7

1860 Words
"ใส่สิ ให้พระท่านยืนรอ มันบาปนะ" ร่างใหญ่ยืนประกบร่างเล็กจากด้านหลัง จับมือเล็กใส่บาตรไปพร้อมกับเขา "คุณพยัคฆ์ขอโทษหนูชลนะ เรื่องวันนั้นน่ะ" พยัคฆ์ก้มลงพูดข้างหูรชนิชล คนตัวใหญ่ฉวยโอกาสสูดดมกลิ่นหอมของผมสวยที่ปล่อยสยายเต็มแผ่นหลังจนเจ้าของผมไม่ได้ตั้งตัว กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเธอทำให้เขาแทบไม่อยากออกห่างเลย "คุณพยัคฆ์" "รับพรนะโยม" พระสงฆ์ท่องบทสวดให้พรกับทุกคน พยัคฆ์ยังคงไม่ห่างร่างบาง เขานั่งลงข้างเธอแนบชิดแทบไม่ให้อากาศผ่านไปได้ ใครจะไปรู้แค่ได้ใกล้เธอมันก็ทำให้เสือร้ายกลายเป็นแมวคลอเคลียไม่ห่าง "ปล่อย คุณพยัคฆ์" เขาพยุงให้เธอลุกขึ้น แต่เธอรู้สึกได้ว่ามันมากกว่าพยุง เขาแอบหอมผมของเธอตั้งแต่ใส่บาตร มันมากจนเธอเผลออ่อนไหวไปตามเขา ใจของเธอเต้นแรงจนคุมจังหวะไม่ได้ มันโครมครามไปหมด พวงแก้มเปลี่ยนจากสีขาวเป็นแดงระเรื่อ ไหนจะคำพูดขอโทษของเขาที่เธอเองก็รอคอยจะได้ยินมาหลายวัน เขาพูดซะหวานหูจนคนฟังอย่างเธอยกโทษให้แทบไม่ทัน "พี่ชล แก้วกับน้ำค่ะ" แป้งหอมเดินเข้ามาขัดจังหวัด ส่งแก้วสำหรับกรวดน้ำให้รชนิชลเหมือนทุกวัน แล้วก็ช่วยป้าอุ่นเก็บของเดินเข้าบ้านไป "กรวดน้ำด้วยสิ" ใบหน้าใหญ่อมยิ้มเจ้าเล่ห์เขาอยากจะเข้าใกล้เธออีก "แป้ง" "ชุดเดียวกันนี้แหละ อย่าไปรบกวนแป้งหอมเลย" "งั้นก็กรวดไปคนเดียว" พยัคฆ์ไม่อยากจะเสียเวลายืนเถียงกับรชนิชลนาน เขาคว้าข้อมือเล็ก ลากเธอไปนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ บังคับให้ร่างเล็กนั่งลงพร้อมกับเขานั่งซ้อน ใช้สองแขนแข็งแรงโอบกอดเธอไว้แนบอกแกร่ง "นำกรวดสิ ทำทุกวันไม่ใช่เหรอ" "ถอยออกไปนั่งไกลๆหน่อยสิ มันอึดอัด" "นั่งแบบนี้ดีแล้ว เริ่มเลยสิ" "คุณพยัคฆ์" "อื้ม หอม เอ่อ" เขาไล่หอมผมของคนที่กอดไว้แน่น เธอพยายามหลบหนีเขาแต่ก็ไม่พ้น จนน้ำในแก้วหกไปเกือบหมดแล้ว "คุณพยัคฆ์" เธอร้องแย้งขึ้นมาให้เขาหยุด "ก็เธอไม่กรวดน้ำสักที ฉันเลยต้องเร่งเธอนี่ไง" "หน้าด้าน" "ว่าอะไรนะ" "ถอยออกไป" รชนิชลทิ้งแก้วน้ำในมือ หันมาประจันหน้ากับพยัคฆ์ ออกแรงผลักจนสุดแรง แต่มือปลาหมึกอย่างพยัคฆ์กลับกอดร่างบางไว้แน่นขึ้นอีก แกล้งเซไปจนล้มทับรชนิชล "โอ้ย คุณพยัคฆ์" "เธอผลักฉันเองนะ" "ผลักคุณทำไมมาล้มทับฉันละ ลุกออกไปเลย" "อื้ม เสียดายชะมัด" ร่างใหญ่พึมพำออกมาเมื่อสายตาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเรือนหรู มันถึงเวลาเตรียมตัวของเขาแล้ว "ลุกออกไป" พยัคฆ์ตัดใจลุกขึ้น เขาเริ่มสับสนในตัวเองว่าทำไมแค่ได้ใกล้เธอเขาก็แทบจะถอนตัวให้ออกห่างเธอไม่ได้ ถ้าไม่ติดว่าวันนี้ต้องรีบไปประชุม เขาคงติดความหอมของเธออยู่บ้านนี้แน่ๆ "ฉันขอเรียกเธอว่าหนูชลได้ไหม" "ไม่ได้" "ไม่ขอแล้ว มันปากฉันจะเรียกเธอว่าอะไรก็ได้" "ไม่ให้เรียก" "เย็นนี้ คุณพยัคฆ์อยากกิน ฝีมือทำกับข้าวของหนูชลนะ" เขาเน้นคำว่ากิน แล้วต่อท้ายคำอื่น ก่อนหันหลังเดินเข้าบ้านไปเตรียมตัวไปทำงาน จนคนฟังหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก ความร้อนผ่าวบนใบหน้าจนรชนิชลต้องเอามือมาปิดไว้ ดีนะที่เขาเดินไปแล้วถ้าเห็นตอนนี้เธอคงโดนเขาล้ออีกแน่ ...... "ป้าอุ่น ดูคุณพยัคฆ์สิจ๊ะ แอบหอมพี่ชลหลายทีแล้ว" "แป้งหอม รีบจะไปสอบไม่ใช่เหรอเรานะ ยังจะมายืนคุยเรื่องเจ้านายอีก" "โถ่ป้าอุ่นนะ" "ยังจะอะไรอีกเด็กคนนี้ เดี๋ยวก็ไปไม่ทัน" แป้งหอมหันกลับมายิ้มล้อเลียนป้าอุ่นก่อนจะเดินเข้าห้องไปอาบน้ำเตรียมตัวสอบ "ป้าอุ่นมีอะไรกินบ้าง ผมหิวไส้จะขาดแล้ว" "อ้าวคิม ป้าต้มข้าวต้มไว้หม้อใหญ่เลยตักกินเลยนะ เดี๋ยวป้ายกหม้อนี้ไปให้คุณเสือก่อน" "ยัยแป้งเหม็นละป้า" "ป้าเพิ่งไล่ไปเตรียมตัวไปโรงเรียน วันนี้มีสอบ เดี๋ยวคงออกมา คิมมีอะไรหรือเปล่า" "เปล่าครับ กลัวเจอแล้วกินข้าวไม่ลง" "ป้าไปดีกว่า กลัวจะเห็นคนกินข้าวไม่ลง" ร่างเล็กเดินหวีผมมัดรวบมาในชุดนักเรียนมอปลาย สายตาเจอเข้ากับคิมที่นั่งกินข้าวอยู่ในครัว เธอไม่อยากจะทะเลาะแล้วไปสอบสายเลยตัดสินใจไม่กินข้าวเช้าแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง "รีบขนาดนั้น ไม่ไปตั้งแต่เมื่อวานล่ะ" คิมเห็นแป้งหอมตั้งใจหลบหน้าเขาแล้วจะไปสอบเลย แต่ท่าทางฝนจะตกเขาคงไม่ใจดำปล่อยให้เธอไปสอบแบบเปียกๆหรอกนะ ถึงจะต้องลับฝีปากกับเธออีกพักใหญ่ "เรื่องของฉัน" "เหรอ ว่าจะให้ติดรถไปด้วยซะหน่อย" "ไปเองได้ ไม่ต้องจุ้น" "ยัยเหม็นเธอมองท้องฟ้าหรือยัง ฝนมันจะหล่นลงมาแล้ว" "ก็มัวแต่เสวนากับหมาในปากของนายนั่นแหละ" "ยัยแป้งเหม็น" "โอ้ยยย เจ็บนะ" "เงียบ ถ้าพูดอะไรอีกฉันจะจับเธอแก้ผ้าแล้วข่มขืนในห้องครัวนี้" "ไอ้คิม ปล่อยนะ" "บอกให้เงียบไง จะไปไหม" สองเสียงประสานกันแบบไม่มีใครยอมใคร คิมลากข้อมือเล็กของแป้งหอมไปขึ้นรถของเขา ท่ามกลางสายตาลูกน้องของพยัคฆ์อีกหลายคนที่กำลังจะเดินมากินข้าวเช้ากัน แต่ก็ไม่มีใครยุ่งเรื่องนี้ สองคนนี้ทะเลาะกันแทบจะทุกวัน "นายครับ ผมไปส่งแป้งหอมไปสอบนะครับ ฝนจะตกเด็กเน่านี้คงไปไม่ทัน" ประโยคที่เขาโทรบอกนาย ทำให้แป้งหอมที่ขัดขืนตั้งแต่ออกจากห้องครัวถึงลานจอดรถ หยุดดิ้นเขาจะเป็นห่วงเธอเหรอคงไม่มีหรอกนอกจากสงสารเธอที่เป็นเด็กกำพร้าเหมือนที่เขาเคยพูดไว้ "เป็นห่วงหรือว่าสงสาร สมเพชละ" "ถามอะไรของเธอ ขึ้นรถสิ" "ไม่ ฉันไม่ชอบให้ใครมาสงสารหรือสมเพช เพราะฉันมันเป็นเด็กกำพร้า" ดวงตากลมที่เคยมีประกายสดใสกลับคลอไปด้วยน้ำตา เธอไม่อยากคิดถึงเรื่องในอดีตหรอก แต่คิมก็ทำให้เธอฝังใจกับเรื่องนี้ เขาเคยบอกเธอว่าช่วยเหลือเพราะสงสาร "ไม่รู้โว้ย อะไรก็ช่างขึ้นรถ" "ไม่ ไปไม่ทันก็ช่างมัน" "ขึ้นไป" คิมลากแป้งหอมมาด้านคนขับแล้วเดินประชิดตัวเธอ จนแป้งหอมถอยเสียหลักเข้าไปนั่งตรงที่คนขับ "ขยับไปนั่งตรงนู้น หรือว่าจะจูบกับฉัน จะได้ทักทายหมาในปากด้วย" "ไอ้บ้ากาม ไอ้ลามก ฉันจะฟ้องป้าอุ่น" แป้งหอมจำใจต้องขยับหนีเพราะคิมดูท่าทางจะพูดจริงเขายื่นหน้าเข้ามาแนบกับหน้าของเธอปากแทบจะประกบกันอยู่แล้ว "ก็เท่านั้น" รถหรูสีดำที่เจ้านายซื้อให้กับลูกน้องที่พ่วงด้วยตำแหน่งน้องชายบุญธรรมเคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็ว สายตาเหลือบมองสาวน้อยที่นั่งมาข้างๆ โดนไม่พูดจากันสักคำ จนจะถึงหน้าโรงเรียน "หาอะไรของเธอ ลืมของหรือไง" "สร้อยของพ่อ ลืมเอามา เพราะนายนั่นแหละ" สร้อยสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่มีค่ามากที่สุดของแป้งหอม ที่เธอพกติดตัวตลอดแล้วดันมาลืมในวันสอบวันที่สำคัญของเธอ "กลับไปเอาคงไม่ทัน ช่างมันเถอะ" "นายไม่เข้าใจ" "เอ่อไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น" ความเงียบเข้าครอบงำภายในรถ แป้งหอมที่เอาแต่หันข้างมองไปนอกรถ เธออยากจะร้องไห้ออกมาซะตรงนี้ ต้องมาทนอยู่กับคนอย่างคิมคนที่ไม่เคยเข้าใจเธอเลย คนที่ชอบตะคอกใส่เธอ "ขอบใจ" รถแล่นมาจอดที่หน้าโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ แป้งหอมพูดโดยไม่มองหน้าคิมเธอทำตามมารยาทที่ควรมี เปิดประตูกำลังจะก้าวลงไปจากรถแต่คิมกลับมารั้งแขนเธอไว้ "เดี๋ยวก่อน เอาไป สร้อยฉันเอง มันคงแทนกันได้" เขาถอดสร้อยคอที่มีจี้รูปตัวเค ที่เขาใส่ติดตัวมาตลอด ยื่นใส่มือให้แป้งหอมไป "มันคนละอันกัน แทนกันไม่ได้ นายเอากลับไปเถอะ" "มานี่ เรื่องมากเดี๋ยวก็สายหรอก" เขาดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ๆ แล้วเอี่ยวตัวเอาสร้อยใส่คอให้ ความใกล้ชิดขนาดนี้ทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะเขาไม่เคยประหม่าต่อหน้าใครแบบนี้มาก่อน "ใช่มันคนละอัน แต่มันจะแทนกันได้เชื่อฉันสิแป้งหอม ตั้งใจสอบนะ" คำพูดที่เป็นเหมือนมนตร์สะกด เธอไม่ได้โต้ตอบอะไรเขา ลงจากรถเดินเข้าโรงเรียนไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับมามองเขา "เด็กหนอเด็ก" .... "เธอกลับไปก่อน" พยัคฆ์ไล่ชมพูนางแบบสาวที่อยู่ในชุดทูพีชสุดเซ็กซี่สีแดง โชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งจนลูกน้องของพยัคฆ์พากันแอบมองเป็นตาเดียว ความอวบอึ๋มจบแทบจะหลุดออกมานอกชุดช่างเย้ายวนใจชาย "แต่วันนี้ชมพู เคลียร์คิวมาหาคุณพยัคฆ์เลยนะคะ" เธอใช้เต้าอวบเบียดแขนของพยัคฆ์ หวังใช้ร่างกายรั้งเขาเอาไว้ "กลับไป" คำขาดถูกพ่นออกมาจากปากของพยัคฆ์ น้ำเสียงเรียบเฉยจนคนฟังคลายมือออกอัตโนมัติ "คุณพยัคฆ์" แม้แต่สายตาของเขายังไม่มองเธอเลยด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่กล้าโวยวายอะไรมาก ได้แต่เดินกลับไปเปลี่ยนชุดแล้วรับค่าน้ำมันแล้วกลับบ้านไป "หนูชล" พยัคฆ์ยืนมองรชนิชลที่เดินเล่นอยู่ตรงขอบสระว่ายน้ำตัวการที่ทำให้เขาต้องไล่ชมพูกลับไป ต้องหาเรื่องให้เธอรับผิดชอบเธอทำให้ฉันหมดอารมณ์แค่นึกถึงกลิ่นกายของเธอ "ว้ายยยย ตูมมม" เสียงน้ำแตกกระจาย หยดน้ำกระเซ็นซ่านออกมาเต็มบริเวณขอบสระ พยัคฆ์ที่แอบดูรชนิชลอยู่ข้างพุ่มไม้วิ่งออกมาหอบร่างบางกระโจนลงสระทันที "แคร๊ก แคร๊ก" "หนูชล เป็นอะไรไหม" "ปล่อย แคร๊กๆๆ" "เดี๋ยวจมไปใครจะช่วย" "ปล่อย คุณพยัคฆ์ฉันว่ายน้ำเป็น ปล่อย" "แต่ฉันว่ายน้ำไม่เป็น ขอกอดไว้ก่อนได้ไหม" "ว่ายไม่เป็นแล้วกระโดดลงมาทำไมละ" "ใครบอก ฉันวิ่งออกกำลังกายแต่ตกใจเห็นหนูชลเข้า เลยวิ่งตกน้ำ" "ปล่อย ใครจะเชื่อคุณ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD