บทสุดท้าย
ฉันจะอยู่กับคุณ
“หมอเซียว วันนี้คุณรีบกลับไหม”
“ไม่ค่ะ วันนี้พี่ซาน เข้าเมืองกว่าจะกลับก็คงมืด คุณหมอกู้มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมอยากให้คุณคนไข้กลุ่มนี้ให้หน่อยครับ”
เซียวจูอิน พยาบาลสาววัย 22 ปี ที่อาสามาประจำการยังสถานพยาบาลหมู่บ้านตงหยางหยิบเก้าอี้มานั่งข้างกู้เหยียน ก่อนจะมองรายชื่อผู้ป่วยทั้งสิบคนตรงหน้า
“สามวันมานี้มีคนไข้จากทางใต้มารับการรักษาด้วยอาการท้องเสีย มีไข้ อย่างน้อย 3-4 คนต่อวัน ผมเลยรองค้นข้อมูลพื้นฐานของพวกเขาดูปรากฏว่าทุกคนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน”
“คุณกำลังคิดว่ามันคือโรคระบาดหรือคะ”
“ผมก็ไม่แน่ใจครับ แต่อาการนำของทุกคนค่อนข้างคล้ายกันมาก คุณ...”
“กู้เหยียน!”
น้ำเสียงของกู้เหยียนที่กำลังอธิบายข้อมูลให้เซียวจูอินฟังพลันชะงัก สายตาของคนที่กำลังจ้องเอกสาร พลันเงยขึ้นมองคนตรงหน้า
“จือหลิน”
“ใช่ฉันเอง กวงจือหลินภรรยาของคุณ”
การแนะนำตัวเองพร้อมสถานะของกวงจือหลินทำให้เซียวจูอินเบิกตากว้าง มองคุณหมอหนุ่มข้างกายด้วยสายตาตื่นตกใจ เมื่อสามเดือนก่อนเขาลาพักร้อน ก่อนจะมีหนังสือราชการแจ้งมาว่าเขาไปช่วยงานกองทัพที่เซียงไฮ้ ไม่คิดว่ากลับมาไม่ถึงเดือนก็มีภรรยามาตามตัวเสียแล้ว
“นี่เรื่องจริงหรือคะหมอกู้”
กวงจือหลินกำมือแน่น เมื่อผู้หญิงตรงหน้าเอ่ยถามย้ำถึงสถานะของเธอ ก่อนจะหยิบทะเบียนสมรสออกมาจากกระเป๋าถือแสดงต่อหน้าคนทั้งสอง
“นี่เป็นทะเบียนสมรสของฉันกับกู้เหยียน แค่นี้คงพอยืนยันสถานะของฉันได้แล้วใช่ไหมคะ คุณเซียวจูอิน”
ดวงตากลมดุอ่านชื่อที่ปักบนชุดทำงานของเซียวจูอินแล้วเน้นทีละคำ กู้เหยียนขมวดคิ้วหนา ท่าทางคุกคามกดข่มผู้อื่นโดยไม่สนใจใครของกวงจือหลิน ก่อนหน้านี้เขามองข้ามได้เพราะเข้าใจสถานะของเธอ แต่ที่นี่คือหมู่บ้านต้าหยาง อีกอย่างเซียวจูอินก็ไม่ใช่ศัตรูของเธอ เหตุใดยังต้องแสดงท่าทางเช่นนี้ด้วย
“คุณหนูกวง ที่นี่เป็นสถานที่ราชการกรุณาใช้คำพูดและท่าทางที่สุภาพด้วย”
กวงจือหลินถูกชายหนุ่มดุซึ่งหน้าก็ตวัดสายตามองเขาอย่างตัดพ้อ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น
“ฉันว่า ฉันกลับก่อนดีกว่านะคะ”
“ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้วผมไปส่งคุณนะครับ”
จากสถานพยาบาลไปจนถึงบ้านพักของถังซานนับว่าไกลอยู่ไม่น้อย เซียวจูอินเป็นหญิงสาวเดินทางกลับตามลำพังนับว่าอันตราย ทว่าท่าทางเป็นห่วงเป็นใยของเขาต่อเพื่อนร่วมงานกลับยิ่งสร้างความเข้าใจผิดให้กับหญิงสาวอีกคนมากขึ้น
