นะคะ” กู้เหยียนยิ้มกว้างอุ้มคนนั่งข้างมานั่งบนตักแล้วโอบกอดเธอเบาๆ แล้ววางมือหนาลงบนหน้าที่ที่ยังแบนราบ “จือหลิน ขอบคุณนะครับ” “ขอบคุณเรื่องอะไรคะ” “ขอบคุณที่วันนั้นคุณเลือกแต่งงานกับผม ขอบคุณที่คุณตามผมไปเมืองเจียง และขอบคุณที่มอบครอบครัวที่อบอุ่นนี้ให้ผม” กู้เหยียนพูดจบก็วางคางลงบนไหล่เล็ก ชีวิตของเขาเกิดมาก็กำพร้าพ่อและแม่มีเพียงยายที่คอยเลี้ยงดู ตอนเด็กไม่เพียงขาดความรักจากครอบครัว ยังถูกผู้คนรังแกอยู่เสมอ ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าหลี่อันเฉิงคือคนเดียวที่มอบความปลอดภัยให้กับเขาได้ คือคนเดียวที่เขานับเป็นครอบครัว แต่วันนี้เขาได้เรียนรู้แล้วว่าคำว่าครอบครัวที่แท้จริงเป็นอย่างไร “จือหลินผมรักคุณ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรผมจะไม่มีวันไปจากคุณ จะอยู่กับคุณตลอดไป” ........................ จบ ........................

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD