ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของสตรีตัวร้าย

1416 Words
ณ แคว้นซี แคว้นขนาดกลางที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ราชวงศ์สุขสงบมามากกว่า 20 ปี ทำให้ความเป็นอยู่ของคนในแคว้นถือว่าดีกว่าแคว้นอื่นไม่น้อย ขุนนางส่วนใหญ่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม มีเพียงส่วนน้อยที่กอบโกยผลประโยชน์เข้าตนเอง เซี่ยลี่อิง นางเป็นบุตรีคนโตของจวนเสนาบดี ด้วยใบหน้างดงามอ่อนหวานปานน้ำผึ้งตั้งแต่เด็กทำให้มีหลายตระกูลวาดหวังจะเกี่ยวดองด้วย ในครอบครัวของนางไม่มีเรื่องเรือนหลังมาทำให้ลำบากใจ บิดามีฮูหยินเพียง 2 คน ซึ่งเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน นามว่าหลิวมี่อิงและหลิวมี่เอิน ทั้งสองปักใจชายหนุ่มคนเดียวกันจนในที่สุดก็ตกลงกันว่าจะแต่งให้เขาทั้งคู่ แต่เมื่อเซี่ยลี่อิงอายุเพียง 2 หนาว ในวันที่น้องสาวอีกคนของนางถือกำเนิดขึ้นมา ท่านน้าหลิวมี่เอินก็ได้สิ้นใจด้วยอาการป่วยหนักก่อนที่นางจะจำความได้เสียอีก และเมื่อท่านน้าเสียชีวิตไปแล้วบิดาก็ไม่คิดจะแต่งงานใหม่อีกเลย มีเพียงมารดาของนางมาจนถึงทุกวันนี้ เซี่ยลี่อิงโตมาพร้อมกับการตามใจจากมารดาและบิดาที่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่นัก ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับบิดาถือว่าเต็มไปด้วยความห่างเหิน ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่นางรู้สึกไม่ชอบใจบิดาของตนแม้แต่น้อย ซึ่งในยามนั้นนางไม่ได้ใส่ใจกับความแปลกแยกนี้สักนิด ความสนใจของนางไปอยู่ที่น้องสาวของนาง ซึ่งมีนามว่าเซี่ยลี่หลินอยู่ที่เรือนเดียวกับมารดามาตั้งแต่เกิด ส่วนนางเมื่ออายุครบ 4 หนาวก็มีเรือนเป็นของตนเองแล้ว ท่านแม่ของนางมีเพื่อนสนิทอยู่ 2 คน คนแรกคือพระสนมเหอกุ้ยเฟย ส่วนอีกคนคือฮูหยินเอกจวนราชครูนามว่าเฉินหวงหลาน ทั้งสองมีบุตรชายและบุตรสาวในวัยเดียวกันจึงทำให้เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เยาว์วัย ดังนั้นกลุ่มของนางจะมีทั้งหมด 4 คนที่เติบโตมาด้วยกัน คนแรกคือน้องสาวแท้ๆ ที่อายุห่างกับนางเพียง 2 ปี คนที่สองเป็นองค์ชาย 4 บุตรของพระสนมเหอกุ้ยเฟย คนต่อมาคือบุตรีคนโตของจวนราชครูและสุดท้ายตัวนางที่เป็นผู้นำในทุกๆ เรื่อง หรือจะเรียกว่าเอาแต่ใจตนเองจนถึงขีดสุดก็ไม่ผิดนัก เวลาผ่านไปจนกระทั่งหญิงสาวอายุได้ 12 หนาว เริ่มมีความรู้สึกตื่นเต้นกับเพศตรงข้ามบ้างแล้ว นางจึงปักใจชายหนุ่มผู้อยู่ในชีวิตของนางมาตลอด เซี่ยลี่อิงมอบใจทั้งหมดให้แก่ชายหนุ่มทันทีที่เริ่มรู้ความรู้สึกของตนเองและดูเหมือนว่าอีกฝ่ายก็จะมีใจให้นางเช่นเดียวกัน ชีวิตของนางโรยไปด้วยกลีบกุหลาบเมื่อทุกอย่างราบรื่นจนไม่มีสิ่งใดให้นางต้องหนักใจ แม้นางจะมีนิสัยเอาแต่ใจ ขี้โวยวายแต่องค์ชายก็ยังผูกสมัครรักใคร่นางไม่แปรเปลี่ยน ยิ่งทำให้เซี่ยลี่อิงหลงไหลบุรุษผู้นี้จนหัวปักหัวปำ ทั้งสองตระกูลยอมรับการเกี่ยวดองด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเพราะรู้ว่าเด็กๆ รู้จักกันมานาน อีกทั้งองค์ชายก็ปฏิบัติกับเซี่ยลี่อิงอย่างดีเสมอมา หลังจากประกาศการคบหาดูใจองค์ชาย 4 ก็ให้เกียรติหญิงสาวมาโดยตลอด เขาดูแลนางเป็นพิเศษ เขาทำให้นางมั่นใจว่าการกระทำของเขามิใช่ทำเหมือนเพื่อนทั่วไป นางกลายเป็นที่อิจฉาของบุตรขุนนางมากมายที่ต้องการเกี่ยวดองกับเชื้อพระวงศ์จนความหยิ่งผยองยิ่งเพิ่มมากขึ้น เวลาล่วงเลยไปจวบจนถึงวัยปักปิ่น หญิงสาวได้รับการสู่ขออย่างสมเกียรติ พิธีแต่งงานเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่สมฐานะเสนาบดีของบิดา แม้ชื่อเสียงในเมืองหลวงของนางจะย่ำแย่เพียงใด ถูกนินทาว่าร้ายจนกระทั่งได้รับฉายาสตรีตัวร้ายอันดับ 1 นางก็มิได้สนใจ พวกนางเป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ (เติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก) ที่ถึงแม้หลายเสียงจะไม่พอใจในความเหมาะสม แต่ก็เถียงไม่ได้ว่าฐานะของนางจะเกื้อกูลเขาได้อย่างแน่นอน และในที่สุดนางก็ได้ใช้ชีวิตคู่แสนสุขกับชายอันเป็นที่รักอย่างที่ตนปรารถนา ตลอดเวลา 5 ปีหลังจากแต่งเข้าตำหนักขององค์ชาย 4 ผู้เป็นสามี นางได้รับการเอาอกเอาใจชนิดที่เรียกได้ว่าทำให้เสียคนยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่านางจะโมโหร้ายและโกรธเกรี้ยวใส่บ่าวไพร่มากแค่ไหนสามีของนางก็ยังเข้าข้างนางเสมอ ทำให้เซี่ยลี่อิงยิ่งหลงระเริงและมอบทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อผลักดันให้ชายหนุ่มได้ขึ้นสู่ตำแหน่งองค์รัชทายาทอย่างที่เขาต้องการ ด้วยอำนาจของตระกูลเซี่ยจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสนับสนุนเขา แต่หลังจากที่บุรุษผู้นี้ได้ครอบครองตำแหน่งที่วาดหวังไว้ การกระทำที่เคยอ่อนโยนก็แปรเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ยามนางเกรี้ยวกราดเมื่อก่อนเขาจะเอาน้ำเย็นเข้าลูบแต่บัดนี้กลับโยนน้ำร้อนเข้าสาด ใบหน้างดงามถูกตบอย่างแรงจนร่างบางเซถลาลงไปกองกับพื้น ความรู้สึกราวกับหายใจไม่ออกทำให้นางตัวแข็งทื่อ พฤติกรรมที่แปลกไปนั้นแม้แต่คนโง่ยังดูออก