บทสุดท้าย (2)
ฉันจะอยู่กับคุณ
“หมอกู้แย่แล้วครับ”
ลุงอวี้วิ่งเข้ามาในห้องตรวจด้วยอาการเร่งรีบ จนทุกสายตาหันมาจับจ้องที่เขา
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับลุงอวี้ หรือว่าข้างนอกมีคนไข้อาการแย่”
“คนไข้น่ะไม่แย่ครับ แต่ที่แย่คือคุณหนูหลี่”
“คุณหนูหลี่ หลี่อันอันน่ะหรือครับ”
“ใช่แล้วครับ คุณหนูหลี่กับเมียหมอกู้ตีกันอยู่ที่...”
ลุงอวี้พูดยังไม่ทันจบกู้เหยียนก็รีบวิ่งไปยังบ้านพักของตนเองในทันที แน่นอนว่าเรื่องเช่นนี้ย่อมเรียกความสนใจของผู้คนโดยรอบ พริบตาทั้งสถานพยาบาลก็ไร้คน แม้แต่เซียวจูอินก็ยังอดที่จะตามไปดูไม่ได้
“จือหลิน หยุด!”
กวงจือหลินที่กำลังยกเท้าขึ้นชะงักเก็บเท้าของตนกลับมายืนกอดอก มองคนที่นอนกองบนพื้นพยายามกระเสือกกระสนตัวเองไปหากู้เหยียนแล้วขบกรามแน่น ก่อนจะอดไม่ได้กระทืบลงบนแผ่นหลังเล็กอีกครั้ง
“จือหลิน!”
กู้เหยียนร้องเสียงตำหนิ รีบวิ่งเข้ามาจับคนที่โมโหถอยห่างจากคนบนพื้น
“พี่หมอกู้ช่วยฉันด้วย ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายฉัน”
หลี่อันอันที่ตอนนี้หน้าบวม ปากเจ่อ ตาปิดไปหนึ่งข้างนอนตัวงอฟ้องคนอย่างน่าเวทนา กู้เหยียนตวัดสายตามองคนในอ้อมแขน กวงจือหลินแต่ไหนแต่ไรไม่สนใจสายตาใครหากแต่เมื่อถูกสายตาตำหนิของกู้เหยียนก็อดที่จะรู้สึกน้อยใจไม่ได้
“ฉันถูกรังแกก่อนแท้ๆ คุณยังคิดปกป้องคนอื่น”
คนถูกรังแกก่อนบ่นเบาๆ ให้พอได้ยินกันเพียงสองคน กู้เหยียนแม้จะยังขุ่นเคืองเรื่องอี้เฟิงแต่เขารู้จักกวงจือหลินดี หากไม่ถูกกระทำก่อนเธอจะไม่มีทางรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า ดังนั้นดวงตาคมจึงตวัดมองไปยังคนบนพื้นเอ่ยถามเสียงราบเรียบแต่แฝงความกระด้างกว่าที่เคยเป็น
“คุณหนูหลี่ ตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่คุณเข้ามาทำไมกัน”
“ฉัน...”
“เรื่องระหว่างคุณกับภรรยาของผม รอให้คุณหายดีค่อยไปคุยกันที่สถานีตำรวจอีกทีก็แล้วกัน หมอเซียวผมฝากคุณดูอาการเธอด้วย”
พูดจบกู้เหยียนก็ตวัดแขนอุ้มคนถูกรังแกพากลับเข้าบ้านพักโดยไม่สนสายตาของใคร ท่าทางพร้อมปกป้องภรรยาของเขาทำให้บรรดาชาวบ้านที่ตามมาดูเหตุการณ์ต่างพากันชื่นชมและอิจฉาสาวต่างเมืองกันยกใหญ่ ขณะเดียวกันก็ปรายตามองคนที่กองบนพื้นด้วยท่าทีสมน้ำหน้าดูแคลน
“คนเขาแต่งงานมีภรรยาแล้วก็ยังตามมารังควาน หม่าอิงหงช่างสั่งสอนลูกสาวได้ดีจริงๆ ไม่แปลกที่เธอตามติดหมอกู้มาหลายปีเขาก็ไม่แม้แต่จะชายตามอง”
“หมอกู้ไม่ใช่บุรุษตาบอด ถึงจะได้คว้าสตรีเช่นนี้มาเป็นภรรยา”
หลี่อันอัน ได้ยินคำพูดที่วิพากษ์ตนอย่างไม่ไว้หน้าก็อับอายจนต้องแกล้งสลบ เซียวจูอินให้คนใช้เปลหามมาพาเธอไปตรวจร่างกาย เพียงแต่ภรรยาต่างเมืองของหมอกู้ผู้นี้ลงมืออย่างไร้ไมตรีจริงๆ หลังตรวจร่างกายหลี่อันอันแล้วพบว่ามีกระดูกซี่โครงซ้ายหักถึงห้าซี่ ยังมีกระดูกต้นขาขวาแตก ที่สำคัญใบหน้ายังบวมช้ำเกินกว่าจะประเมินอาการเพิ่มเติม สุดท้ายจึงต้องเร่งส่งคนเข้าเมืองเพื่อไปตรวจรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่ร่วมเดือน หลี่อันอันจึงสามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้
....................................................
กวงจือหลินถูกอุ้มขึ้นแนบอก มุมปากก็ยกยิ้มอย่างพอใจพลางส่งสัญญาณมือให้เซี่ยเว่ยถอยไป ก่อนจะโอบกอดลำคอของกู้เหยียนแนบแน่น ซุกหน้าลงบนแผงอกกว้างจงใจใช้ปลายจมูกปัดไปมาที่ยอดอกเขา
“คุณหนูกวง ที่นี่เป็นสถานพยาบาลหากคุณยังสร้างเรื่องอีกก็เก็บของกลับเซี่ยงไฮ้ไปเสีย”
น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยบอกพร้อมกับวางคนลงบนโซฟารับรองกลางบ้านพัก ทว่าตอนที่กำลังจะหมุนตัวจากไปข้อมือหนาก็ถูกดึงรั้งจนเสียหลักทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา และเมื่อคิดจะขยับตัวลุกขึ้น กวงจือหลินก็หมุนตัวขึ้นนั่งคร่อมบนตักเขาเอาไว้เสียก่อน
“คุณจะทำอะไร ลงไป!”
“ฉันไม่ลงและจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าเราจะคุยกันให้ชัดเจน”
“หากเป็นเรื่องของหลี่อันอันไม่มีอะไรต้องพูด เด็กคนนั้นนิสัยยังไงผมรู้ดี”
“แล้วนิสัยของฉันเป็นยังไงคุณไม่รู้หรือ”
คิ้วของกู้เหยียนพลันขมวดเข้าหากันแน่น จ้องดวงตากลมตรงหน้านิ่งด้วยความสงสัย
“กู้เหยียนเราสองคนแม้รู้จักกันไม่นาน แต่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาคุณไม่รู้หรือว่าฉันเป็นคนยังไง”
“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร ลงไปได้แล้วผมยังมีงานต้องทำ”
“ฉันกับอี้เฟิ่งเป็นแค่สหายที่ดีต่อกัน ในอดีตเป็นสหาย วันนี้เป็นสหาย วันหน้าก็ยังคงเป็นสหาย”
เมื่อได้ยินกวงจือหลินประกาศก้องถึงความสัมพันธ์ของเธอกับอี้เฟิง ในใจของกู้เหยียนก็คล้ายมีดอกไม้เบ่งบานกอใหญ่ เพียงแต่ความสัมพันธ์ของอี้เฟิงกับกวงจือหลินจะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญ สุดท้ายหลังจากที่เขามอบลูกให้เธอแล้ว สถานะสามีภรรยาจำเป็นนี้ก็ย่อมต้องสิ้นสุดลง
“คุณกับเขาจะเป็นอะไรกันก็ไม่เห็นเกี่ยวกับผม หลังจากที่คุณคลอดลูกคนที่สองผมกับคุณก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันอีก”
“ใครบอกว่าฉันจะคลอดลูกคนที่สอง ชีวิตนี้ฉันจะคลอดลูกแค่คนเดียว”
กู้เหยียนได้ยินเธอบอกแผนการในใจออกมาก็เบิกตากว้างจ้องมองใบหน้าสวยนิ่ง ก่อนจะขบกรามเอ่ยเสียงขุ่นลอดไรฟัน
“คลอดลูกแค่คนเดียว นี่คุณหมายความว่าอย่างไร”
“หมายความว่าฉันจะไม่มีวันท้องลูกคนที่สองยังไงล่ะ”
ไม่มีวันท้องลูกคนที่สอง อย่างนั้นเรื่องระหว่างเขากับเธอก็จะยุติเร็วขึ้นใช่หรือไม่ ความรู้สึกราวดอกไม้เบ่งบานเมื่อครู่กลับกลายเป็นโรยราในทันที ดวงตาคมจ้องมองคนบนตักด้วยแววตาแดงก่ำ เอ่ยเสียงสั่นเครือออกมาอย่างอดกลั้น
“กวงจือหลิน ข้อเสนอแต่งงานแบบไม่ผูกพันคุณเป็นคนยื่น หลังแต่งงานคุณก็เป็นคนเปลี่ยน ตอนนี้ยังคิดจะแก้ไขอีก นี่คุณเห็นผมเป็นอะไร ผู้ชายที่คุณอยากครอบครองหรืออยากทอดทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้อย่างนั้นเหรอ”
“ใครคิดจะทอดทิ้งคุณกัน! กู้เหยียนคุณแต่งให้ฉันแล้ว ชีวิตนี้อย่าได้คิดว่าจะหนีไปจากฉันได้ หรือต่อให้คุณคิดหนีฉันก็จะตามหาคุณจนเจอ เป็นตายฉันก็จะอยู่กับคุณ”
เมื่อได้ยินคำพูดราวกับหวงแหน และท่าทางไม่ยินยอมให้เขาจากไป คิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันอีกครั้ง กวงจือหลินนั้นไม่ถนัดพูดคำหวาน ยิ่งไม่เก่งเรื่องออดอ้อนเช่นหญิงสาวคนอื่น เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร สุดท้ายจึงเลือกโน้มใบหน้าลงจุมพิตเขา ใช้ภาษากายแสดงความรู้สึกของตนเอง
กู้เหยียนถูกหญิงสาวรุกเข้าหาอย่างไม่ทันตั้งตัวร่างกายก็ตอบสนองกลับในทันทีโดยไม่ทันคิด แต่เมื่อตั้งสติได้ก็ดันไหล่ของเธอออกห่าง สูดลมหายใจเข้าเอ่ยถามเสียงหนักแน่นจริงจัง
“กวงจือหลิน ผมต้องการความชัดเจน สรุปแล้วผมอยู่ในฐานะอะไร สามีชั่วคราวที่คุณพร้อมเขี่ยทิ้งทันทีเมื่อได้ลูกใช่หรือไม่”
“กู้เหยียนฉันยังมีตรงไหนไม่ชัดเจนอีก ฉันรักคุณหวงคุณขนาดนี้ยังไม่พออีกหรือ ถ้าหากเรื่องลูกทำให้คุณกังวลอย่างนั้นทั้งชีวิตนี้ฉันจะไม่มีลูก ไม่มีเลยสักคน แบบนี้ดีหรือไม่”
ใบหน้าที่เคร่งเครียดและอารมณ์ที่เศร้าหมองมาหลายวันของกู้เหยียนพลันจางหายเป็นปลิดทิ้ง ริมฝีปากสีแดงอ่อนคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงยียวน
“แต่ผมอยากมีลูกและอยากมีหลายคนด้วย ถ้าคุณไม่อยากท้อง เรื่องอย่างนั้นผมคงต้องไปทำกับ...”
“กู้เหยียนอย่าแม้แต่จะคิด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันเป็นคนโหดเหี้ยม”
กวงจือหลินจับคอเสื้อดึงรั้งคนตัวโตมาประชิด สายตาแข็งกร้าวจ้องมองเขานิ่งอย่างข่มขู่ หากแต่ท่าทางดุดันของเธอกลับไม่ทำให้เจ้าของตักกว้างหวาดหวั่นเลยสักนิด มือที่ดันไหล่บางเลื่อนลงจับเอวเล็กดึงเธอเข้ามาแนบชิด จนอกอวบอิ่มปะทะอกแกร่ง
“ไม่ใช่ว่าวันนี้คุณทำให้ผมเห็นแล้วหรือ”
ใบหน้าของกวงจือหลินแดงก่ำ เมื่อมือหนาเลื่อนจากเอวบางลงไปที่สะโพกกลมแล้วบีบเคล้นจนเนื้อนุ่มล้นออกจากซอกนิ้วยาว
“กู้เหยียนคุณยังมีงานต้องทำ ฉันว่า...”
“วันนี้ภรรยาของผมถูกคนบุกเข้ามาทำร้าย ผมยังจะกลับไปทำงานได้ยังไงกัน วันนี้ทั้งวันสมควรปลอบใจภรรยา”
......................................................