หรือที่เขากลับมาเมืองเจียงเพราะผู้หญิงคนนี้
กวงจือหลินมองตามแผ่นหลังเล็กที่ปั่นจักรยานเคียงข้างกู้เหยียนออกไปด้วยสายตาไม่พอใจ
“คุณหนูอยากให้ผมจัดการเธอไหมครับ”
คำว่าจัดการนี้ของเซี่ยเว่ยแน่นอนว่าย่อมหมายถึงทำให้เซียวจูอินหายไปจากชีวิตของกู้เหยียน เพียงแต่แม้กวงจือหลินจะเคยชินกับการจัดการคน แต่เธอก็ไม่ได้เหี้ยมโหดถึงขั้นลงมือโดยไร้เหตุผล
“ไม่ต้อง เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง”
“ขอโทษครับ พวกคุณคือเพื่อนของคุณหมอกู้ใช่ไหมครับ”
ชราวัยห้าสิบปีเดินขึ้นมาทักทายคนแปลกหน้าทั้งสองด้วยท่าทางสุภาพ กวงจือหลินแม้ในใจจะเปี่ยมไปด้วยโทสะ แต่ก็ยังรักษาสีหน้ายิ้มตอบรับ
“คุณหมอกู้ให้ผมพาพวกคุณไปที่บ้านพักรับรองครับ”
พูดจบลุงอวี้ก็นำทางคนแปลกหน้าทั้งสองไปยังบ้านพักรับรอง กวงจือหลินมองบ้านหลังเล็กตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วเรียว
“นี่คือบ้านพักของกู้เหยียนหรือคะ”
“ไม่ใช่ครับ บ้านพักของหมอกู้อยู่ทางด้านโน้น หลังนี้เอาไว้รับรองแขกครับ”
“อย่างนั้นอาเว่ยนายพักที่นี่ ส่วนฉันจะไปนอนกับกู้เหยียน”
ลุงอวี้เบิกตากว้างมองหญิงสาวแปลกหน้ารับกระเป๋าจากชายหนุ่มมาถือแล้วส่งสายตาให้เขานำทางเธอไปยังบ้านพักของหมอกู้ด้วยความตื่นตกใจ กวงจือหลินถอนหายใจยาวก่อนจะหยิบทะเบียนสมรสออกมาอีกครั้ง
“ฉันเป็นภรรยาของกู้เหยียนค่ะ สามีภรรยาควรนอนด้วยกันคุณลุงเห็นด้วยไหมคะ”
“ภรรยาของคุณหมอกู้หรือครับ”
คุณลุงตรงหน้าหยิบทะเบียนสมรสในมือหญิงสาวออกมาดูด้วยความตื่นเต้นยินดี ก่อนจะพาเธอไปยังบ้านพักของหมอกู้ แน่นอนว่าเรื่องกู้เหยียนแต่งภรรยานี้ก็ถูกล่วงรู้ไปทั้งหมู่บ้านต้าหยางในวันต่อมา
หลังจากไปส่งเซียวจูอินกลับบ้านพักของถังซานแล้ว กู้เหยียนก็กลับมาที่บ้านพักของตนเองด้วยความรู้สึกสับสนทั้งยินดีและขุ่นเคืองใจกับการมาของกวงจือหลินไปพร้อมๆ กัน
ช่างเถิด พรุ่งนี้ค่อยคุยกับเธอให้เข้าใจอีกทีก็แล้วกัน
กู้เหยียนถอนหายใจยาว ถอดเสื้อและกางเกงที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อลงใส่ตะกร้าก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำ ใช้เวลาไม่นานก็ล้างเนื้อตัวเสร็จ เขาเดินกลับเข้าห้องนอนเพื่อแต่งตัวและพักผ่อน หากแต่ทันทีที่แสงจากตะเกียงในมือสาดส่องเข้ามาในห้องร่างเพรียวบางบนเตียงของเขาก็ทำเอาเขาตกใจจนตะเกียงไฟแทบหลุดมือ
“คุณหนูกวง คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
เมื่อตั้งตั้งสติได้กู้เหยียนก็ถามเสียงเข้ม คำแทนตัวที่ห่างเหินทำให้ใบหน้าของคนบนเตียงบึ้งตึ้ง ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์
“ควรเป็นฉันที่ต้องถามคุณ กู้เหยียน... คุณลืมข้อตกลงของเราแล้วหรือไง”
กู้เหยียนขบกรามแน่น ข้อตกลงระหว่างเขากับเธอกู้เหยียนไม่เคยลืม เพียงแต่ในเมื่อเธอมีคนที่พอใจอยู่แล้ว ทำไมยังต้องให้นอกแบบเขาช่วยจัดการเรื่องเหล่านี้อีก
“รอบเดือนของคุณมาทุกวันที่ 7 นับดูแล้ววันไข่ตกก็จะเป็นวันที่ 21 ระหว่างนี้ผมคิดว่าคงไม่ต้องทำเรื่องที่เกินความจำเป็นอีก”
ก่อนหน้านี้เพื่อที่จะยื้อเวลาในการอยู่ข้างกายกวงจือหลิน กู้เหยียนจึงทำเรื่องลึกซึ้งกับเธอทุกวัน ร่างกายหลั่งความแข็งแกร่งออกมานับครั้งไม่ถ้วน แน่นอนว่าการใช้งานที่หนักหน่วงเช่นนั้นย่อมส่งผลให้ศักยภาพในการส่งเสริมการตั้งครรภ์ลดลง เรื่องนี้
กวงจือหลินไม่รู้แต่เขาที่อยู่ในวงการแพทย์รู้ดี เพียงแต่ยื้อแล้วอย่างไรข้างกาย
กวงจือหลินไม่เคยขาดบุรุษ ขอเพียงเธอยินดี แค่เอ่ยปากผู้ชายมากมายในเซี่ยงไฮ้ก็พร้อมช่วยเธอส่งเสริมการตั้งครรภ์
เพื่อไม่ให้ตนเองถลำลึกไปมากกว่านี้ วันที่กวงจือเหลียงอนุญาตให้เขากลับเมืองเจียงกู้เหยียนจึงไม่คิดลังเลเลยสักนิด
“เกินความจำเป็นหรือไม่ฉันจะเป็นคนบอกเอง... กู้เหยียนหากคุณไม่ทำตามข้อตกลง ฉันมีสารพัดวิธีที่จะทำให้ชีวิตคู่ของพี่ชายหลี่กับเฉินซิ่วลี่ต้องยุติลง”
คิ้วเข้มของกู้เหยียนขมวดเข้าหากันแน่น เรื่องนี้เป็นปัญหาของเขากับกวงจือหลิน เหตุใดเธอต้องไประรานคนอื่นเช่นนี้
“ได้! ในเมื่อคุณต้องการ อย่างนั้นก็อย่าได้มาร้องขอให้ผมหยุดก็ร้องแล้ว”
กู้เหยียนสลัดผ้าผืนเดียวบนตัวของเขาออก ก่อนจะสาวเท้าขึ้นเตียงเล็กใช้เวลาไม่นานร่างกายของกวงจือหลินก็เปลือยเปล่า และเพราะเธอยั่วยุให้เขามีโทสะดังนั้นรสรักที่เขามอบให้ในคืนนี้จึงรุนแรงกว่าทุกครั้ง จนเตียงนอนที่ใช้งานมานานหลายสิบปีทนรับไม่ไหว ส่งเสียงคล้ายจวนจะพังลง ทว่ากู้เหยียนกลับไม่คิดหยุดยั้ง จับร่างกายของหญิงสาวที่เขาส่งเธอสุขสมไปหลายหน ยืนขึ้นแนบตัวไปกับกำแพง
“กู้เหยียน พอแล้ว”
กวงจือหลินที่ถูกเขาจู่โจมมาครึ่งคืนจนสองขาอ่อนแรงร้องบอก แต่ยิ่งเธอเว้าวอน
กู้เหยียนก็ยิ่งลงมือหนักขึ้น
“กู้เหยียน ฉันบอกให้หยุดไง อื้ม!”
“ทำไมหรือผมทำได้ไม่ถึงใจเหมือนอี้เฟิงของคุณ”
เมื่อคิดว่ากวงจือหลินต้องการให้เขาหยุด เพราะฝีมือของเขาอาจสู้อี้เฟิงไม่ได้ กู้เหยียนก็ขบกรามแน่นแรงที่กดแนบชิดก็เพิ่มมากขึ้นจนกวงจือหลิน เข่าทรุดลงไปนั่งกองกับพื้น เพียงแต่ยังไม่ทันตั้งตัว เอวบางก็ถูกเขาจับยกขึ้น ร่างกายอยู่ในท่าหมอบคลานโก่งสะโพก จวบจนแสงตะวันยามเช้าสาดเข้ามาทางช่องหน้าต่าง กู้เหยียนจนยอมปล่อยร่างที่อ่อนล้าของเธอออกแล้วเดินหายเดินออกจากห้องไป ก่อนที่เขาจะกลับเข้ามาแต่งตัวแล้วปรายตามองคนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความเย็นชา
“เดี๋ยวผมจะให้ลุงอวี้เอาเตียงใหม่มาเปลี่ยน คุณอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย”
พูดจบคนก็จากไป กวงจือหลินมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยดวงตาแดงก่ำ เวลานี้ร่างกายของเธอปวดร้าวจนแทบขยับไม่ได้ ทว่าหากเทียบกับความรู้สึกที่ถูกกู้เหยียนหมางเมิน ในใจของเธอกลับปวดร้าวมากกว่า เกิดอะไรขึ้น เหตุใดกู้เหยียนจึงเปลี่ยนไปราวกับคนละคนเช่นนี้พลันประโยคที่เขาเอ่ยเมื่อคืนก็ดังขึ้นในความคิด
“ทำไมหรือผมทำได้ไม่ถึงใจเหมือนอี้เฟิงของคุณ”
หรือว่าที่กู้เหยียนกลับเมืองเจียงกะทันหัน อีกทั้งยังหมางเมินต่อเธอจะเป็นเพราะว่าเขาเข้าใจเธอกับอี้เฟิงผิด เมื่อคาดเดาสาเหตุที่กู้เหยียนเปลี่ยนไปได้แล้ว กวงจือหลินก็ลุกขึ้นอย่างยากลำบากจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากบ้านไปหาเขาด้วยอาการไม่มั่นคงนัก
“เธอใช่ไหม กวงจือหลิน”
กวงจือหลินขมวดคิ้วเรียวเมื่อได้ยินเสียงเล็กแหลมดังมาจากด้านหลัง เมื่อหันไปมองก็พบเด็กสาวหน้าตาดีคนหนึ่งยืนกอดอกมองมาที่เธอด้วยสายตาดูแคลน
“ใช่ฉันเอง เธอเป็นใคร มีธุระอะไรกับฉัน”
“มีธุระอะไรอย่างนั้นเหรอ หึ!”
เพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือกระทบหน้าพร้อมกับร่างที่อ่อนแรงของกวงจือหลินที่ล้มลง ดวงตากลมพลันแข็งกร้าวมองกลับไปยังอีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจ
“มองหน้าฉันทำไม ฉันจะบอกให้เธอรู้ไว้นะ ฉันหลี่อันอัน เป็นคนรักของพี่หมอกู้”
คนรักของกู้เหยียนอย่างนั้นหรือ กวงจือหลินขบกรามแน่น หากแต่ยังไม่ทันพูดอะไร เส้นผมที่ด้านหลังศีรษะก็ถูกกระชากจนใบหน้าแหงนขึ้น
“กล้าล่อลวงให้พี่หมอกู้ของฉันจดทะเบียนสมรสด้วยอย่างนั้นหรือ วันนี้ฉันจะสั่งสอนผู้หญิงอย่างหล่อนจนต้องร้องขอหย่ากับเขาเลย”
.........................................