เพี๊ยะ! “เสด็จพี่…” เสียงหวานสั่นเครือเมื่อโดนชายที่รักทำร้ายร่างกายเป็นครั้งแรก ใบหน้าสวยหวานอ่อนโยนขัดกับนิสัยที่ถูกบ่มเพาะมาจนเลวร้ายเงยมองสบร่างสูงที่ยืนจ้องนางอยู่ ดวงตาคมที่มักมองนางด้วยความรักบัดนี้ว่างเปล่าจนไม่สามารถสัมผัสความรู้สึกได้ “เจ้าช่างโง่งมยิ่งนักอิงเอ๋อร์ ชื่อเสียงของเจ้ามันเน่าเฟะเพียงใดได้ลองเงี่ยหูฟังบ้างรึไม่” เสียงทุ้มเข้มกดต่ำเมื่อรู้สึกขยะแขยงอีกฝ่ายเต็มกลืน บัดนี้เขาไม่ต้องทนกับสตรีนางนี้อีกต่อไปแล้ว “แต่พระองค์เคยบอกว่า ฮึก ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไร พระองค์ก็จะรักหม่อมฉันตลอดไปนี่เพคะ” ดวงตาคู่สวยเงยมองคนรักอย่างตัดพ้อ คำหวานหูตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาลืมมันจนสิ้นแล้วกระนั้นหรือ “หึหึ เจ้าคิดจริงๆ อย่างนั้นหรือ ว่าสตรีร้ายกาจเช่นเจ้า ข้าจะเหลียวมอง ลองคิดทบทวนดูให้ดีเสียก่อนเถิดว่าที่ผ่านมาเจ้าทำนิสัยย่ำแย่จนน่าเอือมระอาเพียงใด!” กล่าวจบบุรุษสูงศักดิ์ก็สะบัดชายอาภรณ์ออกจากตำหนักพระชายาเอกไป ใบหน้าหล่อเหลามืดครึ้มเพราะรำคาญอีกฝ่ายเต็มทน เสียงสะอื้นไห้ที่ตามหลังมามิอาจเรียกความสงสารจากเขาได้สักนิด ”ฮึก ฮืออออ กรี๊ดดดดด” มือบางกำชายผ้าแน่น เซี่ยลี่อิงกรีดร้องออกมาเมื่อทุกอย่างมันแปรเปลี่ยนไปหมด ร่างบางลุกขึ้นขว้างปาข้าวของอย่างที่เคยทำ ก่อนจะนึกบางสิ่งได้จึงเรียกนางกำนัลคนสนิทเข้ามา “เหมยเหม่ย! ส่งคนไปรับน้องสาวของข้ามาเดี๋ยวนี้!” การทะเลาะกันวันนี้เพราะนางสืบทราบมาว่าน้องสาวแท้ๆ ของตนเองสนิทชิดเชื้อกับพี่เขยจนออกหน้าออกตา ราวกับจะประกาศให้รู้ว่ากำลังต้องการตำแหน่งชายารองที่เว้นว่างอยู่ “เพคะพระชายา” ดรุณีน้อยใบหน้าจิ้มลิ้มเร่งออกไปจัดการตามที่นายของตนสั่ง เพราะอยากหนีไปให้พ้นจากสายตาระรานที่พร้อมจะอาละวาดนั่น หลังจากโวยวายจนพอใจคนงามก็นั่งลงที่โต๊ะน้ำชาซึ่งถูกเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว มือบางกำจอกชาแน่นด้วยความรู้สึกขับข้องหมองใจมันจุกอยู่ที่อก ตั้งแต่เล็กจนโตมารดาของนางมิเคยดุด่าว่ากล่าวเลยแม้แต่น้อย แสดงว่าสิ่งที่นางทำก็เป็นเรื่องที่ถูกที่ควรแล้วนี่ เหตุใดทุกคนจึงเอาแต่ว่ากล่าวหาว่านางเป็นสตรีตัวร้าย…เป็นผู้ที่จ้องแต่จะทำร้ายผู้อื่นล่ะ “ถวายพระพรพระชายาเพคะ” ขณะที่กำลังคิดอย่างสับสนเสียงหวานราวกับกระดิ่งแก้วก็เรียกให้หญิงสาวหันมาสนใจผู้ที่เพิ่งมาใหม่ “มาแล้วอย่างนั้นหรือหลินเอ๋อร์ นั่งลงสิ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD